Menu 
  • logo_icon_20x20หน้าหลัก
  • เลือกประเทศ
    • Thailand-Flag-iconThailand
      • สถาบันการศึกษา
      • หลักสูตรและโครงการ
    • Australia-iconAustralia
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • สถาบัน ATMC
        • สถาบัน Academies Australasia
        • สถาบัน Baxter Institute
        • สถาบัน Holmes
        • สถาบัน Holmesglen Institute of TAFE
        • สถาบัน Lonsdale Institute
        • Languages Across Borders (LAB)
        • สถาบัน RGIT
      • หลักสูตรและโครงการ
      • ภาพกิจกรรม
      • เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย
      • ทุนเรียนต่อประเทศออสเตรเลีย
    • United KingdomEngland
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • รายชื่อมหาวิทยาลัยประเทศอังกฤษ
        • สถาบัน Bath Spa University
    • India-iconIndia
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • แนะนำมหาวิทยาลัย Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada
      • หลักสูตรและโครงการ
      • ภาพกิจกรรม
      • เกี่ยวกับประเทศอินเดีย
    • Canada-iconCanada
      • หลักสูตรและโครงการ
    • Malaysia-iconMalaysia
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • เรียนมัธยม ปีนัง Pelita International School กับ ปรัชญาการศึกษาที่น่าสนใจ
        • แนะนำสถาบัน ELC กัวลาลัมเปอร์
        • สถาบัน UOW Malaysia KDU
        • สถาบัน SEGi Malaysia
        • สถาบัน Berjaya University
        • แนะนำสถาบัน Wadi Sofia International School
        • สถาบัน KTJ
      • หลักสูตรและโครงการ
    • Singapore-Flag-iconSingapore
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • สถาบัน Shelton College
      • หลักสูตรและโครงการ
    • New-Zealand-iconNew Zealand
      • สถาบันการศึกษา
      • หลักสูตรและโครงการ
    • United-States-Flag-iconU.S.A.
      • สถาบันการศึกษา
        • สถาบัน Columbia West College
    • China-Flag-iconChina
      • ระบบการศึกษาประเทศจีน
      • หลักสูตรและโครงการ
        • นักเรียนไทย กับ ความนิยมไปเรียนต่อประเทศจีน
  • Visa / Passport
    • การขอ Passport
      • สถานที่ขอ Passport
      • เอกสารขอ Passport
    • Visa
      • Australia-iconประเทศออสเตรเลีย
      • India-iconประเทศอินเดีย
      • Malaysia-iconประเทศมาเลเซีย
      • New-Zealand-iconประเทศนิวซีแลนด์
      • Singapore-Flag-iconประเทศสิงคโปร์
      • the-united-states-flag-icon-free-downloadประเทศอเมริกา
      • downloadประเทศอังกฤษ
  • สมัครโครงการ
  • บทความน่ารู้
  • บริการ
    • บริการของเรา
    • บริการสมัครเรียน และ ติดตามผล ระดับมัธยมศึกษามาเลเซีย
    • บริการจัดซื้อตั๋วเครื่องบิน
    • ที่พัก
      • ที่พักในประเทศ
        • บ้านการเคหะ ภูเก็ต
      • ที่พักต่างประเทศ
        • ็Homstay Penang
        • โฮมสเตย์ สิงคโปร์ (AGM 01)
        • โฮมสเตย์ สิงคโปร์ (AGM 02)
    • แหล่งเงินทุนเพื่อการศึกษาต่างประเทศ
  • ประกันภัย
    • SJ Insurance Broker
      • SJ Insurance Broker
      • นายหน้าประกันวินาศภัย อีกทางเลือกที่น่าสนใจ
      • สมัครสมาชิกประกันภัยได้ส่วนลดจากการซื้อประกันจริงไหม ?
      • ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไรกับการประกันภัยรถยนต์
    • OSHC
      • บริการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (Overseas Student Health Cover ) : OSHC
      • บทความ ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย (Overseas Student Health Cover in Australia)
    • โครงการและกิจกรรมประกันภัย
  • ข่าวและกิจกรรม
    • ข่าวสารย้อนหลังทั้งหมด
  • เกี่ยวกับเรา
    • Contact Us
    • ประวัติความเป็นมา
    • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
    • ประวัติผู้บริหาร
    • Video
    • ประสบการณ์การสอนและวิทยากร
    • อ.สมนึก ให้สัมภาษณ์ในรายการจอโลกเศรษฐกิจ
    • นักเรียนของเรา
    • สื่อประชาสัมพันธ์
    • SJ WORLD Youtube Channel
    • คำนิยมจากนักเรียนและผู้ปกครอง

Pinang Summer Course 2023

SJ WORLD EDUCATION
19 Jan 2023
[หน้าแรก] หลักสูตร, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

Pinang Summer Course 2023



หลักสูตร                                ภาษาอังกฤษ (Join Class)
รับนักเรียนอายุตั้งแต่          13 – 18 ปี (อายุต่ำกว่า 13 ปี พิจารณาเป็นรายบุคคล)
สถาบัน                                  Penang Home School EQ Development
ระยะเวลา                              3 สัปดาห์
เริ่มเรียน                               ได้ทุกสัปดาห์ (ยกเว้นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนประมาณ ธันวาคม)

 

สิ่งที่จะได้รับในการเข้าร่วมโครงการ

1. เรียนภาษาอังกฤษร่วมชั้นกับเพื่อนนักเรียนต่างชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม
2. กิจกรรมทัศนศึกษาวันหยุด (ตามรายละเอียดที่ระบุในโครงการ)
3. พักกับโฮสแฟมมิลี่ชาวมาเลเซีย เพื่อให้มีการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาและวัฒนธรรม
4. ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และ ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ
5. ได้พบปะเพื่อนใหม่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ


รายละเอียด เวลาเรียนและกิจกรรม

1. เรียนวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 15.30 น.

2. กิจกรรมทัศนศึกษาวันหยุดตามที่กำหนดดังนี้

  • Penang Hill จุดชมวิวยอดฮิตของเมือองปีนัง นักเรียนจะได้นั่งกระเช้าขึ้นเขา เพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบกว้างไกลสุดสายตา ที่ความสูง 830 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บนเนินเขาปีนัง ฮิลล์ หรือ บูกิต เบนดารา (Bukit Bemdara) เป็นที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบกว้างไกลสุดสายตา ของเกาะปีนัง จุดสูงสุดของเกาะแห่งนี้
  • Street Art เป็นย่านเมืองเก่าของปีนัง โดยแต่ละซอยเต็มไปด้วยภาพวาดที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเมืองจอร์จทาวน์ นักเรียนจะได้สนุกกับการตามหาภาพวาดฝาพนัง และ เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวปีนังในอดีตผ่านภาพจิตกรรมฝาพนังเหล่านี้
  • Escape Theme Park สวนสนุกเอสเคปปีนังประกอบด้วยพื้นที่หลัก 2 แห่ง ได้แก่ Adventure play และ Waterplay สวนสนุกแห่งนี้มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามของมาเลเซียเป็นฉากหลัง และถือเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการผ่อนคลายและเล่นสนุก

หมายเหตุ

  1. สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการเป็นหลักสำคัญ
  2. ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเข้าร่วมโครงการช่วงเดือนเมษายน ขอแนะนำ วันที่ 2 – 22 เมษายน 2023

สมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่  http://www.sjworldedu.com/application-form/

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 077 287 111 หรือ 085 791 9111 (อ.สมนึก ชูสุวรรณ)
อีเมล. [email protected]

อบรมบาริสต้า เสริมทักษะก่อนทำงานในออสเตรเลีย

SJ WORLD EDUCATION
17 Oct 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

อบรมบาริสต้า เสริมทักษะก่อนทำงานในออสเตรเลีย

การทำงานในออสเตรเลีย จะทำให้มีประสบการณ์ชีวิต มีรายได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่อาศัยอยู่ที่ออสเตรเลีย ผู้ถือวีซ่านักเรียน (Students Visa) จะได้รับอนุญาตให้ทำงาน Part-time ได้มากถึง 40 ชั่วโมงต่อทุกสองสัปดาห์ ขณะที่นักเรียนยังอยู่ในหลักสูตรตามภาคการศึกษา และไม่จำกัดจำนวนชั่วโมงระหว่างช่วงพักการศึกษา และ ผู้ถือวีซ่า Work and Holiday ตามความร่วมมือของรัฐบาลไทย และรัฐบาลออสเตรเลียที่เปิดโอกาสให้ เยาวชนไทย อายุระหว่าง 18-30 ปี สามารถเดินทางไปศึกษา ,ท่องเที่ยว และ ทำงานในประเทศออสเตรเลีย ได้อย่างถูกกฎหมาย ไม่จำกัดชั่วโมงการทำงาน ระยะเวลา 6 เดือนต่อ 1 นายจ้าง ดังนั้น อายุวีซ่า Work and Holiday 1 ปีจะต้องเปลี่ยนนายจ้างครั้งละ 6 เดือน นั่นเอง

เมื่อ ผู้ถือวีซ่านักเรียน หรือ ผู้ถือวีซ่า Work and Holiday เดินทางถึงออสเตรเลีย ก็จะพยายามหาตำแหน่งงานว่าง สมัครงาน เพื่อสร้างรายได้ และประสบการณ์ตามที่ได้กล่าวข้างต้น ในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำในประเทศออสเตรเลียมีการปรับใหม่จากเดิม 20.33 AUD./ชั่วโมง เป็น 21.38 AUD./ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2022 นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับทุกท่าน ออสเตรเลียมีอุตสาหกรรมหลากหลายที่เปิดโอกาสให้มีการจ้างงานแบบ Part- time ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก เช่น ซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า และ ร้านขายเสื้อผ้า งานบริการ เช่น คาเฟ่ บาร์ และห้องอาหาร งานท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก งานด้านการเกษตร เช่น ทำฟาร์ม หรือรับจ้างเก็บผลไม้ งานขาย และ การตลาดทางโทรศัพท์ การบริหารหรือธุรการทั่วไป รวมทั้งงานสอนพิเศษ เป็นต้น

ผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางมาที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย หลายครั้ง ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว และการนำคณะนักเรียนและครู-อาจารย์ ตามโครงการ English Summer Camp พบว่ามีร้านกาแฟจำนวนมาก เกือบทุกมุมถนน รสชาติดี อร่อยกลิ่นหอมกลมกล่อม บางร้านมีโรงคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง ที่นี่นิยมการดื่มกาแฟมาก การนัดเจอ หรือ การคุยงานส่วนใหญ่ก็นัดเจอกันที่ร้านกาแฟ


ย่านธุรกิจร้านกาแฟ Central Business District (CBD) , Melbourne Australia



ชิมรสชาติกาแฟ อร่อย กลิ่นหอมกลมกล่อม



เมลเบิร์น จึงถือได้ว่าเป็น เมืองหลวงแห่งกาแฟเมืองหนึ่งของโลก และ เคยมีรายงานการสำรวจและจัดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก โดย Economist Intelligence Unit (EIU) เมลเบิร์นได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่ง สามารถครองตำแหน่งเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก 2 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2011 และปี 2012 อีกด้วย
การมีร้านกาแฟจำนวนมากจะทำให้มีจ้างงานจำนวนมากด้วย แต่ผู้สมัครงานควรมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน ด้าน Barista หรือ นักชงกาแฟ มิฉะนั้นอาจไม่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งงานนี้ได้ หรืออาจมีโอกาสทำงานแต่ค่าแรงต่อชั่วโมงไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำ แต่ถ้าได้อบรม เตรียมทักษะความรู้ไว้จะเข้าสู่ตำแหน่งงานได้ง่ายกว่าและค่าแรงรายชั่วโมงก็จะสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ประมาณ 3-5 AUD.ต่อชั่วโมงเป็นต้น เป็นต้น นับว่าเป็นการลงทุนในการอบรมที่คุ้มค่า ดังนั้น จึงขอแนะนำหลักสูตรด้าน Barista โดยเลือกหลักสูตรอบรมที่ใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ประหยัดเวลา และ ค่าใช้จ่าย แต่สามารถนำความรู้ไปใช้ในงานได้ทันทีหลังจากเรียนจบหลักสูตร และได้รับ Certificate จากสถาบันฯที่ฝึกอบรมด้วย

หลักสูตรอบรมที่เกี่ยวกับการทำงานร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจขอแนะนำดังนี้

1.หลักสูตร Barista Coffee Making
หลักสูตรนี้สอนทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการสกัดและเสิร์ฟเครื่องดื่มกาแฟเอสเปรสโซ โดยใช้เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซเชิงพาณิชย์ ต้องมีความสามารถในการแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับเครื่องดื่มกาแฟ เลือกและบดเมล็ดกาแฟ จัดเตรียมและประเมินเครื่องดื่มกาแฟเอสเปรสโซและนำไปใช้ ดูแลรักษาและทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ การซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ซับซ้อนจะถูกส่งต่อไปยังช่างเทคนิคบริการผู้เชี่ยวชาญ ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้วิธี การจัดระเบียบร้านกาแฟ (Organise the coffee workstation) การเลือกและบดเมล็ดกาแฟ การแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับเครื่องดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ การสกัดและตรวจสอบคุณภาพของเอสเพรสโซ นมพื้นผิว (Texture milk) การเสิร์ฟเครื่องดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ การทำความสะอาดอุปกรณ์เอสเปรสโซ เป็นต้น ค่าใช้จ่าย : 119 AUD. (ราคาปี 2022) เรียนได้ทุกวันตามที่มีการจองไว้ล่วงหน้า ระยะเวลาของหลักสูตร: 4 ชั่วโมง
ข้อกำหนดเบื้องต้น (Prerequisites) ผู้เข้าอบรมต้องมีทักษะทางภาษาขั้นพื้นฐาน และทักษะการรู้หนังสือเพื่อที่จะสำเร็จหลักสูตร สถาบันที่เปิดสอน เช่น RGIT Australia, Melbourne Australia.
วิธีการสอน (Method) เป็นหลักสูตรในห้องเรียนที่ผสมผสานการบรรยาย การอภิปรายกลุ่มและการจำลองสถานที่ทำงานโดยใช้ห้องกาแฟที่ติดตั้งในเชิงพาณิชย์ของ RGIT Australia
การประเมินผล ผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องเตรียมเครื่องดื่มกาแฟเอสเปรสโซที่หลากหลายภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอน และได้รับการประเมินรสชาด และความน่าดึงดูดใจของงาน อาจมีการตอบคำถามด้วยการเขียนตอบ (Written Questioning) และ ด้วยตอบคำถามปากเปล่า (Oral Questioning) เพื่อประเมินความรู้เกี่ยวกับประเภทของเครื่องดื่มเอสเปรสโซ ประเภทของเมล็ดกาแฟ การผสมและคั่ว และวิธีการเตรียมกาแฟเอสเปรสโซ ผู้เข้าร่วมอบรมต้องแสดงความสามารถในการบำรุงรักษา และ ทำความสะอาดขั้นพื้นฐานสำหรับเครื่องบดและเครื่องจักรเอสเปรสโซ  หนังสือรับรอง (Certification) โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับใบรับรองการสำเร็จหลักสูตรในวันเดียวกัน

2. Coffee Art Course เป็นหลักสูตรภาคปฏิบัติที่ลงมือปฏิบัติจริง ผู้เข้าอบรมจะได้แสดงทักษะและเงื่อนไขที่จำเป็นในการผลิตลาเต้อาร์ตแบบมืออาชีพ ศิลปินลาเต้ที่ทุ่มเทของสถาบันฯจะสอนวิธีการ “free pour” รูปแบบสร้างสรรค์มากมาย หลักสูตรนี้ขัดเกลาขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการ Steaming milkเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบสำหรับลาเต้อาร์ท และอภิปรายถึงศิลปะของครีม (Crema) เพื่อเน้นการออกแบบครอบคลุมถึงสุขอนามัยของอุปกรณ์และการจัดการอุปกรณ์ที่ถูกต้องเพื่อให้แน่ใจว่ารายละเอียดการออกแบบของคุณได้รับการเก็บรักษาไว้ ค่าเรียนหลักสูตรนี้ 90 AUD.  ระยะเวลาของหลักสูตร 3 ชั่วโมง
เลือกเรียนวันจันทร์-ศุกร์ (Weekday) ข้อกำหนดเบื้องต้นของหลักสูตรนี้คือเรียน Barista Coffee Making Course มาก่อนแล้ว เพื่อเข้าร่วมหลักสูตรนี้ซึ่งต้องใช้เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ Steam milk และมั่นใจในเทคนิคของผู้เข้าอบรม สถาบันที่เปิดสอน เช่น RGIT Australia, Melbourne Australia. วิธีการสอน (Method) เป็นหลักสูตรในห้องเรียนที่รวมการบรรยาย การอภิปรายกลุ่ม และการจำลองสถานที่ทำงานโดยใช้ห้องกาแฟของสถาบัน RGIT ที่ติดตั้งในเชิงพาณิชย์ การประเมินผล ผู้เข้าร่วมอบรมต้องฝึกฝนการผลิตลาเต้อาร์ต ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนของสถาบันฯตลอดระยะเวลาของหลักสูตรเพื่อรับใบรับรองการเข้าร่วมอบรม สำหรับหนังสือรับรอง (Certification) โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับใบรับรองการสำเร็จหลักสูตรในวันเดียวกัน

3.Barista Practice Sessions หลักสูตรนี้ ระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับบาริสต้ามือใหม่ และใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาทักษะของตนเอง สามารถฝึกฝนภายใต้การแนะนำของผู้ฝึกสอนของสถาบันที่จะคอยช่วยเหลือตอบคำถามทุกคำถามกรณีมีคำถามของผู้เข้าอบรม ค่าเรียนหลักสูตรนี้ 89 AUD.ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ชั่วโมง เลือกเรียนได้ทุกวัน ข้อกำหนดเบื้องต้นของหลักสูตรนี้คือ คอร์สเรียนชงกาแฟ (Barista Coffee Making) หรือเทียบเท่า (ต้องรู้วิธีใช้งานเครื่องทำกาแฟ&ชงกาแฟ) วิธีการสอน (Method) เป็นภาคฝึกปฏิบัติ 2 ชั่วโมงเพื่อพัฒนาทักษะการทำกาแฟของผู้เข้าอบรม วัสดุที่มีให้:นม 2 ลิตรและเมล็ดกาแฟ 3 ขวด สำหรับหนังสือรับรอง (Certification) สำหรับหลักสูตร Barista Practice Sessions ไม่มีใบรับรองใด ๆ


ผู้เข้าร่วมอบรมและอาจารย์ผู้สอน


 

วัสดุการฝึกภาคปฏิบัติ
 


ผลงานของผู้ผ่านการอบรม
 

ตัวอย่าง เยาวชนไทยโครงการ Work and Holiday Australia ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตร Barista Coffee Making, Coffee Art Course และ Barista Practice Sessions





สมัครเรียน ขอวีซ่า ออสเตรเลีย และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียน
ดร.สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

 

ขอขอบคุณ

  • สถาบัน RGIT Australia , Melbourne Campus
  • น้องหวาย : เยาวชนไทยโครงการ Work and Holiday Australia

Visit Pinang Summer Course 2022

SJ WORLD EDUCATION
06 Oct 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยม ติดตาม โครงการ Pinang Summer Course 2022






เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ดร.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เดินทางไป เยี่ยม ติดตาม ผู้เข้าร่วมโครงการ Pinang Summer Course 2022 ณ เมือง ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ได้ติดตามทั้งในด้านการเรียนการสอนวิชาการภาคภาษาอังกฤษ ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ วิชาเสริมหลักสูตรต่างๆ เป็นการเรียนร่วมชั้น (Join Class) กับเพื่อนนักเรียนต่างชาติ ตามศักยภาพของผู้เรียน ณ ห้องเรียน EQ Development Centre , ติดตามความเป็นอยู่ และกิจกรรมนอกสถานที่ ซึ่งอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของ Host Family โอกาสนี้ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอขอบพระคุณ ผู้ปกครอง นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการฯทุกท่าน





เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

Evolution Hospitality Institute

SJ WORLD EDUCATION
21 Sep 2022
สถาบันการศึกษา, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

แนะนำสถาบัน Evolution Hospitality Institute




Evolution Systems for Training and Development Pty Ltd บริษัทแม่เริ่มต้นในปี 2548 เมื่อ Mr. Stuart Page ระบุช่องว่างในภาค VET สำหรับสถาบันฝึกอบรมด้านการบริการที่มีคุณภาพ Evolution Hospitality Institute (EHI) (RTO # 91256) จึงถือกำเนิดขึ้น และเขามีความต้องการอย่างยิ่งสำหรับผู้ให้บริการที่มุ่งเน้นการปฏิบัติในเชิงปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งมีการมองการณ์ไกลในการคิดนอกกรอบและยินดีที่จะเป็นพันธมิตรและขยายธุรกิจควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมในขณะที่รับฟังสิ่งที่คู่ค้าในอุตสาหกรรมพูดเกี่ยวกับระดับของการฝึกอบรมที่จำเป็นสำหรับธุรกิจของพวกเขาในการทำงานได้
Evolution Hospitality Institute (RTO # 91256) ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมเพื่อระบุทักษะและช่องว่างในความต้องการการฝึกอบรมและดำเนินการเพื่อเติมเต็มข้อกำหนดเหล่านี้ เราเชื่อว่านักเรียนต้องได้รับการสอนจากผู้ที่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อนและด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกสอนของเราทุกคนจึงมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมีคุณสมบัติดีและอุทิศตนเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมการบริการ นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญอย่างมากกับการฝึกภาคปฏิบัติและการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการทำงานและประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวก
ตั้งอยู่ใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจของซิดนีย์ เป็นวิทยาเขตที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของเรา ไม่เพียงแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำของอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักศึกษาได้สัมผัสกับสิ่งอื่นๆ ที่ซิดนีย์มีให้โดยตรง

ภารกิจ
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ทันสมัยซึ่งส่งเสริมการเติบโต ทำให้เกิดความหลากหลายและฝังทักษะและความรู้สำหรับมืออาชีพในอุตสาหกรรมในปัจจุบันและอนาคต
“เราให้คำมั่นสัญญาต่อนักเรียน หุ้นส่วน และพนักงานของเรา ความสำเร็จและความสุขของพวกเขาคือความภาคภูมิใจของเรา”

วิสัยทัศน์ของเรา
เป้าหมายของเราคือการอยู่ในระดับแนวหน้าในด้านการศึกษา โดยกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับภาคการฝึกอบรมระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานที่สร้างแรงบันดาลใจ

เป้าหมาย
คือ ได้รับการยอมรับสำหรับ
• ส่งมอบผลลัพธ์การเรียนรู้การบริการคุณภาพสูง
• กลยุทธ์การเติบโตที่ใช้งานง่าย
• รับฟังและลงมือทำตามกระแสอุตสาหกรรม

หลักสูตรที่เปิดสอน

  1. ELICOS – English Language Centre
  2. Culinary
  3. Travel & Tourism
  4. Hotel & Restaurant Management (HRM)
  5. Event Management
  6. Short Courses   






สนใจสมัครเรียน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ

อ. สมนึก ชูสุวรรณ

โทร. 085 791 9111 หรือ ออฟฟิต  077 287 111

Line ID: somnoek

 

 

จบ ม.ปลาย / O-Level/A-Level เรียนต่อมาเลเซีย ประหยัด สะดวก มาตรฐานสากล SENTRAL College Penang and University of Salford, UK

SJ WORLD EDUCATION
16 Aug 2022
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, บทความน่ารู้, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

จบ ม.ปลาย / O-Level/A-Level เรียนต่อมาเลเซีย ประหยัด สะดวก มาตรฐานสากล
SENTRAL College Penang and University of Salford, UK


หลายปีต่อเนื่องที่ผู้เขียนเป็นผู้แนะนำหลักสูตร สถาบันการศึกษา และ สมัครเรียนให้กับนักเรียนไทย เพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศในระดับ และสาขาต่างๆ พบว่าผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ส่ง บุตร หลานไปศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ยังประเทศ มาเลเซีย เพราะมาเลเซีย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่าเล่าเรียนที่ไม่แพง ค่าครองชีพถูก มาเลเซียได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเดินทางที่ง่าย สะดวก เนื่องจากมาเลเซียมีชายแดนติดต่ออยู่กับไทย สามารถเลือกเดินทางด้วยทางรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน นอกจากนี้ นักเรียนได้รับความรู้ ทักษะด้านภาษา 2 – 3 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และ ภาษามลายู อีกด้วย

เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลาย จากมาเลเซีย ได้รับคุณวุฒิ O-Level หรือ A-Level ระบบ IGCSE มาตรฐานของประเทศอังกฤษ นักเรียน และผู้ปกครอง จำนวนไม่น้อยที่มีความสนใจเกี่ยวกับระบบการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้นในประเทศมาเลเซียแต่อาจจะยังขาดข้อมูล เส้นทางการศึกษาต่อหลักสูตร แต่ละระดับ สาขาวิชา และ สถาบันการศึกษา โอกาสนี้ผู้เขียนจึงขอแนะนำรายละเอียดดังกล่าว โดยเลือก SENTRAL College Penang and University of Salford, UK ซึ่งทั้งสองสถาบันการศึกษามีความร่วมมือจัดการเรียนการสอน มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ รายละเอียดดังนี้



SENTRAL College Penang ตั้งอยู่ในอาคาร 14 ชั้น อาคารที่สูงที่สุดในเขตแกนกลางของมรดกโลกขององค์การยูเนสโก Menara SENTRAL เลขที่ 3 Penang St, Georgetown, 10200 Penang, ประเทศ มาเลเซีย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เป็น สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา โปรแกรมที่เปิดสอนได้รับการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการ (MOE) และได้รับการรับรองโดย Malaysian Qualification Agency (MQA) สาขาการศึกษา ได้แก่ ธุรกิจและการจัดการ(Business & Management) การบัญชีและการเงิน (Accounting & Finance) คอมพิวเตอร์และไอที (Computer & IT) การท่องเที่ยวและการโรงแรม (Tourism & Hospitality) และการศึกษาปฐมวัย (Early Childhood Education) SENTRAL College Penang ทำงานร่วมกับ University of Salford เมืองแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร เพื่อจัดหลักสูตรระดับโลกในราคาย่อมเยาของสหราชอาณาจักร

เส้นทางสู่ความสำเร็จทางวิชาการ (Academic Pathway Towards Success)

ก่อนที่จะแนะนำรายละเอียดโปรแกรมที่เปิดสอน (Programmes Offered) ของ SENTRAL College Penang
มาทำความเข้าใจเส้นทางสู่ความสำเร็จทางวิชาการกันก่อนเพื่อทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติของผู้ที่สนใจสมัครเข้าเรียนว่าต้องมีคุณวุฒิการศึกษาในระดับใดจึงจะสมัครเข้าเรียนได้และในแต่ละระดับและระยะเวลาศึกษาของแต่ละหลักสูตร เพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อม หรือวางแผน ด้านต่างๆ เช่นพื้นความรู้ เวลา และประมาณการค่าใช้จ่าย เป็นต้น



จากแผนภูมิ Academic Pathway Towards Success สามารถแบ่งกลุ่มของคุณวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม รายละเอียดดังนี้
1. SPM/O-Level or equivalent qualification
 SPM คือคุณวุฒิของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper Secondary) มาเลเซีย ที่เลือกเรียนสายวิชาการและเทคนิคเมื่อจบแล้วจะต้องสอบผ่านข้อสอบของรัฐ (Sijit Pelajaran Malaysia: SPM)
 O-Level หรือ IGCSE O-Level (International General Certificate of Secondary Education Ordinary Level) เป็นระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศอังกฤษ
ตัวอย่างเช่น: นักเรียนไทยที่จบ ประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วไปศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ที่ประเทศมาเลเซีย ที่ใช้หลักสูตร IGCSE ซึ่งใช้เวลาศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Lower High School: Junior 1-3 รวม 3 ปี) และมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper High School: Senior 1-2 รวม 2 ปี) ขณะที่นักเรียนกำลังศึกษา Senior 1-2 อายุระหว่าง 14-16 ปี ทางโรงเรียนจะดำเนินการสมัครเพื่อให้สอบคุณวุฒิ O-Level Certificate เป็นต้น
 Equivalent qualification คือคุณวุฒิอื่นที่เทียบเท่า SPM/O-Level นั่นเอง



2. STPM/A-Level /UEC/Pre-U or equivalent qualification
 STPM นักเรียนมาเลเซีย ที่เรียน Upper secondary เส้นทาง Sixth Form ซึ่งในเส้นทาง Sixth Form จะมี 3 สาขา คือ Arts, Science และ Technical ซึ่งเมื่อเรียนจบแล้วจะต้องสอบผ่านข้อสอบของรัฐ คือ STPM (Sijit Tinggi Perselolaham Malaysia) โดยจะได้วุฒิเทียบเท่า GCE “A” Level
 A-Level หรือ IGCSE A-Level (International General Certificate of Secondary Education Advanced Level) ซึ่งเป็นระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศอังกฤษ จะเรียนเป็นเวลา 2 ปี ในช่วงอายุระหว่าง 16-18 ปี หลังจบ O-Level ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้น
 UEC โรงเรียนเอกชนที่สอนภาษาจีนนั้น ระบบการเรียนนั้นจะแตกต่างกับโรงเรียนรัฐบาล ในช่วงของระยะเวลาเรียนที่ต้องเรียนเป็นเวลา 6 ปี และจะต้องเข้ารับการทดสอบที่เรียกว่า The Unified Examination Certificate (UEC) ซึ่งจัดการโดยสมาคมครูและคณะกรรมการโรงเรียน
 Pre-U คือ Pre-University หรือ Foundation Programme เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา ก่อนเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย เช่นผู้ที่ใช้คุณวุฒิ SPM/O-Level or equivalent qualification ต้องการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยปีที่ 1 โดยไม่ได้เรียนหลักสูตร Diploma ก็ต้องเรียน Pre-University หรือ Foundation Programme ใช้เวลา 1 ปี เป็นต้น
 Equivalent qualification คือคุณวุฒิอื่นที่เทียบเท่า STPM/A-Level /UEC/Pre-U นั่นเอง



ดังนั้น เส้นทางการศึกษาจึงสามารถอธิบายได้ เป็น 2 กรณีตามคุณวุฒิที่ใช้สมัครเรียน รายละเอียดตามรูปที่ 2 ดังนี้

1.กรณีสมัครด้วยคุณวุฒิ SPM/O -Level or equivalent qualification มีเส้นทางเลือกการเรียนดังนี้

1.1 เรียน Certificate Programmes ระยะเวลาของหลักสูตร 1 ปี 5 เดือน แล้วเรียนต่อ Diploma Programmes ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ปี 4 เดือน ตามด้วยหลักสูตร Bachelor’s Degree (ปริญญาตรี) ระยะเวลาของหลักสูตร 2-3 ปี (กรณีจบ Diploma สามารถเข้าเรียนปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยจึงสามารถเรียนจบได้ใน 2 ปี)
1.2 เรียน Diploma Programmes ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ปี 4 เดือน โดยไม่ต้องเรียน Certificate Programmes (ทางสถาบันฯอาจพิจารณาพื้นฐานความรู้เดิมด้วย) ตามด้วยหลักสูตร Bachelor’s Degree ระยะเวลาของหลักสูตร 2-3 ปี (กรณีจบ Diploma สามารถเข้าเรียนปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยจึงสามารถเรียนจบได้ใน 2 ปี)
1.3 เรียน Foundation Programme ระยะเวลาของหลักสูตร 1 ปี ตามด้วยหลักสูตร Bachelor’s Degree เข้าเรียนปีที่ 1ของมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเรียนปริญญาตรี 3 ปี
1.4 กรณีต้องการศึกษา หลักสูตร ACCA (Association of Chartered Certified Accountants) ซึ่งเป็น
องค์กรวิชาชีพบัญชีระดับโลก ก็เริ่มต้นเรียน หลักสูตร Certified Accounting Technician ระยะเวลาหลักสูตร 1 ปี ตามด้วยหลักสูตร ACCA ระยะเวลาหลักสูตร 2 ปี 5 เดือน



2.กรณีสมัครด้วยคุณวุฒิ STPM/A-Level /UEC/Pre-U or equivalent qualification มีเส้นทางเลือกการเรียนดังนี้

2.1 เรียน Bachelor’s Degree (ระดับปริญญาตรี) ระยะเวลาของหลักสูตร 3 ปี โดยเริ่มต้นเรียนในปีที่1 หลักสูตรที่เปิดสอนตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
2.2 กรณีต้องการศึกษา หลักสูตร ACCA (Association of Chartered Certified Accountants) ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพบัญชีระดับโลก ก็เริ่มต้นเรียน หลักสูตร Certified Accounting Technician ระยะเวลาหลักสูตร ระยะเวลาหลักสูตร 2 ปี 5 เดือน โดยไม่ต้องเรียน หลักสูตร Certified Accounting Technician

หลักสูตรที่เปิดสอน (Programmes Offered)

SENTRAL College Penang เปิดสอนในระดับและสาขาวิชาต่างๆ ทั้งนี้ในระดับปริญญาตรี SENTRAL College Penang ได้ทำงานร่วมกับ University of Salford เมืองแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักรอีกด้วย รายละเอียดดังนี้

1. Accounting & Finance (การบัญชีและการเงิน)
1.1 Diploma in Accounting, SENTRAL College Penang
1.2 BSc (Hons) Accounting & Finance, University of Salford, UK
1.3 Certified Accounting Technician (CAT), Professional Qualification
1.4 ACCA Qualification, Professional Qualification

2. Business & Management (ธุรกิจและการจัดการ)

3. Computer & IT (คอมพิวเตอร์และไอที)
3.1 Certificate in Business IT, SENTRAL College Penang
3.2 Diploma in Computer System Technology, SENTRAL College Penang
3.3 BSc (Hons) Digital Business, University of Salford, UK

4.Education & General studies (การศึกษาและการศึกษาทั่วไป)
4.1 Diploma in Early Childhood Education, SENTRAL College Penang
4.2 Foundation in Business Management, SENTRAL College Penang

5.Tourism & Hospitality (การท่องเที่ยวและการโรงแรม)
5.1 Diploma in Tourism Management, SENTRAL College Penang
5.2 Tourist Guides Programme (SKM 3), SENTRAL College Penang



สิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำของ SENTRAL College Penang

1.Auditorium



2.Theater Room



3.Multipurpose Hall



4.Open-Lab



5.Fitness Centre



6.Online Computer Room



7.Student Lounge & Library



8.Interactive Room




9.Multi-Storey Car Park



10.Student’Hostel



การเข้าเยี่ยมชม SENTRAL College Penang ของ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด




Source:
1.Programme General Guide, SENTRAL College Penang
2. SENTRAL College Penang, www.sentral.edu.my
3.ระบบการศึกษาของประเทศมาเลเซีย, www.sjworldedu.com




เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

 



ผู้เขียน
ดร.สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

 

หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย ความสำคัญของนักเรียนไทย

SJ WORLD EDUCATION
03 May 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร, บทความน่ารู้, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย ความสำคัญของนักเรียนไทย




หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นสำหรับนักเรียนต่างชาติ (English Language Intensive Courses for Overseas Students : ELICOS) ในประเทศออสเตรเลีย เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนต่างชาติ เหมาะสำหรับการฝึกฝนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมหรือการปรับพื้นฐานทักษะภาษาอังกฤษ เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย ประสบการณ์การใช้ชีวิตในออสเตรเลีย ลดอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการเรียน การใช้ชีวิต รวมถึงการทำงาน Part time สำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียนด้วย

ออสเตรเลียมีระบบ และ คุณภาพการศึกษาที่ยอดเยี่ยมมาก รัฐบาลของออสเตรเลียให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการศึกษาทำให้สามารถดึงดูดความสนใจให้นักศึกษานานาชาติเดินทางเข้าไปศึกษายังประเทศออสเตรเลียจำนวนมากปีละหลายแสนคน


Source: Australian Trade and Investment Commission (Austrade)
รูปที่ 1 Top 10 Countries Students number in Australia




ข้อมูลจาก Australian Trade and Investment Commission (Austrade) พบว่า จำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศออสเตรเลีย ข้อมูล พฤศจิกายน ค.ศ.2018 มีจำนวน 690,468 คน มากกว่า พฤศจิกายน 2017 ถึง 11 % 10 ลำดับประเทศที่มีจำนวนนักเรียนในประเทศออสเตรเลีย ได้แก่ China 204,490, India 89,214, Nepal 42,884, Brazil 26,237, Malaysia 26,034, Vietnam 24,094, Korea Republic of (South) 21,677,Thailand 17,898, Colombia 16,686 , และ Indonesia 16,502 คน ตามลำดับ ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 8 ของ Top 10 Countries และอันดับ 3 ใน ASEAN


Source: Australian Trade and Investment Commission (Austrade)
รูปที่ 2 Student Visa grants for Thai Students




สถิติผู้ได้รับวีซ่านักเรียนไทยไปศึกษาประเทศออสเตรเลีย ปี ค.ศ.2018 เทียบกับ ปี 2017 แยกตาม Sector ต่างๆ พบว่า ELICOS มีจำนวนสูงสุด รองลงมาตามลำดับได้แก่ Vocational Education and Training :VET (อาชีวศึกษา) , Higher Education (อุดมศึกษา) , Schools (โรงเรียนต่างๆ) และ Non-award ได้แก่ หลักสูตรพื้นฐานต่างๆของออสเตรเลียโดยที่ไม่ได้รับประกาศนียบัตรจากทางรัฐบาล เช่น non-award foundation studies course จากสถิติดังกล่าวแสดง ELICOS มีความสำคัญและเป็นที่นิยมสูงมาก เรามาทำความรู้จักหลักสูตร ELICOS มีหลักสูตรเพื่อความประสงค์ในการใช้งานด้านใดบ้าง รายละเอียดดังนี้


รูปที่ 3 หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ELICOS)



 หลักสูตร ELICOS ของแต่ละสถาบันสอนภาษาอังกฤษ อาจมีแบ่งตามวัตถุประสงค์แตกต่างกันบ้างแต่ในที่นี้ขอยกมาเป็นตัวอย่างดังนี้

  1. General English (ภาษาอังกฤษทั่วไป) เน้นการเสริมทักษะ สร้างความมั่นใจ ในการใช้ภาษา
    ทั้งการฟัง การพูด การพูด การอ่าน รวมทั้งการเขียน การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และต่อยอดไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น General English แบ่งระดับ (Levels) ต่างๆได้แก่ Elementary, Lower Intermediate, Intermediate, Upper Intermediate และ Advanced ตามลำดับ บางสถาบันอาจจัดแบ่งจำนวน Levels มากกว่านี้ก็มี


Source: Prospectus for International Students, Fusion English 2013
รูปที่ 4 Levels of General English




ดังนั้นการสมัครเรียน General English ทางสถาบันมักจะให้นักเรียนได้สอบวัดระดับ (Placement test) ก่อนเรียน เพื่อจัดห้องเรียนให้กับนักเรียนได้ร่วมชั้นเรียนกับผู้เรียนที่มีทักษะในระดับเดียวกันพัฒนาระดับภาษาไปพร้อม ๆ กัน โดยทั่วไปแล้วแต่ละระดับจะมีทักษะที่แตกต่างกัน เช่น

  • Elementary: ไม่มีความรู้พื้นฐาน ภาษาอังกฤษ หรือมีเพียงเล็กน้อย ตอบคำถามง่ายๆได้บ้าง
  • Lower or Pre – Intermediate: ติดต่อสื่อสารและเข้าใจภาษาอังกฤษเบื้องต้น ติดต่อสื่อสารในสถานการณ์ที่มีความเคยชิน แต่เมื่อถูกกดดันในสถานการณ์ต่างๆยังไมสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
  • Intermediate: มั่นใจในการพูดคุยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องที่คุ้นเคย แต่การใช้หลักไวยากรณ์ยังไม่ค่อยถูกต้อง
  • Upper Intermediate: ใช้ภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ และมีประสิทธิภาพในหลายๆสถานการณ์ ผิดพลาดในหลักไวยากรณ์เพียงเล็กน้อย

Advanced สื่อสารคล่องแคล่ว ผิดพลาดบ้างกรณีเรื่องที่ซับซ้อน หรือพูดได้คล่องแคล่ว ใช้คำศัพท์ได้มาก หลักไวยากรณ์ถูกต้องแม่นยำ

2. English for Academic Purposes: EAP (ภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ)
พัฒนาทักษะการใช้ภาษาในทางวิชาการ เตรียมความพร้อมที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับต่างๆเช่น
ระดับมัธยมศึกษา (High School) , ระดับอาชีวศึกษา (Vocational Education and Training :VET) และระดับมหาวิทยาลัยหรือระดับอุดมศึกษา (Higher Education) ในประเทศออสเตรเลีย ฝึกฝนทักษะเชิงวิชาการ ทักษะการทำวิจัย การคิดวิเคราะห์ การเขียนเรียงความ งานกลุ่ม งานนำเสนอหน้าชั้นเรียน การอภิปราย การสัมมนา การจดบันทึกย่อ เป็นต้น หลักสูตรนี้อาจจะสมัครเรียนกับศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครเรียนหรือเลือกเรียนที่สถาบันสอนภาษาในโครงการ ความร่วมมือ กับแต่ละมหาวิทยาลัย
3. English for Business (ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ)
เสริมสร้างทักษะ ความมั่นใจ การสื่อสารด้านต่างๆ ภาษาที่ใช้ในทางธุรกิจ พัฒนาทักษะการฟัง การอ่านข่าวสารด้านธุรกิจ เรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ การสนทนาโทรศัพท์ การนำเสนอ การจดบันทึก และการเขียนรายงาน เป็นต้น
4. Exam Preparation (การเตรียมสอบภาษาอังกฤษ)
การเตรียมความพร้อมในการสอบ เช่น การสอบ IELTS (International English Language Testing System)
หรือ TOEFL( Test of English as a Foreign Language) ทั้งนี้ผลการสอบเพื่อนำไปยื่นสมัครเรียนต่อในระดับต่างๆ หรือยื่นขอวีซ่า เป็นต้น หลักสูตรนี้ส่วนใหญ่จะสอนเทคนิคในการทำข้อสอบด้วย การสมัครเรียนเรียนหลักสูตรนี้อาจมีเงื่อนไข เช่นต้องผ่าน General English ระดับUpper Intermediate หรือใช้ผลสอบ IELTS เป็นต้น
5.Vacation Course (ภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียน)
หลักสูตรนี้อาจรู้จักกันในชื่อโครงการต่างๆ เช่น Program Summer Course, Study and Tour, หรือ Camp เหมาะสำหรับการเพิ่มทักษะการใช้ภาษาควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรม การเดินทางท่องเที่ยว กิจกรรมนอกห้องเรียน เป็นหลักสูตรระยะสั้น เช่น เรียนสัปดาห์ละ 25 ชั่วโมง เรียนในชั้นเรียน 20 ชั่วโมง และ กิจกรรมนอกห้องเรียน 5 ชั่วโมง โดยมีอาจารย์ผู้ควบคุมดูแล ระยะเวลาการเรียนขึ้นอยู่กับพื้นฐานความรู้เดิมของผู้เรียนและระยะเวลาการปิดภาคเรียน
6.English and Work Experience (ภาษาอังกฤษและการฝึกงาน)
การเรียนภาษาอังกฤษ และการจัดหางานที่สนใจในการฝึกงาน ทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เรียนรู้ชีวิตการทำงาน หลักสูตรนี้อาจจะมีสถาบันที่เปิดสอนเพียงจำนวนน้อย
7.English Teacher Training (ฝึกอบรมอาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษ)
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ การพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อไปเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษ โดยเนื้อหาหลักสูตรประกอบด้วย ทฤษฎี เทคนิคการสอน ทักษะต่างๆที่ต้องใช้ในการสอนภาษาอังกฤษ
8. English for Hospitality and Tourism (ภาษาอังกฤษสำรับงานบริการต้อนรับและการท่องเที่ยว)
การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน ในอุตสาหกรรมบริการต้อนรับและการท่องเที่ยว หรือเพื่อการศึกษาต่อในสาขานี้ต่อไป บางสถาบันจัดให้มีการฝึกภาคปฏิบัติ เพิ่มทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในธุรกิจนี้ด้วย
การเรียน General English ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า นอกจากเพื่อการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันแล้วยังใช้ต่อยอดไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นด้วย ดังรูป 5


Source: Prospectus for International Students, Impact English College
รูปที่ 5 ตัวอย่างขั้นตอนการเรียนภาษาอังกฤษก่อนการเรียนวิชาชีพ วิชาการต่างๆ




จากรูปที่ 5 สามารถอธิบายได้ดังนี้

  • การเรียน General English level Elementary – Advanced อยู่ในช่วงเวลา 5-50 Weeks
  • การเรียนต่อหลักสูตร IELTS/Further Studies, Barista/Café English และ English for Bartending จะต้องมีทักษะ General English ระดับ Intermediate
  • การเรียนต่อหลักสูตร Business English, First Certificate in English (FCE), TESOL/TKT จะต้องมีทักษะ General English ระดับ Upper Intermediate
  • การเรียนต่อหลักสูตร Cambridge English Advanced (CAE) จะต้องมีทักษะ General English ระดับ Advanced




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

 

เรียนต่อมาเลเซีย เมืองกัมปาร์ อีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ

SJ WORLD EDUCATION
01 Feb 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ทั่วไป, บทความน่ารู้, เกี่ยวกับประเทศมาเลเซีย
Comments: 0

เรียนต่อมาเลเซีย เมืองกัมปาร์ อีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ







เมื่อนึกถึงการศึกษาประเทศมาเลเซีย ผู้ปกครอง และ นักเรียน มักจะถามถึง สถาบันการศึกษาในกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เมืองปีนัง โกตาบารู และ อิโปห์ เป็นส่วนใหญ่ หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักเมืองกัมปาร์ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจเพื่อเดินทางไปศึกษาต่อทั้งระดับมัธยมศึกษา และ อุดมศึกษา หรือ แม้แต่การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซีย จึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักเมืองกัมปาร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองอิโปห์ (Ipoh) ตั้งอยู่ในรัฐเดียวกัน มีรายละเอียด ที่น่าสนใจดังนี้

กัมปาร์ (Kampar) เป็นเขตหนึ่งในสิบเขตการปกครองของรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ตั้งเป็นเขต (อำเภอ) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2009 หลังจากสุลต่านแห่งเปรัค ประกาศกัมปาร์เป็นเขตที่ 10 ของรัฐ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นคือสภาเขตกัมปาร์ (Kampar District Council or Majlis Daerah Kampar) ตั้งอยู่ในเมืองกัมปาร์ จากการเติบโตของประชากร สภาเขตกัมปาร์ สามารถขยายเป็นสภาเทศบาลได้ (Municipal Council or Majlis Perbandaran) และในที่สุดก็ถึงสภาเทศบาลเมือง (City Council or Majlis Bandaraya) ตามประวัติศาสตร์ เขตกัมปาร์เคยขึ้นชื่อเรื่องดีบุก เป็นหนึ่งในผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ในศตวรรษที่ 18

ในศตวรรษที่ 19 ย่าน Kinta มีชื่อเสียงในด้านดีบุก เป็นหุบเขาที่ผลิตดีบุกอันดับหนึ่งของโลก กัมปาร์ เป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐเปรัค (Perak) ประเทศมาเลเซีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1887 โดยมีการค้นพบแร่ดีบุกที่อุดมสมบูรณ์ในเมืองนี้ ครั้งหนึ่งเคยล่มสลาย หลังจากการล่มสลายของอุตสาหกรรมดีบุกในช่วงต้นทศวรรษ 1980 วันนี้กัมปาร์กลายเป็นเมืองที่คึกคักอีกแล้ว เมื่อ มหาวิทยาลัย UTAR (Universiti Tunku Abdul Rahman) ตั้งวิทยาเขตที่นี่ในปี ค.ศ. 2007 ได้ให้ชีวิตใหม่แก่กัมปาร์ในฐานะศูนย์กลางการศึกษา   ปัจจุบัน กัมปาร์ ถูกแบ่งออกเป็น เมืองใหม่ (New town) และ เมืองเก่า (Old town)

เมืองเก่ากัมปาร์ (Kampar Old Town) ประกอบด้วย ตึกแถว บ้าน ร้านค้า ตามประวัติศาสตร์ยุคก่อนสงคราม ถนนสายหลัก 2 สายคือ ถนนจาลันโกเปง และจาลัน ไอดริส ร้านค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังคงสภาพเดิม สถานีตำรวจ ที่ทำการไปรษณีย์ โรงพยาบาล  มัสยิด โบสถ์ คริสตจักร ฯลฯ และ สถานีรถไฟ KTM ทั้งหมดตั้งอยู่ในเมืองเก่า

เมืองใหม่กัมปาร์ (Kampar New Town) ภายใต้การพัฒนาที่กว้างใหญ่ วันนี้ภาคการค้าและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกัมปาร์ เศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนโดย การเปิด Tesco Hypermarket, Econsave and Giant Hypermarket.

ลักษณะทางภูมิศาสตร์  กัมปาร์ตั้งอยู่ในหุบเขาคินตา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีแร่ดีบุกสำรองสูง สภาพแวดล้อมที่กว้างใหญ่ ตลอดจนบ่อเหมืองร้าง เหมาะสำรับการตกปลา ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญสำหรับนักตกปลาทั่วประเทศโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากกัวลาลัมเปอร์  ที่มาของชื่อกัมปาร์ ทฤษฎีหนึ่งที่เป็นไปได้คือ Kampar ได้รับการตั้งชื่อตามแม่น้ำ Kampar (ทางตอนเหนือของเมืองปัจจุบัน) แม่น้ำนี้ได้ชื่อมาจากชาติพันธุ์ มาเลย์ ผู้อพยพจาก กัมปาร์รีเจนซี่ ในจังหวัดเรียวของสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งใช้แม่น้ำเพื่อนำทางไปยังต้นน้ำและแหล่งที่มาหลักของบรรพบุรุษของประชากร มาเลย์ ในท้องถิ่น สิ่งนี้มีมาก่อนการขุดแร่ดีบุกขนาดใหญ่ในกัมปาร์

การเดินทาง กัมปาร์มีเครือข่ายคมนาคมขนส่งที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีและการเชื่อมโยงทางรางที่มีประสิทธิภาพ รูปแบบการคมนาคมหลัก ได้แก่ รถประจำทาง รถแท็กซี่ และ รถไฟโดยสาร (Commuter Trains) ที่ให้ความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงส่วนต่างๆ ของประเทศ



การเดินทางโดยรถไฟ



สถานที่ท่องเที่ยว กัมปาร์และบริเวณโดยรอบมี สถานที่ท่องเที่ยว มากมาย และ กิจกรรมทางกายภาพตลอดทั้งวัน เช่น เดินป่า ล่องแก่ง และอื่นๆ อีกมากมาย จุดหมายปลายทางที่น่าไปเยี่ยมชมในกัมปาร์ ได้แก่ Kinta Tin Mining Museum ,Lata Kinjang Waterfall, Kellie's Castle, Gaharu Farm, Gua Tempurung, Kampar River White Water Rafting, Tanjung Tualang, Sahom Orang Asli Village, Sahom Valley Agro & Eco Resort และ Kampar Gu Miao Temple



Kinta Tin Mining Museum



อาหาร เมื่อมาถึงเมืองนี้ อาหารที่คุณต้องลองลิ้มรส กัมปาร์มีชื่อเสียงในฐานะสวรรค์แห่งอาหาร   มีอาหารให้บริการสำหรับทุกเชื้อชาติที่มีความชอบต่างกัน อาหารกัมปาร์ที่ต้องลองอย่างหนึ่งคือแกงไก่ห่อขนมปัง (Chicken Curry Wrapped in Bread) หรือ Curry Chicken Bread, Clay Pot Chicken Rice, Egg Tart, Tau Fu Fa, Char Kuey Teow, Lou Shu Fen, Saury Fish Ball, Asam Laksa, Kelapa Leleh,และ Tanjung Tualang Seafood.

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก : https://study.utar.edu.my/living-kampar.php

กัมปาร์เป็นศูนย์กลางของการศึกษา มีสถาบันการศึกษา โรงเรียนประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ทั้งโรงเรียนของรัฐบาล, โรงเรียนนานาชาติ และ สถาบันในระดับอุดมศึกษา โรงเรียนนานาชาติ สำหรับนักเรียนที่สนใจเข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School ) ที่แนะนำ ได้แก่ Westlake International School  ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.sjworldedu.com/en/country/malaysia/review-westlake-international-school-my/
และการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัย University Tunku Abdul Rahman (UTAR)  ซึ่งเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman University College (TAR UC)  ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.sjworldedu.com/th/misc/visit-utar-my/



ผู้เขียน เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ขอบพระคุณข้อมูล
Living in Kampar,University Tunku Abdul Rahman (UTAR), Kampar Campus 


สมัครเรียนต่างประเทศ ขอวีซ่า
ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร.077 287111,08 5791 9111
(อ.สมนึก) Line ID.somnoek

 

เยี่ยมชม University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) มหาวิทยาลัยชั้นนำที่น่าสนใจ ของประทศ มาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
01 Feb 2022
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, ทั่วไป, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

เยี่ยมชม University Tunku  Abdul Rahman (UTAR)

มหาวิทยาลัยชั้นนำที่น่าสนใจของประเทศมาเลเซีย





ผมและคณะได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) Kampar Campus  ซึ่งเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านการสอนและการวิจัย  การเยี่ยมชมได้รับการต้อนรับและข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ผู้ปกครอง ในการเลือกมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี  จึงขอแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผู้สนใจเรียนหรือเลือกที่เรียนให้กับบุตรหลานครับ

มหาวิทยาลัย  University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ก่อตั้งเมื่อปี 2002 ภายใต้มูลนิธิการศึกษา UTAR  เป็นองค์กรแบบไม่แสวงผลกำไร นำการศึกษาที่ราคาไม่แพงและมีคุณภาพให้แก่ชาวมาเลเซีย

มหาวิทยาลัย  University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) มี 2 วิทยาเขต ดังนี้ 

  1. วิทยาเขตหลักที่เมืองกัมปาร์ (Kampar Campus) ในรัฐเปรัค (Perak) สภาพแวดล้อม ภูมิประเทศเทือกเขา ทะเลสาบที่สวยงาม อยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ประมาณ 190 กิโลเมตร หรือใช้เวลาการขับรถเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
  2. วิทยาเขตซุนไกลอง (Sungai Long Campus) อยู่ที่เมือง Bandar Sungai Long รัฐสลังงอ (Selangor) ใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เป็นวิทยาเขตที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทันสมัย ห่างจาก KL City Center ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 20 นาที

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://study.utar.edu.my/campuses.php 


มหาวิทยลัย UTAR ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 2 ของประเทศมาเลเซีย และหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ Top 600 ของโลก ซึ่งเป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ปี 2021 ของ Time Higher Education ดังนั้นถือได้ว่า มหาวิทยาลัย UTAR เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับนักศึกษาที่สนใจศึกษาต่อในประเทศมาเลเซีย โดยเหตุผลที่ควรเลือกมาเรียนที่ UTAR สรุปได้ดังนี้

  • เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
  • มหาวิทยาลัย เน้นเตรียมความพร้อมเพื่อการทำงานเข้าสู่อาชีพ ยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization)
  • สภาพแวดล้อมของการเรียน การสอนมีความหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม นักศึกษาได้รับความรู้ ประสบการณ์ระดับสากล
  • มีโอกาสรับประสบการณ์จาก การฝึกงาน ทัศนศึกษา รับความรู้ในการบรรยายจากนักอุตสาหกรรมหลากหลายสาขา
  • มีเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันวิชาการอื่นๆ
  • ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาอังกฤษเป็นภาษาหลัก
  • มีบริการต่างๆ เช่น แนะแนวอาชีพ บริการรับส่ง บริการด้านดูแลสุขภาพ

สิ่งอำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัย

  • ห้องทดลองสำหรับการวิจัย
  • คอมพิวเตอร์สำหรับการเรียนภาคปฏิบัติ
  • สามารถใช้ระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายภายในมหาวิทยาลัยทั้ง 2 วิทยาเขต
  • ห้องสมุด ศูนย์รวมสื่อการเรียนการสอน หนังสือ, E-Book, Online Journal และ บริการห้องเรียนสำหรับเรียนรู้ทักษะการสืบค้นหาข้อมูล
  • บริการรับส่งจากสนามบิน (Airport Pickup) สำหรับนักศึกษาใหม่
  • การปฐมนิเทศ กิจกรรมการสร้างเครือข่ายสำหรับนักศึกษาใหม่
  • กิจกรรม สโมสร ชมรมนักศึกษาทั้งทางด้านวิชาการและอื่นๆครอบคลุมความสนใจของนักศึกษา เช่น กีฬา ดนตรี การละคร และภาพยนตร์ เป็นต้น

หลักสูตรที่เปิดสอน

มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรหลากหลายสาขา ซึ่งดำเนินการสอนโดยแบ่งเป็นส่วนงานของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย  9 คณะวิชา 3 สถาบัน และ 3 ศูนย์การเรียน ดังนี้

  1. Faculty of Medicine and Health Sciences (Sungai Long Campus)
  2. Lee Kong Chian Faculty of Engineering and Science
  3. Faculty of Engineering and Green Technology
  4. Faculty of Information and Communication Technology
  5. Faculty of Science
  6. Faculty of Accountancy and Management (Sungai Long Campus)
  7. Faculty of Business and Finance (Kampar Campus)
  8. Faculty of Arts and Social Science (Kampar Campus)
  9. Faculty of Creative Industries
  10. Institute of Postgraduate Studies & Research
  11. Institute of Chinese Studies
  12. Institute of Management and Leadership Development
  13. Centre for Foundation Studies (Kampar Campus)
  14. Centre for Foundation Studies (Sungai Long Campus)
  15. Centre for Extension Education
  16. Centre for Corporate and Community Development

แต่ละคณะวิชา เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรี (Undergraduate) และ ระดับปริญญาโท,ปริญญาเอก (Postgraduate)

ที่มา : https://utar.edu.my/Academic-Faculties-Institutes-and-Centres.php


การเยี่ยมชมครั้งนี้เป็นโอกาสดี นอกจากเยี่ยมชมสถานที่ของมหาวิทยาลัย (Campus Tour) แล้ว ยังได้ร่วมประชุมวางแผนความร่วมมือในการสมัครเรียนให้กับนักเรียนไทยไปศึกษายังมหาวิทยาลัย UTAR ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษ หลักสูตรระดับปริญญาตรี โท เอก สาขาต่าง ๆ และ การเข้าร่วมโครงการค่ายภาษาอังกฤษ ( English Camp) , ค่ายวิชาการ (Academic Camp ) ซึ่งเป็นโครงการที่น่าสนใจ ได้รับความนิยม จากนักเรียนญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไทย และอีกหลายชาติ ทางมหาวิทยาลัย UTAR จัดโครงการดังกล่าวเป็นประจำหลายปีต่อเนื่อง กิจกรรมค่ายเป็นที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงแต่เรียนวิชาการในห้องเรียนแต่มีกิจกรรม เดินทาง ท่องเที่ยว สันทนาการ ได้พบเพื่อนต่างชาติ การเรียนรู้ ประสบการณ์ด้านภา วัฒนธรรม ที่หลากหลาย 


 การประชุมวางแผนความร่วมมือการสมัครเรียนให้นักเรียนไทย




เยี่ยมชมสถานที่ของมหาวิทยาลัย (Campus Tour)




ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์



ขอบพระคุณ ข้อมูล และการต้อนรับ

University Tunku Abdul Rahman (UTAR), Kampar Campus



สนใจ เยี่ยมชมมหาวิทยาลัย  

สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

Line ID : Somnoek

 

เรียน ป.เอก อินเดีย ข้อควรรู้ ควรระวัง ! ก่อนการสมัครเรียน

SJ WORLD EDUCATION
19 Jan 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้, เกี่ยวกับประเทศอินเดีย
Comments: 0

เรียน ป.เอก อินเดีย ข้อควรรู้ ควรระวัง ! ก่อนการสมัครเรียน







การเรียนระดับปริญญาเอกในประเทศอินเดียเป็นเป้าหมาย ความใฝ่ฝันและได้รับความนิยมของนักศึกษาไทยจำนวนมาก ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ระยะเวลาการเดินทางจากไทยที่ใกล้กว่าเมื่อเทียบประทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น ค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ ที่ถูกกว่าเมืองไทยจึงเป็นโอกาสที่ดีในการวางแผนการใช้จ่ายที่ง่ายขึ้น ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนในอินเดีย สถาบันระดับอุดมศึกษา ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ภาษา วัฒนธรรม ที่หลากหลาย สถาบันการศึกษา และการเรียนการสอนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก อย่างไรก็ตามอย่ามองข้ามปัญหาอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับท่าน บั่นทอนความตั้งใจ ไปไม่ถึงเป้าหมายจากสาเหตุเหล่านี้

ข้อควรรู้ ควรระวัง ก่อนการสมัครเรียน

การเรียน ป.เอก อินเดีย มีข้อควรรู้ ควรระวัง ก่อนการสมัครเรียน ที่ควรให้ความสนใจ ระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้เพราะมีผู้เป็นนายหน้าไม่ซื่อสัตย์ หลอกลวง ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อของความไม่ซื่อสัตย์ ทั้งที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อ และที่ไม่ปรากฎเป็นข่าวซึ่งเมื่อถูกหลอกลวงแล้วเก็บเงียบไม่เปิดเผยตัวมีความละอายที่หลงเชื่อ เสียรู้ เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย เสียความรู้สึก ไปแล้ว ดังนั้นก่อนสมัครเรียนควรศึกษาหารายละเอียดอย่างรอบคอบ อย่าหลงเชื่อบรรดานายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งแฝงตัวอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นคนชาติเดียวกันที่คอยมาทำตัวสนิท ชวนให้เชื่อในทางที่ผิด คนภาคเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน ที่เลวร้ายกว่านั้นบางรายเป็นเพื่อนร่วมงานกันยังหลอกลวงกันเอง ใครเจอแบบนี้คงเสียความรู้สึกมากๆ


พฤติกรรมการหลอกลวงเป็นอย่างไร 

พฤติกรรมการหลอกลวง ชวนเชื่อให้หลงผิด พอจะสรุปได้ดังนี้

1.การโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อต่างๆ เช่น

  • เช่าพื้นที่โฆษณาเล็กๆประมาณ 2 ตารางนิ้วในหนังสือพิมพ์รายวัน
  • โพสข้อความฝากไว้ในเว็ปกระทู้ต่างๆ
  •  แชร์ข้อความไว้ใน Fanpage

    การโฆษณามักจะบอกเฉพาะ ชื่อบุคคล และ เบอร์โทร ไม่เปิดเผยสถานที่ติดต่อหรือที่ตั้งสำนักงานหรือรายละเอียดการจดทะเบียนนิติบุคคลใดๆ และเสนอการให้บริการที่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่าเรียน ป.เอกจบง่าย มีการช่วยเหลือ ทำแทนได้ทุกขั้นตอน โดยไม่ต้องไปอยู่ที่อินเดียเลย สมัครแล้วรอสอบจบอย่างเดียวเลย

    2.สร้างเครือข่ายนายหน้าขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ชวนเชื่อ บอกต่อ คนใกล้ชิด กลุ่มเป้าหมายให้หลงผิด เข้าสู่กระบวนการมีการส่งต่องานกันเป็นกระบวนการตั้งแต่ในไทยไปจนถึงขั้นตอนในอินเดีย

    3.กิจกรรมการตลาด ไม่ปรากฏว่ามีการเข้าร่วมกิจกรรมการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศที่หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่น งานนิทรรศการการศึกษาต่างประเทศ งานสัปดาห์วิชาการของแต่ละสถาบันการศึกษา งานตลาดนัดอุดมศึกษา เป็นต้น

    4.การเรียกเก็บค่าบริการ มักจะเรียกเก็บแบบเหมาจ่ายอาจจะจ่ายงวดเดียวหรือแบ่งจ่ายเป็นงวด ผู้หลงผิดไม่ทราบเลยว่าค่าเรียนค่าธรรมเนียมที่จ่ายจริงให้แก่มหาวิทยาลัยจำนวนเท่าไร และมีการจ่ายให้มหาวิทยาลัยจริงไหมเพราะบรรดานายหน้าดังกล่าวจะไม่แสดงหลักฐาน ใบเสร็จของมหาวิทยาลัย โดยอ้างว่ามหาวิทยาลัยจะออกให้ตอนสอบจบแล้ว ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ตลกมาก
    ราคาค่าบริการที่เรียกเก็บเมื่อประมาณปี 2013-2015 เขาจะเรียกเก็บคนละ 380,000 – 600,000บาท
    พิจารณาจากฐานะทางเศรษฐกิจ และ สังคมของผู้สมัคร ความรีบร้อนที่จะได้วุฒิ ป.เอก ด่วนขนาดไหน รวมทั้งถ้าไม่มีทักษะภาษาอังกฤษด้วยแล้วยิ่งจ่ายแพงไปอีก ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในขอวีซ่า การเดินทางไปอินเดีย ค่าทำเล่ม Thesis และ ค่าเอกสารตอนขอรับวุฒิการศึกษา

    5.การปกปิดข้อมูลในขั้นตอนสำคัญของการศึกษา ป.เอก อินเดีย ตัวอย่าง เช่น ไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน Course Work, การทำวิจัย การตรวจการคัดลอกงานวิจัย (Plagiarism Check) การนำเสนอและการตีพิมพ์เผยแพร่บทความ, การขอวีซ่าเพื่อการวิจัย (Research Visa) รายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่าย และค่าบริการที่เกี่ยวข้อง นักศึกษาบางรายถูกปิดกั้นไม่มีโอกาสได้เจอกับอาจารย์ที่ปรึกษาในการทำวิจัย (Research Guide) หากเจอกรณีเช่นนี้ตั้งข้อสังเกตได้เลยว่าไม่มีความสื่อสัตย์ ไม่สุจริต

    6.ผลกระทบที่ตามมามีอะไรบ้าง

    6.1 เอกสารการตอบรับที่ได้จากมหาวิทยาลัยฯ ไม่สมบูรณ์ขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งนายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ ได้เอกสารมาโดยมิชอบ ปลอมแปลงแก้ไข เช่น มีลายเซ็น แต่ไม่มีชื่อ-สกุล ตัวบรรจง ไม่มีตราประทับในเอกสาร เมื่อนำไปประกอบการยื่นขอวีซ่า (Research Visa) ก็จะถูกสถานทูต ปฏิเสธ ไม่รับพิจารณา ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษา ป.เอก ที่ถูกต้องได้

    6.2 หลอกให้รอขั้นตอนการสอบปากเปล่า (Viva Voce Examination) ทั้งที่ผู้เรียนยังไม่ได้ทำวิจัย หรือเรียน Course Work อ้างว่าจะลดขั้นตอนเหล่านี้มีผู้ดำเนินการแทนขอเพียงให้จ่ายเงินให้ครบตามที่นายหน้าผู้ไม่ซื่อสัตย์เรียกเก็บ หลายคนรอไม่ไหว เพราะระยะเวลาหลายปีไม่มีอะไรคืบหน้า และรู้แล้วว่าถูกหลอก ยอมทิ้งเงินที่หลงเชื่อจ่ายไปหลายแสน แต่ก็มีบางรายที่มีโอกาสได้ไปสอบ Viva Voce พอเป็นพิธี เพราะไม่มีดุษฎีนิพนธ์ที่ทำการวิจัยด้วยตัวเอง และเดินทางไปอินเดียโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) อย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถทำวีซ่าเพื่อการวิจัยได้ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วขอจบ ป.เอก มีการจัดฉากถ่ายรูปหน้าอาคารเรียน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นายหน้าผู้ไม่ซื่อสัตย์ คงสมคบคิดกับบุคลากรของมหาวิทยาลัยฯบางคนตามที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ทางสื่อในประเทศอินเดีย

    6.3 เมื่อได้รับวุฒิการศึกษา ป.เอก จากกรณีดังกล่าวนี้ เมื่อยื่นเอกสารเทียบวุฒิในเมืองไทย
    เคยปรากฏเป็นข่าวการประชุมกรรมการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อปี 2561 พบว่า ผู้ยื่นเอกสารเทียบวุฒิเป็นผู้อ้างว่าจบการศึกษา ป.เอก จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอินเดีย (ขอสงวนนาม) จำนวน 40 ราย  ซี่งเข้าศึกษาในช่วงปี ค.ศ.1995-2015 ผลการพิจารณาสรุปได้ว่า คุณภาพของวิทยานิพนธ์ ของผู้ยื่นคำร้องทั้ง 40 ราย ทั้งประเด็นปรัชญาและวัตถุประสงค์ ของการศึกษาระดับปริญญาเอก การเขียนวิทยานิพนธ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์คุณภาพของวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก การใช้ภาษาอังกฤษในการทำวิทยานิพนธ์ไม่เป็นไปตามหลักไวยากรณ์ ไม่สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เทียบได้ต่ำกว่าคุณวุฒิระดับปริญญาเอก ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการการอุดมศึกษามอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มีหนังสือแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยดังกล่าวและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการศึกษาในสาธารณรัฐอินเดีย
    ดังนั้น สกอ.จะเข้มงวดในการตรวจสอบวุฒิ ปริญญาเอก จากต่างประเทศมากขึ้น เช่นบรรดาอาจารย์ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศต้องหาหลักฐานมายืนยันว่า ตนได้ไปเรียนปริญญาเอกมาจริง และเป็นจริงทั้งปริญญา และความรู้ และต้องยื่นเรื่องต่อ สกอ.เพื่อขอให้รับรองวุฒิทางการศึกษา ป.เอก ของตน หากไม่ดำเนินการก็จะไม่ได้รับการรับรองวุฒิที่จบมาส่งผลกระทบให้ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรที่เปิดสอนอยู่ได้ ในส่วนรัฐบาลอินเดียก็เข้มงวด ในการตรวจสอบ ป้องกันปัญหาปริญญาที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง หรือ ปลอม แต่ก็ยังมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของนายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์อยู่บ่อยครั้ง



บทความ ข้อควรรู้ ควรระวัง ก่อนการสมัครเรียน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ท่านตกเป็นเหยื่อการถูกหลอกลวงรายต่อไป และป้องปรามพฤติกรรมหลอกลวงจากนายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ให้สร้างความเสียหายต่อผู้ที่สนใจเรียน ป.เอก อินเดีย หรือต่างประเทศอีกต่อไป


ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Research Scholar, Department of Management Science
BAMU. Aurangabad, India




เรียนปริญญาเอกอินเดีย บริการครบวงจร:
แนะนำ หลักสูตร สถาบัน สมัครเรียน ขอ Visa แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย

สนใจโทร. 07728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID: somnoek

แนะนำขั้นตอนการเดินทางของนักเรียนไทยเข้าเรียนในประเทศมาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
05 Jan 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, เกี่ยวกับประเทศมาเลเซีย
Comments: 0

แนะนำขั้นตอนการเดินทางของนักเรียนไทยเข้าเรียนในประเทศมาเลเซีย

ตามที่ประเทศมาเลเซีย อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไปเรียนในประเทศมาเลเซียได้แล้ว ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักเรียน ผู้ปกครอง ที่รอคอยและสนใจการศึกษาในประเทศมาเลเซีย ขณะนี้นักเรียนไทยจำนวนหนึ่งก็เริ่มเดินทางไปเข้าชั้นเรียนในประเทศมาเลเซียแล้ว อย่างไรก็ตามการเดินทางจะมีขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่เพิ่มเติมขึ้นกว่าเดิมตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 นั่นเอง โอกาสนี้ จึงขอแนะนำขั้นตอนการเดินทางของนักเรียนไทยเข้าเรียนในประเทศมาเลเซีย รายละเอียด ดังนี้




1. ตรวจสอบว่าประเทศไทยอยู่ในรายชื่อประเทศที่ห้ามเดินทางเข้ามาเลเซียหรือไม่
ได้ที่ https://educationmalaysia.gov.my/

2. ตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียหรือไม่
ได้ที่ https://mtp.imi.gov.my/myTravelPass/main?termConditionNXF

3. แจ้งสถาบันการศึกษาที่นักเรียนจะไปศึกษาว่าต้องการจะเดินทางเข้าไปประเทศมาเลเซีย เพื่อดำเนินการ
เกี่ยวกับการขออนุมัติเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย หรือ วีซ่านักเรียน

4. ยื่นขอหนังสืออนุมัติการเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย (MyTravelPass)
หรือ eVAL (สำหรับนักเรียนระดับอุดมศึกษา)

5. รอรับหนังสืออนุมัติการเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย (MyTravelPass) หรือ eVAL

6. ตรวจโควิด 19 แบบ RT-PCR Test ก่อนเดินทาง (ภายใน 3 วันก่อนเดินทางถึงมาเลเซีย)
นักเรียนติดต่อขอตรวจได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

7. ชำระค่าตรวจคัดกรองโควิด 19 และ ค่ากักตัว ผ่านระบบ MySafeTravel หรือช่องทางที่กำหนด
กรณีอายุต่ำกว่า 15 ปี ควรมีผู้ปกครองเดินทางไปด้วย เนื่องจากยังถือว่าเป็นผู้เยาว์ หากเดินทางไปคน
เดียวจะต้องมีผู้ปกครองรับรองที่มาเลเซีย และ ดำเนินการเรื่องที่กักตัวให้ หรือ กรณีเลือกสถานที่กักตัว
เป็นบ้าน Home quarantine จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วันทำการ
(ไม่แนะนำเพราะไม่ค่อยมีบ้านให้เช่าเพื่อเข้าพักกักตัว)

8. ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น MySejahtera and Travel และ ลงทะเบียนเพื่อเปิด Account ก่อนเดินทาง

9. เมื่อเดินทางมาถึงประเทศมาเลเซีย สแกนคิวอาร์โค๊ด และ ลงทะเบียนตามขั้นตอนในแอพลิเคชั่น MySejahtera and Travel จากนั้นเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด 19 (RT-PCR Test) ที่จุดคัดกรอง และยื่นเอกสารหลักฐานการชำระเงินค่าตรวจคัดกรอง Covid-19 และ ค่ากักตัว
หลังจากตรวจคัดกรองเสร็จ ยื่นเอกสารการเดินทางและหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่ออนุมัติการขอเข้าเมือง และ รอผลตรวจคัดกรอง

10. เมื่อได้รับผลตรวจคัดกรองแล้ว immigration ดำเนินการอนุมัติให้เข้าเมือง และนำเอกสารและหนังสือเดินทางที่ประทับตราการเข้าเมืองมาให้นักเรียน จากนั้นไปรับสัมภาระของตนเองและเดินทางไปยังสถานที่กักตัวตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://safetravel.myeg.com.my

11. กักตัวตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนด ประมาณ 7 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกระทรวงสาธารณสุขประเทศมาเลเซีย นักเรียนจะต้องรายงานผลผ่านทางแอพลิเคชั่น MySejahtera and Travel ระหว่างที่กักตัว

12. ตรวจคัดกรองโควิด 19 ครั้งที่ 2 ตามกำหนดดังนี้
 กักตัว 7 วัน ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 5
 กักตัว 10 วัน ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 8
 กักตัว 14 ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 10

13. กรณีผลตรวจเป็นลบ ก็สามารถเดินทางไปเข้าเรียนได้ตามปกติ หากผลตรวจเป็นบวก ทางกระทรวงสาธารณสุขประเทศมาเลเซียจะให้คำแนะนำอีกครั้ง

 



สมัครเรียนต่างประเทศ ขอวีซ่า
ติดตามประสานงานระหว่างเรียน

โทร.077 287111,08 5791 9111
(อ.สมนึก) Line ID.somnoek

ผู้เขียน แปล เรียบเรียง (ข้อมูล ณ 04-01-2022)

สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ธันยา เล้าธนะธรรม
ศ.ศ.บ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี




ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :
Westlake International School
https://educationmalaysia.gov.my/
https://mtp.imi.gov.my/myTravelPass/main?termConditionNXF
https://safetravel.myeg.com.my

เรียน ปริญญาเอกอินเดีย

SJ WORLD EDUCATION
07 Sep 2021
[หน้าแรก] หลักสูตร, India, บทความน่ารู้, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0
Ph.D in India, study India

เรียน ปริญญาเอกอินเดีย


 

study Ph.D in India



การศึกษาระดับปริญญาเอกต่างประเทศ   อาจเป็นเป้าหมายหรือความใฝ่ฝันของหลายๆคน แต่ยังไม่มีโอกาสก้าวไปสู่การเริ่มต้นเพราะขาดข้อมูลในการตัดสินใจ ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไร มีความกังวลในเรื่องความไม่พร้อมด้านต่างๆ เช่น ทักษะภาษาอังกฤษ ค่าใช้จ่าย การเลือกสาขาวิชา และสถาบันการศึกษา การสมัครเรียน การขอวีซ่า รวมไปถึงกลัวว่าจะถูกหลอกลวงจากผู้แนะนำบางรายตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่ออยู่บ่อยๆ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องไปเรียนที่อินเดีย ผู้เขียนเองมีโอกาสเดินทางไปอินเดียหลายครั้ง ทั้งเพื่อการเยี่ยมชมสถาบันการศึกษา การนำเสนอบทความทางวิชาการนานาชาติ และเพื่อการศึกษาของตัวเอง ทำให้ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องไปเรียนที่อินเดีย

  1. สถาบันการศึกษา และ การเรียนการสอน ของอินเดียเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คืออินเดียเป็นแหล่งผลิตบุคลากรด้าน Information Technology (IT), Programmer ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอันดับต้น ๆ ของโลก
  2. ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน ระดับอุดมศึกษาของประเทศอินเดียส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นโอกาสดีที่จะได้เพิ่มทักษะด้านภาอังกฤษ ทั้งในการเรียน และการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน
  3. ค่าเล่าเรียน และ ค่าครองชีพในอินเดีย ถูกกว่าในเมืองไทย ผู้เขียนได้สำรวจค่าเล่าเรียนเฉพาะระดับปริญญาเอกในเมืองไทย (ข้อมูล ปี 2563) พบว่าประมาณค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร เริ่มต้นที่ 540,000 ถึง 630,000 บาท (บางมหาวิทยาลัยค่าใช้จ่ายสูงถึงล้านบาทก็มี) ในขณะที่ค่าเล่าเรียนระดับ ป.เอก ในอินเดียค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปีคิดเป็นเงินไทยประมาณ 80,000 บาท ถ้าคิดตลอดหลักสูตร 3 ปี เท่ากับประมาณ 240,000 บาท ส่วนค่าครองชีพของประเทศอินเดียก็ต่ำกว่าไทยประมาณหนึ่งเท่า
  4. ประสบการณ์ชีวิต   การเดินทาง ท่องเที่ยว จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่หลากหลาย มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล(Taj Mahal)  สุสานหินอ่อน ที่ผู้คนเชื่อว่า เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรัก ที่สวยที่สุดในโลก   ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) ถ้ำ เอลโลรา (Ellora Caves) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) รวมทั้งสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ตั้งอยู่ในอินเดีย ได้แก่  สถานที่ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพาน ของพระพุทธเจ้า และอาจได้หาโอกาสไป ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติ ของพระพุทธเจ้า เป็นการตามรอยพระพุทธเจ้า ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบลอย่างครบถ้วนด้วย
  5. เครือข่ายเพื่อต่างชาติ การเรียนที่อินเดียนอกจากจะได้เพื่อนชาวอินเดียแล้วยังได้พบเพื่อนจากประเทศอื่นๆ มากมายที่มาเรียนที่อินเดีย

การศึกษาระดับปริญญาเอก อินเดีย หลักสูตรจะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี โดยการเรียนการสอนขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย กล่าวคือ บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้เรียน Course Work และเขียน Thesis แต่บางมหาวิทยาลัยไม่ต้องเรียน Course Work แต่ต้องเขียน Thesis เพียงอย่างเดียวโดยยึดตามหัวข้อที่ อาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) อนุมัติเท่านั้น


ขั้นตอนการสมัครเรียน (Admission)

ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัครนักศึกษาประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือน กรกฎาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปิด-ปิด ภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัย ซึ่งเวลาการเปิด-ปิด ภาคเรียนของแต่ละภูมิภาคของอินเดียอาจจะไม่ตรงกัน แต่โดยทั่วไป ภาคการศึกษาของมหาวิทยาลัยในอินเดีย ดังนี้

  • ภาคเรียนที่ 1 ประมาณเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม
  • ภาคเรียนที่ 2 ประมาณเดือน มกราคม- พฤษภาคม

ดังนั้น การดำเนินการเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการสมัครเรียนควรเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปีเพราะมหาวิทยาลัยอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณา

รายละเอียดที่ต้องดำเนินการในการเรียนปริญญาเอก อินเดีย

  1.  ศึกษารายละเอียด สาขาวิชา มหาวิทยาลัย ที่สนใจ และประเมินคุณสมบัติของตนเองว่าเป็นไปตามเงื่อนไข ข้อกำหนด ของมหาวิทยาลัยหรือไม่
  2.  เตรียมหัวข้อวิทยานิพนธ์ เขียน Research Proposal หรือ Synopsis ให้พร้อม ควรเตรียมการนำเสนอเป็นภาอังกฤษ หรือ เตรียมตัวสัมภาษณ์เกี่ยวกับหัวข้อวิทยานิพนธ์
  3.  เตรียมเอกสารประกอบการสมัคร ตามรายการที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยปกติแล้วอย่างน้อยต้องประกอบด้วย สำเนา Transcript ประกาศนียบัตร ป.โท ใบ Migration จากสถาบันการศึกษาเดิมตอนเรียน ป.โท รูปถ่าย สำเนา หน้า Passport ชื่อบิดา มารดา เป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นอาจมีบางมหาวิทยาลัยที่ต้องใช้ใบรับรองความรู้ภาอังกฤษ หรือใบแจ้งผลการสอบวัดระดับภาอังกฤษ
  4.  ยื่นเอกสารการสมัครเรียน (Online หรือ Offline) ขึ้นอยู่กับวิธีการสมัครที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด จากนั้นรอการตอบรับจากมหาวิทยาลัย โดยปกติทางมหาวิทยาลัยจะตอบรับโดยเอกสาร Letter Submitted Eligibility (ใบ E) และมีอาจารย์ที่ปรึกษาการวิจัย (Research Guide) แล้ว ตั้งแต่ขั้นตอนนี้เป็นต้นไปเพื่อความสะดวก อาจมีความจำเป็นต้องมีผู้ประสานงานผู้ให้คำปรึกษา เช่นการใช้บริการของศูนย์แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ เป็นต้น
  5.  การยื่นขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศอินเดีย ในขั้นตอนนี้เรายังไม่มีสถานะเป็นนักศึกษาจึงของวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) รอการอนุมัติวีซ่าจากสถานฑูตอินเดีย
  6.  เดินทางไป อินเดีย วัตถุประสงค์เพื่อ การสมัครเรียนอย่างเป็นทางการและลงทะเบียนเรียน
  7.  ชำระค่าสมัคร ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน Year 1
  8.  เข้าพบ Research Guide เพื่อปรึกษา รับคำแนะนำ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัย เช่น ผลการอนุมัติ หรือรายการปรับปรุงแก้ไข ระเบียบวิธีวิจัย และ การ Submit letter Submitted Eligibility (ควรมีเวลาอยู่ในอินเดียอย่างน้อย 1 สัปดาห์)
  9.  เดินทางกลับประเทศไทย
  10.  เริ่มเขียนงานวิจัย
    – Chapter 1: Introduction
    – Chapter 2: Background and literature reviews
  11.  รายงานความก้าวหน้างานวิจัย (Research progress report)
  12.  เตรียมเอกสารเพื่อประกอบการยื่นขอวีซ่าเพื่อการวิจัย (Research Visa) ตามรายการที่สถานฑูตอินเดียกำหนด
  13.  ยื่นขอวีซ่าเพื่อการวิจัย (Research Visa) และรอการนัดวันเข้ารับการณ์สัมภาษณ์จากสถานฑูตอินเดีย
  14.  เดินทางไปประเทศอินเดีย หลังจาก Research Visa ได้รับการอนุมัติ เพื่อดำเนินการด้านเอกสาร เช่น Rent Agreement, Registration Certificate /Residential Permit (RC/RP), Police Verification Letter รวมทั้งการชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน Year 2 ใช้เวลาอยู่ในอินเดียประมาณ 1-2 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสาร และการอนุมัติ
  15.  นักศึกษาอาจขออนุญาต Research Guide กลับมาทำวิจัยในไทย หรือจะพักอาศัยอยู่ในอินเดียต่อเนื่องได้เพราะได้รับ Research Visa และ RC/RP เรียบร้อยแล้ว
  16.  เขียน Research Chapter 3: Research Methodology หรือระเบียบวิธีวิจัย ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับประชากร และกลุ่มเป้าหมาย เครื่องมือในการเก็บข้อมูล หากไม่ผ่านความเห็นชอบจาก Research Guide ก็ไม่สามารถเขียนใน Chapter 4,5 ต่อไปได้
  17.  รายงานความก้าวหน้างานวิจัย (Research progress report)
  18.  ชำระค่าเรียน Course Work (กรณีที่มหาวิทยาลัยกำหนดให้เรียน Course Work)
  19.  เรียน Course Work ตามตารางเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด    (อาจมี แบบ Online ช่วง Covid-19 Pandemic )
  20.  ชำระค่าสมัคร ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน Year 3
  21.  เขียนงานวิจัย
    – Chapter 4: Data Collection and Analysis
    – Chapter 5: Conclusion and Recommendations
  22.  รายงานความก้าวหน้างานวิจัย (Research progress report)
  23.  Submit Research Document (Full Thesis) เพื่อ Research Guide ตรวจสอบ และแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข จึงดำเนินการเข้าเล่ม
  24.  ลงทะเบียนการสอบปากเปล่า (Viva Voce Open Examination) บางมหาวิทยาลัยอาจกำหนดให้สอบปากเปล่า 2 ครั้ง (Pre-Viva Voce และ Final Viva Voce Open Examination) ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่นักศึกษาจะได้สำเร็จเป็นDoctor แล้วครับ

มาถึงตอนนี้ ผู้สนใจเรียน ป.เอก ประเทศอินเดีย อาจมองเห็นภาพรวม เหตุผล และขั้นตอนทั้งหมด  ผู้เขียนหวังว่าจะช่วยให้ท่านมีความมั่นใจ ก้าวข้ามความกังวล และลงมือดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป






ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

Research Scholar, Department of Management Science

BAMU. Aurangabad, India

 

เรียนปริญญาเอกอินเดีย บริการครบวงจร:

แนะนำ หลักสูตร สถาบัน สมัครเรียน ขอ Visa แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย สนใจโทร. 07728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID: somnoek

แนะนำสถาบัน Lonsdale Institute

SJ WORLD EDUCATION
29 Apr 2021
ทั่วไป, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

 Lonsdale Institute
 




ที่ Lonsdale Institute  เราเข้าใจว่าความต้องการของนักเรียนแต่ละคน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่เราให้นักเรียนได้มีจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด

การสร้างความสำเร็จทางวิชาการเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการช่วยนักเรียน สร้างสานสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และบรรลุเป้าหมายของเขา

เราใช้การจัดอันดับของการประเมินเป็นวิธีทำความเข้าใจเป้าหมายและความต้องการของนักเรียนให้เริ่มต้นการศึกษาที่เหมาะสมสำหรับนักเรียน และมันไม่ได้

จบแค่นั้น  เราจะยังเฝ้าติดตามความก้าวหน้าของนักเรียน ให้การสนับสนุนเพิ่มเติม ให้คำแนะนำหรือความช่วยเหลือนักเรียน

เราจะมั่นใจว่านักเรียนได้รับการสนับสนุนอย่างดีที่สุด

 

Lonsdale Institute  มีด้วยกัน 3 วิทยาเขตใน 2 เมือง ได้แก่  ซิดนีย์มี    2  วิทยาเขต  และ เมลเบิร์น 1 วิทยาเขต

ซึ่งให้บริการแก่นักเรียนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การฝึกอบรมวิชาชีพแบบมืออาชีพ และ ทรัพยากรเพื่อเพิ่มประสบการณ์ทางการศึกษาให้กับนักเรียน


บริการสำหรับนักเรียน

การอยู่ในสถานที่ใหม่ ๆ น่าตื่นเต้นและในบางกรณีอาจทำให้รู้สึกไม่ดี ให้เรานำทางสู่สภาพแวดล้อมใหม่ที่เราจัดอันดับเพื่อช่วยสนับสนุนนักเรียน

บริการของเรา:

  1. รถรับส่งสนามบิน
  2. ที่พักแบบโฮมสเตย์
  3. การให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งบัญชีธนาคาร
  4. ลิงค์กับเครือข่ายงานและนายจ้าง
  5. การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกหลังเลิกเรียนเพื่อการศึกษาด้วยตนเอง
  6. การจัดกิจกรรมทางสังคม

 
 การควบคุมคุณภาพ

Lonsdale Institute ได้จดทะเบียนกับ Australian Quality Authority (ASQA) และได้รับการอนุมัติเพื่อให้บริการการศึกษาและการฝึกอบรมไปยังนักเรียนท้องถิ่นและนักศึกษาต่างชาติแล้ว

นอกจากนี้ Lonsdale ยังจดทะเบียนเป็นสถาบันเครือจักรภพแห่งสหราชอาณาจักรและหลักสูตรสำหรับนักเรียนต่างชาติ CRICOS Code  02836F

 

 
The Eurocentres  : English Program

ให้บริการหลักสูตรภาษาอังกฤษแก่นักเรียนต่างชาติเรียนภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพสูงมากว่า 70 ปี

วัตถุประสงค์

เพื่อส่งเสริมความเข้าใจระหว่างบุคคล และเป็นสะพานเชื่อมโยงเชื้อชาติ วัฒนธรรม และอุปสรรคทางสังคม

ระบบ  EUROCENTRES SUCCESS SYSTEM ถูกนำมาใช้กับ 40 โรงเรียน ใน 18 ประเทศทั่วโลก  บุคลากร ครูของเราได้รับการฝึกออบรมเป็นพิเศษในวิธีการสอนของ Eurocentres ซึ่งได้รับการพัฒนาและปรับปรุงมากว่า 60 ปี มีการส่งถึง 40 พื้นที่ ทั่วโลก  ครูของเรามีความชำนาญทางด้านภาษาอังกฤษเป็นที่หนึ่ง ระดับมหาวิทยาลัย และ มี TESOL  ครูของเราจะได้รับการประเมินเป็นรายเดือน โดยผู้บริหารการศึกษาและ ภาคส่วนการพัฒนาวิชาชีพ

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

  1. General English
  2. IELTS Exam Preparation
  3. English for Academic Purposes (EAP)

นอกจากนี้ ระหว่างเรียนก็มีกิจกรรมเสริมให้นักเรียนเลือกเข้าร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของตนเอง เรียกว่า  Eurocentres Activities Program   

ตัวอย่างตารางกิจกรรมเสริม

 

 

 

หลักสูตรวิชาชีพ  (Certificate ,Diploma, Advance Diploma)

  1. Business
  2. Marketing & Communication
  3. Project Management
  4. Leadership & Management
  5. Hospitality
  6. Accounting

บรรยากาศการเรียน

 
วิทยาเขตเมลเบิร์น



   
วิทยาเขตซิดนีย์




วีดิโอแนะนำสถาบัน

 

 


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com

แนะนำมหาวิทยาลัย Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada

SJ WORLD EDUCATION
11 Dec 2020
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, India, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0
India university, Ph.D in India

แนะนำมหาวิทยาลัย

Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University



 




ประวัติ 

Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University (BAMU) เดิมชื่อมหาวิทยาลัย Marathwada ตั้งอยู่ที่เมือง Aurangabad รัฐมหาราษฏระ สาธารณรัฐอินเดีย ได้รับการตั้งชื่อตาม Bharat Ratna “Babasaheb” Ambedkar นักกฎหมายชาวอินเดีย ผู้นำทางการเมือง นักวิชาการ และ ผู้ออกแบบรัฐธรรมนูญของอินเดีย 

มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยความริเริ่มของ Babasaheb Ambedkar เป็นหลัก เพื่อเติมเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาขนาดใหญ่ในภูมิภาค Vidarbh ตะวันตก  Marathwada และ North Maharashtra 

มหาวิทยาลัยก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2501 มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีส่วนสนับสนุนความก้าวหน้าของภูมิภาคที่อยู่ติดกันและผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย มีวิทยาลัยในเครือราว 428 แห่งซึ่งอยู่ภายใต้ 4 เขต (Aurangabad, Jalna, Beed และ Osmanabad) ของรัฐมหาราษฏระ จำนวนนักเรียนมากกว่า 444,336 คน
 

สถานที่ตั้ง

มีการแนะนำสถานที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัย ผ่าน Aurangabad, Nanded & Mominabad  

ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอยู่ที่เมืองออรังคาบัด (Aurangabad)  เหตุผลในการตั้งมหาวิทยาลัยที่เมืองออรังคาบัด (Aurangabad) เป็นปัจจัยสำคัญมาก เมืองออรังกาบัดเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเมืองมาราธวาดามาช้านาน สถานที่ใกล้เคียง เมือง Deogiri (Daulatabad) เมืองหลวงของ Yadavas อยู่ห่างออกไปเพียง 8 ไมล์ในขณะที่ถ้ำ Ellora ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่ห่างออกไปเพียง 4 ไมล์  นอกจากนี้ยังมี ถ้ำ Ajanta ที่มีจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับความชื่นชมจากทั่วโลกอยู่ห่างออกไป 64 ไมล์  และPaithan ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดโบราณของ Eknath และ Maharubhav ที่มีชื่อเสียงอยู่ห่างออกไปเพียง 34 ไมล์    เมืองออรังคาบัดเป็นศูนย์กลางการปกครองในระบอบไฮเดอราบาด ดังนั้นคณะกรรมการจึงแนะนำอย่างยิ่งให้ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมืองออรังคาบัด
 

วัตถุประสงค์ของ Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University:

เพื่อเผยแพร่ สร้าง และ เก็บรักษาความรู้และความเข้าใจโดยการสอน การวิจัย การขยาย และ การบริการโดยการสาธิตที่มีประสิทธิภาพและอิทธิพลขององค์กรการขยายและสังคม
 

หน้าที่ของ Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University:

มีดังนี้

  1.  มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจการศึกษาสังคมและวัฒนธรรมของชาวมราธวาดา
  2. เพื่อรองรับความต้องการของการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภูมิภาค
  3. เพื่อปลูกฝังและส่งเสริมศิลปะ การพาณิชย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ วิศวกรรมเทคโนโลยี และ สาขาการเรียนรู้และวัฒนธรรมอื่น ๆ
  4. เพื่อจัดระเบียบบำรุงรักษาและจัดการห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์และอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการเรียนการสอนและการวิจัยของมหาวิทยาลัย
  5. เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้โดยรับ Post Graduate และการวิจัยในหน่วยงานของตนเองตลอดจนผ่านวิทยาลัยและสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ
  6. ทำหน้าที่เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กของผู้นำในหลากหลายสาขาอาชีพ เศรษฐกิจอุตสาหกรรม การเมือง สังคม ผู้ที่สามารถช่วยเหลือในทุกทิศทางและในการช่วยให้มีชีวิตใหม่ หากมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
     

หลักสูตรที่เปิดสอน  

มหาวิทยาลัย Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ถึง ปริญญาเอก ซึ่งแต่ละหลักสูตรเปิดสอนกระจายไปตามวิทยาเขตต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรที่เปิดสอนแบ่งออกเป็น 7 คณะ และในแต่ละคณะก็แบ่งเป็นสาขาวิชาย่อย ดังนี้
 

School of Computational & Physical Sciences แบ่งเป็น 7 แผนก ได้แก่ 

  1. วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ  (Department Computer science & Information Technology (1994))
  2. ฟิสิกส์ (Department of Physics) 
  3. เคมี  (Department of Chemistry)
  4. นาโนเทคโนโลยี (Department of Nano Technology)
  5. คณิตศาสตร์ (Department of Mathematics)
  6. สถิติ (Department of Statistics)
  7. อิเล็กทรอนิค (Department of Electronics)

School of Life Sciences แบ่งเป็น 4 แผนกได้แก่

  1. พฤกษศาสตร์ (Department of Botany)
  2. สัตววิทยา (Department of Zoology)
  3. วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Department of Environmental Science)
  4. ชีวเคมี (Department of Bio-chemistry)

School of Performing & Visual Arts   แบ่งเป็น  4 แผนก ได้แก่

  1. นาฏศิลป์ การละคร (Department of Dramatics)
  2. ศิลปกรรม (Department of Fine Arts)
  3. ดนตรี (Department of Music)
  4. นาฏศิลป์ การเต้น (Department of Dance)

School of Professional Studies แบ่งเป็น  6 แผนก ได้แก่

  1. วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน (Department of Mass Communication and Journalism)
  2. เทคโนโลยีเคมี (Department of Chemical Technology)
  3. บริหารการท่องเที่ยว (Department of Tourism Administration)
  4.  นิติศาสตร์ (Department of Law)
  5.  เทคโนโลยีสิ่งพิมพ์ (Department of Printing Technology)
  6. วิทยาการจัดการ (Department of Management Science)

School of Languages แบ่งเป็น  7 แผนก ได้แก่

  1. ภาษามราฐี (Department of Marathi)
  2. ภาษาอินเดีย (Department of Hindi)
  3. ภาษาอังกฤษ (Department of English)
  4. ภาษาต่างประเทศ (Department of Foreign Language)
  5. ภาษาอาหรับ (Department of Urdu)
  6. ภาษาบาลี และ พระพุทธศาสนา (Department of Pali & Buddhism)
  7. ภาษาสันสกฤต (Department of Sanskrit)

School of Social Sciences แบ่งเป็น  14 แผนก ได้แก่

  1. ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมอินเดีย (Department of History & Ancient Indian Culture)
  2. เศรษฐศาสตร์ (Department of Economics)
  3. รัฐศาสตร์ (Department of Political Science)
  4. รัฐประศาสนศาสตร์ (Department of Public Administration)
  5. สังคมวิทยา (Department of Sociology)
  6. พลศึกษา (Department of Physical Education)
  7. ศึกษาศาสตร์ (Department of Education)
  8. จิตวิทยา (Department of Psychology)
  9. ภูมิศาสตร์ (Department of Geography)
  10. (Department of Life Long Learning and Extension)
  11. สารสนเทศ (Department of Library & Information Science)
  12. พาณิชย์ (Department of Commerce)
  13. โยคะ (Department of  Yogshastra)
  14. สังคมสงเคราะห์ศึกษา (Department of Social Work Education)

School of Liberal Arts   

สาขาวิชาศิลปศาสตร์ เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014 ภายใต้การนำของ Dr. V.L. Dharurkar (รองอธิการบดี) ดร. Vijay Pandhripande ให้การสนับสนุนและคำแนะนำสำหรับกิจการใหม่นี้   สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มีวัตถุประสงค์ของหลักสูตรเพื่อประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรม สังคม และ สำหรับการสอบแข่งขัน

หลักสูตรปริญญาโทสาขาวิชาศิลปศาสตร์มีประโยชน์สำหรับนักศึกษาสังคมศาสตร์ในการรับความรู้เกี่ยวกับศิลปะแขนงต่าง ๆ สังคมศาสตร์และการจัดการ ในปี 2559 School of Liberal Arts ได้เริ่มหลักสูตรปริญญาโทชื่อ M.A. (Archaeology) โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศนี้และอนุรักษ์อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันสาขาวิชาศิลปศาสตร์มุ่งเน้นการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพในรูปแบบที่เป็นเลิศซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและอุตสาหกรรมด้วย

สำหรับระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก สาขาที่นักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาจากประเทศไทยทั้งฆราวาสและพระสงฆ์ นิยมไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้แก่  นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประสาสนศาสตร์ และ วิทยาการจัดการ (จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยฯหลายครั้ง) 

สาขาวิชานิติศาสตร์  (Department of Law)

แผนกนี้เป็นแผนกที่แยกจากกันโดยมีคณะประจำที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 แผนกนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างแข็งขันกับเจ้าหน้าที่บริการกฎหมายของเขตและศาลสูง นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ WALMI JMFC (หลังการรับสมัคร) โครงการฝึกอบรมที่ดำเนินการโดยศาลสูงมุมไบที่เมืองออรังคาบัดผ่านข้อมูลทางวิชาการของแผนก ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรมคือการลงโทษ Rs.3.75 crores สำหรับการก่อสร้างโรงเรียนกฎหมายโดยรัฐบาลรัฐมหาราษฏระซึ่งเป็นโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่

วัตถุประสงค์หลักของการศึกษากฎหมายคือการให้ความรู้ด้านกฎหมายและเทคนิคการตีความการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ในขณะที่เป้าหมายของการศึกษาระดับปริญญาโทด้านกฎหมายคือการส่งเสริมทุนการศึกษาด้านกฎหมายซึ่งจะดำเนินการประเมินระบบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสังคม นโยบายเพื่อตอบสนองเสียงเรียกร้องและข้อเรียกร้องของสังคมภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป กฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นของนักวิชาการด้านกฎหมายที่จะตีความกฎหมายต่อสังคมและสังคมต่อกฎหมายเพื่อเอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การศึกษากฎหมายควรให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ทางสังคมของกฎหมายเพื่อให้ทนายความผู้พิพากษาและสมาชิกสภานิติบัญญัติสามารถมีบทบาทที่สร้างสรรค์มากขึ้นในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เมื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์เหล่านี้และความสำคัญของการศึกษากฎหมายมหาวิทยาลัยของเราได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในสาขากฎหมาย (LL.M. )

สาขาวิชารัฐศาสตร์  (Department of Political Science)

ภาควิชาเริ่มต้นในปี 2503 ภาควิชามีวิชาเฉพาะเช่นทฤษฎีการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จัดชุดการบรรยายในแต่ละปีในนามของดร. Moin Shakir นักสังคมศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ทุกปีภาควิชาจะส่งนักเรียนบางคนไปเข้าร่วมขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติของรัฐสภาในที่ประชุมของรัฐที่จัดโดยสมาคมรัฐสภาแห่งเครือจักรภพสาขามหาราษฏระ

สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (Department of Public Administration)

สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ได้รับการจัดตั้งเป็นแผนกแยกต่างหากในปี พ.ศ. 2534-2535 มีความก้าวหน้าอย่างมากและมีความแตกต่างจากการเป็นแผนกอิสระแห่งแรกในรัฐมหาราษฏระ ภาควิชาประสบความสำเร็จในการให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาจนจบระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิตไม่ต่ำกว่า 45 คน และ ระดับปริญญาโทกว่า 120 คนภาควิชาได้รับเครดิตในการจัดสัมมนา การประชุมและหลักสูตรทบทวน การสัมมนาระดับชาติเรื่อง“ Dynamics of Good Governance: Vision – 2020” (2011) &“ Agricultural Crisis and Governance in India: Issues and Concerns” ตลอดจนการประชุมนานาชาติเรื่อง“ Globalization and Public Administration: Pros & Cons”  นี่คือความสำเร็จของกิจกรรมและความพยายามในการพัฒนาของสาขา

สาขาวิทยาการจัดการ (Department of Management Science)

ในช่วงแรกวิทยาการจัดการเป็นส่วนหนึ่งของแผนกพาณิชยศาสตร์ แต่กลายเป็นแผนกอิสระในปี 2550 ได้ริเริ่มโครงการให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการส่วนตัวและสังคมของนักเรียน แผนกนี้มี Placement Cell แยกต่างหากที่จัดตำแหน่งสำหรับการฝึกอบรมโรงงานในอุตสาหกรรมท้องถิ่นและภูมิภาค
 

ศูนย์การเรียนรู้ของมหาวิทยาลัย

  1. Tarabai Shinde Women Study Center
  2. Dr. Ambedkar Study Centre
  3. Chhatrapti Shivaji Maharaj Study Centre
  4. Rajarshi Shahu Maharaj Study Centre
  5. Mahatma Phule Study Centre
  6. Gautam Buddha Study Centre
  7. Mahatma Gandhi Study Centre
  8. Annabhau Sathe Study Centre
  9. Balasaheb Pawar Study Centre
  10. Bhagat Singh Study Centre
  11. Reserach Center on Rural Problems
  12. Vasantrao Naik Study Centre
  13. Vilasrao Deshmukh Study Centre




 

เรียนปริญญาเอกอินเดีย บริการครบวงจร:

แนะนำ หลักสูตร สถาบัน สมัครเรียน ขอ Visa แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย สนใจโทร. 07728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID: somnoek






ผู้เขียน แปล เรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์


ธันยา เล้าธนะธรรม

ศ.ศ.บ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี


ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :

Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University (BAMU)

 http://www.bamu.ac.in/AboutUniversity.aspx

 

เตรียมทักษะภาษาอังกฤษห้องเรียนออนไลน์ ทางเลือกใหม่ ก่อนเข้าชั้นเรียนมัธยม มาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
26 Jun 2020
[หน้าแรก] หลักสูตร, Malaysia, คอร์สและโครงการ, ทั่วไป, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

เตรียมทักษะภาษาอังกฤษห้องเรียนออนไลน์ ทางเลือกใหม่ ก่อนเข้าชั้นเรียนมัธยม มาเลเซีย

สถานการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาด Covid – 19 ในประเทศไทยคลี่คลายมาตามลำดับมีการ ปลดล็อคการเดินทาง กิจกรรม และ ธุรกิจต่างๆ มากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางระหว่างประเทศคงต้องรอการปลด Lockdown ของทั้งประเทศไทยเอง และต่างประเทศอีกระยะหนึ่ง ในช่วงที่รอเวลาดังกล่าวเป็นโอกาสที่นักเรียนซึ่งมีเป้าหมายในการเรียนต่างประเทศ โดยเฉพาะนักเรียนที่จะศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ประเทศมาเลเซีย ช่วงเวลาว่างกว่าจะถึงกำหนดการเปิดภาคเรียน ในเดือนกันยายนปีนี้หรือเดือน มกราคม ของปีถัดไป

นอกจากนักเรียนจะสามารถสมัครสอบวัดระดับความรู้ (Placement Test) ทางระบบออนไลน์ ซึ่งมีความสะดวก และปลอดภัย แล้ว การเตรียมความพร้อมด้านทักษะภาษาอังกฤษห้องเรียนออนไลน์ นับว่าเป็นทางเลือกใหม่ ก่อนเข้าชั้นเรียนมัธยม มาเลเซีย เพราะถ้าพื้นฐานภาษาอังกฤษดี การเรียนต่างประเทศจะปรับตัว เรียนรู้ ได้อย่างรวดเร็ว จึงขอแนะนำรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

English Course Online หรือ คอร์สภาษาอังกฤษออนไลน์ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างบริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด กับ สถาบันสอนภาษาที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ที่ กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย มีระบบการเรียนการสอน มาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลีย สอนโดยอาจารย์จากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก (Native English Speaker) โดยหลักสูตร ภาษาอังกฤษทั่วไป (General English) สถาบัน English Language Company : ELC  โดยมีระยะเวลาเรียน เริ่มต้นที่ 4 สัปดาห์ (30 ชั่วโมง)  เหมาะสำหรับรับนักเรียน อายุ 11 ปีขึ้นไป ที่ต้องการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ  เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียนและยังไม่สามารถเดินทางไปเรียนต่างประเทศได้ เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาด Covid 19

ประโยชน์และสิ่งที่นักเรียนจะได้รับ เช่น เรียนภาษาอังกฤษมาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลียเรียนกับครูเจ้าของภาษาโดยแท้จริง (Native English Speaker)เรียนทางระบบออนไลน์ปลอดภัยจากการติดโรคระบาด สามารถเริ่มเรียนได้ทุกสัปดาห์ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษก่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศฝึกความมั่นใจให้กับนักเรียนในด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ

หมายเหตุ   กรุ๊ปออนไลน์ เริ่มต้นที่ 4 คน



 




Your browser does not support the video tag.



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 77 28 7111 , 08 5791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

 

 

ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ข่าว การเยี่ยมชม ทดสอบความรู้ ณ โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School

SJ WORLD EDUCATION
17 Jan 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ภาพกิจกรรม
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม ทดสอบความรู้ ณ โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย นักเรียน และ ผู้ปกครอง ที่สนใจให้บุตรหลานเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษา (High School) ในประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม และทดสอบความรู้ให้นักเรียน ณ โรงเรียน Westlake International School เมือง Kampar รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับ และให้คำแนะนำ เสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียน


 




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

 

 

Westlake International School โรงเรียนนานาชาติที่น่าสนใจ แห่งเมืองกัมปาร์ ประเทศมาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
17 Dec 2019
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0

Westlake International School โรงเรียนนานาชาติที่น่าสนใจ แห่งเมืองกัมปาร์ ประเทศมาเลเซีย

นับเป็นโอกาสดีมากที่ผมและคณะได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน Westlake International ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติที่น่าสนใจแห่งเมืองกัมปาร์ (Kampar) ประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นโรงเรียนที่มีระบบการบริหารจัดการที่ดีมาก เป็นโรงเรียนแบบอยู่ประจำ ค่าเรียนและค่าที่พัก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายต่อปีที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งในมาเลเซีย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ที่พักสะอาดปลอดภัยการดูแลใกล้ชิด รวมทั้งมีกิจกรรมยามว่างของนักเรียน มีจำนวนนักเรียนไทยน้อย เป็นโอกาสดีที่นักเรียนจะได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษและเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น การเดินทางสะดวก และไม่ไกลจากประเทศไทย การเยี่ยมชมได้รับการต้อนรับและข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนเป็นอย่างดี จึงขอแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผู้สนใจเรียนหรือเลือกที่เรียนให้กับบุตรหลานครับ



1.โรงเรียน Westlake International School เป็นโรงเรียนนานาชาติแบบอยู่ประจำ ตั้งอยู่เมืองกัมปาร์ มีสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา (Primary Year 1-Year 6) ถึง มัธยมศึกษา (Secondary Year 7- Year 11) รองรับหลักสูตรมาตรฐานของประเทศอังกฤษ คือ IGCSE. (International General Certificate of Secondary Education) และ A-Level (The General Certificate of Education Advanced Level Certificate : GCE A-Level)






2.สภาพแวดล้อมของโรงเรียนมีพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นสถานศึกษา ติดกับทะเลเสาบ (Lake) มีสถานที่ท่องเที่ยว รอบโรงเรียนเช่น West Lake, West Lake Garden และ Tin Village





3.สิ่งอำนวยความสะดวก

3.1 ห้องสมุด มีความทันสมัย หนังสือมากมาย รองรับการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมของนักเรียน





3.2 หอประชุม ซึ่งเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่นการแสดง หรือพิธีการรับประกาศนียบัตร เป็นต้น





3.3 สนามเด็กเล่น สนามกีฬา เช่นสนามฟุตบอล บาสเก็ตบอล สนามเทนนิส และสระว่ายน้ำ เพื่อกิจกรรมกีฬา นักเรียนได้ผ่อนคลายกับเพื่อนๆระหว่างช่วงเวลาการพัก เลิกเรียน หรือวันหยุด




3.4 ห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมระบบ Hi-Speed Internet สำหรับนักเรียนค้นคว้าข้อมูลในการทำการบ้าน หรือผ่อนคลาย

3.5 โรงอาหาร กว้างขวาง และสะอาด สำหรับนักเรียนทุกคน การรับประทานอาหารของนักเรียนในแต่ละมื้อจะมารับประทานพร้อมกันที่ Cafeteria

3.6 ห้องดนตรี สำหรับนักเรียนที่สนใจในการฝึกฝนทักษะ ทางด้านดนตรี มีภายในห้องที่สะอาดและมีเครื่องดนตรีสากลหลายรายการ

3.7 ห้องปฏิบัติการทดลอง (Lab) ทางโรงเรียนจัดห้อง Lab ไว้สำหรับหลักสูตร รายวิชาที่มีการทดลองได้เรียนรู้เต็มที่

3.8 ที่พักสำหรับนักเรียนประจำ (Boarding House)
เนื่องจากโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำ จึงมีบ้านพัก เป็นแบบบ้าน 3 ชั้น เกือบจะติดกับบริเวณของโรงเรียน มีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ดูแลนักเรียน สัดส่วน 1 คน : นักเรียน 15 คนเท่านั้น จึงทำให้ดูแลอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง ห้องพักมีให้เลือกแบบห้องละ 1 คน และ 2 คน โดยผู้ดูแลนักเรียนจะดูแลทั้งความเป็นอยู่ ติดตามเรื่องการเรียน การทำการบ้าน หากนักเรียนไม่สนใจเรื่องการเรียน การทำการบ้านจะมีการรายงานให้ผู้ปกครองทราบ ผู้ปกครองสามารถ Login เข้าสู่ระบบสารสนเทศของโรงเรียนเพื่อติดตามดูแลความเป็นอยู่ของนักเรียนได้ และทาง โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้ออกนอกบริเวณโรงเรียนตามลำพัง หากจำเป็นต้องออกนอกบริเวณโรงเรียนจะต้องมีเจ้าหน้าที่ Boarding Guardian เดินทางไปด้วย และมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียน การเข้าถึงพื้นที่โรงเรียนต้องแสดงตนด้วยบัตรนักเรียนทุกที่ การใช้เงินซื้อของต่าง ๆ ในโรงเรียนใช้บัตรเสมือน Banking online ในวงเงินตามที่ผู้ปกครองเติมไว้ ทั้งนี้มาตรฐานของ Boarding House จะเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน Boarding House ของ สมาคม Boarding School s’ Association: bsa. ด้วยครับ






4. การใช้รูปแบบการสอน แบบ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics)
คือแนวทางการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิตจริง

5.การเรียนภาษาอังกฤษ และภาษาจีน

5.1 การเรียนภาษาอังกฤษ ทางโรงเรียนมีหลักสูตร English Proficiency Programme
(E-ProP) เป็นการเพิ่มความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งทางโรงเรียนจะจัดสอบวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษและนำผลการสอบมาวางแผนการเรียนให้แก่นักเรียนโดยหลักสูตร E-Prop จะใช้เวลาเรียนหลังเลิกเรียนของชั้นเรียนปกติ

5.2 การเรียนภาษาจีน จากประสบการณ์หลายปีต่อเนื่องของผมพบว่าผู้ปกครองจำนวนมากต้องการให้บุตรหลานได้เรียนภาษาจีนด้วยนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เพราะมองเห็นโอกาสและความสำคัญในการใช้ภาษาจีนมากขึ้นในปัจจุบัน โดยปกติการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษามาเลเซียจะมีวิชาภาษาจีนอยู่ในหลักสูตรของโรงเรียนจีนเท่านั้น แต่สำหรับที่โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School มีหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาจีนให้เรียนด้วยซึ่งโอกาสที่จะได้รับโอกาสดีๆแบบนี้จะน้อยมากเพราะปกติแล้วโรงเรียนนานาชาติทั่วไปจะไม่มีการเรียนการสอนวิชาภาษาจีน อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนเข้าใจในขั้นตอนการเรียนภาษาของนักเรียน โดยจะให้นักเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษมากพอ ก่อนจะให้เรียนภาษาจีนเพื่อให้นักเรียนมีความกดดันในการเรียนทั้งสองภาษาควบคู่กัน นับว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนเอง ครับ หลักสูตรวิชาภาษาจีนจะมีชั่วโมงการเรียน 3 คาบต่อสัปดาห์






6.ทุนการศึกษา เพื่อเป็นแรงจูงใจในการเรียนของนักเรียน ทางโรงเรียนมีทุนการศึกษาให้นักเรียนด้วยครับ ซึ่งมีทั้งทุนเรียนดี และทุนสำหรับนักเรียนที่มีกิจกรรมโดดเด่นด้วยครับ

7.การเปิดภาคเรียนและค่าเล่าเรียน ในหนึ่งปีการศึกษาจะมี 3 เทอม เปิดเรียน ช่วงเดือน มกราคมเมษายน และ สิงหาคม ของปี การสมัครเรียนช่วงเทอมไหนขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้เรียน อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนจะจัดโปรแกรมการเรียนให้สอดคล้องเหมาะสมกับช่วงเวลาการเข้าเรียนของนักเรียนไม่ต้องกังวลครับ ส่วนค่าเล่าเรียน แต่ละระดับชั้นอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ค่าเล่าเรียนแบ่งจ่ายรายเทอมได้ซึ่งจะลดภาระแก่ผู้ปกครองได้และกรณีจ่ายค่าเล่าเรียนเป็นรายปีทางโรงเรียนจะมีส่วนลดให้ด้วยครับ

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายเบื้องต้น : ค่าเล่าเรียน Year 7 (ม.1) เทอมละ 47,480 บาท ค่าที่พัก อาหาร (Boarding House)
เฉลี่ยต่อเดือนเพียง 11,253 บาท (ราคาและอัตราแลกเปลี่ยน ณ ธันวาคม 2562) ผมคิดว่าอยู่ในอัตราที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีกำลังพอที่จะจ่ายได้ เมื่อเทียบกับคุณภาพของโรงเรียน และมอบสิ่งที่ดีให้บุตรหลาน ของท่าน (หากท่านสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตามรายละเอียดล่างบทความนี้ครับ)

8. การเยี่ยมชมโรงเรียน Westlake International School
การแบ่งปันรายละเอียดต่างๆที่ปรากฏในเนื้อหาบทความนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากผมและคณะไม่เดินทางมาเยี่ยมชมและรับข้อแนะนำจากโรงเรียนโดยตรง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้บริหาร ครู-อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ทุกท่านที่ให้การต้อนรับ ให้ข้อแนะนำ เสนอแนะ ครบถ้วนด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง



 



 



สำหรับ ผู้ปกครองที่สนใจเยี่ยมชมโรงเรียน เพื่อประกอบการพิจารณาเลือก สมัครเรียนให้บุตรหลานก็สามารถติดต่อ มาที่ผมได้เช่นกันครับ



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

Languages Across Borders (LAB)

SJ WORLD EDUCATION
23 Jan 2019
Australia, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

แนะนำสถาบัน Languages Across Borders (LAB)


Languages Across Borders: LAB มีด้วยกัน 3 วิทยาเขต

ได้แก่ Melbourne, Vancouver และ  Montreal

นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายทั่วโลกถึง 23 แห่ง ใน 5 ทวีป


Study In Melbourne

1.เวลาเรียนที่ยืดหยุ่นได้

– 3 วัน ต่อสัปดาห์ (เรียนภาคเช้า)   วันจันทร์ – วันพุธ

– 4 วันต่อสัปดาห์ (เรียนภาคเช้า) วันจันทร์ –  วันพฤหัสบดี

– 5 วันต่อสัปดาห์ (เรียนภาคค่ำ) วันจันทร์ – วันศุกร์

2. สถานที่ตั้งใจกลางเมือง

–  มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุด

– สิ่งแวดล้อมเป็นศิลปะ

– กิจกรรมแฟชั่น

– คาเฟ่ที่ดีที่สุดในโลก

3. หลักสูตรและโปรแกรม

– General English  (ภาษาอังกฤษทั่วไป)  ระดับเริ่มต้น – ระดับสูงสุด

– General English  Hospitality & Tourism

( ภาษาอังกฤษทั่วไปสำหรับการบริการและการท่องเที่ยว)

–  ภาษาอังกฤษเพื่องานวิชาการ

– หลักสูตรเตรียมสอบ IELTS

– ภาษาอังกฤษธุรกิจ

– Cambridge English ( First FCF Preparation)

– โปรแกรมฝึกงานโรงแรม

– โปรแกรมฝึกงานบริหารธุรกิจ

4. สิ่งอำนวยความสะดวก

– ฟรี Wifi

– ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

– ห้องเรียนที่กว้าง

– พื้นที่ส่วนกลาง ทั้งห้องครัว และ ไมโครเวฟ

5. บริการของเรา

– ปฐมนิเทศและ แนะแนว

–  จัดหาที่พัก

– การลงทะเบียนผู้เสียภาษี

– การเปิดบัญชีธนาคาร

– จัดผู้ปกครองสำหรับนักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี

– อื่น ๆ ที่จำเป็นและต้องการความช่วยเหลือ


Nationality Mix 





บริการเยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมศึกษา ประเทศมาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
28 Sep 2018
[หน้าแรก] หลักสูตร, Malaysia, คอร์สและโครงการ, ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

บริการเยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมศึกษา ประเทศมาเลเซีย 

เลือกเมืองตามที่ท่านต้องการ (อิโปห์  ปีนัง  กัมปาร์  กัวลาลัมเปอร์ โกตาบารู)

 




บริการครบวงจร :

วางแผนกำหนดการเดินทาง ประมาณการค่าใช้จ่าย สำรองตั๋วฯ และ สำรองที่พัก เพื่อการเดินทาง

เยี่ยมชมโรงเรียน  หอพัก  (Hostel or Host family) พบผู้บริหารฝ่ายนักเรียนต่างประเทศ ชมบรรยากาศ

โรงเรียน  ศึกษารายละเอียดหลักสูตร  แนะแนวระบบการศึกษามาเลเซีย และ การเตรียมความพร้อมของนักเรียน

มีอาจารย์แนะแนวที่มีประสบการณ์ ร่วมเดินทางตลอดโครงการ
 

ขั้นตอนการขอใช้บริการ

1.เลือกเมืองตามที่ท่านต้องการเยี่ยมชม ระบุชื่อโรงเรียน (ถ้ามี)

2.แจ้งรายละเอียด  เมืองที่ท่านเลือก จำนวนผู้ร่วมเดินทาง  วันเดินทางที่ท่านสะดวก




สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

Line ID : somnoek

E-Mail : [email protected]

WMS รร.มัธยมนานาชาติที่น่าสนใจแห่งเมืองปีนัง

jackz
04 Jul 2018
Malaysia, บทความน่ารู้, สถาบันการศึกษา
Comments: 0
Wesley Methodist School Penang International, WMS

Wesley Methodist School Penang International

โรงเรียนมัธยมนานาชาติที่น่าสนใจแห่งเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย


ความสนใจในการส่งบุตรหลานไปเรียนในระดับมัธยมศึกษายังรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะปีนังถือว่าเป็นเมืองมี่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา ซึ่งภาษาที่ใช้มีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามาลายู หรือ บาฮาซา เป็นต้น และปีนังถือเป็นเมืองการค้า การท่องเที่ยว และศุนย์กลางทางการศึกษาอีกรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทย สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกรวมทั้งค่าครองชีพก็ใกล้เคียงกับประเทศไทย

ประเภทของโรงเรียนมัธยมศึกษา (High School) ในปีนัง ประกอบด้วยโรงเรียนจีนซึ่งมีทั้งที่ใช้ภาษาจีนล้วนและใช้ภาษาจีนร่วมกับภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ประเภทถัดมาก็คือโรงเรียนท้องถิ่นของมาเลเซียใช้ภาษามาเลเซียเป็นหลักหรืออาจใช้ภาษาอังกฤษรวมอยู่ด้วยบางส่วนในการเรียนการสอน และประเภทสุดท้ายคือโรงเรียนนานาชาติ (International School) ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษล้วน ในการเรียนการสอน แต่ก็มีโรงเรียนนานาชาติบางแห่งที่สร้างโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาที่หลากหลายมากขึ้นโดยกำหนดให้มีวิชาภาษาจีน (Mandarin) และภาษามาลายู (Bahasa Melayu) ไว้ในหลักสูตรด้วยซึ่งน่าสนใจมากผมจะกล่าวถึงต่อไปครับ

ผู้เขียนได้ทำหน้าที่แนะแนวการศึกษาต่างประเทศหลายปีต่อเนื่องได้รับคำถามจากผู้ปกครองประเด็นต่างๆเป็นระยะและได้นำมาประมวล เรียงลำดับเพื่อจัดลำดับความสำคัญ ก่อน หลัง ในการหาข้อมูลเพื่อให้คำแนะนำ นักเรียน ผู้ปกครอง ให้ถูกต้องและตรงประเด็นมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ผู้ปกครองหลายท่านขอคำแนะนำเรื่องโรงเรียนนานาชาติที่เมืองปีนัง แบบอยู่ประจำในโรงเรียน (Hostel) หรือแบบพักกับภายนอกโรงเรียนกับครอบครัวของโฮส (Host Family or Homestay) ซึ่งเป็นผู้ปกครองคอยดูแลนักเรียน ในระหว่างที่นักเรียนศึกษาอยู่ที่ปีนัง ค่าเล่าเรียนที่ไม่สูงมากนัก หากเป็นไปได้ขอให้มีการเรียนภาษาจีนกำหนดไว้ในหลักสูตรด้วย

ดังนั้นในบทความนี้จะเป็นการแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับโรงเรียน Wesley Methodist School Penang International

 

รูปที่ 1 เยี่ยมชม Wesley Methodist School Penang International


ซึ่งผมและคณะได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียน Wesley Methodist School Penang International โดยได้รับการต้อนรับจากผู้บริหารของโรงเรียน คุณ Julia Woo ในฐานะ Principal Preschool & Primary เป็นอย่างดี นับเป็นโอกาสดีที่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับการแนะแนวการศึกษา ทั้งในด้านหลักสูตร กิจกรรม การเรียนการสอน อาคารสถานที่เรียน หอพัก (Hostel) รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่าย ต่างๆ



รูปที่ 2 เข้าพบผู้บริหาร Wesley Methodist School Penang International


Wesley Methodist Schools (WMS) เป็นส่วนหนึ่งของสภาการศึกษาเอกชน (The Council of Education :COE) ของโบสถ์เมธอดิสถ์ในมาเลเซีย ภายใต้ชื่อ WMS ซึ่งWMSs จะเป็นโรงเรียนแรกที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการทั้งในการสอบของรัฐบาลและการสอบของแคมบริจช์ Wesley Methodist Schools เป็นโรงเรียนเอกชนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศมาเลเซีย มีการเริ่มต้นโรงเรียน Wesley Methodist Schools ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และมีโรงเรียน Wesley Methodist Schools ในเมือง Ipoh , Klang , Melaka , Seremban และปัจจุบันก็มีที่ ปีนัง (Penang) ด้วยแล้ว มีโรงเรียน จำนวน 3 แห่งที่เป็นโรงเรียนนานาชาติ (International School) ใช้หลักสูตร IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) คือที่ ปีนัง , กัวลาลัมเปอร์ และ อิโปห์

ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ทำให้ทราบว่าในเดือนกันยายนปี 2018 นี้ จะมีนักเรียนใหม่ 1500 คน ในโรงเรียนขนาดใหญ่ในปีนังที่รู้จักในนาม โรงเรียนนานาชาติเวสเลย์ เมธอดิสซ์ (Wesley Methodist School Penang International) โรงเรียนขนาดใหญ่นี้มีหอพักสำหรับนักเรียนประจำ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับนักเรียน การศึกษาสำหรับเด็กๆ เป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอ (DNA) ของโบสถ์เมธอดิสถ์ จากอายุมากกว่า 125 ปี เราเชื่อว่าการศึกษาเพื่อจิตวิญญาณของเด็กจะช่วยให้เด็กมีทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิต และผลนี้จะแปลเป็นพื้นฐานของความแข็งแกร่งและความมีวินัย และ มีความยืดหยุ่น มีประโยชน์ต่อประเทศชาติในอนาคต ใน WMSs เราเชื่อว่าในการทำการศึกษาเอกชนแบบองค์รวมและแบบนานาชาติ ในราคาที่ไม่แพงมากกับชุมชนในวงกว้าง

WMSs เป็นโบสถ์ที่เป็นเจ้าของและดำเนินการโดยไม่หวังผลกำไร WMSs มีสิทธิได้รับคำแนะนำและความร่วมมือจากคณะกรรมการโรงเรียนนานาชาติแองโกล ประเทศจีนภายใต้การแนะนำของ Mr.Tan Wah Tong และ การรับรองโดยอดีตผู้อำนวยการ Dr. John Barrett ในท้องถิ่นมีคณะกรรมการบริหารส่วนกลางประกอบด้วยอาสาสมัครท้องถิ่นที่มีความมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญมาสู่โรงเรียนและ COE เพื่อให้คำแนะนำและการกำกับดูแลแก่โรงเรียน โรงเรียนแห่งใหม่นี้ร่วมกับโรงเรียน WMS อื่น ๆ ยังคงแบ่งปันพันธกิจวิสัยทัศน์และคุณค่าหลักของ WMS และช่วยให้เด็กแต่ละคนประสบความสำเร็จ


หลักสูตร

นักวิชาการของเราได้ให้ความสำคัญกับวิสัยทัศน์และภารกิจของ WMS และยึดมั่นค่านิยมหลักของโรงเรียนด้วยตัวเราเองและสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้การสอนในชั้นเรียน ปฏิสัมพันธ์นอกชั้นเรียนและเป็นแบบอย่างที่ดี นักวิชาการของเราได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้นำเสนอการสอนที่มีคุณภาพ


ระดับอนุบาล

เตรียมอนุบาล อายุ 3-4 ปี

อนุบาล อายุ 5-6 ปี

รายละเอียดหลักสูตร

  • การนำวิธีการแบบผสมผสานหลายด้านเพื่อการศึกษา
  • สอนเด็กให้เป็นอิสระและพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง
  • กิจกรรมที่กระตุ้นความอยากรู้เพื่อพัฒนาความคิดในการค้นหา
  • พัฒนาทักษะการอ่านเขียนและการคำนวณโดยใช้ภาษาศิลปะ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
  • วิชาที่เสนอ : ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษามลายู ภาษาจีน ดนตรี การแสดง ศิลปะ และ งานฝีมือ การศึกษาฟิสิกส์ การสร้างตัวละคร และ ทักษะชีวิต


ประถมศึกษา

ระดับชั้นปีที่ 1 – 6 อายุ 7 – 12 ปี

รายละเอียดหลักสูตร

หลักสูตรนี้จะช่วยให้เด็กมีรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนา:

  • ความรักในการเรียน
  • คุณค่าในศีลธรรม
  • การมีวินัยและนิสัยที่ดีจากภายใน

ผ่านหลักสูตรแคมบริดจ์และการเพิ่มพูนวิชาเราจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนา

  • มั่นใจในตัวเอง
  • พูดได้ดี
  • สามารถตอบสนองต่อตนเองได้เร็ว

หลักสูตรจะช่วยกระตุ้นจิตใจของเด็ก ๆ เพื่อพัฒนาทักษะที่สำคัญในการตอบสนองต่อข้อมูลข่าวสารและการสื่อต่าง ๆ ที่มีความเข้าใจและความเพลิดเพลิน ผ่านเรื่อง STEAM เด็กจะได้รับการสอนในทุกพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาในใจจิตใจและจิตวิญญาณของเขา

วิชาที่เสนอ: ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษามลายู ภาษาจีน ความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิ้ล ศิลปะและงานฝีมือ การศึกษาฟิสิกส์ ICT (Cording) ดนตรี การแสดง ประวัติศาสตร์ และ ภูมิศาสตร์

มัธยมศึกษา

ระดับชั้นปีที่ 7 – 11 อายุ 13-17 ปี

รายละเอียดหลักสูตร

หลักสูตรจะสร้างผู้เรียนพัฒนาความสนใจของเขาในด้านต่างๆ ที่น่าสนใจผ่านทางวิชาที่แตกต่างกัน ให้มีการเรียนรู้ เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วม และผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์และเรียนรู้ที่จะร่วมมือกับผู้อื่นทำงานเป็นทีม

  • ความเข้าใจในเนื้อหาและแนวคิด
  • การมีสมรรถนะทางการเรียนรู้และทักษะในสาขาวิชาต่างๆ
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
  • ความสามารถในการสื่อสารและการแสดงออกเป็นภาษาอังกฤษ ภาษามลายู และ ภาษาจีน
  • มีทัศนียภาพทั่วโลก

ผู้เรียนยังเตรียมพร้อมที่จะใช้ IGCSE ของ Cambridge ในระดับสากล ใน Y11 และเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุด นักเรียนชาวมาเลเซียจะสามารถใช้ภาษามลายู ทำ SPM ได้

วิชาที่เสนอ: มัธยมช่วงชั้นที่ 1 (Year 7-9)

ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษามลายู ภาษาจีน ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศิลปะ ICT (coding) การศึกษาฟิสิกส์ ดนตรี การแสดง ความรู้ทางคัมภีร์ไบเบิ้ล

มัธยมช่วงชั้นที่ 2 (Year 10 – 11)

วิชาหลักคือ ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ความรู้ทางคัมภีร์ไบเบิ้ล คณิตศาสตร์ ICT (Coding)

หลักสูตรจะมีความยืดหยุ่นที่ผู้เรียนจะเลือกวิชาจากกลุ่ม 4 กลุ่มคือ

  • ภาษา
  • มนุษยศาสตร์ และ สังคมศาสตร์
  • คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
  • บริหาร เทคนิค และ การออกแบบ

หลักสูตรจะเตรียมนักเรียนเพื่อเลือกจากกลุ่มของวิชาเพื่อที่จะช่วยให้เขาเตรียมความพร้อมการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเขาและให้ทางเลือกที่หลากหลายเส้นทางอาชีพ


หลักสูตรปรับพื้นฐานเร่งด่วน (Fast Track Programme)

หลักสูตรเร่งด่วนเป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียน Year 5 Year 6 และ Year 7 ที่กำลังจะเริ่มเรียน จากเดือนมกราคม ถึง เดือนสิงหาคม ปี 2018 เป็นโปรแกรมที่ออกแบบเพื่อให้นักเรียนสำเร็จตามข้อกำหนดของปีการศึกษาโดยมีการเตรียมการอย่างเข้มข้นกับเวลาช่วงปิดเทอมระยะสั้น ความสำเร็จของหลักสูตรที่น่าพอใจช่วยให้นักศึกษาสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับชั้นปีถัดไปของปีการศึกษา ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 3 กันยายน 2018 นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์การเรียนในชั้นเรียนที่เพิ่มขึ้นและการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดโดยครูผู้สอนที่ให้การสนับสนุนและผ่านการรับรอง เป็นโอกาสสำหรับนักเรียนในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการความสามารถด้านภาษาและความสามารถที่เป็นส่วนสำคัญในประสบการณ์การเรียนรู้ใน WMSPI

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงเรียน

1. ปัจจุบันมีนักเรียน 1550 คน และ คณะครู และเจ้าหน้าที่ 120 คน

2. ห้องเรียนอนุบาล 3 ห้อง

3. ห้องเรียนประถมศึกษา 24 ห้อง

4. ห้องเรียนมัธยมศึกษา 30 ห้อง

5. ห้องทดลองวิทยาศาสตร์

6. หอพักนักเรียน สำหรับ 200 คน

7. ห้องสมุด

8. หอประชุม

9. ห้องเต้น

10. ห้องดนตรี

11. ห้องสอบ

12. ห้องแนะแนว

13. ห้องพยาบาล

14. โบสถ์

15. โรงอาหาร

16. อื่น ๆ

 


รูปที่ 3 บริเวณโรงเรียน Wesley Methodist School Penang International


อาคารเรียน อาคารหอพัก (Hostel) อาคารใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวก ทันสมัย ทำเลที่ตั้งของโรงเรียนติดชายฝั่งทะเลภูมิทัศน์สวยงาม การเดินทางสะดวก หอพัก ชาย – หญิง แยกอาคารห่างกันเป็นสัดส่วน ควบคุมการเข้าออกอย่างปลอดภัย สำหรับที่พักของนักเรียน อาจจะพักภายใน Hostel ของโรงเรียน หรือผู้ปกครองอาจจะหาที่พักแบบอยู่กับครอบครัว (Host Family) ก็ได้ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามเพิ่มเติม) และเป็นที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งสำหรับโรงเรียนนี้ ดังที่ผมกล่าวไว้ข้องต้นคือ มีการบรรจุวิชาภาษาจีน (Mandarin) เรียนสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง รวมทั้งวิชา มาลายู (Bahasa Melayu) ไว้ในหลักสูตรด้วย ตำราเรียน และหลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษ ตามหลักสูตร IGCSE และเฉพาะวิชา คณิตศาสตร์ (Mathematics) อ้างอิงหลักสูตร High School ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีความเป็นเลิศทางด้านคณิตศาสตร์ด้วย

สำหรับค่าเล่าเรียน (School Fees) หลายท่านคงต้องการทราบเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนตัดสินใจ

ค่าเรียนต่อปี ในระดับ Junior High school Year 7 -Year 9 (หรือมัธยมต้น) ปีละ 18,480 RM ประมาณ 157,080 บาท ต่อปี (Rate RM : 8.50 บาท) ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่าแรกเข้า (Entry Fees) ค่าที่พัก และค่าครองชีพ

ที่มา : Wesley Methodist School Penang International ปี 2018 ( ปีต่อไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับนโยบายของโรงเรียน กรุณาหาข้อมูลเพิ่มเติม)


สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek


ผู้เขียน เรียบเรียง :
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วทม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ธันยา เล้าธนะธรรม
ศศ.บ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

http://wms.edu.my/school/about-us

http://www.privateinternationalfair.com/school/wesley-methodistschools

WMS-Penang-brochure-Fast-Track-170507-20

Wesley Methodist School Penang International Prospectus

Photo albums of SJ World Education Co. Ltd.


รายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ (สหราชอาณาจักร)

jackz
23 Oct 2017
ทั่วไป, สถาบันการศึกษา
Comments: 0
มหาวิทยาลับในประเทศอังกฤษ, มหาวิทยาลับในอังกฤษ, สถาบันการศึกษา, อังกฤษ

รายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ (สหราชอาณาจักร)



สนใจ สมัครเรียนต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek


เรียนมัธยม ปีนัง Pelita International School กับ ปรัชญาการศึกษาที่น่าสนใจ

jackz
09 Sep 2017
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

เรียนมัธยม ปีนัง Pelita International School กับ ปรัชญาการศึกษาที่น่าสนใจ


ปัจจุบันการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อ ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซียได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก รัฐปีนัง ถือว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ภาษา ซึ่งภาษาราชการที่ใช้คือภาษาอังกฤษ และ ภาษาท้องถิ่นที่ใช้ ได้แก่ ภาษาจีน ภาษามลายู เป็นต้น รัฐปีนังถือเป็นเมืองการค้า การท่องเที่ยว และ เป็นศูนย์กลางการศึกษา อีกรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทย สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก จึงถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับให้นักเรียนได้ไปศึกษาเล่าเรียน

โรงเรียนในรัฐปีนัง อาจแบ่งประเภทตามภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนเป็นหลัก เช่น โรงเรียนจีน ใช้ภาษาจีนในการเรียนการสอนเป็นหลัก โรงเรียนมาเลเซีย ใช้ภาษามาเลเซียในการเรียนการสอนเป็นหลัก และโรงเรียนนานาชาติ (International School ) ใช้ภาษาอังกฤษล้วน นอกจากนั้นอาจแบ่งตามลักษณะของการบริหารโรงเรียน เช่น โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชนทั่วไป และ โรงเรียนนานาชาติ นั่นเอง จากประสบการณ์ในการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ แก่นักเรียน และ ผู้ปกครอง หลายปีต่อเนื่อง พบว่ามีการถามหาโรงเรียนนานาชาติ ของเมืองปีนัง ที่มีคุณภาพการเรียนการสอน หลักสูตรมาตรฐานสากล และค่าใช้จ่ายไม่สูงมากจนเกินไป

โรงเรียน Pelita International School เป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในปีนัง ผู้ปกครองจึงเลือกส่งบุตรหลานมาศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ ผมมีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียน และได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองให้เป็นผู้ดำเนินการ แนะแนวการศึกษา วางแผน และสมัครเรียนติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร แก่นักเรียน มาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นเพื่อประโยชน์แก่นักเรียน ผู้ปกครอง ที่กำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติในเมืองปีนังจะได้มีข้อมูลประกอบการเลือกโรงเรียนสำหรับนักเรียน จึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักโรงเรียนมากขึ้นดังนี้

 


โรงเรียน Pelita International School เดิมคือ โรงเรียน Sri Pelita ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2000 และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น Pelita International School ในปี ค.ศ.2012 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีความแตกต่าง มุ่งเน้นการพัฒนานักเรียนแบบองค์รวม หรือบูรณาการ ทางการศึกษานั่นเอง ซึ่งไม่เพียงแต่การมีความรู้ทางด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่โรงเรียนได้ใช้ปรัชญาการศึกษาของ Howard Gardner เพื่อให้นักเรียนได้รับการเรียนรู้หลายๆอย่าง ทั้งการเรียนรู้จากตำรา จากภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักเรียนสามารถ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ชีวิตการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยปรัชญาทางการศึกษาที่ทางโรงเรียนยึดถือ ทางโรงเรียนจึงกล่าวว่า เราเชื่อว่า “หัวใจทางการศึกษาคือการศึกษาจากหัวใจ” และยังเชื่ออีกว่าเด็กแต่ละคนนั้นล้วนแต่เป็นคนพิเศษและไม่ซ้ำกัน เราจึงเน้นการช่วยเหลือให้แต่ละบุคคลได้ค้นพบตนเองพร้อมทั้งช่วยเพิ่มความโดดเด่น ความสามารถ ทักษะของพวกเขาเหล่านั้นให้มีความเด่นชัดมากขึ้น เราสอนนักเรียนของเราไม่เพียงแต่จะเน้นให้เก่งทางวิชาการ แต่พวกเขายังจะได้ ความรู้สึกของการได้พบการสำรวจและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาให้มีทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล ความสามารถทางกายภาพ ดนตรี ซึ่งเขาอาจค้นพบพรสวรรค์ของเขาได้ ความสามารถทางด้านภาษาศาสตร์ และการมีจิตใจที่ดี โอบอ้อมต่อผู้อื่น คุณสามารถเห็นความรัก และ ความมุ่งมั่นในครูของเราและคุณจะประทับใจกับผลลัพธ์ นักเรียนของเราสนุกกับการเรียนรู้และพวกเขามาโรงเรียนด้วยความสุขที่แท้จริง จากบันทึกการติดตามของเราที่โดดเด่น เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าการพัฒนาแบบองค์รวม (บูรนาการศึกษา) ไม่จำเป็นต้องมาจากความเป็นเลิศทางวิชาการ เราเป็นผู้ผลิตนักเรียนที่ทำคะแนนได้ “A” ไม่เพียงเท่านั้นเรายังผลิตนักเรียนผู้ที่สามารถเข้าใจตนเองและผู้อื่นและเป็นนักเรียนที่มีความพร้อมสำหรับโลกแห่งความเป็นจริง เราเชื่อว่า Pelita International School จะสามารถทำให้บุตรหลานของท่านเริ่มต้นการเรียนรู้ที่ดี ควบคู่ไปกับการพัฒนาตนเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ เชิญมาเยี่ยมชมและค้นหาคำตอบได้ด้วยตัวคุณเอง กับสิ่งที่ทำให้โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปด้วยวิธีการสอนแบบบูรนาการศึกษา เราหวังว่าจะพบคุณและลูกของคุณ


หลักสูตรและระดับชั้นที่เปิดสอน

1.International Early Years อายุ 4-6 ปี ระยะเวลา 1-3 ปี

 


2.International Primary อายุ 5-12 ปี ระยะเวลา 6 ปี แบ่งออกเป็น Key Stage 1 (Years 1-2)

 


และ Key Stage 2 (Years 3-6) โดยวิชาเรียน Key Stage 1 เรียน 12 วิชา และ Key Stage 2

เรียน 12 วิชา เช่นกัน

3.International Secondary อายุ 13 -17 ปี ระยะเวลา 5 ปี แบ่งออกเป็น Key Stage 3 (Year7-9)

 


และ Key Stage 4 (Year 10-11) โดย Key Stage 3 เรียน 11 วิชา

 


ส่วน Key Stage 4 แบ่งออกเป็น IGCSE. Science Stream เรียน 10 วิชา , IGCSE. Art Stream เรียน 10 วิชา เช่นกัน แต่เนื้อหาและรายวิชาแตกต่างกันครับ (รายวิชาของแต่ละ Key Stage ผมไม่ได้ลง รายละเอียดไว้เกรงว่าเนื้อหาบทความจะมากเกินไป หากสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากผมได้ครับ) นอกจากนั้นยังมีวิชาแบบ Non-Examinable Subject จำนวน 2 วิชา คือ

1. Personal ,Social & health Education

2. Physical Education

 


เมื่อนักเรียนสมัครเรียน จะมีการสอบวัดระดับความรู้วิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เพื่อประเมินความเหมาะสมว่าจะเข้าศึกษาในระดับชั้นใด รวมถึงการพิจารณาความพร้อมด้านทักษะภาษาอังกฤษ และอาจต้องเรียนปรับพื้นภาษาอังกฤษ ถ้าผลการสอบภาษาอังกฤษไม่ได้ตามเกณฑ์ของทางโรงเรียน

หลักสูตรปรับพื้นภาษาอังกฤษ เช่น English Proficiency Program : EPP ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสอบ และเรียนปรับพื้นฐานด้วย

ค่าใช้จ่ายต่อปี เป็นรายละเอียดที่ผู้ปกครองอยากรู้ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน

ค่าใช้จ่ายต่อปี ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายแรกเข้า (ปีแรก) ค่าเรียนต่อภาคเรียน (3 ภาคเรียนต่อปี) ไม่รวมค่าที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัว สำหรับค่าแรกเข้าและค่าเรียน ในแต่ละช่วงชั้น ค่าใช้จ่ายจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ผมขอยกตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าเรียน ระดับ Year 7 (มัธยม 1) อ้างอิงราคาปี 2016/2017

รายละเอียดดังนี้

1.ค่าแรกเข้า (ปีแรก) : 11,400 RM

2.ค่าเรียนต่อปี = 6,700 RM* 3 เทอม : 20,100 RM

รวม = 315,500 RM ประมาณ 252,000 บาท (Rate RM : 8 Bath)


แผนภูมิแสดงระดับชั้นของการศึกษา

เริ่มต้นจากระดับประประถมศึกษา (Primary Education ) มัธยมศึกษา (Secondary School) Cambridge A Level จนถึงการศึกษาต่อในระดับ วิทยาลัย (College) หรือ มหาวิทยาลัย (University) ตามรูป

 


ภาคการศึกษา ประกอบด้วย 3 ภาคเรียน ต่อ ปีการศึกษา 

ภาคเรียนที่ 1 : ต้นเดือน กันยายน
ภาคเรียนที่
2 : ต้นเดือน มกราคม
ภาคเรียนที่
3 : กลางเดือน เมษายน

การเยี่ยมชม Pelita International School

ผมมีโอกาสร่วมเดินทางเพื่อนำ นักเรียน และ ผู้ปกครอง เยี่ยมชมโรงเรียน Pelita International หลายครั้งเพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกสถานที่เรียนตรงตามความต้องการ

 




การพบปะนักเรียนและผู้ปกครอง

ผมได้รับความไว้วางใจ จากนักเรียน ผู้ปกครอง ให้แนะแนวการศึกษา การวางแผนที่เกี่ยวข้อง การสมัครเรียน และการติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร ขอขอบพระคุณในความไว้วางใจมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 



สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

ผู้เขียน และ เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
1. https://www.pelitaschool.edu.my
2. https://www.dek-d.com
3. Pelita International School Prospectus


แนะนำสถาบัน ELC กัวลาลัมเปอร์

jackz
01 Jun 2017
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา
Comments: 0


สถาบันสอนภาษา English Language Company (ELC) ก่อตั้งโดย David และ Lyn Scott ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2003 มีนักเรียนทั้งหมด 300 – 400 คน จากกว่า 45 ประเทศ ได้รับการรับรองโดย NEAS ซึ่งเป็นสมาชิกของ ACPET



ELC เป็นโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกโดยนิตยสาร Study Travel Star Award ให้เป็น “Star English Language School South Hemisphere” ในปี 2013 เป็น Superstar 7 ปีซ้อน (จาก 2007 – 2013) และยังได้รับเชิญให้เข้าร่วม IABC (International Association of Language Centers) เฉพาะโรงเรียนสอนภาษาชั้นนำของโลกเท่านั้นในปี 2009 หลังจากได้รับการยอมรับโดยการตรวจสอบและการอ้างอิงอย่างเข้มงวด ปัจจุบัน ELC มีด้วยกัน 2 แห่ง คือ ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียในฐานะที่เป็นโรงเรียนที่ได้รับการยอมรับ ELC Sydney มีข้อตกลงในการประสานงานกับ สถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย ได้แก่

  • The University of Western Sydney
  • The University of Wollongong
  • The University of Newcastle
  • MEGT Institute
  • The Hotel School Sydney – Southern Cross University
  • SIBT – Sydney Institute of Business Technology
  • TAFE NSW
  • CQU – Central Queensland University
  • SCBIT – Sydney College of Business and IT
  • The Australasian College
  • Endeavour College of Natural Health
  • HOSTEC
  • The Sydney Film School
  • Kaplan Business School
  • ACCIT – Australian College of Commerce and IT


ELC มาเลเซียจะสร้างพันธมิตรกับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซียโดยให้บริการสอนภาษาแก่นักเรียนที่มีความสามารถภาษาอังกฤษยังไม่สูงพอที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้เช่นกัน

ELC Malaysia

  • เป็นแฟรนไชส์ (Franchise) ใหม่ เมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ELC International คือใช้หลักการเดียวกันได้แก่

– วิธีการสอนและเนื้อหา

– หลักเกณฑ์หลักสูตรและเกณฑ์การประเมิน

– ซอฟต์แวร์การจัดการนักเรียน รวมถึงการตรวจสอบความคืบหน้าทุกวันและการตอบสนองความคิดเห็นของนักเรียน

  • ได้รับการตรวจสอบจาก ELC International เพื่อให้แน่ใจว่ามีการรักษามาตรฐานการจัดส่งที่แน่นอน ผ่าน :

– การสนับสนุนและพัฒนาบุคลากร

– การตรวจสอบระยะยาวของการพัฒนาของโรงเรียน

  • การเตรียมพร้อมสำหรับการรับรองโดย NEAS
  • โรงเรียนใหม่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์
  • อยู่ใจกลางเมือง พร้อมความบันเทิงในกับนักเรียนอย่างยอดเยี่ยม
  • เทคโนโลยีและอุปกรณ์การเรียนในห้องเรียนมีคุณภาพสูง
  • มีห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด และ ห้องพักนักเรียน (Student Lounge)
  • ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักเรียน



ทำไมถึงเลือกเรียนที่ ELC

  1. เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลียที่ได้รับรางวัลมากที่สุด ELC ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติที่ชื่อว่า STM ดาวแห่งโรงเรียนสอนภาษาของซีกโลกใต้ (STM Star Language School Southern Hemisphere) ถึง 5 ครั้ง ระหว่างพ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2556 ซึ่งทำให้เราเป็น “ซุปเปอร์สตาร์ตลอดกาล” และดีที่สุดในประเทศออสเตรเลีย
  2. การผสมผสานระหว่างเชื้อชาติได้อย่างมหัศจรรย์

นักเรียน ELC มาจากกว่า 40 ประเทศที่แตกต่างกัน ทำให้นักเรียนจะต้องพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารเพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนจากทั่วโลก

  1. ครูที่ดีเยี่ยม นักเรียนของเรามีการประเมินครู ELC อย่างต่อเนื่องและครูมีผลการประเมินอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมเพราะครูทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาพร้อมทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน TESOL
  2. หลักสูตรที่มีคุณภาพที่หลากหลายที่ออกแบบเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคุณ โดยเรามีหลักสูตร ภาษาอังกฤษให้เลือกมากมายให้คุณเลือกและเพื่อให้คุณได้เรียนตรงกับความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
  3. การเรียนรู้และเทคโนโลยี นักศึกษาที่เรียนที่ ELC จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเนื่องจากโรงเรียนมีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดและใช้โปรแกรมภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพสูง
  4. เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยประเทศมาเลเซียโดยผ่านการสอบ IELTS หรือการสอบอื่น ๆ ที่เทียบเท่า โดยที่ปรึกษาของเราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับการเลือกมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซียหรือแม้กระทั่งประเทศออสเตรเลีย
  5. กิจกรรมเสริม ชมรม และหลักสูตรที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เรามีหลักสูตรที่น่าสนใจให้คุณเลือกเป็นพิเศษ มีกิจกรรมและชมรมทุกสัปดาห์เพื่อให้คุณสามารถทำในสิ่งที่คุณสนใจและได้ใช้ภาษาอังกฤษของคุณ
  6. เรามีที่พักที่ดีเยี่ยม ELC มีที่พักที่มีคุณภาพที่หลากหลายให้คุณเลือกเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณ รวมทั้งหอพักนักเรียนของเราเองที่ชื่อ “อพาร์ตเมนท์ ELC”
  7. สถานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ดีที่สุด โรงเรียนที่ทันสมัยของเราอยู่ในใจกลางกรุงในย่าน Golden Triangle กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มีการขนส่งทางรถไฟที่รวดเร็ว สะดวกสบายและเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่น่าตื่นเต้น
  8. เรียนรู้และได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย คุณจะได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับความหลากหลายของอาหาร การเฉลิมฉลองดนตรีและประเพณีจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันรวมกันอยู่ในประเทศนี้ประเทศเดียว ซึ่งนักศึกษาต่างชาติจะได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรจากเชื้อชาติที่หลากหลายอย่างแท้จริง


หลักสูตรที่เปิดสอน

Major Courses

  1. General English – Intensive General English
  2. Academic English – English For academic purposes (EAP)


Special Focus Modules (SFMs)

  1. IELTS
  2. Business English
  3. Grammar
  4. Speaking/ Listening / Vocabulary
  5. Writing
  6. One – to one tuition (Premium student)


English Extra

  1. Film Club
  2. Conversation club
  3. Study Sessions
  4. Sport
  5. Malaysian Cultural Studies
  6. Excursions, Social event & activities


ลักษณะการเรียนที่ ELC

นักเรียนจะได้เรียน

  1. Majors Course วันละ 3 ชั่วโมง
  2. SFMs วันละ 1 ชั่วโมง
  3. Extra English วันละ 1 ชั่วโมง

เรียนสัปดาห์ละ 5 วัน (จันทร์ – ศุกร์) รวมเป็น 25 ชั่วโมง ต่อ สัปดาห์


ELC Malaysia


บรรยากาศห้องเรียน


บรรยากาศห้องเรียน



กิจกรรมของ ELC

 


Malaysia Accommodation option

 


มีหลายที่ ให้นักเรียนได้เลือกพัก

  1. Titiwangsa Sentral


  1. Bougain Villa

 


  1. Taragon


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com

เรียนมัธยมศึกษา นานาชาติ มาเลเซีย ราคาไม่สูงอย่างที่คิด

jackz
27 Feb 2017
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, บทความน่ารู้, สถาบันการศึกษา
Comments: 0
Wadi Sofia International School

เรียนมัธยมศึกษา นานาชาติ มาเลเซีย ราคาไม่สูงอย่างที่คิด
Wadi Sofia International School สวรรค์แห่งการเรียนรู้


เมื่อกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติ หรือ International School หลายท่านก็รู้สึกได้ทันทีว่า หรูหรา ค่าใช้จ่ายสูง คงสู้ไม่ไหว อะไรประมาณนั้น ผมเองตอนแรกก็เป็นคนหนึ่งครับที่รู้สึกทำนองนี้ สาเหตุที่รู้สึกอย่างนั้นก็ไม่แปลกครับ ก่อนที่ผมจะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติยังประเทศมาเลเซีย ผมได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติที่ก่อตั้งหรือเปิดสอนอยู่ในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานความรู้ไว้ระดับหนึ่งรายละเอียดดังนี้ครับ

โรงเรียนนานาชาติเป็นความหวังของผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ต้องการให้บุตรหลานได้มีโอกาสเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับการเรียนภาคภาษาอังกฤษ เพราะไม่ว่าโลกปัจจุบันหรืออนาคตภาษาอังกฤษมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะภาษาอังกฤษจะเป็นประตูสู่โลกกว้าง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมีจำนวนมากและมีโรงเรียนเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยโดยทั่วไปจะใช้หลักสูตรโรงเรียนนานาชาติระบบต่างๆ เช่น ระบบอังกฤษ ระบบอเมริกัน ระบบสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน หรือ ออสเตรเลีย ระบบสิงคโปร์ ตลอดทั้ง ระบบ International Baccalaureate : IB เป็นต้น

โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมลฑล ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งธุรกิจที่สำคัญ รวมทั้งในต่างจังหวัดเมืองใหญ่ ที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย หาดใหญ่ เป็นต้น ดังนั้นการแข่งขันของแต่ละโรงเรียนจึงไม่เพียงแต่เรื่องของหลักสูตรนานาชาติ หรือระดับคุณภาพในการเรียนการสอนเท่านั้น แต่จะมีเรื่องความทันสมัยของอาคารสถานที่สิ่งปลูกสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม และฐานะทางสังคม และต้องยอมรับความจริงว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยยอมจ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าจองสิทธิ์การเรียน ค่าแรกเข้า ค่าประกันความเสียหาย ค่าอาหาร ค่ากิจกรรม ค่าที่พัก ค่าสอบวัดระดับความรู้ ค่าเล่าเรียนทั้งตามหลักสูตร และค่าเรียนปรับพื้นฐานเพิ่มเติม ฯลฯ

ผมได้ทำการสำรวจค่าใช้จ่ายของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 19 โรงเรียนเท่าที่พอจะหาข้อมูลได้โดยเน้นที่ระดับมัธยมศึกษา ขอสรุปรายการค่าใช้จ่ายดังนี้


ตารางที่ 1 แสดงรายการค่าใช้จ่ายโรงเรียนนานาชาติ ระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปี 2015-2016


สำหรับ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ที่มีความพร้อมในเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนกลุ่มนี้ครับ

อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ผมได้ทำหน้าที่แนะแนวการศึกษาต่างประเทศหลายปีต่อเนื่อง ได้รับการติดต่อขอคำแนะนำจากผู้ปกครองบ่อยครั้ง เช่นเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน นานาชาติในต่างประเทศ เช่นในประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งการเดินทางไปมาสะดวก ความเป็นอยู่ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นค่าครองชีพใกล้เคียงประเทศไทย อีกทั้งในบางช่วงเวลาค่าครองชีพจะถูกกว่าด้วยซ้ำ เพราะค่าเงินจากอัตราแลกเปลี่ยนของมาเลเซียนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองรู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลาเมื่อกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติ (International School) คือค่าใช้จ่ายต่อปี ซึ่งหลายท่านคงค้นหาข้อมูลค่าใช้จ่ายโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยไว้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบเช่นเดียวกับวิธีการที่ผมใช้อยู่ เช่นกันครับ

ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติหลายครั้ง แต่ที่ผมสนใจและขอแนะนำ ครั้งนี้คือ โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School ) ด้วยเหตุผลดังนี้

  1. โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School ) เป็นสถาบันในกลุ่มโรงเรียน

ของ Wadi Sofia College ซึ่งในกลุ่มนี้ จะมีสถาบันที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาหรือเตรียมอุดมศึกษา ตลอดจนหลักสูตรด้านการศึกษาและอบรมระยะสั้น รวบแล้ว จำนวน 5 โรงเรียน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sjworldedu.com/country/malaysia/wadi-sofia-international-school/)

  1. สถานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษชาติ ในเนื้อที่ 45 ไร่เศษ ห่างจากเมืองโกตาบารู เพียง 15 กิโลเมตรซึ่งเป็นเมืองหลวงที่สงบและสวยงามของรัฐกลันตัน โรงเรียนสะอาด ปลอดภัย มีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเดินทางได้ทั้งทาง รถยนต์ รถไฟ และทางเครื่องบิน


รูปที่ 1 สถานที่ตั้งของโรงเรียน Wadi Sofia International School


  1. ผู้บริหาร ของโรงเรียน ท่าน Datuk Hassan bin Harun ท่านเป็น Principal ของโรงเรียน ผู้ก่อตั้งโรงเรียน และอาจารย์ใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาภาคเอกชนของมาเลเซีย ผู้ให้การสนับสนุนการศึกษามาโดยตลอด เป็นสมาชิกที่ปรึกษาการศึกษาแห่งชาติของมาเลเซียตั้งแต่เริ่มอาชีพ ปี ค.ศ.1960 จนปัจจุบัน ท่านได้เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งและบริหารสถาบันเอกชนต่างๆหลายระดับในมาเลเซีย ผมได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนและรับฟังการบรรยายสรุป แนะนำโรงเรียนจากท่าน Datuk Hassan bin Harun โดยตรง รวมทั้งทีมงานบริหารของท่านด้วยความเป็นกันเอง และท่านได้สอดแทรกแง่มุมความคิดที่มีประโยชน์มาก ทำให้ผมได้เห็นความตั้งใจจริงของท่านในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ สำหรับนักเรียนในมาเลเซียและนักเรียนจากนานาชาติ


รูปที่ 2 เข้าพบผู้บริหาร และทีมงาน ของ Wadi Sofia International School


  1. มีชั้นเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ (หรือการเรียนปรับพื้นฐาน)

ทางโรงเรียนWadi Sofia International School โดย Wadi Sofia Center of Languages มีโปรแกรมหลักสูตรพิเศษสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่มีความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษยังไม่เพียงพอแต่มีความต้องการที่จะศึกษาในโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในมาเลเซีย จะต้องเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ เพื่อยกระดับความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษ เป็นการปรับพื้นก่อนเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ ปีที่ 4 ต่อไป โปรแกรมหลักสูตรพิเศษจะประกอบไปด้วย Junior Transition Class (JTC) และ Upper Transition Class (UTC) เพื่อให้มีความเข้าใจยิ่งขึ้นผมขอเขียนแผนภูมิ (Diagram) ประกอบการอธิบายดังนี้

4.1 กรณีจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

รูปที่ 3 แผนการเรียนหลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6


จากรูปที่ 3 จะเห็นว่านักเรียนไทยที่ต้องการจะศึกษาในโปรแกรม Junior Transition Class (JTC) จะต้องสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อายุประมาณ 11 ปี การเรียน JTC จะมีสาระสำคัญที่เข้มข้น (Intensive Program) เน้นในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวสำหรับเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง การเรียน JTC ใช้ระยะเวลาของหลักสูตร 8 เดือน จึงจะจบหลักสูตรนี้ จากนั้นนักเรียนจะต้องเข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ซึ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาปีที่ 4-5 มัธยมศึกษาตอนปลาย จนกระทั่งจบ IGCSE หรือ “O” Level โดย การเรียน JTC จะเริ่มเรียนในช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ของทุกปี วิชาที่ทำการสอนของโปรแกรมการเรียน JTC ประกอบด้วย

ก.ภาษาอังกฤษประกอบด้วย ทักษะการสื่อสาร หลักไวยากรณ์และการเขียน ทักษะการฟัง

การอ่านและทำความเข้าใจ

ข.วิชามาเลเซีย

ค.มาเลเซียนคดีศึกษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)

4.2 กรณีจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

รูปที่ 4 แผนการเรียนหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3


จากรูปที่ 4 นักเรียนที่ต้องการศึกษาในโปรแกรมนี้ จะต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี (ม.3) และมีอายุประมาณ 15 ปี UTC จะมีสาระสำคัญที่เข้มข้น

(Intensive Program) ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เรียนมีความสามารถในการเตรียมตัวที่จะเรียนในระดับมัธยมปลายสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดใช้ระยะเวลาเรียน 8 เดือน จากนั้นนักเรียนจะได้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5 ต่อเนื่องไปสู่ IGCSE หรือ “O” Level โปรแกรม UTC จะเริ่มเรียนในช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ของทุกปี วิชาที่ทำการสอนของโปรแกรมการเรียน UTC มีวิชาที่เปิดสอนคือ

ก.ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา

ข.ภาษาอังกฤษเพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค.วรรณคดีอังกฤษ

ง.ภาษามาเลเซีย

จ.มาเลเซียนคดีศึกษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)

( JTC และ UTC เป็นหลักสูตรที่สอนโดย Wadi Sofia Center of Languages :WaSCOL )

(5) สะดวกสบายและมีความยืดหยุ่น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมให้ความสนใจ เช่น

5.1 สามารถแบ่งจ่ายค่าเล่าเรียน เป็นรายเทอมได้ แทนที่จะจ่ายครั้งเดียวเป็นรายปีทำให้ไม่ เป็นภาระหนักสำหรับผู้ปกครองมากเกินไป อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่อปี ก็ไม่สูงเลยครับ รวมเบ็ดเสร็จ แล้วทั้งค่ามัดจำ ค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าต่างๆ ค่าเล่าเรียน และค่าที่พัก รวมอาหาร ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประมาณปีละ 230,000 บาทเศษ ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  ประมาณปีละ 240,000 บาทเศษ เป็นราคาปี 2016 คิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 RM : 8.50 บาท ค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นหากเทียบกับโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยบางโรง ยังไม่พอสำหรับ การจ่ายค่าจองสิทธิ์ (แปะเจี๊ย) เลยครับ

5.2 มีความชัดเจนในเรื่องชั้นเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ไม่ชำนาญด้านภาษาอังกฤษ หรือการเรียนปรับพื้นฐาน ตามโปรแกรมการเรียน JTC และ UTC ตามที่กล่าวข้างต้นนั่นเอง

5.3 หอพักจะแยกอาคาร ชาย – หญิง และ นักเรียนจะพักรวมกันห้องละ 2 คน เท่านั้นทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และง่ายต่อการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน สะอาด สะดวก มี อาจารย์ควบคุมตลอด24 ชั่วโมง


รูปที่ 5 หอพัก (Hostel) ภายในโรงเรียน แยก ชาย–หญิง และพักห้องละ 2 คน


5.4 มีความอบอุ่น เนื่องจาก ครู และผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนทำให้มีความใกล้ชิด และดูแลนักเรียนเสมือนลูกหลานตนเอง

5.5 ขนาดของห้องเรียน มีนักเรียนไม่เกินห้องละ 20 คน ห้องเรียนมีระบบปรับอากาศ

รูปที่ 6 ห้องเรียน (Class Room)


5.6 มีห้องปฏิบัติการ ทดลองวิทยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องปฏิบัติการทางภาษา  เป็นสัดส่วน

รูปที่ 7 ห้องปฏิบัติการทดลองวิทยาศาสตร์


5.7 มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะมีนักเรียนจากหลายประเทศ ทั้งจากยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง จีน และ เกาหลี

5.8 ส่งเสริมด้าน กีฬา หลากหลายชนิด อาทิ ฟุตบอล บาสเก็ตบอล เนตบอล วอลเล่ย์บอลแบดมินตัน ปิงปอง กรีฑา และ เทควันโด


รูปที่ 8 ส่งเสริมด้านการกีฬา


5.9 บริการอื่นๆ เช่นบริการซักรีด

รูปที่ 9 บริการซักรีด


5.9 ความมีชื่อเสียงและได้รับการยกย่อง กล่าวคือ โรงเรียนวาดิโซเฟียได้รับคัดเลือกจาก มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ลงบันทึกในหนังสือ “คู่มือสู่ความเป็นเลิศ” เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน

ฉบับปี 2556 : สวรรค์แห่งการเรียนรู้ ฉบับปี 2557 : หนังสือสำหรับเพิ่มเติมความรู้

ฉบับปี 2558 : หนังสือเกี่ยวกับความเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ และ นวัตกรรมการ เปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ

มาถึงตอนนี้ หลายท่านอาจมีความสนใจและต้องการทราบกำหนด เปิด–ปิดภาคเรียน และจำนวนภาคเรียนต่อปี ผมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ ตามปฏิทินการศึกษาของโรงเรียน กำหนด 2 ภาคเรียนต่อปี ภาคเรียนที่ 1 และ 2 รายละเอียดตามตารางที่ 2 และ 3 ตามลำดับครับ อย่างไรก็ตามนักเรียนสามารถเข้าเรียนปรับพื้นตามโปรแกรม JTC สำหรับมัธยมศึกษาตอนต้น  และ UTC สำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ตั้งแต่ เดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ครับ

ตารางที่ 2 กำหนดเปิด–ปิด ภาคเรียนที่ 1


ตารางที่ 3 กำหนดเปิด–ปิด ภาคเรียนที่ 2


สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร

โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

ผู้เขียน :
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วทม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

http://www.bankumka.com
http://www.pantip.com
http://www.wadisofia.edu.my
Photo albums of Wadi Sofia International School
Wadi Sofia International School Prospectus


แนะนำสถาบัน Wadi Sofia International School

jackz
10 Feb 2017
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา
Comments: 0
Wadi Sofia International School

แนะนำสถาบัน RGIT

jackz
14 Dec 2016
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Australia, สถาบันการศึกษา
Comments: 0
AUSTRALIA INSTITUTE, RGIT, สถาบันการศึกษาออสเตรเลีย, เรียนต่อ

แนะนำสถาบัน RGIT

RGIT CRICOS Code : 030029 , National Provider No. : 22088 , ABN : 68127999160



สถาบัน RGIT หนึ่งในผู้นำการศึกษา ด้านอาชีวศึกษาและ วิทยาลัยการฝึกอบรม ประเทศออสเตรเลีย มีหลักสูตรการศึกษามากมายให้กับนักเรียนทั้งในท้องถิ่นและต่างประเทศ จากการฝึกงาน และหลักสูตรระยะสั้นเพื่อให้ได้ใบรับรองอนุปริญญาและประกาศนียบัตรขั้นสูง


วิทยาเขต

RGIT มีด้วยกัน 3 วิทยาเขตตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองเมลเบิร์นและโฮบาร์ต เพื่อให้ความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับนักเรียน RGIT

ปี 2014 เรา ได้เปิดวิทยาเขตใหม่ในโฮบาร์ต รัฐทัสมาเนีย (Tasmania)

ปี 2015 เราเปิดวิทยาเขตที่ 2 ในเมลเบิร์น เพื่อรองรับนักเรียนที่เพิ่มขึ้น

ในฐานะที่เป็นนักเรียนของ RGIT คุณจะได้รับการฝึกอบรมที่มีคุณภาพและความรู้หรือประสบการณ์ในอุตสาหกรรม สถาบันจะจัดให้คุณมีทักษะที่จำเป็นในการเริ่มดำเนินการในสายอาชีพที่คุณต้องการ เมื่อจบการศึกษาจาก RGIT ประเทศออสเตรเลีย แล้ว คุณอาจจะมีโอกาสได้ลงพื้นที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายที่เรียนมาหรือเข้ารับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษากับสถาบันที่เป็นพันธมิตรกับสถาบัน


หลักสูตรที่เปิดสอน


1. General English Course

  • เรียนกับอาจารย์ผู้สอนที่เป็นเจ้าของภาษา เช่น British, Australian คละเชื้อชาติในชั้น เช่น จีน ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม อื่นๆ
  • ระดับการสอน Elementary to Upper Intermediate
  • เรียน 3 วันต่ออาทิตย์ (วันจันทร์, อังคาร, พุธ) เวลา 9.00 am – 4.30 pm
  • การสอนเน้นฝึก 4 ทักษะในภาษาอังกฤษ อาทิ
  • ไวยากรณ์ (Grammar) และ การพัฒนาคำศัพท์
  • ฝึกอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อต่าง ๆ
  • ฝึกทักษะและความมั่นใจในการสนทนาเป็นภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่าง ๆ การสนทนากลุ่ม และ การออกความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษ
  • ฝึกทักษะการเขียน เช่น แผนอนาคต และ เล่าเรื่องเหตุการณ์ในอดีต
  • เรียนรูปแบบการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมของชาวออสเตรเลีย
  • รับนักเรียนใหม่ทุกวันจันทร์ ขั้นต่ำ 4 สัปดาห์ ถึง 52 สัปดาห์


2. VET Courses

  • Business and Management สาขาการบริหาร และ การจัดการ
  • Accounting สาขาการบัญชี
  • Information Technology สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • Hospitality Operation สาขาบริหารการโรงแรม
  • Commercial Cookery สาขาการทำอาหาร



3. Short Course

  • Responsible service of Alcohol
  • Food Handlers (Food Safety Level 1)
  • Food Safety Supervisors (Food Safety Level 1 & 2)
  • Barista Coffee Course
  • Coffee Art Course
  • Bartending



เหตุผลในการเลือก RGIT

  • อยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น
  • ง่ายต่อการเดินทาง ถึงแม้นักเรียนอยู่ต่างเมือง เพราะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟ และ รถราง
  • คุณภาพการสอนที่ได้มาตรฐาน รวมทั้ง ผู้สอนมีประสบการณ์โดยตรงทางด้านวิชาที่สอน
  • ค่าเรียนไม่แพง และ นักเรียนสามารถทำการผ่อนชำระค่าเรียนได้
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนและการสอนครบครัน เช่น ห้องสมุด, ห้องคอมพิวเตอร์ และ ครัวอยู่ในคอลเลจ
  • นักเรียนจากหลากหลายเชื้อชาติในชั้น เช่น จีน เกาหลี ยุโรป เวียดนาม และ อื่น ๆ
  • การเรียนการสอนที่ยืดหยุ่น
  • โอกาสในการได้งาน เพราะ RGIT ช่วยแนะนำนักเรียนให้กับผู้จ้างงานในสาขาวิชาที่เรียน หรือ ทางคอลเลจรับนักเรียนเข้าทำงานระหว่างเรียน หรือ จบการศึกษา
  • มีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้กับปรึกษาและดูแลตลอดการเรียนที่สถาบัน


การให้บริการนักเรียนระหว่างเรียน

  • ให้ความช่วยเหลือนักเรียนระหว่างเรียน เช่น วางแผนการเรียน และ การผ่อนชำระค่าเรียน
  • ให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน และ การใช้ชีวิตในเมลเบิร์น
  • ช่วยหาที่พักอาศัย
  • ช่วยเหลือเรื่องการทำประกันสุขภาพของนักเรียน
  • มีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้คำปรึกษา
  • มีโครงการทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน
  • ช่วยแนะนำเรื่องการหางานให้กับนักเรียนที่ต้องการทำงาน Part Time หรือ หลังจากจบการศึกษา


สิ่งอำนวยความสะดวกใน College



บรรยากาศในห้องเรียน และ การเรียนนอกสถานที่



ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com


(Thai) การเตรียมความพร้อมเพื่อศึกษาต่อมัธยมศึกษาประเทศ มาเลเซีย และ สิงคโปร์

jackz
23 Jun 2016
หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

Sorry, this entry is only available in Thai.

(Thai) ระบบการศึกษาประเทศสหรัฐอเมริกา

jackz
02 May 2016
U.S.A.,
Comments: 0
U.S.A, Unite States of America, อเมริกา, เรียนต่ออเมริกา

Sorry, this entry is only available in Thai.

(Thai) แนะนำสถาบัน SENTRAL COLLEGE PENANG

jackz
02 May 2016
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา
Comments: 0
Malaysia, Penang, Sentral College, ปีนัง, มาเลเซีย, เรียนต่อมาเลเซีย, แนะนำสถาบัน, ไปเรียนมาเลเซีย

Sorry, this entry is only available in Thai.

(Thai) ระบบการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์

jackz
29 Mar 2016
New Zealand, เกี่ยวกับประเทศนิวซีแลนด์
Comments: 0
นิวซีแลนด์

Sorry, this entry is only available in Thai.

โครงการ Study and Work in Australia

jackz
28 Jan 2016
[หน้าแรก] หลักสูตร, Australia, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0
Study and Work in Australia

โครงการ Study and Work in Australia

รูปภาพ1


ผู้รับผิดชอบโครงการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด

ระยะเวลาดำเนินการ เรียนภาษาอังกฤษ หรือ วิชาชีพ เริ่มต้นที่ 24 Weeks


หลักการและเหตุผล

ปัจจุบันการเรียนภาษาอังกฤษ และ วิชาชีพ ด้านต่าง ๆ ในต่างประเทศ กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และ มีการกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทำงาน (Working Language) ของประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การเรียนภาษาอังกฤษและวิชาชีพด้านต่าง ๆ ในต่างประเทศจะทำให้ผู้เรียนได้เรียนกับผู้สอนซึ่งเป็นเจ้าของภาษา ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันในสถานการณ์จริง รวมทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายควบคู่ไปด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเสริมให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนทั้งสิ้น

ประเทศออสเตรเลียมีคุณภาพการจัดการศึกษาสูง เป็นประเทศที่มีความปลอดภัย และเป็นเมืองน่าอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลกจากผลการสำรวจหลายปีต่อเนื่อง นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียน (Student Visa) ที่เข้าไปศึกษายังประเทศออสเตรเลีย ได้สิทธิ์ในการใช้เวลาว่างจากการเรียนเพื่อทำงาน part time อย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย โดยเฉลี่ยแล้ว 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งการทำงานจะทำให้มีรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการครองชีพในระหว่างการศึกษา และได้ฝึกความขยัน อดทน และ ความมีวินัย จากประสบการณ์ในการทำงานอีกทางหนึ่งด้วย อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถทำงาน Part time ได้เนื่องจากเวลาว่างจากการเรียนมีไม่เพียงพอ เพราะจำนวนวันที่เรียนต่อสัปดาห์ ไม่เอื้ออำนวย

ดังนั้น บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด จึงได้จัดทำโครงการ Study and Work in Australia ขึ้นโดยความร่วมมือกับ Queens College ในการจัดหลักสูตรและตารางเวลาการเรียนให้มีเวลาว่างมากพอที่จะทำงาน Part time ได้และมี Promotion ค่าเรียนสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ


วัตถุประสงค์

  1. พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร หรือ เรียนวิชาชีพต่าง ๆ ตามที่ผู้เรียนสนใจ
  2. เรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่หลากหลาย
  3. เพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนในต่างประเทศ
  4. สร้างประสบการณ์การใช้เวลาว่างจากการเรียนจากการเรียนควบคู่ไปกับการทำงานในต่างประเทศ
  5. มีรายได้จากการทำงานเพื่อค่าใช้จ่ายสำหรับค่าครองชีพระหว่างศึกษาในออสเตรเลีย


ผู้เข้าร่วมโครงการ

ผู้สนใจร่วมโครงการอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีทักษะภาษาอังกฤษและ คุณวุฒิสอดคล้องตามที่หลักสูตรและสถาบัน ฯ ในโครงการกำหนด


ระยะเวลาการดำเนินโครงการ

เริ่มต้นที่ 24 สัปดาห์ กำหนดวันเปิด – ปิดของแต่ละ หลักสูตร เป็นไปตามที่สถาบัน ฯ ในโครงการกำหนด


สถาบันการศึกษาในโครงการ

  1. Oxford House College 
  2. Evolution Hospitality Institute 
  3. Languages Across Borders  (LAB)

หมายเหตุ   การเลือกสถาบันขึ้นอยู่กับเมืองที่นักเรียนต้องการไปเรียน


รายละเอียดของโครงการ

  1. ภาษาอังกฤษ : General English เรียน 4 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์ – พฤหัสบดี)

  2. วิชาชีพ : Certificate, Diploma, Advanced Diploma เรียน 1วัน ต่อสัปดาห์

  3. การสมัครงาน Part time ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องแสวงหาด้วยตนเองจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น website สิ่งโฆษณาประชาสัมพันธ์การสมัครงาน เพื่อนร่วมชั้นเรียน หรือ ฝ่ายสนับสนุนนักเรียนต่างชาติ (International student Support) ของสถาบันในโครงการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด จะดำเนินการในส่วนของการแนะนำหลักสูตรและสถาบัน เพื่อเอื้ออำนวยให้มีเวลาเพียงพอต่อการทำงาน
  4. รายละเอียด ค่าใช้จ่าย ระยะเวลาเรียนกำหนดวันเริ่มเรียน – วันจบหลักสูตร การสมัครยื่นขอวีซ่านักเรียน การรับที่สนามบิน ที่พัก และ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัท ฯ จะนำเสนอเป็นแต่ละกรณีหลังจากผู้สนใจติดต่อสอบถามและให้ข้อมูลประกอบแล้ว


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. สามารถฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงและสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ในชีวิตประจำวัน
  2. สามารถเรียนรู้วิชาชีพตามที่สนใจ ควบคู่ไปกับทักษะด้านภาษา วัฒนธรรมที่หลากหลาย
  3. ได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ
  4. ได้รับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ
  5. ได้รับรายได้เพื่อประโยชน์เป็นค่าครองชีพระหว่างเรียน


สนใจติดต่อ

บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทร 077 287 111, 08 5791 9111
E-mail: [email protected]
Line ID: Somnoek


แนะนำสถาบัน Columbia West College

jackz
27 Jan 2016
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, U.S.A., สถาบันการศึกษา
Comments: 0
U.S.A

สถาบัน Columbia West College

LOGO1


เมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษที่ Columbia West College คุณไม่ได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนเท่านั้น แต่คุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา Columbia West College ได้ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้นักเรียนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของพวกเขาเป็นเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้ว



รูปภาพ1

ทางสถาบันของเราได้รับการรับรองโดย Accrediting Council For Continuing Education & Training (ACCET) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการรับรองวิทยฐานะระดับประเทศ ได้รับการยอมรับจากองค์กรการศึกษา The California Bureau for Private Postsecondary Education (BPPE) และได้รับการรับรองจาก SEVIS ทางสถาบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม ผู้สอนที่ทรงคุณวุฒิ เจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอ การบริการนักเรียนที่ดีเยี่ยม มีสถาบันการศึกษาต่อที่เป็นพันธมิตรกับเรามากมาย มีนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติและมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณกำลังมองหาในโรงเรียนสอนภาษา


นอกจากนี้ทางสถาบันของเรายังตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางไปยังสถานทีสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็น Hollywood ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาที 20 นาทีจาก Beverly Hills สามารถไปเที่ยวชมวิวทะเลที่ Santa Monica ภายใน 30 นาทีและสามารถไปเล่นสกีหรือ สโนว์บอร์ดที่ Big Bear โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง สิ่งที่ Columbia West College แตกต่างจากสถาบันอื่น ๆ คือความรับผิดชอบต่อความสำเร็จของคุณ ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นการได้ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้น เข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาหรือแค่เพื่อพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วก็ตาม พวกเราต้องการช่วยเหลือคุณในทุกย่างก้าวจนไปถึงเป้าหมายที่คุณได้ตั้งเอาไว้ เดินทางมาสัมผัสลอสเองเจริส แคลิฟอร์เนียเมืองแห่งแสงแดด มาเรียนที่ Columbia West College สถาบันที่เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่งของคุณ


Why Choose CWC ?

  1. การเรียนการสอน การเรียนการสอนที่มีเนื้อหาครอบคลุม ทั้งด้านของหลักไวยากรณ์ การอ่านการเขียน และการฟังการพูดซึ่งขึ้นอยู่กับผลการทดสอบของแต่ละวิชาเมื่อนักเรียนมาถึง ซึ่งนักเรียนอาจเรียนแล้วแตกต่างกันในแต่ละวิชา หลักสูตรนี้ทำให้นักเรียนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว
  2. ครูผู้สอน ครูทุกท่านของทางสถาบันเป็นเจ้าของภาษาซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและมีประสบการณ์การสอนนักเรียนมาแล้วซึ่งจากคุณวุฒิเหล่านี้ทำให้นักเรียนมั่นใจถึงคุณภาพการสอนได้
  3. ค่าเล่าเรียน ค่าเล่าเรียนที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพของสถาบันและการดูแลให้บริการนักเรียนอย่างดีเยี่ยม
  4. กิจกรรมที่หลากหลาย ทางสถาบันจัดกิจกรรมทั้งทางด้านสังคมและวัฒนธรรม กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมชาวอเมริกันอีกด้วย
  5. LA : สถานที่เรียนและท่องเที่ยวยอดเยี่ยม อากาศดี มีชายหาดสวยงาม ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมนักเรียนจึงเลือกมาเรียนลอสแอลเจริส สถาบัน Columbia West College ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากชายหาด ใกล้แหล่งบันเทิงและพิพิธภัณฑ์ เดินทางสะดวก เพราะอยู่ใกล้ฟรีเวย์สายหลัก มาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองว่าทำไมจึงขนานนาม LA ว่าเป็นศูนย์กลางความบันเทิงโลก


Program

  1. Intensive ESL จากทักษะที่นักเรียนได้เรียนไปในโปรแกรม Standard และ Semi – Intensive นักเรียนจะได้รับการพัฒนาทักษะต่าง ๆ เพิ่มเติม โดยสามารถคาดหวังสิ่งที่ได้รับในการเรียนโปรแกรมนี้ในแต่ละวันได้ นักเรียนจะได้เรียนโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่ซับซ้อนขึ้น พัฒนาทักษะด้านการฟังและการพูด การอ่านและการเขียนให้ดีขึ้นเพื่อใช้ในการพูดสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้นักเรียนยังได้เรียนการใช้สำนวน คำสแลง การออกเสียง การเน้นคำและทักษะการเสนอรายงานอีกด้วย
  2. Standard ESL โปรแกรมนี้นักเรียนจะได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในชั้นเรียนโดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งโครงสร้างหลักไวยากรณ์ การอ่าน การเขียน การฟังและการพูดในบรรยากาศการเรียนการสอนที่เป็นไปอย่างผ่อนคลายและเป็นกันเองเพื่อให้นักเรียนแต่ละคนได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  3. Semi – Intensive ESL เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนที่เพิ่มทักษะความรู้ภาษาอังกฤษจากโปรแกรม Standard ESL นักเรียนโปรแกรม Semi – Intensive จะได้รับโอกาสพัฒนาการพูด คำศัพท์ การสื่อสารในชีวิตประจำวันและทักษะการเสนอรายงาน
  4. Conversation โปรแกรมนี้จะช่วยนักเรียนพัฒนาทักษะการสนทนาภาษาอังกฤษด้วยคำศัพท์ที่หลากหลายพร้อมกับประโยคสนทนาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการเสนอรายงาน การออกเสียง และการเน้นคำ
  5. TOEFL หลักสูตร TOEFL ได้มีการจัดเตรียมการทดสอบที่ครอบคลุมเพื่อสร้างทักษะและกลยุทธ์ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ TOEFL iBT ในชั้นเรียนจะประกอบไปด้วยคำถามและแบบฝึกหัดของ TOEFL iBT


Activities

Columbia West College มีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมายเตรียมไว้ให้นักเรียนทุกเดือน โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน กิจกรรมที่ผ่านมาประกอบด้วย การโยนโบว์ลิ่ง ไปเที่ยวทะเล เล่นสเก็ตน้ำแข็ง ดูภาพยนตร์ ไปชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ The natural History Museum, The Museum of Tolerance, Olvera Street, Downtown LA’s Artwalk กิจกรรมรับประทานอาหารร่วมกันทุกเดือนและไปเที่ยวที่ Yosemite และ San Francisco


Student Services

Columbia West College มีบริการสำหรับนักเรียนดังต่อไปนี้

  1. บริการช่วยจัดหาที่พัก
  2. หารปฐมนิเทศนักเรียนใหม่
  3. กิจกรรมการเรียนรู้ทางด้านสังคมและวัฒนธรรม
  4. แนะนำเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง
  5. มีบริการสอนฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย
  6. ฟรีกิจกรรมรายเดือนและทบทวนการสอบ
  7. การให้คำปรึกษาส่วนบุคคลที่ไม่เป็นทางการ (CWC ไม่ให้บริการให้คำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ)
  8. ฟรีอินเตอร์เน็ต
  9. รางวัลนักเรียนดีเด่นประจำเดือน
  10. จดหมายเหตุแจ้งนักเรียน
  11. ห้องคอมพิวเตอร์และห้องสมุด
  12. ห้องพักนักเรียน
  13. บริการรับส่งสนามบิน (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
  14. บริการออกใบรับรอง รับบัตรลดค่าโดยสารสาธารณะ


หลักสูตรระยะยาว

ศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยโดยหลักสูตรระยะยาวจาก CWC ด้วยคุณภาพการเรียนการสอนของ CWC นักเรียนจะสามารถเลือกเข้าเรียนกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรหลังจากสำเร็จการศึกษา โดยไม่ต้องอาศัยคะแนน TOELE/IELTS

หลักสูตร 4 ปี นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลังจากสำเร็จการศึกษาจาก CWC ในระดับ 5 หรือ 6

  1. California State University, Channel Island
  2. Carroll College
  3. Colby-Sawyer College
  4. Humboldt State University
  5. Salisbury University
  6. University of Nevada, Reno
  7. West Texas A&M University


หลักสูตร 2 ปี นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในวิทยาลัยหลังจากสำเร็จการศึกษาจาก CWC ในระดับ 5 หรือ 6

  1. Angeles College
  2. EI Camino College
  3. Glendale Community College
  4. Los Angeles Southwest College
  5. Santa Monica College
  6. San Mateo County Community College District


ESL + Hospitality and Tourism Management

Certificate + Paid Internship Program

เรียนภาษาอังกฤษพร้อมได้ใบรับรองในหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ และ ประสบการณ์ในการฝึกงาน 12 เดือน

อย่าพลาดกับโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อความก้าวหน้าในสาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ นักเรียนสามารถเข้าเรียนคอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน (ELS) ที่ Columbia West College ในมหานครลอสแองเจอลิสและศึกษาต่อในสาขาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ (Hospitality and Tourism Management) ที่ Vatel/CIBU ที่เมืองซานดิเอโก ทั้งยังได้ฝึกงานในสาขาอาชีพในฝันอีกด้วย

*สำหรับใบรับรองคอร์ส ESL และใบรับรองสาขา Hospitality and Tourism Management จะได้รับเมื่อสำเร็จการศึกษาจากสถาบันนั้น ๆ เท่านั้น


ตารางเรียน

CropperCapture[388]


ค่าธรรมเนียม CWC

ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเรียนสามารถดูรายละเอียดได้ในตารางค่าธรรมเนียม


ค่าธรรมเนียม Vatel/CIBU : $11,750

  • หลักสูตรประกาศนียบัตรสาขาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม
  • ฝึกงานโดยได้รับค่าจ้างเป็นระยะเวลา 12 เดือน
  • และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย กรุณาดูหน้า 2 สำหรับรายละเอียดทั้งหมด


วันเริ่มต้นหลักสูตรในปี 2558 และ 2559

  • 24 กันยายน 2558
  • 1 กุมภาพันธ์ 2559
  • 29 สิงหาคม 2559


เกี่ยวกับ CWC

CWC ตั้งอยู่ในนครลอจแองเจลิส มีความโดดเด่นในด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมีคุณครูที่มีประสบการณ์และความทุ่มเท มีบุคลากรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน มีนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ CWC มีความร่วมมือที่ดีกับสถาบันการศึกษาขั้นสูงหลายแห่ง และ มีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่คุณกำลังมองหาในโรงเรียนสอนภาษา ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอย่างไร เรามีความยินดีที่จะสนับสนุนเพื่อให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จ


เกี่ยวกับ Vatel/CIBU

Vatel เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำในสาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการกับอีก 30 โรงเรียนทั่วโลก CIBU เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยธุรกิจเอกชนไม่กี่แห่งที่ได้รับการรับรองระดับชาติในสหรัฐอเมริกา เป้าหมายของมหาวิทยาลัยคือการสร้างบัณฑิตด้านการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Vatel/CIBU มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในด้านการเรียนการสอน มีความร่วมมือที่ดีกับผู้นำในอุตสาหกรรมการบริการ สั่งสมประสบการณ์มากมายเพื่อเป็นที่ประจักษ์ในนานาชาติ


ผลประโยชน์จากโครงการ

  1. ศึกษาในโปรแกรมภาษาอังกฤษพื้นฐาน (Standard ESL) หรือ ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ (Business English) และได้รับใบรับรองการสำเร็จหลักสูตร (เมื่อจบหลักสูตรอย่างสมบูรณ์) นักเรียนจะมีความสามารถเพียงพอที่จะศึกษาต่อในหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ
  2. ศึกษาในหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการเป็นระยะเวลา 9 เดือนและได้รับใบรับรองการสำเร็จหลักสูตร (เมื่อสำเร็จหลักสูตรอย่างสมบูรณ์) นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการการจัดการการท่องเที่ยวและโรงแรมที่เน้นความสำคัญในการบริการลูกค้าและการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ
  3. หลักสูตรพัฒนาอาชีพ 10 สัปดาห์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ นักเรียนจะได้รับทักษะที่สำคัญในการค้นหาอาชีพในระยะยาว เช่น การสร้างเอกสารสมัครงาน (Resume) การสร้างความสัมพันธ์ในทางธุรกิจ (Networking) และประสบความสำเร็จในการให้สัมภาษณ์
  4. ให้ความช่วยเหลือด้านการฝึกงาน ตัวเลือก A ด้วยความช่วยเหลือและคำแนะนำจากอาจารย์ผู้สอนในหลักสูตรพัฒนาอาชีพ นักเรียนจะสามารถหาที่ฝึกงานโดยใช้ความรู้ที่ได้รับจากหลักสูตรพัฒนาอาชีพ หรือ ตัวเลือก B นักเรียนสามารถใช้ประโยชน์จากความช่วยเหลือด้านการฝึกงานจาก Vatel ผ่าน ITN (www.inernationaltrainee.com) ซึ่งเป็นองค์กรอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมการโรงแรมและภัตตาคารในสหรัฐอเมริกาด้วยความเหลือของ ITN นักเรียนจะสามารถได้ร่วมงานกับพันธมิตรระดับ 4 ดาว หรือ 5 ดาวของ Vatel
  1. ฝึกงานโดยได้รับค่าจ้างในสาขาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการเป็นระยะเวลา 12 เดือนและได้รับใบรับรองการฝึกงาน (เมื่อจบหลักสูตรอย่างสมบูรณ์) ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ผ่านการฝึกงานจริง
  2. ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในเรื่องที่พักอาศัยในระหว่างการฝึกงาน


ขั้นตอน การเข้าร่วมโครงการเรียนภาษาอังกฤษพร้อมได้ใบรับรองในหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ และได้รับประสบการณ์ในการฝึกงานนั้นไม่ยากเพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. สมัครเข้าร่วมโครงการ
  2. ดำเนินการเรื่องวีซ่านักเรียน F-1
  3. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์วีซ่า
  4. สัมภาษณ์วีซ่า
  5. ยินดีด้วย วีซ่าผ่าน ซื้อตั๋วเครื่องบิน (ถ้าไม่ผ่านการสัมภาษณ์วีซ่าให้ขอเอกสาร I-20 อีกครั้งและทำตามขั้นตอน 2-4 ใหม่อีกครั้ง
  6. เดินทางมาอเมริกา
  7. เรียนที CWC (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตร)
  8. เรียนต่อที่ Vatel/CIBU (9 เดือน)
  9. ฝึกงานโดยได้รับค่าจ้าง (12 เดือน)








บรรยากาศห้องเรียน และ กิจกรรม












คลิปนักเรียนไทยที่เรียน ณ สถาบัน Columbia West College



รูปภาพ 8

การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com


ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ

jackz
10 Jul 2015
England, เกี่ยวกับประเทศอังกฤษ
Comments: 0
education system, Global Education System, UK, United Kingdom, World Wide Education System, ประเทศอังกฤษ, ระบบการศึกษา

ระบบการศึกษาในประเทศ สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

 

ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษมีการพัฒนามากกว่าร้อยปีเพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดี การศึกษาภาคบังคับในประเทศอังกฤษเริ่มตั้งแต่อายุ 5 – 16 ปี ระบบการศึกษาแบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกันดังนี้

1. ระดับประถม เริ่มตั้งแต่อายุ 5 – 13 ปี โดยการเรียนการสอนในระดับนี้จะเน้นของเรื่องทักษะทางด้านการเขียน และทักษะด้านตัวเลข เพื่อพัฒนาเด็กให้มีความรู้ ความสามารถตามวัย โดยระดับประถมจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือ

1.1 เตรียมประถม (Pre –Preparatory School) รับนักเรียนตั้งแต่อายุ 5 – 7 ปี
1.2 ประถมศึกษา ( Preparatory School) รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 8 – 13 ปี


2. ระดับมัธยมศึกษา เริ่มตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 18 – 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษา 5 ปี เรียกว่า Year 9 –Year 13 หรือ Form 3 – Form 6 (สำหรับโรงเรียนที่เรียกระดับชั้นเป็น Form) สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมของเอกชนเท่านั้น นักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ และ ความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการสมัครเข้าระดับอุดมศึกษาต่อไป ทังนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ และวิทยาศาสตร์ของอังกฤษเป็นผู้กำหนด โดยการสอบจะจัดโดยคณะกรรมาธิการอิสระซึ่งมี 5 คณะ แบ่งการสอบเป็น 2 ประเภทคือ

2.1 GCSE (General Certificate of Secondary Education) การสอบระดับนี้ จะสอบเมื่อนักเรียนมีอายุประมาณ 6 ปีขึ้นไป นักเรียนเลือกสอบประมาณ 6 – 10 วิชาเช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งออกเป็น 7 ระดับ คือ A, B, C, D, E, F, G ผู้ที่สอบได้ เกรด C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ GCSE ได้แล้ว (อย่างน้อย 5 วิชา) จะต้องเรียนต่ออีก 2 ปีในระดับ A Level (Advanced Level) หรือ The International Baccalaureate (IB) Diploma จึงจะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้

2.2 GCE A Level (GCE Advanced) หรือที่รู้จักในนาม Sixth Form Colleges โดยการสอบระดับนี้จะต้องเรียนก่อนประมาณ 2 ปีและมีการสอบปลายปีในแต่ละปีการศึกษา A Level เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถทางวิชาการของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีวิชาให้เลือก 50 กว่าวิชา ส่วนใหญ่นักเรียนจะเลือกเพียง 2 – 4 วิชา ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร หรือ สาขาที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี โดยผลสอบ A Level จะมีด้วยกัน 5 ระดับ คือ A, B, C, D, E เกรดที่ได้ทั้ง 5 ระดับ ถือว่าผ่านหมด แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่พิจารณารับผู้ที่มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป บางแห่งอาจรับเฉพาะผู้ที่ได้เกรด A และ B


        2.3 IB (The International of Baccalaureate (IB) Diploma) เป็นประกาศนียบัตรทางด้านวิชาการระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอายุระหว่าง 16 – 19 ปี ให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในทุกประเทศ หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเข้มข้นใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี จะประกอบไปด้วย 6 วิชาหลัก ๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาที่สอง(อาจเลือกเรียนภาษาตนเองก็ได้) วิทยาศาสตร์เชิงทดลอง ศิลปะ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมกีฬา และงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอีกด้วย แก่นของหลักสูตรนี้สามารถแบ่งออกได้ 3 องค์ประกอบใหญ่ ๆ ได้แก่

2.3.1 การเขียนเรียงความอย่างมีประสิทธิภาพ – จะมีการสอยเขียนเรียงความมากถึง 4,000 คำต่อ หนึ่งเรื่อง ในหัวข้อที่นักเรียนสนใจ
2.3.2 ทฤษฎีการเรียนรู้ –ประยุกต์ใช้ปรัชญาความเข้าใจ และธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียนเข้าไปในหลักสูตรและบทเรียน
2.3.3 ความคิดสร้างสรรค์ การลงมือทำ และการให้บริการ – ได้ถูกบรรจุอยู่ในชั้นเรียนต่าง ๆ ในหลักสูตร อาทิเช่น ศิลปะ กีฬา และอาสาพัฒนาชุมชน

นักเรียนจะเลือกเรียนหนึ่งวิชาจากแต่ละกลุ่มวิชา รวมเป็น 6 วิชา โดยปกติ 3 วิชาจะอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่าอีก 3 วิชา ซึ่งจะเรียนในระดับมาตรฐาน หลักการเรียนรู้ทั้ง 3 ส่วน เป็นภาคบังคับของหลักสูตร และเป็นหลักปรัชญาของหลักสูตรนี้


3. ระดับอาชีวศึกษา(Further Education)

เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งไม่ประสงค์จะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา หรือผู้ที่ไม่มีคุณวุฒิ GCSE แต่ประสงค์จะมีคุณวุฒิทางวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ สถาบันการศึกษาด้านอาชีวศึกษานี้มีทั้งของรัฐบาลและของเอกชน

3.1 สถาบันอาชีวศึกษาของรัฐบาล

มีประมาณ 500 แห่ง เปิดสอนหลักสูตรต่าง ๆ ได้แก่ บริหารธุรกิจ การโรงแรม การเกษตร วิศวกรรม ช่างเทคนิค ฯลฯ

3.1.1 Higher National Certificate / Diploma (HNC/HND) เป็นการศึกษาในระดับสูงสุดของอาชีวศึกษา หลักสูตร 2 ปี ซึ่งถือว่าระดับนี้เป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษาด้วยเช่นกัน ผู้ที่จบหลักสูตรนี้ถือว่าได้มีคุณวุฒิสูงกว่าอนุปริญญาของไทย แต่ต่ำกว่าปริญญาตรี 1 ชั้น นอกจากนี้หากประสงค์จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีก็สามารถทำได้โดยใช้เวลาศึกษาต่ออีก 2 ปี แต่ทังนี้ผลการเรียนต้องอยู่ในระดับดี

3.1.2 National Vocational Qualification (NVQ) หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรสายอาชีพ เป็นการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติร่วมกัน แต่เน้นภาคปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนและมีความพร้อมก่อนที่จะออกไปประกอบอาชีพจริง

3.2 สถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน

ควรเลือกสถานศึกษาเอกชนที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก The British Accredition council for Further and Higher Education (BAC) ซึ่งเป็นหลักประกันว่าเป็นสถาบันที่มีการเรียนการสอนที่เชื่อถือได้ สำหรับวุฒิการศึกษาที่ได้รับ จะได้เพียงประกาศนียบัตรเท่านั้นและยังมีหลักสูตร Foundation degree เป็นหลักสูตรการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อเตรียมความรู้ในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียน 1 ปี


4.ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)

การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรมีประมาณ 96 แห่ง เป็นของรัฐเกือบทั้งหมด ยกเว้น University of Buckingham ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียว แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ

Undergraduate

  • BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip. HE)
    เป็นหลักสูตร 2 ปี ส่วนใหญ่จะเปิดสอนอยู่ใน College of Higher Education โดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเปิดรับผู้สอบ “A” Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma การสมัครเข้าศึกษาต่อนั้นต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับในระดับปริญญาตรี

  • First Degree (Bachelor Degree)
    เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี)

Post – Graduate

  • Post – Graduate Certificate Diploma
    หลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อ

  • Master Degree
    หลักสูตรการศึกษา 1-2 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดี

  • Doctoral Degree
    หลักสูตรการทำวิจัย ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร M. Phil


การศึกษาระดับปริญญาโท

การศึกษาระดับปริญญาโทในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) มุ่งให้ความสำคัญกับการทำวิจัยเป็นหลัก และเตรียมความพร้อมของนักศึกษาให้พร้อมสำหรับการทำงาน หรือศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก โดยมีสาขาวิชาต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย

  • นักศึกษาจะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี

  • ใช้ระยะเวลาศึกษา 1 ปี

  • หลักสูตรระดับปริญญาโทที่เปิดสอนได้แก่ ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (Master’s of Arts), วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (Master’s of Science) และบริหารธุรกิจ (Master of Business Administration)

  • หลักสูตรระดับปริญญาโทที่เน้นการวิจัย ได้แก่ การวิจัย (Master of Research), ปรัชญา (Master of Philosophy)

กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการศึกษาในระดับนี้คือการเตรียมพร้อมที่ดีก่อนเข้าศึกษา ด้วยหลักสูตรเตรียมความพร้อม MBA และปริญญาโท


การศึกษาระดับปริญญาเอก

การศึกษาระดับปริญญาเอกให้ความสำคัญกับการทำวิจัยเป็นหลัก

  • จบการศึกษาขั้นต่ำในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท

  • ใช้ระยะเวลาศึกษาอย่างน้อย 3 ปี

  • นักศึกษาจะต้องทำโครงการวิจัย 1 โครงการ หรือปริญญานิพนธ์

  • คุณวุฒิที่ได้คือ ดุษฎีบัณฑิต (Phd, Dphil)


ระบบการศึกษาในสหราชอาณาจักรแบ่งได้เป็น 2 ระบบ คือ

ระบบที่ใช้ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ 

การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในประเทศอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสหราชอาณาจักร เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ มุ่งเน้นเนื้อหาที่เจาะลึกในวิชาที่นักเรียนเลือกเพียงแค่ไม่กี่วิชา

  • ปีที่ 7- 11 (ปีที่ 8 – 12 ในไอร์แลนด์) สำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 12 – 16 ปี

  • สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาบางแห่ง นักเรียนสามารถเลือกที่จะไม่ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คือปีที่ 12 และ 13 โดยเฉพาะเมื่อจบการศึกษาในปีที่ 10 และ ปีที่ 11 นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตร General Certificate of Secondary Education (GCSE) ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นการทดสอบระหว่าง 5 – 10 วิชา จากนั้นก็เรียนต่อ A-Levels


A-Levels (อังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ)

เป็นการศึกษาหลังอายุ 16 ปี เรียกกันโดยทั่วไปว่า A-Levels (General Certificate of Education in Advanced Level certificates) ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยทั่วไป นักเรียนจะเลือกเรียนเพียง 3 หรือ 4 วิชา ซึ่งสอดคล้องกับสาขาวิชาที่จะเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

นักเรียนสามารถที่จะศึกษา A-Levels ได้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา, วิทยาลัยที่ให้การศึกษาในชั้นปีที่ 12-13 โดยเฉพาะ (Sixth Form College) หรือ วิทยาลัยที่ให้การศึกษาขั้นสูงอื่นๆ



ระดับปริญญาตรี (อังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ)

นักเรียนที่สมัครเรียนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร จะต้องสมัครผ่าน University and College Admissions Service (UCAS) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางของรัฐบาลที่มีหน้าที่ประสานความร่วมมือกับทุกมหาวิทยาลัย นักเรียนสามารถเลือกได้ 5 สาขาวิชาจากแบบฟอร์มของ UCAS โดยมีหลักสูตรให้เลือกมากมาย ซึ่งช่วยสร้างทักษะสำหรับการทำงานที่หลากหลายหรือเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อได้เป็นอย่างดี โดยการศึกษาระดับปริญญาตรีจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 3 ปีในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย ในขั้นตอนการรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยจะใช้คะแนนสอบ A-Level (หรือเทียบเท่า) ของนักศึกษา เป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษา นักศึกษาจะต้องเลือกหลักสูตรที่ต้องการจะเรียนในขั้นตอนการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

คุณวุฒิแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ศิลปศาสตร์บัณฑิต Bachelor of Arts (BA) และวิทยาศาสตร์บัณฑิต Bachelor of Science (BSc) บางหลักสูตรจะใช้เวลาศึกษาถึง 4 ปี ซึ่งจะรวม 1 ปีที่นักศึกษาจะต้องสลับไปทำงานที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เลือกเรียน ก่อนที่จะกลับมาศึกษาต่อ ในประเทศที่การศึกษาภาคบังคับต่ำกว่า 13 ปี มีแนวโน้มว่านักเรียนจะต้องศึกษาหลักสูตรวิชาพื้นฐาน (Foundation Certificate) อีก 1 ปี ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมความพร้อมการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่สหราชอาณาจักร


ระบบที่ใช้ในสก๊อตแลนด์

การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสก๊อตแลนด์

การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสก๊อตแลนด์มุ่งเน้นเนื้อหาวิชาที่ครอบคลุมกว่าในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ โดยการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาของสก๊อตแลนด์จะคล้ายกับประเทศไทยคือเรียนจนถึง Secondary 6 หรือมัธยมศึกษาที่ 6 โดยในระบบการศึกษาระดับมัธยมปลายในสก๊อตเมื่อเรียนถึง Secondary 4 นักเรียนจะเรียนต่อมัธยมศึกษาขั้นสูงคือ Secondary 5 หรือ 6 ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นนักเรียนอายุตั้งแต่ 16-17 ปี ถึง 17-18 ปี จะไม่ได้ต่อ A Level เหมือนนักเรียนในอังกฤษ

ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือ ปีที่ 1 –4 สำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 12-13 ปี ถึง 15-16 ปี จะได้รับประกาศนียบัตร Scottish Qualification Certificate เมื่อผ่านการสอบ Standard – Grade courses ในช่วงSecondary 3 หรือ 4 ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นการทดสอบระหว่าง 7 – 9 วิชา


การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) (สก๊อตแลนด์)

โดยทั่วไปในสก๊อตแลนด์ นักเรียนจะศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) ซึ่งเป็นประกาศนียบัตรคุณวุฒิการศึกษาของสก๊อตแลนด์ ที่มอบโดย Scottish Qualifications Authority ภายหลังจากที่จบการศึกษาระดับ Secondary 4 การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้ามหาวิทยาลัย โดยมีวิชาให้เลือกเรียนหลากหลายวิชา แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนักเรียนจะสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยภายหลังจากที่จบการศึกษาระดับ Secondary 5 ได้ทันที แต่นักเรียนส่วนใหญ่เลือกที่จะเรียนต่อจนถึง Secondary 6 เพื่อที่จะศึกษาวิชาต่างๆ ในระดับ Higher ได้มากขึ้น หรือศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น (Advanced Higher Level) โดย Secondary 5 และ 6 จะเป็นสำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 16/17 ปี ถึง 17/18 ปี นักเรียนสามารถที่จะศึกษา Higher ได้ในโรงเรียนมัธยมและจะต้องผ่านการทดสอบ Standard Grade ก่อนที่จะเข้าเรียน Secondary 5 และ 6


การศึกษาระดับปริญญาตรี (สก๊อตแลนด์)  

นักศึกษาสามารถเลือกศึกษาสาขาวิชาที่หลากหลายในมหาวิทยาลัยที่สก๊อตแลนด์ ซึ่งจะเน้นสหวิชา นักศึกษาจะยังไม่ศึกษาวิชาเอกจนกระทั่งปีที่ 3

  • การศึกษาระดับปริญญาตรีจะใช้ระยะเวลา 4 ปี

  • ในขั้นตอนการรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยจะใช้คะแนนสอบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) ของนักศึกษาเป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษา

  • นักศึกษาอาจเลือกหลักสูตรที่คั่นด้วยการไปเรียนที่ต่างประเทศ หรือทำงานเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะกลับมาศึกษาต่อ

  • โดยปกติ มหาวิทยาลัยในสก๊อตแลนด์จะถือว่าคุณวุฒิศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (Master of Arts) จะเทียบเท่าระดับปริญญาตรี

  • นักศึกษาจะได้รับ Honours Degree เมื่อศึกษาต่อเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการทำวิจัยอีก 1 ปี


นักศึกษาต่างชาติ

สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่สนใจศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร แต่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก จำเป็นต้องยื่นหลักฐานการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะกำหนดว่าผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีจะต้องมีคะแนน IELTS (International Language Testing System) อย่างต่ำในระดับ 6.0 + และระดับ 6.5+ สำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท

นอกจากความสามารถในการใช้ภาษา นักศึกษาจะต้องตรวจสอบว่าคุณสมบัติของตนสอดคล้องกับข้อกำหนดการรับเข้าศึกษาของมหาวิทยาลัยหรือไม่ ซึ่ง UK NARIC จะให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ โดยทั่วไป นักศึกษาต่างชาติที่ยังขาดคุณสมบัติในการเข้าศึกษาต่อจะต้องศึกษาวิชาพื้นฐาน ก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย

นักศึกษาต่างชาติที่ความสามารถและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ ไม่เป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดอาจจะต้องศึกษาหลักสูตรเตรียมความพร้อม Pre-Master’s ก่อนที่จะเริ่มศึกษาระดับปริญญาโท


แผนผังแสดงระดับการศึกษาของประเทศอังกฤษ

CropperCapture[253]


แนะนำสถาบัน Holmesglen Institute of TAFE

jackz
07 Jul 2015
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Australia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Australia, holmes, Holmesglen Institute, Holmesglen Institute of TAFE, เรียนต่อออสเตรเลีย

Untitled-1




Holmesglen เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาโพลีเทคนิคที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวิกตอเรีย ให้บริการการศึกษาสายอาชีพและการศึกษาระดับสูง เสนอหลักสูตรมากกว่า 600 โปรแกรม ผ่านวิทยาเขตหลักของ Holmesglen อย่าง Chadstone, City, Waverley และ Moorabbin Campuses โดยแต่ละวิทยาเขตตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

การเรียนที่ Holmesglen ไม่เพียงเกี่ยวกับคุณวุฒิที่ดึงดูด ยังเกี่ยวกับการให้ความมั่นใจและทักษะในการทำงานที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว คุณจะได้เรียนรู้การทำงานในโลกของความเป็นจริง หรือ ฝึกฝนในสถานการณ์จำลองของสภาพแวดล้อมการทำงานจากครูผู้มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรม

 

เส้นทางการศึกษาสู่ระดับปริญญา

Holmesglen มีระดับการศึกษาที่หลากหลายเส้นทางโอกาศให้คุณมีตัวเลือกมากมายสำหรับการศึกษาต่อในการศึกษาโพลีเทคนิค


การศึกษาสายอาชีพของคุณ

เส้นทางประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (Diploma) สู่การศึกษาระดับปริญญา ให้นักเรียนของเรากับการฝึกฝน

ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน ในขณะที่ยังเรียนมีสิทธิ์ได้รับการรับประกันการเข้าเรียนต่อหนึ่งในหลักสูตรระดับปริญญาที่มีมากมายของเราหลักสูตรปริญญาที่มีความน่าเชื่อถือ


ทำไมต้องศึกษาระดับปริญญาที่ Holmesglen

ที่ Holmesglen เราคิดแตกต่างกันเกี่ยวกับการศึกษาระดับสูง กับประสบการณ์กว่า 30 ปีในการพัฒนาและการส่งมอบการศึกษาที่พร้อมทำงาน หลักสูตรปริญญาของHolmesglen มีหลากหลายหลักสูตร ที่ได้รับการออกแบบที่รวมมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับ มีทักษะในการทำงานจริง จึงมั่นใจได้ว่าผลการจ้างงานดีเยี่ยม

Holmesglen ยังมีจำนวนของหลักสูตรปริญญาในความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา (UC) และ Charles Sturt University (CSU) นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสที่จะศึกษาต่อระดับปริญญา ใน UC หรือ CSU ในเมลเบิร์น เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นของ Holmesglen และบริการสนับสนุน ชั้นเรียนขนาดเล็ก และ รูปแบบการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฝึกฝน และงานที่เจาะจง





หลักสูตรปริญญา Holmesglen:

• Accounting
• Administration
• Building Surveying
• Construction Management and Economics
• Early Childhood Education
• Landscape Design
• Nursing
• Sports Media


University of Canberra:

• Executive Administration
• Commerce
• Fashion
• Hospitality Management
• Information Technology
• Justice Studies
• Marketing
• Screen Production
• Sports Management


Charles Sturt University:

• Oral Health

 

CropperCapture[251]


การศึกษาในอนาคต

Holmesglen แนะนำ Master of Professional Accounting (MPA) ที่วิทยาเขต City MPA ที่ Holmesglen ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านบัญชีได้มีโอกาสที่จะพัฒนาความเข้าใจในเรื่องของการบัญชี เศรษฐศาสตร์ การจัดการและ วิชาที่เกี่ยวข้อง MPA เหมาะสำหรับนักเรียนที่สนใจในการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพหรือการขยายตัวเลือกในสาขาที่มีอยู่


Holmesglen มีวิธีเรียนอย่างไร

คุณสามารถก้าวกระโดดสู่การเริ่มต้นอนาคต Holmesglen มีการเชื่อมต่อภาคอุตสาหกรรมและการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหลายองค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม เราให้ ความมั่นใจ ความรู้และทักษะที่จำเป็นไปทำงานในฝันของคุณ แต่ที่สำคัญกว่า เราจะให้คุณสามารถเข้าถึงอุตสาหกรรมอย่างมืออาชีพและทำงานกับนายจ้างที่มีศักยภาพในอนาคต


การช่วยเหลือในอนาคต

คุณจะได้รับคำแนะนำในการเริ่มต้นอนาคตของคุณ เมื่อเสร็จสิ้นการศึกษาที่ Holmesglen คุณจะมีการเข้าสู่บริการการจ้างงานบัณฑิตของเรา บริการนี้ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาที่ Holmesglen มีความปลอดภัยในการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายในอาชีพของคุณ บริการนี้ยังช่วยให้คุณเปลี่ยนจากชีวิตนักศึกษาไปสู่สภาพแวดล้อมการทำงานโดยรักษาการติดต่อกับคุณและแนะนำให้คุณผ่านวัฒนธรรมในองค์กรที่แตกต่างกันและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาใด ๆ ที่คุณอาจพบเจอในที่ทำงาน


สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความสำคัญ

ที่ Holmesglen เราลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีทุกโอกาสที่จะได้รับทักษะที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่คุณที่จำเป็นต่อความสำเร็จในอาชีพของคุณ จุดประสงค์การสร้างพื้นที่การเรียนรู้รวมถึง:

• A simulated early childhood learning centre
• A dedicated health precinct with nursing wards and simulation centre
• A fitness centre
• A wellness clinic
• Student training restaurant
• Fashion studios
• A green-screen room for film and photography
• TV and radio studios
• A plant nursery and glasshouse
• 25,000 square meters of simulated trade workspaces



Home away from Home

เมื่อคุณเลือกที่จะเรียนที่ Holmesglen คุณมีตัวเลือกที่จะพักอยู่ที่ Holmesglen Institute House ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย Holmesglen Institute House มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีอุปกรณ์ให้อย่างครบครัน มีความปลอดภัย และ สภาพแวดล้อมทางสังคมนักเรียนต่างชาติ สามารถแทรกตัวและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บริการรับที่สนามบินฟรีและไปส่ง Holmesglen Institute House

ที่มา
: Prospectus Holmesglen 2015 Page.3

 

พันธมิตรของ Holmesglen

Holmesglen มีความมั่นใจ 100 % ในการให้การช่วยเหลือและสนับสนุนนักเรียนให้บรรลุเป้าหมายในการศึกษา เรามีการพัฒนาความร่วมมืออย่างต่อเนื่องที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนในการตัดสินใจเรื่องทางวิชาการและอาชีพที่เหมาะสม ปัจจุบัน Holmesglen มีพันธมิตร คือ

1. University of Canberra (UC)

University of Canberra แบ่งปันวิสัยทัศน์กับ Holmesglen ในการจัดคุณภาพการศึกษาโดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงาน หลักสูตรอุดมศึกษา ของ UC มีความเข้มแข้งในการมุ่งเน้นการฝึกฝนทักษะและสามารถเรียนรู้การทำงานแบบบูรณาการได้ ไม่นานมานี้ UCได้เป็นพันธมิตรกับสถาบัน Holmesglen ในการนำเสนอโอกาสใหม่ ๆ สำหรับนักเรียนที่กำลังมองหาการศึกษาในอนาคต ทั้งหมด 12 หลักสูตรโดยรวมหลักสูตร Bachelor of Commerce และ Bachelor of Information Technology ไว้ด้วย ทุกหลักสูตรปริญญาบัตรของ UC นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อได้ที่ Holmesglen โดยใช้นโยบายและข้อตกลงของ UC


2. Computer Power Institute

Computer Power Institute คือการศึกษา ICT (Information and Communication Technology) และผู้ให้การฝึกอบรบที่มีคุณสมบัติเฉพาะ และบริการจัดหาบัณฑิตสำหรับนายจ้างในประเทศออสเตรเลียเสนอระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (Diploma) ระดับICT ที่ได้รับการรับรองในระดับประเทศ กับการรับรองผู้ผลิตที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอุตสาหกรรม Computer Power Institute เป็นแบรนด์ในเครือของออสเตรเลียที่ได้จัดให้มี ‘Job Ready’ จบการศึกษาไปสู่ตลาด ICT ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 คุณสมบัติ ICT และจัดหางานบัณฑิต กับงานที่น่าตื่นเต้นมากมายและเส้นทางอาชีพในสารสนเทศและ เทคโนโลยีการสื่อสาร (ICT) ในทุกอุตสาหกรรมและทุกทวีป คุณสมบัติ ICT อย่างแท้จริงเป็นตั๋วให้คุณเลือกอาชีพอื่น ๆ ทางเลือกและความคล่องตัวในการทำงานและการรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่าเงินเดือนโดยเฉลี่ย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 Computer Power Institute ให้ผู้สำเร็จการศึกษามีทักษะในการทำงานในอาชีพของ ICT ในทุกอุตสาหกรรมและในแต่ละปีมากกว่า 90% ของผู้สำเร็จการศึกษาของเราได้ประสบความสำเร็จ การจ้างงานในอุตสาหกรรม จากบริการด้านไอทีให้แก่ภาคหุ้นส่วน, การผลิต, ค้าปลีก, บริการทางธุรกิจ, สุขภาพ, การศึกษา, การต้อนรับหรือภาคชุมชน คุณสมบัติจาก ICT สถาบันไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ (พันธมิตรกับ Holmesglen) สามารถช่วยในการเปลี่ยนให้คุณเป็นมืออาชีพด้าน ICT

3. Charles Sturt University

Charles Sturt University (CSU) กระตือรือร้นเกี่ยวกับการให้คุณวุฒิที่เตรียมความพร้อมในการสำเร็จการศึกษาสำหรับการประกอบอาชีพที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่า มหาวิทยาลัยของเราจัดอยู่ในอันดับสูงเสมอ สำหรับการจ้างงานนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาแล้วและการสนับสนุนนักศึกษาอย่างดีเยี่ยม ช่วยให้นักศึกษาใช้ประโยชน์จากเวลาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยอย่างสูงสุด Bachelor of Oral Health ของCSU รวมถึงโอกาสการเรียนรู้ในสถานที่ทำงานที่ให้นักเรียนทดลองจริงเกี่ยวกับอาชีพในอนาคตและประสบการณ์ความเสี่ยงของการศึกษาที่สูงขึ้นทั้งในพื้นที่ ระดับภูมิภาคและปริมณฑล CSU มีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐและพนักงานที่มีประสบการณ์ที่จะนำเสนอโอกาสการเรียนรู้ในขณะที่การปฏิบัติเพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาหลักสูตรมีความเกี่ยวข้องและเตรียมความพร้อมให้ผู้จบการศึกษาในอนาคต


4. Headmasters Advanced Academy Training

Headmasters Advanced Academy Training เป็นสถาบันการศึกษาในเมลเบิร์น ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ด้านทำผมและการเสริมความงาม ตั้งอยู่บนถนน Spring Street ใจกลางเมืองเมลเบิร์น (CBD) Headmasters มีความภาคภูมิใจในสิ่งที่สืบทอดกันมาของการผลิตเครื่องประดับที่มีความสามารถบำบัดความงามและผู้จัดการสปาพร้อมสำหรับการจ้างงาน Headmasters ให้นักเรียนมีความสนุกสนานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยความสะดวกมืออาชีพและstate-of –the –art facilities สำหรับนักเรียนที่จะสำเร็จการฝึกอบรม นักเรียนจะได้รับการต้อนรับจากทุกส่วนของโลกและผสมกับนักเรียนในท้องถิ่นที่จะเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ล่าสุด เทคนิคการสร้างนวัตกรรมและจบการศึกษาที่มีทักษะชั้นนำ Headmasters มีชื่อเสียงระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง กับการจ้างงานศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษา และตอนนี้มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศที่แตกต่างกัน Headmasters มีชื่อเสียงในประเทศออสเตรเลียและทั่วโลกในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับรางวัลทางวิชาการ กับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันของนักเรียนจำนวนหลายรางวัล ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึง Salons และ Day Spa ที่มีดีที่สุด ว่าเป็นที่ต้องการของนายจ้างสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก Headmasters

ที่มา : Prospectus Holmesglen 2015 Page.5


สถานที่ตั้ง มีด้วยกัน 4 วิทยาลัยหลัก และ 2 วิทยาเขตย่อย

วิทยาเขตหลัก

  1. Chadstone
    Address: Corner Batesford & Warrigal Roads, Chadstone, Victoria, 3148

  1. City
    Address: 332 St Kilda Rd Southbank, Victoria

  1. Waverley
    Address: 595 Waverley Road, Glen Waverley, Victoria, 3150

  1. Moorabbin
    Address: 488 South Road , Moorabbin, Victoria, 3189


วิทยาเขตย่อย

  1. Bulli Street
    Address: 36 Bulli St Moorabbin, Victoria, 3189

  1. Eildon
    Address: Moore Rd, Eildon, Victoria


 

หลักสูตรที่เปิดสอน

1. Arts & Design มีทั้งหมด 6 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Animation , Screen And Media

  • Ceramics

  • Fashion

  • Graphic Design

  • Interior Decoration and Design

  • Photography


2. Building & Construction มีทั้งหมด 12 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Bricklaying & Stonemasonry

  • Building & Management

  • Building Design

  • Building Surveying

  • Carpentry & Joinery

  • Electrical

  • Engineering & Fabrication

  • Furniture & Upholstery

  • Glass & Glazing

  • Painting & Decorating

  • Plastering & Tiling

  • Plumbing


3. Business & Finance มีทั้งหมด 8 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Accounting & Financial Services

  • Administration

  • Management

  • Advertising & Marketing

  • Human Resources

  • International Business

  • Real Estate

  • Training & Assessment


4. Education & Training มีทั้งหมด 5 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • General Education

  • Teacher Training

  • Education Support

  • English as a second Language

  • Early Childhood Education


5. Computer & IT มีทั้งหมด 3 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Networking

  • Programming

  • Web & Game Development


6. Fitness & Wellbeing มีทั้งหมด 4โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Fitness & Recreation

  • Hair & Beauty

  • Natural Therapies

  • Sport


7. Community & Health Sciences มีทั้งหมด 6 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Allied Health

  • Dental

  • Justice

  • Nursing

  • Pathology & Laboratory Testing

  • Community Services


8. Horticulture & Environment มีทั้งหมด 3 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Conservation & Land Management

  • Floristry

  • Horticulture


9. Hospitality , Tourism & Event มีทั้งหมด 5 โปรแกรมหลัก ได้แก่

  • Bakery & Pastry

  • Cookery

  • Events

  • Hospitality

  • Travel & Tourism


10. Short Courses ได้แก่

  • Art

  • Business

  • Computing

  • DIY Skills & Construction

  • Food & Beverage

  • House & Garden

  • Languages

  • Lifestyle

  • OHS

  • Online Courses


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com


แนะนำสถาบัน Shelton College

jackz
16 Apr 2015
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Singapore, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Shelton, Singapore, เรียนต่อสิงคโปร์

 

 

shelton_logo


ยินดีต้อนรับสู่ Shelton (Singapore)

Shelton College international ตั้งอยู่ที่ 1 Telok Blangah Rise #01/02-00, Singapore 09888 เป็นสถาบันการศึกษาเอกชนที่มีคุณภาพทางด้านการศึกษาในสิงคโปร์ สถาบันจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา จนถึง ระดับอุดมศึกษาที่ยอดเยี่ยมของโรงเรียนในเครือ Shelton ในปี 2012 Shelton ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอย่าง EduTrust รอบ 4 ปี รับรองโดยสภาการศึกษาเอกชนตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการของกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเลิศในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพและการช่วยเหลือนักศึกษา (Student Support)

นักเรียนของเราจะได้รับแรงบันดาล การฟูมฟัก และ ความท้าทายผ่านกรอบการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ความสำเร็จของนักเรียนเราไม่เพียงแต่ทางด้าน ความเป็นเลิศทางวิชาการ เท่านั้น แต่ยังรู้คุณค่าทางด้านศิลป์ อย่างการมีส่วนร่วมกีฬาสร้างคุณธรรม การดูแลชุมชน และ การดูแลสิ่งแวดล้อมทั่วโลก เรามีความภูมิใจที่จะบอกว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักเรียนหลายพันคนที่ได้เข้ามาและประสบความสำเร็จในทางเดินของเขาในแต่ละคน ทักษะต่าง ๆ ที่กำหนดให้พวกเขาเรียนรู้เป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิต ที่ Shelton เรามีอาจารย์ที่เป็นเลิศทางวิชาการ ผู้ที่มั่นใจได้ว่าจะสามารถให้บทเรียนที่มีคุณภาพสูงกับนักเรียนโดยวิธีการสอนแบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง มีผู้ฝึกสอนการดำรงชีวิต และ ที่ปรึกษาที่มีแต่ความรักให้กับนักเรียนในการให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องที่นอกเหนือจากเป้าหมายสำคัญในการศึกษาของนักเรียน


1

กรอบการศึกษา

  • ความเป็นเลิศทางวิชาการ

ทางด้านวิชาการของเรามุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้หลักผ่านการเรียนรู้การใช้งาน การวิจารณ์ และ ทักษะความคิดสร้างสรรค์ นักเรียนจะถูกบ่มเพาะให้มีการคิดนอกกรอบ และ นอกเหนือจากในหลักสูตรเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนไปสู่การศึกษาขั้นสูงและสามารถนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริงได้

  • สุขภาพและการออกกำลังกาย

โปรแกรมกีฬาและการออกกำลังกายต่าง ๆ เป็นการวางแผนเพื่อให้นักเรียนไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเท่านั้นแต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะอาชีพในอนาคตอีกด้วย เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม การสื่อสารระหว่างบุคคล และ รู้ความสำคัญของกฎและกติกา

  • ศิลปะการแสดง

การชื่นชมและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะเช่น การเต้น การแสดง การร้องเพลง และ จุดมุ่งหมายการวาดภาพเพื่อพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์ ความฉลาดหลักแหลมของความคิด ผ่านกิจกรรม นักเรียนจะได้พัฒนาความสามารถในการนำเสนอวิธีแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างสร้างสรรค์

  • จิตวิญญาณ และ จริยธรรม

โดยผ่านการให้คำปรึกษาและการดูแลเป็นรายบุคคล Shelton ช่วยบ่มเพาะให้นักเรียนแต่ละคนเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความโดดเด่น มีโอกาส ในการสร้างทักษะความเป็นผู้นำและความชาญฉลาดสำหรับนักเรียนในห้องเรียน

  • ชุมชนและสิ่งแวดล้อม

เพื่อที่จะพัฒนาประชากรทั่วโลกในอนาคต Shelton ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับโปรแกรมการขยายชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบขององค์กรเราต่อชุมชนโดยรอบของเรา ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมเพื่อที่จะได้เข้าใจถึงความต้องการของผู้ด้อยโอกาสและปัญหาทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม


การเรียนที่ Shelton

  • วิทยาเขต และ สิ่งอำนวยความสะดวก

วิทยาเขตมีความสวยงามและกว้างขวางในบริเวณส่วนกลางของภาคใต้ของสิงคโปร์ ไม่ไกลจากตัวเมือง อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวและใกล้แหล่งช้อปปิ้งของสิงคโปร์ สิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงมีพื้นที่กว้างขวาง ห้องเรียนมีเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ด้านโสตทัศนศึกษา มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพื่อการวิจัยในห้องเรียน มีสถานที่สำหรับให้นักเรียนได้พักผ่อนหย่อนใจทั้งในที่ร่ม และ กลางแจ้ง เพื่อให้นักเรียนได้เข้าร่วม เช่น กีฬาฟุตบอล บาสเก็ตบอล แบตมินตัน ปิงปอง และ กีฬาอื่น ๆ ที่ส่งเสริมด้านสุขภาพ

  • ที่พักและการดูแลนักเรียน

นักเรียนสามารถเลือกพักหอพักนักเรียนในวิทยาเขตได้ โดยหอพักจะมีผู้ปกครองดูแล มีบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย พื้นที่การเรียนรู้ด้วยตนเอง อาหาร และ บริการซักรีด สำหรับการช่วยเหลือนักเรียนสามารถเข้าขอคำปรึกษากับผู้จัดการนักเรียนต่างชาติ ( International Student Relations : ISR) ผู้มีคุณสมบัติและผ่านการฝึกอบรมให้คำปรึกษาคำแนะนำ


Untitled-1


หลักสูตรที่เปิดสอน


1.Shelton High School


1.1 Edexcel International General Certificate of Secondary Education

International GCSE คือ ความสมดุลของหลักสูตรนานาชาติที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมมาตรฐานทางวิชาการขั้นสูงผ่านวิธีการปฏิบัติในการเรียนการสอน ความสำเร็จที่นักเรียนจะได้รับจากหลักสูตรนี้คือเทียบเท่าในมาตรฐานของระดับ GCE Ordinary Level และ การสอบ British GCES หลักสูตรเหมาะสำหรับนักเรียนนานาชาติทุกชาติและทุกระดับความสามารถ มีการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสมสำหรับหลักสูตรระดับสูง เช่น ประกาศนียบัตรการศึกษานานาชาติขั้นสูง (Advanced International Certificate of Education: AICE) , International GCE Advanced Level , SAT และ APT บัณฑิตนานาชาติ และ สำหรับสายอาชีพ และ การจ้างงาน International GCSE ให้บริการที่ Shelton High School ครอบคลุมช่วงของโมดูล / วิชาที่มีหลักสูตรที่ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันกับการพัฒนาในทางปฏิบัติการศึกษาและเพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลก


1.2 Singapore – Cambridge General Certificate of education (GCE) O – Level

Shelton เตรียมนักเรียนสำหรับ GCE O – Level และ International GCSE Examination คุณสมบัติเหล่านี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและได้รับการยอมรับโดยนายจ้าง หน่วยงานการศึกษา และสถาบันการศึกษาชั้นสูงทั่วโลก University of Cambridge Local Examinations Syndicate (UCLES) เป็นผู้มีอำนาจตรวจสอบรายวิชาภาษาอังกฤษ การสอบสิงคโปร์ (Singapore Examinations) และคณะกรรมการประเมินเป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่พัฒนาและดำเนินการสอบระดับชาติในสิงคโปร์และให้บริการตรวจสอบและบริการการประเมินอื่น ๆ ในประเทศเช่นเดียวกับต่างประเทศ The Singapore Examinations and Assessment Board (SEAB) ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการสอบระดับชาติทั้งหมดและเพื่อให้แน่ใจว่ามีการรักษาคุณภาพมาตรฐานสูงสุดของประเทศ การเตรียมการสำหรับการสอบ O-Level รวมถึงการประเมินผลการเรียนรายเดือนที่นำไปสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้ายดำเนินการโดย SEAB


1.3 Singapore – Cambridge General Certificate of education (GCE) A – Level

หลักสูตร Singapore – Cambridge GCE A – Level ไม่เพียงแต่เน้นในการเรียนรู้ แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นในความมั่นใจด้วย การเรียนการสอนในวิชาเหล่านี้นักเรียนจะเป็นศูนย์กลาง วิชาที่นำเสนอมี ระดับ H1 และ H2 ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเรียน โครงสร้างระดับชั้นเปิดโอกาสให้นักเรียนได้บรรลุเป้าหมายยอดเยี่ยมของตนเอง 2 ปีที่ผ่านมาโปรแกรมนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและเป็นที่ยอมรับของนายจ้าง หน่วยงานการศึกษา และ สถาบันการศึกษาชั้นสูงทั่วโลกตลอดระยะเวลาทั้งหมดของหลักสูตร นักเรียนจะได้รับการประเมินผลการเรียนรายเดือนที่นำไปสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้ายที่ดำเนินการโดย SEAB


2


2. Shelton College

Certificate for Higher Education (CHE)

เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ที่ต้องการศึกษาในระดับสูง ซึ่งมีการเรียนการสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนด้านวิชาชีพอย่างเช่น ธุรกิจหรือการท่องเที่ยว

การเข้าศึกษา

  • อายุ 16 ปีขึ้นไป
  • จบมัธยมศึกษาปีที่ 4 ขึ้นไป
  • ระดับภาษาอังกฤษขั้นต่ำ ต้องมี IELTS 5.0 หรือเทียบเท่า 


Certificate in Advanced Study Skills (CASS)

เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาภาคปกติ 12 ปี และมีความประสงค์ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งมีการเรียนการสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ โดยมีจุดมุ่งหมายในการปูพื้นฐานความรู้ทั่วไป และ ทักษะการศึกษาค้นคว้าที่จำเป็นเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการศึกษาทักษะขั้นสูง

การเข้าศึกษา

  • อายุ 16 ปีขึ้นไป
  • จบมัธยมศึกษาปีที่ 6
  • ระดับภาษาอังกฤษขั้นต่ำ ต้องมี IELTS 5.0 หรือ เทียบเท่า

 

Certificate in English as a Global Language

ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการสนทนาทางธุรกิจ การปฏิสัมพันธ์ และการทำธุรกรรม ที่ Shelton เราเข้าใจ และ กล่าวได้ว่า ไม่เพียงความสวยงามของภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของวัฒนธรรมและการใช้งานที่มีความเชื่อมโยงกับภาษาในส่วนต่าง ๆ ของโลก โปรแกรมภาษาอังกฤษของ Shelton เรียนทีละขั้นตอนเพื่อเรียนรู้ขั้นตอนในภาษาอังกฤษ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับผลการเรียนของนักเรียนต่างชาติที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับการศึกษาภาษาอังกฤษ

หลักสูตรนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ใน 4 ทักษะหลักคือ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้ (ระยะเวลาเรียน 4 เดือน ต่อ 1 Level)

  • ระดับ Lower Intermediate (ต่ำกว่ามาตรฐานระดับกลาง)
  • ระดับ Upper – Intermediate (สูงกว่ามาตรฐานระดับกลาง)
  • ระดับ Advanced (ขั้นสูง)

การรับเข้าศึกษา

ก่อนเริ่มต้นเข้าเรียนในหลักสูตรนี้ นักเรียนจะต้องทดสอบวัดความรู้ทักษะภาษาอังกฤษ ตามแบบทดสอบของโรงเรียนเพื่อระบุระดับความสามารถและความถนัดด้านภาษาอังกฤษ ทั้งนี้นักเรียนนานาชาติที่ลงทะเบียนในหลักสูตรวิชาชีพของ Shelton สามารถทำการทดสอบได้ หากต้องการพัฒนาทักษะทางภาษา โดยเข้าทดสอบหลักสูตรภาษาอังกฤษก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนในหลักสูตรที่เหมาะสมต่อไป



Diploma Courses

1. สาขาการท่องเที่ยว และ การบริการ (Specialist Diploma in Tourism & Hospitality)

ระยะเวลาเรียน 4 -9 เดือน

หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญในการท่องเที่ยวและการโรงแรมของ Shelton เป็นการออกแบบมาเพื่อนักเรียนที่ต้องการทำงานในสายการท่องเที่ยวและการโรงแรมตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ อาจนำไปสู่ ระดับการจัดการในด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม และในสภาพแวดล้อมที่มีการพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ ในหลักสูตรนี้จะแนะนำเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการโรงแรม โดยเฉพาะการแนะนำการเลือกพื้นที่ และ การขึ้นราคาบางส่วนของฟังก์ชั่นธุรกิจหลักในภาคการท่องเที่ยวและการโรงแรม

การเข้าเรียน

  1. นักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป

  2. จบ Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton หรือ IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า หรือคุณสมบัติเฉพาะอื่น ๆ ภายใต้การอนุมัติของคณะกรรมการวิชาการของ Shelton


สาขาการบริหารธุรกิจ (Pearson BTEC Level 5 HND Diploma in Business)

ระยะเวลาเรียน

15 เดือน

โปรแกรมนำเสนอที่ Shelton ให้วิถีการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น การผสมการทำงานการเรียนรู้ตามเทคนิคการศึกษาที่ทันสมัยและเป็นการนำนายจ้างและสถาบันการศึกษาใกล้ชิดร่วมกันเพื่อประโยชน์ของทั้งสอง

การพัฒนาในการเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมที่จะช่วยสร้างสะพานเชื่อมช่องว่างทักษะที่ช่างและผู้ร่วมงานระดับมืออาชีพ โปรแกรมของเรามีขั้นบันไดที่สำคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิต อำนวยความสะดวกในการเข้ารับการศึกษาที่สูงขึ้นและในกรณีที่เหมาะสมการพัฒนาไปสู่การศึกษาระดับปริญญาเกียรตินิยม

การเข้าเรียน

  1. นักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป

  2. IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า

  3. BTEC ระดับ 3 (คุณสมบัติด้านธุรกิจ)
    หรือ จบหลักสูตร Certificate for Higher Education ของ Shelton
    หรือ จบหลักสูตร Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton
    หรือ สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมปลาย Year 12 หรือเทียบเท่า

  1. GCE A-Level

  2. นักเรียนทั่วไป อายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีประสอบการณ์ทำงานด้านนี้



สาขาการจัดการโรงแรม

(Pearson BTEC Level 5 HND Diploma in Hospitality Management (QCF)

หลักสูตร Pearson BTEC Level 5 HND Diploma in Hospitality Management เปิดโอกาสสำหรับการเรียนรู้เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้งานและฝึกฝนทักษะในที่ทำงาน เพื่อให้ผู้เรียนได้เตรียมคุณสมบัติให้พร้อมกับการจ้างงานในอุตสาหกรรมการโรงแรม และ เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ได้ตัดสินใจแล้วว่าต้องการที่จะเข้าสู่สายงานนี้

การเข้าเรียน

  1. นักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป

  2. IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า

  3. BTEC ระดับ 3 (คุณสมบัติด้านธุรกิจ)
    หรือ จบหลักสูตร Certificate for Higher Education ของ Shelton
    หรือ จบหลักสูตร Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton
    หรือ สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมปลาย Year 12 หรือเทียบเท่า

  1. GCE A-Level

  2. นักเรียนทั่วไป อายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีประสบการณ์ทำงานด้านนี้


ขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร 0 7728 7111 , 08 5791 9111(อ.สมนึก)

Line ID : SOMNOEK

E-mail : [email protected],

Website : http:// www.sjworldedu.com


แนะนำสถาบัน Bath Spa University

jackz
08 Apr 2015
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, England, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Bath, BATH SPA UNIVERSITY, England, English, UK, United Kingdom, สถาบันอังกฤษ, เรียนต่ออังกฤษ, ไปเรียนอังกฤษ

สถาบัน Bath Spa University


Bath Spa University เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ โดยตั้งอยู่ที่เมืองบาธ ตัวเมืองบาธตั้งอยู่บนเนินหลายลูกในหุบเขาของแม่น้ำเอวอนในบริเวณที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวโรมัน ผู้สร้างโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) เมืองบาธเป็นสถานที่สมเด็จพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ ทำพิธีราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษที่มหาวิทยาลัยบาธในปี ค.ศ. 973 ต่อมาในสมัยจอร์เจีย บาธกลายเป็นเมืองน้ำแร่ เป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งทำให้เมืองขยายตัวขึ้นมาก และ มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จากสมัยนั้นที่สร้างจากหินบาธที่เป็นสีเหลืองนวล เมืองบาธได้รับฐานะเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1987 อีกทั้งมีโรงละคร พิพิธภัณฑ์ และ สิ่งสำคัญทางวัฒนธรรม และ ทางการกีฬา ทำให้เมืองบาธกลายเป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งชื่อของมหาวิทยาลัยบาธสปา เป็นชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งตามสถานที่ในประวัติศาสตร์และอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน





เมืองบาธเดินทางโดยรถไฟจากลอนดอนประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีและห่างจากเมืองบริสตอล ประมาณ 15 นาที นอกจากเป็นเมืองที่เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวแล้ว บาธยังเป็นเมืองที่ทันสมัยทั้งด้านเทคโนโลยี และ ดิจิตอลอาร์ต รวมทั้งยังเป็นเมืองที่เงียบสงบเหมาะแก่การเรียนรู้


วิทยาเขตของ Bath Spa University มีทั้งหมด 4 วิทยาเขตตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองบาธ ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งร้านค้า ร้านอาหาร จุดศูนย์รวมของเมือง และ สถานที่สำคัญของเมืองที่อยู่เพียง 5 นาที นอกจากนั้นทางมหาวิทยาลัยยังได้มีการเพิ่มและพัฒนาศูนย์การเรียนรู้และปรับปรุงอาคารเรียนให้มีความทันสมัยให้แก่นักศึกษาอยู่อย่างต่อเนื่อง นักเรียนสามารถเข้าไปใช้ห้องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง มหาวิทยาลัยบาธสปา รับนักศึกษาทั้งในประเทศและจากหลายประเทศโดยเปิดสอนหลากหลายสาขาวิชาในระดับ International First year (IFY) Undergraduate, Postgraduate และ Research, PHD



มหาวิทยาลัยประกอบด้วย 6 คณะ

  1. School of Art and Design
  2. School of Education
  3. School of Humanities and cultural Industries
  4. School of Music and Performing Arts
  5. School of Research and graduate Affairs
  6. School of Social, Enterprise and Environment (Business School)


วิทยาเขตของ Bath Spa University


1. Main Campus – Newton Park

ตั้งอยู่ห่างจาก City Centre เพียง 15 นาทีและเป็นที่ตั้งของ School of Society Enterprise and Environment ซึ่งสอนหลักสูตรบริหารธุรกิจ (Business Management) และ Environment มีที่พักนักศึกษาแบบมีห้องน้ำในตัวและแบบแชร์บริการนักศึกษา


รูปภาพ 1 Newton Park


2. Sion Hill ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Bath เป็นที่ตั้งของ Bath School of Arts มีชื่อเสียงมายาวนานด้านการสอนเรื่องศิลปะ Art and Design และ Music and Performing Arts เรียกได้ว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของอังกฤษรองลงมาจาก University of Arts London ปัจจุบันเป็น School of Art and Design ของ Bath Spa University เปิดสอนหลักสูตรศิลปะทั้งหมด (Fine Arts)


รูปภาพ 2 Sion Hill


3. Corsham Court ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 15 นาทีเป็นที่ตั้งของ School of Humanities and Cultural Industries โดยเปิดสอนด้าน Creative Writing, Film making, Scriptwriting เป็นต้น


รูปภาพ 3 Corsham Court


4. Hartham Park ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 15 นาทีเช่นกัน เดิมเป็น Bath Teacher Training College เป็นที่ตั้งของ School of Education เปิดสอน MA in Early Studies, Leader ship and Management, Learning Technology และ Learning Difficulties/Dyslexia


รูปภาพ 4 Hartham Park


นักเรียนไทยที่ศึกษา ที่ Bath Spa University



เกณฑ์การเข้าเรียน

GPA เริ่มต้นที่ 2.5
IELTS 5.0 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 4.5 สำหรับ International First Year
IELTS 6.0 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 5.5 สำหรับปริญญาตรี
IELTS 6.5 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 5.5 สำหรับปริญญาโท
(ยกเว้น ปริญญาโทด้าน Business ใช้ IELTS 6.0 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 5.5)
นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังมีหลักสูตร Pre –Sectional สำหรับน้อง ๆ ที่มีคะแนน IELTS ไม่ถึงเกณฑ์


ทำไมถึงเลือกเรียน Bath Spa University

  1. เด่นเรื่องการเรียนการสอน Support นักเรียนต่างชาติยอดเยี่ยม
  2. Bath Spa University ได้รับการจัดอันดับเป็นลำดับที่ 69 ของ Complete University Guide 2015
  3. เมืองบาธ เป็นเมืองมรดกโลกที่มีความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพสมเหตุสมผล ทั้งยังมีประชากรไม่หนาแน่น
  4. เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ.
  5. ค่าเล่าเรียนไม่แพง และมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาไทย 500 – 3000 ปอนด์
  6. เป็นมหาวิทยาลัยที่มี Accommodation office ที่คอยดูแลนักศึกษาไทยเรื่องที่พักอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นที่พักของมหาวิทยาลัย หรือ ที่พักที่ทางเจ้าหน้าที่จัดหาให้นักศึกษา ห่างจากมหาวิทยาลัยเพียง 15 – 30 นาที


ขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร 0 7728 7111 , 08 5791 9111
(อ.สมนึก) Line ID : SOMNOEK
E-mail : [email protected]
Website : http:// www.sjworldedu.com


ระบบการศึกษาประเทศสิงคโปร์

jackz
01 Apr 2015
Singapore, เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์
Comments: 0
ประเทศสิงคโปร์, ระบบการศึกษา

ระบบการศึกษาประเทศสิงคโปร์


ระบบการศึกษาของสิงคโปร์ แบ่งออกเป็นระดับประถม 6 ปี ระดับมัธยม 4 ปี ซึ่งรวมแล้วเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 10 ปี แต่ผู้ที่จะเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องศึกษาขั้นเตรียมมหาวิทยาลัยอีก 2 ปีการศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ 2 ภาษาควบคู่กันไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเลือกภาษาแม่ ( Mother Tongue) อีก 1 ภาษา คือ จีน (แมนดาริน) มาเลย์ หรือ ทมิฬ (อินเดีย) รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก โดยถือว่าประชาชนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ และมีค่าที่สุดของประเทศ ในการนี้ รัฐบาลได้ให้การอุดหนุนด้านการศึกษาจนเสมือนกับเป็นการศึกษาแบบให้เปล่า โรงเรียนในระดับประถม และมัธยมล้วนเป็นโรงเรียนของรัฐบาลหรือกึ่งรัฐบาล สถานศึกษาของเอกชนในสิงคโปร์ มีเฉพาะในระดับอนุบาล และโรงเรียนนานาชาติเท่านั้น


มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์มี 3 แห่ง คือ

1. National University of Singapore (NUS)

2. Nanyang Technological University (NTU)

3. Singapore Management University (SMU)


โดยมหาวิทยาลัย NUS จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธุรกิจ ส่วนมหาวิทยาลัย Nanyang จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และสาขาธุรกิจ และการบัญชี สำหรับมหาวิทยาลัย SMU จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ

 


วิทยาลัยเทคนิค (Polytechnic) ของสิงคโปร์มี 4 แห่งได้แก่ Singapore Polytechnic, Ngee Ann Polytechnic, Temasek Polytechnic และ Nanyang Polytechnic ส่วนวิทยาลัยผลิตครูของสิงคโปร์มีอยู่เพียงแห่งเดียว คือ National Institute of Education นอกจากนี้ ยังมี Institute of Technical Education : ITE เป็นสถาบันที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ต้องการทักษะทางช่าง และช่างผีมือ


ผู้ปกครองนักเรียนของสิงคโปร์จะส่งบุตรหลานเข้ารับการเตรียมความพร้อมในโรงเรียนเมื่อเด็กมีอายุ ได้ 2 ขวบครึ่ง เมื่อเด็กอายุได้ 6 ขวบก็จะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1


ระดับประถมศึกษาของสิงคโปร์แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ป.1-ป.4 เรียกว่า Foundation Stage และ ป.5-ป.6 เรียกว่า Orientation Stage ชั้นประถมต้นจะเรียน 3 วิชาหลัก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาแม่ และคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา แต่ในช่วงประถมปลาย หรือ Orientation Stage นั้น นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มทางภาษา คือ EM 1. EM 2. และ EM 3. การแยกนักเรียนเข้ากลุ่มทางภาษานั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาของแต่ละคน เมื่อจบ ป.6 แล้วจะมีการสอบที่เรียกว่า Primary School Leaving Examination (PSLE) เพื่อที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาต่อไป ผลการเข้าสอบมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา

 


การศึกษาในระดับมัธยมศึกษานั้น จะมี 3 หลักสูตรให้เลือกตามความสามารถ และความสนใจ โดยใช้เวลา 4-5 ปี หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา ได้แก่


หลักสูตรพิเศษ (Special Course)

หลักสูตรเร่งรัด (Express Course)

หลักสูตรปกติ (Normal Course)


เมื่อจบหลักสูตรจะมีการสอบ โดยหลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่านประกาศนียบัตร GCE (General Certificate of Education) ในระดับ “O” Level ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCE “N” Level แต่ถ้าต้องศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCE “O” Level เช่นเดียวกัน


เมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้ว ผู้ที่สนใจเรียนสายวิชาชีพเทคนิค หรืออาชีวศึกษา ก็สามารถแยกไปเรียนตามสถาบันต่างๆ ได้ ส่วนผู้ที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยก็จะเข้าศึกษาต่อใน Junior College อีก 2 ปี เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ผู้ที่เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็อาจศึกษาในสายอาชีพ หรือหางานทำต่อไป


ปีการศึกษาของสิงคโปร์จะแบ่งออกเป็น 4 ภาคเรียน ภาคเรียนละ 10 สัปดาห์ เริ่มเปิดการศึกษาตั้งแต่วันที่ 2 มกราคมของทุกปี ช่วงระหว่างภาคเรียนที่ 1 กับที่ 2 และที่ 3 กับที่ 4 จะมีการหยุด 1 สัปดาห์ ระหว่างภาคเรียนที่ 2 กับที่ 3 หยุด 4 สัปดาห์ และมีช่วงหยุด 6 สัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา

 


sg_sys


 

แนะนำสถาบัน Queens College

jackz
17 Mar 2015
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Australia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Queens College, ควีนส์ คอเล็จ, ศึกษาประเทศออสเตรเลีย

image001

แนะนำสถาบัน Queens College


Welcome to Queens College

Queens College ตั้งอยู่ Level 1 เลขที่ 108 Margaret Street , Brisbane ประเทศออสเตรเลีย Queens College อยู่ ใจกลางเมือง Brisbane เดินเพียง 5 นาที ถึงแหล่ง ช๊อปปิ้ง ใกล้สถานีรถบัส รถไฟ ซึ่งสะดวกในการเดินทางสำหรับนักเรียน Queens College จัดการเรียนการสอนให้สำหรับนักเรียนทั้งนักเรียนต่างชาติและนักเรียนในท้องถิ่น การผสมผสานจากหลายเชื้อชาติจึงทำให้เป็นสถานที่ที่มีสีสันต่อการศึกษา เรียนรู้ภาษาอังกฤษและธุรกิจ ด้วยการผสมผสานที่ดี นักเรียนของเราจึงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ครูผู้สอนและบุคลากรของเรามีคุณภาพและพร้อมให้การช่วยเหลือนักเรียน

เรามีหลักสูตรแบบเต็มเวลา (Full Time) และ แบบนอกเวลา (Part Time) และ นำเสนอทั้งหลักสูตรที่ได้รับการรับรองระดับชาติ และหลักสูตรระยะสั้น ดังนั้นสิ่งที่นำคุณไปยังควีน คอเลจ มีบางอย่างสำหรับทุกคน คุณจะได้เพื่อนที่ดีเช่นเดียวกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและธุรกิจในประเทศที่ยอดเยี่ยมของเรา


ทำไมต้องเลือก Queens College

1. Queens College เสนอหลักสูตรภาษาอังกฤษ และ หลักสูตรบริหารธุรกิจ ที่มีขอบเขตกว้างขวาง
2.ครูและผู้ฝึกสอนที่มีคุณวุฒิสูง
3.การผสมผสานหลากหลายเชื้อชาติที่พอดีกัน
4. ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสำคัญ
5. สนุกสนานไปกับกิจกรรมทางด้านสังคม
6. มีทางเลือกสถานที่พักดีเยี่ยม
7. มีบริการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ของเรา
8. มีผู้ช่วยทางภาษา
9. มีเส้นทางสู่มหาวิทยาลัย ( Path Way)


หลักสูตรที่เปิดสอน


หลักสูตร General English – (CRICOS course code: 082023C)


วัตถุประสงค์หลักสูตร

เพื่อปรับปรุงระดับภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนต่างชาติ แต่ละระดับเมื่อจบแล้วนักเรียนจะมีความพร้อมมากขึ้นที่ก้าวไปสู่ระดับต่อไป หลักสูตรนี้จะเป็นพื้นฐานของภาษาอังกฤษเพื่อก้าวไปสู่การเรียนภาษาอังกฤษที่พิเศษมากขึ้นเช่น หลักสูตรเตรียมสอบ IELTS และ หลักสูตร EAP


ระยะเวลาเรียน 4 – 48 weeks


หลักสูตรมีทั้งหมด 6 Levels

1. Beginner
2. Elementary
3. Pre – Intermediate
4. Intermediate
5. Upper – Intermediate
6. Advanced


คุณสมบัตินักเรียน – อายุ 18 ปีขึ้นไป

วันเริ่มเรียน – ทุกวันจันทร์


การเรียนการสอน

การสอนแบบตัวต่อตัว นักเรียนจะได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ผ่านการออกแบบการพัฒนาทักษะในเรื่องการอ่าน การเขียน การพูด และการฟัง ตลอดจนปรับปรุง การออกเสียง และ ความรู้เรื่องไวยกรณ์ของนักเรียน


หลักสูตร Preparation Courses for IELTS – (CRICOS course code: 082025A)


วัตถุประสงค์หลักสูตร

1. เพื่อให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับองค์ประกอบของข้อสอบ IELTS
2. เพื่อแนะนำกลยุทธ์ให้กับนักเรียนในการทำข้อสอบ IELTS ให้ได้คะแนนสูง
3. ช่วยให้นักเรียนทำคะแนนได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ


ระยะเวลาเรียน – 10 weeks (ขึ้นอยู่กับ Level)

คุณสมบัติผู้เรียน

– อายุ 18 ปีขึ้นไป
– มีระดับภาษาอังกฤษที่ Upper – Intermediate


วันเริ่มเรียน – ทุกวันจันทร์


การเรียนการสอน

นักเรียนจะได้รับการทดสอบเพื่อวัดว่าพวกเขาพร้อมที่จะเข้าร่วมชั้นเรียนในหลักสูตรเตรียมสอบ IELTS และในด้านของการทดสอบนักเรียนจำเป็นต้องให้ความสนใจโดยเฉพาะ ตลอดหลักสูตร ความก้าวหน้าของนักเรียนจะถูกตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่คล้ายกับที่ใช้ในการทดสอบจริง


หลักสูตร English for Academic Purposes (EAP) – (CRICOS course code : 082024B)

วัตถุประสงค์

หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษและเทคนิคการศึกษาทางวิชาการของนักเรียน ภาษาและทักษะจะช่วยให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายและสามารถเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย, วิทยาลัยอาชีพ หรือ วิทยาลัยอื่น ๆ ในอนาคตได้สำเร็จ


รายละเอียดหลักสูตร

หลักสูตร EAP ออกแบบมาเพื่อเจาะจงในเรื่องของการเตรียมตัวนักเรียนเพื่อเรียนทักษะการพูดภาษาอังกฤษ รวมไปถึง การฟัง และ จดบันทึกย่อ การนำเสนองานสัมมนา และ การอภิปราย ทักษะการอ่านเร็ว การเขียนเชิงวิชาการ การใช้ห้องสมุดและอินเตอร์เน็ต คำศัพท์ระดับมหาวิทยาลัย การเตรียมงานนิทรรศการเป็นภาษาอังกฤษ วัฒนธรรมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย เทคนิคการทำวิจัย การคิดเชิงวิจารณ์ การเขียนเรียงความ


ระยะเวลาเรียน 12 Weeks

คุณสมบัติผู้เรียน

– อายุ 18 ปีขึ้นไป
– มีระดับภาษาอังกฤษที่ Upper – Intermediate


วันเริ่มเรียน – ทุกวันจันทร์


หลักสูตร Certificate III in Business – (CRICOS course code: 082022D)

วุฒิการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของบุคคลที่ใช้ความหลากหลายของความสามารถในบริบทการทำงานที่แตกต่างกันโดยใช้ดุลยพินิจและความรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวข้องตัดสิน ผู้เรียนในหลักสูตรนี้จะสามารถให้คำแนะนำทางด้านเทคนิคและการสนับสนุนให้กับทีมงานได้


ระยะเวลาเรียน 24 Weeks

โอกาสทางอาชีพ

1. ที่ปรึกษาด้านการบริการลูกค้า
2.ผู้ประกอบการเก็บข้อมูล
3. เสมียน
4. พนักงานจัดพิมพ์
5. ผู้ประกอบการประมวลผล
6. ผู้ช่วยผู้จัดการ
7. พนักงานบริการข้อมูล
8. พนักงานต้อนรับ


คุณสมบัติผู้เรียน

1. จบการศึกษา Year 10 หรือ เทียบเท่า (นักเรียนไทยจบมัธยม 6)
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ระดับทางภาษาอังกฤษอยู่ที่ IELTS 4.5 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า


หลักสูตร Certificate IV in Business – (CRICOS course code: 082021E)

วุฒิการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของบุคคลที่ใช้ทักษะการพัฒนาและฐานความรู้ในวงกว้างในหลากหลายบริบท ผู้เรียนสามารถใช้การแก้ปัญหาเพื่อกำหนดช่วงของปัญหาที่ไม่สามารถคาดเดาได้และการวิเคราะห์ ประเมินผลข้อมูลจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย ผู้เรียนจะมีความเป็นผู้นำและมีความรับผิดชอบ

ระยะเวลาเรียน 26 Weeks

โอกาสทางอาชีพ

1. ผู้จัดการ
2. เจ้าหน้าที่โครงการ


คุณสมบัติผู้เรียน

1. จบการศึกษา Year 11 หรือ เทียบเท่า (นักเรียนไทยจบมัธยม 6)
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ระดับทางภาษาอังกฤษอยู่ที่ IELTS 5.0 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า Upper- Intermediate


หลักสูตร Diploma of Management – (CRICOS course code: 069795A)

วุฒิการศึกษานี้ให้ทักษะและความรู้ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ ผู้จัดการ หัวหน้าทีม หรือ ผู้บริหารสูงสุดเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานและความรู้และตระหนักถึงการฝึกการจัดการ ผู้ปฏิบัติงานในระดับนี้ปฏิบัติงานโดยทักษะขั้นสูงและมีความรับผิดชอบต่อผู้บริหารของพนักงานและอาสาสมัครบัณฑิตของหลักสูตรนี้จะพัฒนาความเข้าใจในความคิดสร้างสรรค์และสาเหตุเป็นหลักพื้นฐานของการทำงานที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มงาน ตลอดจนทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในองค์กรเล็ก และ/หรือ องค์กรใหญ่


ระยะเวลาเรียน 33 Weeks

โอกาสทางอาชีพ

1. ผู้ประสานงาน หรือ ผู้บริหารระดับกลาง
2. ผู้บริหารทั้งภาคธุรกิจและภาครัฐบาล
3. หัวหน้าทีม


คุณสมบัติผู้เรียน

1. จบการศึกษา Year 12 หรือ เทียบเท่า (นักเรียนไทยจบมัธยม 6)
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ระดับทางภาษาอังกฤษอยู่ที่ IELTS 5.0 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า High Upper- Intermediate


สิ่งอำนวยความสะดวก

Queens College จัดการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาแบบทันสมัยที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการสำหรับนักเรียน สิ่งอำนวยความสะดวกห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์รวมเอาเทคโนโลยี และซอฟแวร์ โปรเจ็คเตอร์ข้อมูล ความเร็วของบรอดแบนด์ และเครื่องเล่น DVD ล่าสุดให้กับนักเรียน นักเรียนจะได้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลางที่มีทั้งห้องครัวและอินเตอร์เน็ตฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้นักเรียนจะเลือกใช้ได้แม้อยู่นอกเวลาทำการ


ภาพบรรยากาศภายใน สถาบัน Queens College







 


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com


 

 

 

แนะนำสถาบัน UOW Malaysia KDU University College

jackz
19 Dec 2014
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
KDU, KDU College, Malaysia College, Penang

 

แนะนำสถาบัน 


 


UOW Malaysia KDU เป็นส่วนหนึ่งของ University of Wollongong Australia  ซึ่งมีประวัติอันยาวนานในการให้บริการการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เข้าถึงได้ มีคุณภาพในประเทศมาเลเซียและภูมิภาคโดยรอบ  ที่ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ  KDU  College และ University College

เมื่อปี 2019  UOW Global Enterprises ซึ่งเป็น บริษัท ในเครือของ University of Wollongong Australia ได้รับสถาบัน KDU เข้ารวมกับเครือข่ายวิทยาเขตทั่วโลกของมหาวิทยาลัย  University of Wollongong Australia  ที่ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย ดูไบ ฮ่องกง และตอนนี้ได้ตั้งอยู่ในมาเลเซียด้วย  และเปลี่ยนชื่อเป็น  UOW Malaysia KDU

KDU Colege ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 เป็นวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกของมาเลเซียที่เปิดโอกาสให้เยาวชนมาเลเซียได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ คุณภาพสูงในพื้นที่ท้องถิ่น  จากความสำเร็จของวิทยาเขต Damansara Jaya   จึงได้ก่อตั้งวิทยาเขตแห่งที่สองในรัฐปีนังขึ้นในปี 1991

ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2010 วิทยาลัย KDU วิทยาเขต Damansara Jaya ได้รับการยกระดับขึ้นให้เป็น University College ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของหลักสูตรที่มีคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกในการสอนที่ยอดเยี่ยม และความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง

หลังจากนั้นในเดือนมกราคมปี 2015  KDU University College ได้ย้ายวิทยาเขตหลักแห่งใหม่ไปที่ Utropolis Glenmarie  และ ในปีเดียวกันนั้น KDU College วิทยาเขต Penang ก็ได้รับการยกระดับขึ้นให้เป็น University College

ปัจจุบัน   KDU University College ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย University of Wollongong Australiaได้เปลี่ยนชื่อเป็น UOW Malaysai KDU และ มีด้วยกัน 4 วิทยาเขต ดังนี้

  1. UOW Malaysia KDU University College                 วิทยาเขต   Utropolis Glenmarie
  2. UOW Malaysia KDU Penang University College    วิทยาเขต   Penang   (George Town)
  3. UOW Malaysia KDU Penang University College    วิทยาเขต   Penang   (Batu Kawan)
  4. UOW Malaysia KDU College                                  วิทยาเขต   Utropolis Glenmarie   (วิทยาเขตใหม่เปิดทำการ มีนาคม 2021)


Penang Campus (Batu Kawan)
Penang Campus (George Town)


UOW Malaysai KDU เปิดสอนหลักสูตรที่หลากหลาย ภายใต้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ร่วมสมัย โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย โดยเปิดสอนตั้งแต่ระดับ Foundation, Pre-University ไปจนถึงระดับปริญญาตรี และรวมไปถึงระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอกด้วย  ซึ่งหลักสูตรที่เปิดสอนได้แก่

  • Business
  • Built Environment
  • Communication & Creative Arts
  • Computing & Creative Media
  • Engineering
  • Hospitality, Tourism & Culinary Arts
  • Health Science
  •  Law
  • Professional Accountancy
  • Social Science
  • Language
  • Pre-University Studies
  • American Degree Transfer Program (ADP)
  • Postgraduate Studies


ที่พักสำหรับนักเรียนต่างชาติ

UOW Malaysia KDU  มีที่พักสำหรับนักเรียนทั้งแบบ Hostel และ แบบ Private Accommodation  (แบบเป็นส่วนตัว)

ที่พักแบบ Hostel มีแบบห้องให้เลือกพักดังนี้

  • Single room
  • Double room
  • Triple room
  • Quad room

สิ่งอำนวยความสะดวกของ Hostel

  • ห้องซักรีดพร้อมเครื่องซักผ้า
  • ห้องอ่านหนังสือ
  • ห้องดูทีวีส่วนกลาง
  • พื้นที่ส่วนกลางสำหรับ นั่งพักผ่อน ทานอาหาร
  • ครัวกลาง สำหรับทำอาหาร มีบริการตู้เย็น ไมโครเวฟ และ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ

หอพักทั้งหมดได้รับการตกแต่งอย่างครบครัน ได้รับการดูแลอย่างดี และติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานอย่างสะดวกสบาย ผู้อยู่อาศัยมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาความสะอาดภายในห้องพักของตน  และทุกสัปดาห์จะมีพนักงานทำความสะอาดมาดูแลทำความสะอาดบริเวณภายนอกให้ มีบริการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย

Private Accommodation (ที่พักแบบส่วนตัว)

สำหรับที่พักแบบส่วนตัวนี้  แผนกบริการนักศึกษา (SSD) ได้รวบรวมรายชื่อบ้าน/ห้องส่วนตัวในบริเวณโดยรอบซึ่งมีให้เช่าสำหรับนักศึกษา นักศึกษามีทางเลือกมากมายตั้งแต่ห้องพักแบบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงห้องที่ตกแต่งอย่างครบครัน บ้านสำหรับครอบครัว หอพักชาย และห้องชุดในอาคารชุด ค่าเช่ารายเดือนขึ้นอยู่กับประเภทของห้องที่เลือก (พักเดี่ยว, แชร์คู่, พัก 3 คน หรือ พัก 4 คน) และการตกแต่งห้องที่ดีเพียงใด SSD จะช่วยนักศึกษาในการค้นหาที่พักที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าไม่มีการรับประกันว่านักเรียนจะสามารถได้ห้องพัก/บ้านส่วนตัวที่ตรงกับความคาดหวังและความต้องการภายในหนึ่งวัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับความพร้อมในให้บริการของสถานที่พัก


สิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียน




 

ภาพบรรยากาศและกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย




ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected]
Website : https://www.sjworldedu.com

 

แนะนำสถาบัน Advanced Tourism International College (ATIC)

jackz
07 Nov 2014
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Advanced Tourism International College, ATIC, ATIC International College, Malaysia College, มาเลเซีย, เรียนต่อมาเลย์, เรียนต่อมาเลเซีย, เรียนที่มาเลเซีย

แนะนำสถาบัน Advanced Tourism International College (ATIC)


เกี่ยวกับ ATIC

Advanced Tourism International College (ATIC), มีชื่อเดิมว่า ATI Asia Tourism Training Centre ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 ในปีนัง จุดมุ่งหมายแรกเริ่มคือเพื่อที่จะเตรียมบุคลากรที่มีคุณภาพตามความต้องการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมด้านการบริการ เราเป็นวิทยาลัยฝึกอบรมการท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาการท่องเที่ยวและการจัดการการโรงแรมโดยได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ในมาเลเซีย

 


รูปที่ 1

ในปี 2008 ATIC เป็นสถาบันการศึกษาภาคเอกชนอย่างเต็มตัวที่ยกระดับเป็นวิทยาลัยนานาชาติโดยกระทรวงอุดมศึกษาของมาเลเซีย สำหรับการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ กว่าระยะเวลาช่วงสั้นๆ พวกเราเติบโตอย่างรวดเร็ว และในปี 2009 เป็นปีที่สำคัญสำหรับเราเพราะขณะนี้กำลังมีโปรแกรมเพิ่มเติม วิทยาลัยกำลังจะขยายการดำเนินงานไปยังอาคารใหม่เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนของเราที่เพิ่มขึ้นและการเพิ่มขึ้นของทีมงานบุคลากรของสถาบัน
วิทยาลัยมุ่งมั่นที่จะเป็นวิทยาลัยภาคเอกชนที่ดีที่สุดในประเทศมาเลเซีย และ พร้อมสู่เส้นทางที่ประสบความสำเร็จของนักเรียนในสถาบันร่วมกัน

วิสัยทัศน์ของเรา

เป็นวิทยาลัยเอกชนที่เป็นที่หนึ่งและได้รับความต้องการ โดยนำเสนอโครงการที่หลากหลายที่สุดในมาเลเซีย

ภารกิจของเรา

มุ่งเน้นไปที่การบริการที่มีประสิทธิภาพในวิทยาลัยและแยกตัวเป็นวิทยาลัยที่มีคุณภาพสูงสุด ค่านิยมหลักของเราคือทำให้เรามีทิศทางและเป้าหมายที่ยั่งยืน และมีความได้เปรียบในการแข่งขัน

  • เราให้การศึกษาชั้นเยี่ยมและปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคมแก่นักเรียน
  • เรารับรองว่านักเรียนจะมีประสิทธิภาพในการทำงานทั้งในประเทศและทั่วโลก
  • เรามีความเอื้ออำนวยต่อนักเรียนอย่างไม่เป็นสองรองใคร
  • เราใช้การฝึกจริยธรรมและปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นวิทยาลัยที่มีมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงที่สุดและมีความซื่อสัตย์อย่างไม่ต้องสงสัย
  • วัตถุประสงค์ของเราคือ มุ่งไปสู่วิสัยทัศน์อันดับ 1 ในประเทศมาเลเซีย

หลักสูตรที่เปิด

1. Diploma in Tourism Management

นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวนานาชาติอย่างครบครัน การเรียนการสอนของเราเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลัก ๆ 4 อย่างคือ การอธิบาย การทดลอง การฝึกปฏิบัติ และ การประเมินผล เนื้อหาของการฝึกฝน คือ พัฒนาและประเมินผล รวมไปถึงหลักปฏิบัติทางความสามารถพื้นฐาน และ การประยุกต์ใช้ความรู้ มันคือหลักปรัชญาของ ATIC ที่ทำให้นักเรียนเป็นผู้สำเร็จกลายเป็นปัญญาชน ที่มั่นใจ และมีความเชื่อถือสูงในการจ้างทำงาน หลักสูตรการท่องเที่ยวของเรามุ่งเน้นไปยังอาชีพทางภาคการท่องเที่ยว สนับสนุนนักเรียนให้มีความรู้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม มีทักษะและ คุณสมบัติที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก


รูปที่ 2

2. Diploma in Hotel Management

วัตถุประสงค์หลักของหลักสูตรนี้คือการผลิตนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของวัฒนธรรมการจัดการการโรงแรม นักเรียนของเราไม่เพียงแต่เรียนรายละเอียดเรื่องการจัดการการโรงแรมเพียงอย่างเดียวแต่จะรวมเรื่องอื่น ๆ เช่น การลงทุนทางด้านธุรกิจ การแนะนำทางการตลาด ฯลฯ ด้วย ATIC ได้จัดขอบเขตการศึกษาของวิชาพื้นฐานและวิชาเฉพาะ ซึ่งนักเรียนจะสามารถเข้าใจทักษะสำคัญ รูปแบบ และ เทคนิคที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมการโรงแรมอย่างลึกซึ้ง


รูปภาพ 3

3.Diploma in Culinary Arts

หลักสูตรนี้ทาง ATIC เสนอให้เรียนทั้งหมด 2 ปี 4 เดือน มีเป้าหมายพิเศษสำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบในความคิดสร้างสรรค์และรักทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาหาร โดยการฝึกฝนด้วยมือเพื่อช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการทำอาหารได้อย่างประณีตในอุตสาหกรรมอาหาร ระหว่างที่เรียนนักเรียนจะได้ เรียนรู้การสื่อสาร การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานเป็นทีม การลงทุนในธุรกิจ และ ทักษะการจัดการด้วย นอกจากนี้นักเรียนได้รับจริยธรรมที่จำเป็นและความเป็นมืออาชีพในสายงานด้านอาหาร


รูปภาพ 4

4.Diploma in Business Management

หลักสูตรด้านการบริหารจัดการที่ ATIC มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตมืออาชีพในสายงานด้านธุรกิจ เราเชื่อว่าการฝึกฝนและการศึกษาของนักเรียนจะนำไปสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานและ การบรรยายที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถนำสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ไปใช้ประโยชน์
วิธีการแบบองค์รวมเพื่อธุรกิจการศึกษาจะมุ่งสู่การผลิตบัณฑิตที่จะสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในโลกของธุรกิจ นำทีมโดยอาจารย์ที่มีประสบการณ์ในด้านการศึกษาโดยเฉพาะเราจึงพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับนักเรียน


รูปภาพ 5

5. English Camp

จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงปิดเทอม สามารถติดตามรายละเอียดได้จากตัวแทน สถาบัน ATIC


รูปภาพ 6
 

คุณสมบัติผู้เรียน

1.จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. อายุ 18 ปี ขึ้นไป
3.สำหรับ English Camp รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป


ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน

การเรียนการสอนใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงสามารถลงเรียนภาษาอังกฤษเพื่อปรับพื้นฐานก่อนเรียนได้


สิ่งอำนวยความสะดวก

1.บริการรับที่สนามบิน ทางสถาบันมีบริการรับที่สนามบินกรณีนักเรียนต้องการใช้บริการ
2. บริการหอพัก สำหรับนักเรียนต่างชาติเรามีบริการจัดหาที่พักและจองที่พักให้กับนักเรียนได้


รูปภาพ 7
 


สถานที่ตั้งของ ATIC International College


รูปภาพ 8


ประมวลภาพกิจกรรมของ ATIC










ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com

 

แนะนำสถาบัน KTJ (KOLEJ TUANKU JA’AFAR)

jackz
11 Oct 2014
Malaysia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
KOLEJ TUANKU JA’AFAR, KTJ, Malaysia

KTJ
PRIMARY SECONDARY
KOLEJ TUANKU JA’AFAR


1

 P05


Kolej Tuanku Ja’afar มอบโอกาสพิเศษทางการศึกษาที่โดดเด่น สำหรับนักเรียนทั้งชายและหญิง เรามีความภูมิใจที่เป็นหนึ่งในโรงเรียนในเขตการศึกษาที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค สำหรับนักเรียนอายุ 3-18 ปี โดยโรงเรียนจัดเป็นโรงเรียนประจำสำหรับเด็กอายุ 11 ปีขึ้นไป   ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ปี 1991   KTJ ได้สถาปนาโรงเรียนให้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของโรงเรียนนานาชาติในประเทศมาเลเซีย


P 01


นักเรียนจะได้รับการส่งเสริมทุก ๆ ด้าน เพื่อบรรลุเป้าหมายมาตรฐานทางการเรียนรู้ระดับสูง ทั้งยังมีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่หลากหลาย เราท้าทายโดยให้นักเรียนตั้งเป้าหมายด้วยตัวเองและพัฒนาความมั่นใจ เชื่อมั่นในตนเองที่จะประสบความสำเร็จ Experienced Houseparent ให้การสนับสนุนและดูแลสภาพแวดล้อมเพื่อให้เด็กสามารถก้าวหน้า ได้รับทักษะความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และตระหนักถึงความต้องการของผู้อื่น ทั้งความเคารพและความอดทนซึ่งกันและกันนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าซึ่งเรายึดมั่นและบอกกับนักเรียนในช่วงเวลาที่อยู่ที่ KTJ  ทุก ๆ คนที่ KTJ มีความคาดหวังสูง และผู้ปกครองมั่นใจได้เลยว่าบุตรหลานของท่านจะได้รับแรงบันดาลใจที่จะประสบความสำเร็จในมาตรฐานที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โรงเรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตผู้มีส่วนร่วมต่อสังคม ที่เป็นผู้มีความทะเยอทะยาน รอบรู้ และเป็นผู้ที่มีน้ำใจต่อผู้อื่น นักเรียนของเรามีทุกโอกาสที่จะพัฒนาความเป็นอิสระและความเคารพในตัวเองสูง พร้อมก้าวสู่ความประสบความสำเร็จอีกขั้นในชีวิต


2+3

P04


วิสัยทัศน์
เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของโรงเรียนในมาเลเซีย ที่เสริมสร้างศักยภาพแก่นักเรียนให้เป็นผู้นำที่ยั่งยืนได้ทั่วโลก

ภารกิจ
ให้การศึกษาที่โดดเด่น สไตล์ British การศึกษาแบบองค์รวมในสภาพแวดล้อมโรงเรียนประจำแก่นักเรียนมาเลเซียและนักเรียนต่างชาติ การอยู่รวมกันของเราสะท้อนสังคมแบบมาตรฐานทางศีลธรรมสูง การตระหนักถึงความหลากหลายของนักเรียน ที่มีความเชื่อ และเชื้อชาติที่ต่างกันจำนวนมาก

ค่านิยม
ค่านิยมของเราคือ การเคารพซึ่งกันและกัน ความเมตตากรุณา และการเอาใจใส่คือคุณธรรมที่ปรารถนาสำหรับทุก ๆ คนในการอยู่ร่วมกันในโรงเรียน


P06


ผู้ก่อตั้ง

Kolej Tuanku Ja’afar ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดย YAM Tunku Naquiyuddin (HRH Prince Naquiyuddin),Tunku Laxamana Negeri Sembilan, YAM Tunku Tan Sri Imran (HRH Prince Imran) และ YAM Tunku Dara (HRH Princess Dara) Tunku Tan Sri Naquiah. แรงบันดาลใจของพวกเขาคือ ออกแบบโรงเรียนในประเทศมาเลเซีย ให้เป็นโรงเรียนประจำที่มีความแข็งแรงสไตล์อังกฤษ


P07


map


ความหลากหลายใน KTJ

Kolej Tuanku Ja’afar มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยแท้จริง นักเรียนของเรามาจากมากกว่า 20 ประเทศต่างกัน ทั้งเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา และแอฟริกา ในขณะที่นักเรียนของเราส่วนใหญ่มาจากในประเทศมาเลเซีย การผสมผสานของวัฒนธรรมทำให้บรรยากาศของ KTJ น่าสนใจเป็นพิเศษและช่วยให้นักเรียนของเราภูมิใจในวัฒนธรรมของประเทศตน มีความรู้สึกและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น


P08


นักเรียนของเรา

Kolej Tuanku Ja’afar ผลิตนักเรียนให้มีความสามารถทางวิชาการสูงสุด เราไม่ได้เน้นแค่การเรียนเพียงอย่างเดียว จุดมุ่งหมายของโรงเรียนคือผลิตนักเรียนให้มีความรอบรู้ เป็นผู้นำที่มีความมั่นใจในตนเอง ในอนาคต เช่น ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมนอกหลักสูตรและกีฬาก็ไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาค การอาศัยอยู่ในหอพัก บุตรหลานของท่านจะได้เรียนรู้การเป็นอยู่แบบอิสระ มีความรับผิดชอบและรู้จักตนเอง ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญของการให้เคารพผู้อื่นและการทำงานเป็นทีม


P11

 


การศึกษาแบบโรงเรียนประจำที่เป็น พหุวัฒนธรรม (Multicultural School) นี้   KTJ ทำให้เด็กมีโอกาสที่เท่าเทียมกันในโลกที่ทันสมัย เราให้โอกาสนักเรียนได้สร้างมิตรภาพกับเพื่อนชาวต่างชาติและต่างวัฒนธรรม


แสวงหาความเป็นเลิศ

ที่ Kolej Tuanku Ja’afar เราช่วยให้นักเรียนของเราประสบความสำเร็จในทุกๆสายงาน สัดส่วนบุคลากรต่อนักเรียนในห้องเรียนน้อย นั่นหมายความว่า คุณครูสามารถดูแลเอาใจใส่ตามความต้องการของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาการและ pastoral บุคลากรเป็นผู้ที่มีคุณภาพสูงและเป็นคุณครูต่างชาติที่ภาคภูมิใจในการประสบความสำเร็จของนักเรียนของเขาที่ได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เป้าหมายของเราคือช่วยให้เด็กพัฒนาสู่ความมั่นใจ รอบรู้ เป็นผู้ใหญ่ที่สามารถประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในชีวิต เราสนับสนุนเป้าหมายของมาเลเซียที่จะให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่เป็นเลิศ


P12


ชั้นประถมศึกษา (Primary) 

 


P13


 

สร้างจากการประสบความสำเร็จของการนำการศึกษาแบบมัธยมศึกษาและ Sixth Form ที่มีความพิเศษมาใช้ KTJ มีชั้นประถมศึกษาในวัตถุประสงค์ให้อาคารที่สร้างอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ ชั้นประถมศึกษาของ KTJ สำหรับนักเรียนอายุ 4 ถึง 11 ปี ตามหลักสูตรของสหราชอาณาจักร และปรับให้เหมาะสมกับนักเรียนมาเลเซีย เราใช้หลักสูตร International Primary Curriculum (IPC) ที่โรงเรียนจำนวน 1550 โรงเรียนใน 80 ประเทศใช้มาแล้ว

IPC เป็นหลักสูตรที่ครอบคลุม, enquiry based และมีความสร้างสรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น ที่ KTJ เราจัดหาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้นักเรียนได้พัฒนา การเคารพในตนเองและหาแนวความคิดใหม่ ๆ และกลายเป็นผู้เรียนที่มีความมั่นใจ มีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ พัฒนาความสามารถในด้านศิลปะและกีฬาจะเป็นสิ่งสำคัญต่อประสบการณ์ของพวกเขาใน KTJ การใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นในชั้นมัธยมศึกษาของ KTJ ทำให้มั่นใจว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาของ KTJ นั้นมีทรัพยากรที่ดีที่สุดในประเทศ


ชั้นมัธยมศึกษา (Secondary )


P14


นักเรียน Forms 1-3 ใช้หลักสูตรของอังกฤษ วิชาหลัก ๆ ประกอบด้วย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างน้อย1ตัว ภาษาต่างประเทศ ศาสนาอิสลาม หรือ คุณธรรม (สำหรับชาวมาเลเซีย) พละศึกษา ดนตรี เทคโนโลยี และการละคร

นักเรียน Forms 4-5 ใช้หลักสูตรที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติคือ IGCSE ของ Edexcel หรือไม่ก็ของ Cambridge International Examinations (CIE) มี 4 วิชาหลัก ๆ (คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, วิทยาศาสตร์อย่างน้อย 1 ตัว และภาษาอื่น) และวิชาเลือกมากกว่า 5 หรือ 6 วิชาจากวิชาที่มีหลากหลาย


P16
P15


Sixth Form (มัธยมศึกษาปีที่ 6)

โรงเรียนภูมิใจในความประสบความสำเร็จอย่างมากของ Sixth Form A level courses ตลอดจน วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และมนุษยศาสตร์ของ A Level นักเรียนมีโอกาสที่จะเรียนดนตรี ศิลปะ และ การละครในชั้น A Level

นักเรียน Sixth form ส่วนใหญ่จะก้าวไปสู่มหาวิทยาลัยต่างประเทศหลังจากจบหลักสูตรใน ทุก ๆ ปี นักเรียนจะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย Oxford หรือ Cambridge และมีความประทับใจที่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกได้ต้อนรับนักเรียนของเรา รวมไปถึงมหาวิทยาลัย Havard และ Yale นักเรียนได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องวิชา หลักสูตรมหาวิทยาลัยในอนาคตโดยทีมติวเตอร์ Sixth form ที่มีประสบการณ์สูงและโดยหัวหน้าของ Sixth form หนังสือเล่มเล็กเกี่ยวกับSixth form แยกต่างหาก ซึ่งสรุปตัวเลือกวิชาและให้ข้อมูลหลักสูตรและรายวิชาที่ต้องการ ที่มีอยู่ในโรงเรียน


P25


ทรัพยากรในการเรียนรู้ (Learning Resources)


P17 P17_1


หอประชุม  (Auditorium)


P18


ศูนย์สุขภาพ (Health Centre)

 


P19


กีฬา (Sports)


P 20


กิจกรรม (Activities)


P21


บ้านพักประจำ (Boarding houses)


P22


การใช้ชีวิตที่ KTJ (LIFE at KTJ)


P23


ตำแหน่งที่ตั้งของเรา (Our Location)

 


P24


สถานที่ (Address)

KOLEJ TUANKU JA’AFAR
71700 Mantin,Negeri Sembilan Darul Khusus,Malaysia



ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com

 

การทำงานในออสเตรเลียของนักเรียนไทยกับการเติมเต็มประสบการณ์และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย

SJ WORLD EDUCATION
16 May 2014
บทความน่ารู้, เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย
Comments: 298
การหางานทำต่างประเทศ, ทำงานต่างประเทศ, ทำงานในออสเตรเลีย, ที่ทำงานในต่างประเทศ, หางานทำในต่างประเทศ, หางานในต่างประเทศ

การทำงานในออสเตรเลียของนักเรียนไทยกับการเติมเต็มประสบการณ์และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย


นักเรียนและผู้ปกครองมักจะสอบถามอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับความสามารถในการทำงานขณะศึกษาในประเทศออสเตรเลีย เพราะว่าจะช่วยเติมเต็มการศึกษาและประสบการณ์ชีวิตของนักเรียน รวมถึงการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่อาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียและประสบการณ์การทำงานที่จะได้รับจากพื้นที่ที่กำลังศึกษาอยู่ วีซ่านักเรียนส่วนใหญ่อนุญาตให้นักเรียนทำงานได้มากถึง 40 ชั่วโมงต่อทุกสองสัปดาห์ ในขณะที่นักเรียนยังอยู่ในหลักสูตรตามภาคการศึกษา และไม่จำกัดจำนวนชั่วโมงระหว่างช่วงพักการศึกษา แต่ก่อนที่ท่านจะดำเนินการใดๆกับงานที่ได้รับค่าจ้าง ท่านต้องแน่ใจว่าวีซ่าของท่านอนุญาตให้ท่านทำงานที่ได้รับค่าจ้างได้ โดยท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและพลเมือง



Working in Australia



นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่เลือกมาเรียนที่ออสเตรเลียเพราะสามารถทำงาน Part -Timeได้ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับนักเรียนไทยก็เช่นเดียวกัน จากรายงานการสำรวจตัวแทนการศึกษาของประเทศไทย ประจำปี ค.ศ.2013 (Thailand’s Education Agent Survey Report 2013) พบว่า ตลาดการไปศึกษาต่อประเทศออสเตรเลียของประเทศไทย ในปัจจุบัน 5 ปัจจัยสูงสุดของการเติบโตทางการตลาดได้แก่


1. ปัจจัยการทำงาน Part- time ได้ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับวีซ่านักเรียน  (Part- time rights for student visa) จำนวน 22 %
2. ปัจจัยค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพสามารถที่จ่ายได้ราคาไม่แพง  (Affordable tuition fee and living expenses) จำนวน 21 %
3. ปัจจัยการจัดลำดับมหาวิทยาลัย / มาตรฐานการศึกษาสูง  (University ranking / high education standard ) จำนวน 20 %
4. ปัจจัย เรื่องญาติและเพื่อนที่อาศัยในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 19 %
5. ปัจจัย เรื่องระยะเวลาในการศึกษา (Duration of study) จำนวน 18 %


Top five factors market growth

รูปที่ 1 Top five factors market growth 


งานที่ได้รับค่าจ้างและประเภทของงาน

ประเทศออสเตรเลียมีอุตสาหกรรมที่หลากหลายและอุตสาหกรรมเหล่านั้นก็เปิดโอกาสให้มีการจ้างงานแบบ Part- time ได้แก่

– ธุรกิจค้าปลีก เช่น ซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า และร้านขายเสื้อผ้า
– งานบริการ เช่น คาเฟ่ บาร์ และห้องอาหาร
– งานท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก
– งานด้านการเกษตร เช่น ทำฟาร์ม หรือรับจ้างเก็บผลไม้
– งานขาย และ การตลาดทางโทรศัพท์
– การบริหารหรือมีบทบาทในธุรการทั่วไป
– งานสอนพิเศษ


ประเภทของงาน

นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่มักจะทำงานตามร้านค้า งานด้านการบริการ และงานด้านการจัดการ ค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับชนิดของงานที่ทำและอายุของผู้ทำงาน ซึ่งอาจได้รายได้มากขึ้นสำหรับการทำงานในวันอาทิตย์หรือวันหยุดราชการ การสอนหนังสือให้นักเรียนที่มีอายุน้อยกว่า ในวิชาที่เรียนหรือสอนภาษาที่ถนัด เป็นวิธีหารายได้พิเศษซึ่งมีรายได้ดี ติวเตอร์ หรือ ผู้ช่วยสอนสามารถทำรายได้ถึง 40 ดอลล่าร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง
หากท่านมีวุฒิการศึกษาอยู่แล้ว และ/หรือ มีประสบการณ์ในการทำงานในระดับมืออาชีพ ท่านอาจจะเลือกงานที่มีหลักประกันแบบชั่วคราว หรือเลือกทำแบบPart-time ในสาขาของท่านก็ได้


สิทธิของท่าน

ทุกคนที่ทำงานในออสเตรเลียรวมทั้งนักศึกษาต่างชาติหรือผู้ที่มีวีซ่าเข้ามาทำงานในช่วงพักร้อนต่างๆก็มีสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน สิทธิโดยชอบธรรมที่ได้รับการปกป้องเหล่านั้นคือ

– ค่าแรงขั้นต่ำ
– การเรียกร้องเมื่อถูกเลิกจ้างแบบไม่เป็นธรรม (ถ้าท่านถูกไล่ออกจากงาน)
– ช่วงเวลาหยุดและพัก
– สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพและความปลอดภัย

นายจ้างส่วนใหญ่ในประเทศออสเตรเลียจะอยู่ภายใต้  “คำชี้ขาด” ซึ่งจะกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและเงื่อนไขสำหรับสายการทำงานหรือในอุตสาหกรรม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิการทำงานของท่าน สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์การทำงานที่เป้นของรัฐบาลออสเตรเลีย (Government’s Fair work)


การอนุญาตให้ทำงาน

หากถือวีซ่านักเรียน นักเรียนมีสิทธิ์ที่จะทำงานขณะพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้สิทธิ์ดังกล่าวมีเงื่อนไขหลายประการ เช่น

– ต้องเริ่มเรียนหลักสูตรที่ลงทะเบียนไว้ก่อนที่จะเริ่มทำงาน
– ทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ในช่วงเปิดภาคเรียนและไม่จำกัดชั่วโมงในช่วงปิดภาคเรียน
– สามารถทำงานได้ต่อเมื่อกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการเป็นพลเมือง (DIAC) ได้พิจารณาแล้วว่า หลักสูตรเป็นแบบ “In session” หมายถึงอยู่ในช่วงภาคการศึกษาตามที่ได้ประกาศไว้
(รวมถึงเวลาการสอบ) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการทำงานได้ที่ www.immi.gov.au/students


การหางานทำ

การหางานทำในประเทศออสเตรเลียมีหลายวิธี เช่น

– หาจากหนังสือพิมพ์และทางเว็บไซต์หางานออนไลน์
– บางสถาบันการศึกษาจะมีบอร์ดประกาศตำแหน่งงานและมีแบบออนไลน์ด้วย ดังนั้นจึงควรติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ให้การสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติเพื่อให้พวกเขาช่วยมองหาตัวเลือกในงานที่สถาบันเสนอ
– ลงทะเบียนกับบริษัทจัดหางาน ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะช่วยหางานแบบชั่วคราวหรืองานระยะสั้นให้ได้


การหางานทางออนไลน์

ส่วนใหญ่ตำแหน่งงานว่างในออสเตรเลียจะมีการประกาศทางเว็บไซต์ สามารถดูได้ที่เว็บดังต่อไปนี้ http://www.seek.com.au  , http://www.mycareer.com.au , http://www.careerone.com.au ,  http://www.studyandwork.com.au  นอกจากนี้ สำนักงานฝ่ายต่างประเทศของสถาบันการศึกษาอาจมีคำแนะนำเพิ่มเติม


หนังสือพิมพ์ : http://www.newspapers.com.au

มีรายชื่อหนังสือพิมพ์หลักของออสเตรเลีย สามารถเลือกรัฐหรือเขตการปกครองพิเศษที่พำนักอยู่เพื่อเรียกดูฐานข้อมูลของหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมีการประกาศตำแหน่งว่างในหัวข้อ “Help Wanted” ในหน้าหางาน


บอร์ดประกาศของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียส่วนใหญ่มีสำนักงานบริการจัดหางาน โดยมีประกาศรับสมัครงานจากผู้จ้างงานที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง


รัฐบาลออสเตรเลีย

รวบรวมรายชื่อตำแหน่งงานว่างโดยดูได้จาก  http://www.jobsearch.gov.au/keylinks/jobboards.aspx


ภาษี

ทุกคนที่ทำงานในประเทศออสเตรเลียจะต้องจ่ายภาษีและจำนวนภาษีที่จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละคน ระบบภาษีของออสเตรเลียดำเนินการโดยสำนักงานสรรพากรออสเตรเลีย (ATO) ผู้มีรายได้ มีหน้าที่ขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TFN) เพื่อให้สามารถทำงานในออสเตรเลียได้ หมายเลขดังกล่าวเป็นหมายเลขประจำตัวเพื่อการเสียภาษีโดยเฉพาะ ซึ่งทางนายจ้างจะให้กรอกแบบฟอร์มการเสียภาษี เมื่อเริ่มต้นทำงาน  หากไม่ได้ให้หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ผู้ทำงานจะถูกหักภาษีในอัตราสูงสุดของภาษีรายได้ส่วนบุคคล  ซึ่งหมายความว่าจะได้รับค่าจ้างน้อยลง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องภาษีสามารถดูได้ที่ http://www.ato.gov.au


สิทธิและความรับผิดชอบในสถานที่ทำงาน

การที่นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่เลือกมาเรียนที่ออสเตรเลียเพราะสามารถทำงาน Part-timeได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่บางครั้งอาจถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบโดยให้ทดลองงานฟรี หรือจ่ายค่าตอบแทนให้ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีการสำรวจมาแล้วโดย Worker’s Union United Voice ว่ากว่า 79% ของนักเรียนต่างชาติไม่รู้ข้อกำหนดกฎหมายเรื่องสิทธิประโยชน์ของตนเอง จึงทำให้แนวโน้มที่นายจ้างจะเอารัดเอาเปรียบนักเรียนต่างชาตินั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่น่าตกใจว่านักเรียนต่างชาติส่วนหนึ่งได้รับค่าแรงอยู่ที่ชั่วโมงละ 10 AUD หรือน้อยกว่า และมีนักเรียนต่างชาติอีก 60% ที่ได้รับค่าแรงต่ำกว่ากฎหมายกำหนด และกว่า 76% ไม่ได้รับค่าแรงชดเชยกรณีที่ทำงานวันหยุดหรือทำงานล่วงเวลา สาเหตุที่ทำให้นักเรียนต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบเนื่องมาจากนักเรียนต่างชาติคิดว่าตนเองนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องของภาษาอังกฤษและวีซ่า แต่แท้ที่จริงเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการทำงานที่ได้ทั้งประสบการณ์ชีวิตและค่าตอบแทนที่คุ้มค่า นักเรียนควรจะศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายต่างๆก่อนทำงานด้วยเพื่อสิทธิประโยชน์ของตนเองและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายจ้างรู้จักคุณค่าของนักเรียนต่างชาติด้วย และในเบื้องต้น สิ่งที่ควรรู้ก่อนก็คือ

– ค่าแรงขั้นต่ำที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือ 16.32 AUD ต่อชั่วโมง
– การทดลองงานใดๆในออสเตรเลียที่ไม่จ่ายค่าจ้าง ถือว่าผิดกฎหมาย

ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงาน ควรศึกษาเรื่องสิทธิตามกฎหมายในฐานะพนักงานและหน้าที่รับผิดชอบที่มีต่อนายจ้าง การที่เป็นนักเรียนต่างชาติไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้สิทธิต่างๆเท่าเทียมกับผู้อื่น สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fairwork.gov.au หรือโทร 13 13 94 ทั้งนี้รัฐบาลออสเตรเลียได้มีหน่วยงานชื่อ Fair Work OMBUDSMAN ซึ่งคอยช่วยให้คำปรึกษา ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และรับข้อร้องเรียนนักเรียนต่างชาติ โดยมีล่ามคนไทย โทร 131 450 และมีเว็บไซต์ภาษาไทยไว้ให้สำหรับนักเรียนไทยในออสเตรเลียด้วย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fairwork.gov.au/languages/thai


การจ่ายเงินค่าจ้าง

นักเรียนมีสิทธิที่จะได้รับค่าจ้างตามอัตราจ้างขั้นพื้นฐาน ตามเกณฑ์อายุและลักษณะงาน นายจ้างส่วนใหญ่จะจ่ายค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าอัตราขั้นพื้นฐาน ประเด็นที่ควรทราบมีดังต่อไปนี้

– นายจ้างจะต้องจ่ายเงินให้ในอัตราที่ถูกต้องและยึดตามชั่วโมงในการทำงาน
– การจ่ายเงินค่าจ้างต้องจ่ายเป็นประจำ ลูกจ้างชั่วคราวและไม่ประจำจะได้รับค่าจ้างเป็นรายสัปดาห์ตามชั่วโมงการทำงานที่ทำไปแล้ว นั่นคือจะได้รับเงินค้างชำระไม่ใช่เงินล่วงหน้า สลิปการจ่ายเงินค่าจ้างต้องมีข้อมูลของนายจ้าง (รวมถึงหมายเลขธุรกิจออสเตรเลีย หรือ ABN), จำนวนชั่วโมงการจ้างงาน ภาษีค่ากองทุนเงินสะสมและจำนวนเงินค่าจ้าง
– ไม่ควรต้องถูกหักเงินเพื่อจ่ายทดแทนสิ่งต่างๆ เช่น ลูกค้าไม่ยอมชำระเงิน
– ควรได้รับเงินค่าจ้างในช่วงทดลองงาน
– หากทำงานในวันหยุดสาธารณะ ควรจะได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นสำหรับวันดังกล่าว ควรได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าปกติ สำหรับการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์  หากต้องการความช่วยเหลือ สอบถามเรื่องการจ้างงาน หรือมีข้อพิพาทต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ http://www.fairwork.gov.au หรือโทร 13 13 94


ผู้เขียนและเรียบเรียงบทความฉบับนี้มิได้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ถือวีซ่านักเรียนมุ่งหวังในเรื่องการทำงานเป็นสำคัญแต่ขอให้คิดเสมอว่าเป้าหมายที่สำคัญคือการมาศึกษาหาความรู้ การทำงานเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการเติมเต็มประสบการณ์ชีวิต เพื่อการฝึกความอดทน ขยัน ความรับผิดชอบรู้จักการบริหารเวลา และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งเท่านั้น


ผู้เขียนและเรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์


แหล่งข้อมูล

1.Thailand’s Education Agent Survey Report 2013  เอกสารประกอบการสัมมนา Australia Visa Information Session and Networking Reception  24 January 2014
2. เอกสารประกอบการสัมมนา: Australia Future Unlimited Education Agent Training Bangkok 2013
3. http://www.fairwork.gov.au
4. http://www.studyinaustralia.gov.au
5. http://www.immi.gov.au/students
6. Fairwork Government Australia Youtube Channel

 

 


แนะนำสถาบัน SEGi Malaysia

SJ WORLD EDUCATION
27 Feb 2014
Malaysia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Malaysia, segi, SEGi UNIVERSITY

สถาบัน SEGi Malaysia

http://www.segi.edu.my


Presentation : Introduce to SEGi  Malaysia

[hdwplayer id=2]


SEGi ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเมื่อปี 1977 และเป็นการเปิดประตูสู่การเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เป็นระบบวิทยาลัยครั้งแรก มีนักศึกษากว่า 20,000 คนตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจของกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลากว่า 35 ปี ที่กลุ่มมหาวิทยาลัยเซกิ (SEGi) ได้สร้างบัณฑิตให้กลายเป็นผู้ที่มีรากฐานที่ดีเยี่ยม ทางด้านอาชีพ และเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้การศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย


ที่ตั้งและวิทยาเขต

ประเทศมาเลเซียประกอบไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างของทวีปเอเชียด้วยความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนาและกลุ่มชาติพันธุ์อย่างมาเลย์ อินเดียและจีนที่อาศัยอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี ปรองดอง ประเทศมาเลเซียจะมอบประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยเทศกาลอันมีสีสันหลายร้อยเทศกาล ย่านช้อปปิ้งและภูมิประเทศที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงต่ำและหาดทรายอันสวยงาม ที่นี่ภาษาอังกฤษมีการพูดกันอย่างกว้างขวางแม้ว่าภาษามาเลย์จะเป็นภาษาทางการและภาษาหลักก็ตาม กลุ่มมหาวิทยาลัยเซกิ คือเครือข่ายของวิทยาเขต 5 แห่งดังนี้


1. SEGi University (Kota Damansara, KL.)

ตั้งอยู่ตรงข้ามกับทะเลสาบ Cova อันมีทศนียภาพงดงาม สถาบันการศึกษาอันเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่10 เอเคอร์ ภายในวิทยาเขตที่สร้างขึ้นเป็นการเฉพาะพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและสันทนาการชั้นยอดที่ให้บริการแก่นักเรียน 12,000 คน สถาปัตยกรรมของวิทยาเขตเป็นแบบโคโลเนียลและโรมัน โดยได้มีการขยายพื้นที่วิทยาเขตไปสู่อาคารหลายชั้นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวิทยาเขตหลัก


2. SEGi College Subang Jaya (Subang Jaya)

วิทยาเขตแห่งนี้เปิดดำเนินการในเดือนมกราคมปี 2006 ด้วยวิทยาเขต 12 ชั้นที่ตั้งอยู่ใน เขตวิทยาลัย ขอ Subang Jaya และรองรับนักศึกษาได้ 6,500 คน ด้วยทำเลที่ตั้งติดกับศูนย์การค้า Summit USJ ทำให้วิทยาลัยมีการเดินทางไปยังบริการขนส่งมวลชนและถนนหลวงสายหลักได้อย่างสะดวกง่ายดาย


3. SEGi College Kuala Lumpur (Jalan Hang Lekiu, KL.)

วิทยาเขตที่มีชื่อเสียงใน Klang Valley แห่งนี้มีจุดเริ่มต้นย้อนหลังไปในปี 1977 และมีประวัติผลงานอันโดดเด่นด้วยผู้สำเร็จการศึกษาหลานพันคนที่ผ่านการศึกษาจากที่นี่รวมถึงศิษย์เก่าที่ส่งลูกหลานมาเรียน ด้วยทำเลที่ตั้งในย่านศูนย์กลางทางการเงินทำให้การเดินทางไปยังสถานีรถไฟและรถประจำทางมีความสะดวกง่ายดาย วิทยาลัยตั้งอยู่ใกล้กับธนาคาร โรงแรม ศูนย์การค้าและสถานที่สำคัญของเมืองอย่าง KL Tower Center Market ศูนย์กรค้า Kota Raya และ Berjaya Times Square ซึ่งทุกแห่อยู่ห่างจากวิทยาเขตเพียงไม่กี่นาที


4. SEGi College Penang (Penang)

วิทยาเขตซึ่งตั้งอยู่ในย่าน ไข่มุกแห่งตะวันออก ของประเทศมาเลเซียแห่งนี้เป็นวิทยาเขต 7 ชั้นในใจกลางเมือง Georgetown ด้วยทำเลที่ตั้งในใจกลางเมืองช่วยให้นักศึกษาสามารถใช้บริการขนส่งมวลชน ธนาคาร ภัตตาคาร ศูนย์การค้า สำนักงานไปรษณีย์ ฯลฯ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย


5. SEGi College Sarawak (Sarawak)

วิทยาเขตเมืองในเกาะ Borneo ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอันหลากหลายอาทิเช่น ธนาคาร ภัตตาคารและศูนย์การค้า วิทยาเขตแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภทที่จำเป็นสำหรับการเรียนด้านกฎหมายซึ่งเป็นหลักสูตรเฉพาะด้านจากมหาวิทยาลัย London ของสหราชอาณาจักร ในบรรดาศิษย์เก่าจำนวนหลายพันคนมีทั้งประธานบริหารบริษัท ผู้จัดการทั่วไป ผู้พิพากษา ทนายความ นายธนาคาร ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และผู้อำนวยการบริษัท

 

หลักสูตรที่เปิดสอน

1. Intensive English Program

เป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษก่อนเข้าศึกษาในระดับปริญญา โดยหลักสูตรนี้จะแบ่งเป็น 6 Level ด้วยกันคือ

– Elementary English 1
– Elementary English 2
– Intermediate English 1
– Intermediate English 2
– Upper-Intermediate English 1
– Upper-Intermediate English 2

แต่ละ Level ใช้เวลาในการเรียน Level ละ 1 เดือน สัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง

 

2. Foundation Studies

เป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียนที่จบ O – Level หรือเทียบเท่า เพื่อเตรียมความพร้อมและปรับพื้นฐานก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญา หลักสูตรนี้ใช้ระยะเวลาเรียน 1 ปี หรือถ้านักเรียนไม่ต้องการจะเรียนหลักสูตร Foundation ก็สามารถเลือกเรียนหลักสูตร A – Level ได้เช่นกัน โดยใช้เวลาเรียน 1 ปีครึ่ง

 

3. Diploma

เป็นหลักสูตรวิชาชีพ ระดับอนุปริญญา ในหลักสูตรนี้เปิดสอนหลายด้านด้วยกันดังนี้

– Health Science
– Business & Accountancy
– Engineering & Built Environment
– Computing
– Creative Arts & Design
– Hospitality & Tourism
– Education & Social Sciences

แต่ละหลักสูตรเปิดสอนทุกวิทยาเขต ยกเว้นบางสูตรที่เปิดเฉพาะวิทยาเขตอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Kota Damansara นักเรียนสามารถเลือกสถานที่หรือเมืองที่ต้องการจะเรียนได้


4. Bachelor

เป็นหลักสูตรปริญญาตรี หลักสูตรนี้เปิดเฉพาะที่ Kota Damansara เท่านั้น เปิดสอนหลายคณะด้วยกัน ดังนี้

– Health Science
– Business & Accountancy
– Engineering & Built Environment
– Computing
– Creative Arts & Design
– Hospitality & Tourism
– Education & Social Sciences
– American Degree Program ** หลักสูตรเปิด Bachelor of Science ที่วิทยาเขต Subang Jaya & KL.

 

5. Postgraduate

เป็นหลักสูตรระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก เฉพาะด้านธุรกิจมีหลายสาขาด้วยกัน ดังนี้

1. การจัดการ (Management)
2. การบริหารธุรกิจ (Business Administration)
3. การเงิน (Financial)
4. ธุรกิจสากล ( Global Business)

ใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 2 – 3 ปี (ขึ้นอยู่กับสาขาที่เลือกเรียน)


เกณฑ์ในการเข้าเรียน

คุณสมบัติความรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับหลักสูตรต่าง ๆ มีดังนี้

1. หลักสูตรปูพื้น – IELTS 5.5
2. หลักสูตรอนุปริญญาหรือปริญญาตรี – IELTS 5.5
3. หลักสูตร MBA – IELTS 6.0 หรือผ่านหลักสูตรเตรียมปริญญาโท


การสมัครเรียน

1. รูปถ่ายขนาดเท่าในหนังสือเดินทาง 8 รูป พร้อมเขียนชื่อและหมายเลขหนังสือเดินทางไว้ด้านหลัง
2. สำเนาใบแสดงคุณวุฒิการศึกษา
3. สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ชุด ทุกหน้ารวมทั้งหน้าที่ว่าง  (หนังสือเดินทางจะมีอายุเหลืออย่างน้อย 12เดือน)
4. ประวัติการทำงานล่าสุด (สำหรับการสมัครหลักสูตร MBA เท่านั้น)
5. ผลการตรวจสุขภาพจากแพทย์ฉบับสมบูรณ์
6. ค่าสมัครเรียนและค่าดำเนินการวีซ่า 1,800 ริงกิต

หมายเหตุ : เอกสารทุกฉบับจะต้องแนบฉบับภาษาอังกฤษ


ที่พัก

ศูนย์บริการนักเรียน จะทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือนักศึกษาที่ต้องการหาที่พักในระหว่างการเรียนที่เซกิโดยสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง ราคาและสิ่งอำนวยความสะดวกของที่พักแก่นักศึกษานานาชาติและนักศึกษาที่อยู่ห่างไกล โดยปกตินักศึกษาจะได้พักในหอพักที่บริหารโดยวิทยาลัยหรือหอพักเอกชน ทางเลือกที่พักทุกแห่งมีราคาที่สมเหตุสมผลและเป็นทางเลือกที่หลากหลายสำหรับทุกคน มหาวิทยาลัยเซกิ มีบริการหอพักวิทยาลัยและที่พักนอกมหาวิทยาเขตที่คอนโดมิเนียม Covaรวมถึงอพาทต์เม้นต์แห่งอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้กัน


หอพักนักศึกษา

ที่พักติดตั้งเครื่องปรับอากาศแห่งนี้ตั้งอยู่ในวิทยาเขตหลัก จะให้บริการนักศึกษาด้วย เตียงนอน โต๊ะอ่านหนังสือ เก้าอี้ ตู้เก็บของและ พัดลม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดากที่ใช้ร่วมกันเช่น โทรทัศน์ ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ โรงอาหาร ร้านสะดวกซื้อและเครื่องซักผ้าทำให้ที่นี่เป็นหอพักที่ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับนักศึกษา


ที่พักเอกชน

ศูนย์บริการนักศึกษามีบริการรายชื่อที่พักเอกชนสำหรับนักศึกษาที่ตองการความเป็นส่วนตัวและอิสระมากขึ้น นักศึกษาควรเลือกที่พักที่อยู่ใกล้กับวิทยาเขต นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถตรวจสอบประกาศโฆษณาที่พักในท้องถิ่นได้จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ทางเลือกที่พักอันหลากหลายได้แก่ห้องพักเดี่ยว ห้องพักคู่ ตกแต่งบางส่วน ตกแต่งพร้อมอยู่หรือการพักอาศัยกับครอบครัวโดยชำระค่าเช่าให้กับเจ้าของที่พักโดยตรงเป็นรายเดือน โดยปกติเจ้าของที่พักจะกำหนดให้ต้องชำระค่ามัดจำ 2เดือน สำหรับค่าเช่าและสิ่งอำนายความสะดวกต่าง ๆ ประมาณ 600 – 900 ริงกิต


สิ่งอำนวยความสะดวกมหาวิทยาลัยเซกิ

– สำหรับการเรียนสาขาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมีห้องทดลอง ห้องกายวิภาคและห้องผ่าศพ รวมถึงพิพิธภัณฑ์กายวิภาคและพยาธิวิทยา
– สำหรับสาขาการพยาบาล มีเครื่องจำลองคนไข้มนุษย์มูลค่าเครื่องละ 250,000 เหรียญ แผนกคนไข้และห้องปฏิบัติจำลอง
– สำหรับการเรียนสาขาเภสัชศาสตร์ มีห้องทดลองด้านเภสัชศาสตร์ เคมีและชีววิทยาพร้อมอุปกรณ์รุ่นล่าสุด
– สำหรับการเรียนทันตแพทยศาสตร์ประกอบด้วยห้องทดลองซึ่งจำลองคลินิกทันตกรรมและอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิเช่นเครื่องเอ็กซเรย์ระบบดิจิตอล กล้องถ่ายภาพของช่องปากและเก้าอี้ทำฟันอันทันสมัย
– ส่วนนักศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์จะได้ใช้งานห้องทดลองด้านวิศวกรรมอันทันสมัยอาทิเช่น ห้องทดลองวิศวกรรมเครื่องกล ห้องทดลองวิศวกรรมเคมี ห้องทดลองอุณหพลศาสตร์และการถ่ายเทความร้องและห้องทดลองวิศวกรรมอิเล็คทรอนิคส์และไฟฟ้า
– มหาวิทยาลัยเซกิ มีห้องทดลองคอมพิวเตอร์หลายห้องที่มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ในฐานะวิทยาเขตระบบอิเล็คทรอนิคส์ เอกสารการเรียนมีให้บริการทางออนไลน์และนักศึกษาสามารถเข้าถึงสื่อความรู้และหนังสือเรียนของห้องสมุดได้ผ่านทางเว็บไซต์ของนักศึกษา (SEGi Sphere) นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังมีหอประชุมหลายห้อง
– ห้องกวดวิชา ห้องสมุดและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการกีฬาและสันทนาการต่าง ๆ อาทิเช่น สระว่ายน้ำและสนามกีฬาหลากหลายประเภท
– นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลากหลายประเภทอาทิเช่น หอศิลปะเชิงสร้างสรรค์ โรงอาหาร ห้องสมุด 2 ชั้น ห้องทำงานคณะวิจัย ห้องให้คำปรึกษา ห้องนั่งเล่น ห้องทดลองด้านภาพและเสียงและห้องตัดต่อวิดีโอ


SEGi College Kuala Lumpur

วิทยาลัยมีบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายในวิทยาเขต ซึ่งช่วยให้นักศึกษาสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค ส่วน SEGi sphereซึ่งเป็นเว็บไซต์ e-learning จะช่วยให้นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนสามารถปฏิสัมพันธ์กันได้ทางออนไลน์ นอกเหนือจากห้องสมุดของวิทยาลัยแล้ว ยังมีห้องสมุดเสมือนจริงพร้อมด้วยวารสารมากกว่า 100,000 รายการที่นักศึกษาสามารถเข้าดูได้


SEGi College Supang Jaya

วิทยาลัยที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีแห่งนี้มีห้องทดลองทักษะการพยาบาล ห้องแสดงผลงานออกแบบและหอศิลปะ เปียโนในห้องซ้อม ห้องล้างภาพถ่าย ห้องเล่นเกมส์และโรงละครศิลปะการแสดง รวมถึงมีโครงการ “SEGi – 3K Sports Partnership” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกทางการกีฬาของศูนย์กีฬา 3Kที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับอาคารของวิทยาเขตอาทิเช่น โรงยิม สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล คอร์ท แบตมินตัน ห้อง สควอช ฯลฯ


SEGi College Penang

วิทยาเขตแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านมัลติมีเดีย อินเตอร์เน็ตไร้สายและโรงอาหารที่มองเห็นวิวทะเล นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารสำหรับนักศึกษาที่พักอาศัยอยู่นอกวิทยาเขตอีกด้วย


SEGi College Sarawak

คณะศิลปะและการออกแบบเชิงสร้างสรรค์มีสตูดิโอศิลปะและห้องทดลองไอแมคของตนเอง ห้องทดลองคอมพิวเตอร์หลักมีเครื่องคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง 60 เครื่อง คณะวิชาการโรงแรมมีห้องพักโรงแรมจำลอง ห้องจัดเลี้ยง บาร์และห้องประชุมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานจริง นอกจากนี้ยังมีหอนไข้ในโรงพยาบาลจำลองขนาดใหญ่ 2 หอสำหรับนักศึกษาที่เรียนสาขาการพยาบาล


ชีวิตนักศึกษา

ศูนย์บริการนักศึกษา (SSC) ทำหน้าที่เป็นศูนย์ให้ความช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาทุกคน โดยการให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการย้ายเข้าประเทศ การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านทางกิจกรรมนันทนาการและกิจกรรมกลางแจ้งอันหลากหลาย การให้คำปรึกษาส่วนตัวและด้านอาชีพ การฝึกงานรวมถึงความต้องการอื่น ๆ ของนักศึกษา

มีกิจกรรมภายในวิทยาเขตมากมายอาทิเช่น SEGi Idol, Charity Carnival, International Cultural Day/Night และ Ultimate Prom Night ซึ่งจัดขึ้นเพิ่มเติมจากกิจกรรมการบรรยายโดยบุคลากรจากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับอนาคต อาชีพการทำงานที่มีการจัดเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาสำหรับการสัมภาษณ์พร้อมด้วยการบรรยายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมส่วนบุคคล


สโมสรและชมรมนักศึกษา

นักศึกษาของมหาวิทยาลัย SEGi จะได้รับการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมกับงานบริการชุมชนและกิจกรรมต่าง ๆ หลากหลายประเภท โดยมีกิจกรรมนอกหลักสูตรอันหลากหลายอาทิเช่น ฟุตซอล โบว์ลิงและการถ่ายภาพ  ชมรมนักศึกษานานาชาติ SEGi (SISS) ทำหน้าที่ในฐานะ “เสียง” ของนักศึกษานานาชาติทุกคนและริเริ่มการจัดกิจกรรมต่าง ๆ หลากหลายประเภทตลอดทั้งปี รวมทั้งมีสโมสรฟุตบอล แบดมินตัน ฟุตซอล และกีฬาประเภทอื่น ๆ ภายในวิทยาเขตเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง สมาชิกของสโมสรต่าง ๆ จะเข้าร่วมกิจกรรมและจัดการแข่งขันทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย


ภาพกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย





ภาพ Hostel มหาวิทยาลัย SEGi







SEGi University College, Malaysia


Study At Malaysia SEGi University College, Malaysia


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com


แนะนำสถาบัน Academies Australasia

SJ WORLD EDUCATION
19 Dec 2013
Australia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0
Academies Australasia, Australia, Melbourne, Singapore, Sydney

สถาบัน  Academies Australasia

( http://www.academies.edu.au )

academies3


Academies Australasia เป็นผู้นำให้บริการการศึกษาที่นำเสนอหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนที่อยู่ในหลักสูตรมัธยมศึกษา หลักสูตรเตรียมอุดมศึกษารัฐบาลสิงคโปร์ หลักสูตรประกาศนียบัตร หลักสูตรวิชาชีพ หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูง หลักสูตรปริญญาตรี และหลักสูตรปริญญาโท

สถาบันนี้มีนักเรียนมากกว่า 5,000 คน ที่มาจาก 70ประเทศทั่วโลก จากความหลากหลายของนักเรียนที่มาเรียนที่นี่ ทำให้สถาบันสามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้นักเรียนได้ไม่ซ้ำกัน

สถาบันของเรามีด้วยกัน 3 วิทยาเขตคือ ซิดนีย์ เมลเบิร์น และสิงคโปร์ โดยมีพันธมิตรกับสถาบันต่าง ๆ 10 สถาบันด้วยกันดังนี้


Sydney 

1. Academy of English (ELICOS) [Including Academy of English (Blue Mountains)]
2. Academies Australasia Institute (Vocational)
3. Australian International High School (Senior High School)
4. Australian College of Technology (Vocational)
5. Benchmark College (Vocational)
6. Clarendon Business College (Vocational)
7. Supreme Business College (Vocational)


Melbourne

8. Academies Australasia Polytechnic (ELICOS, Vocational and Higher Education)
9. Discover English (ELICOS)


Singapore 

10. Academies Australasia College


หลักสูตรที่เปิดสอน

Sydney

หลักสูตร Accounting

academies-australasia-accounting


หลักสูตรนี้มีทั้งหมด 4 Courses ด้วยกันคือ

1. Certificate 3 in Accounting Administration 2 เทอม
2. Certificate 4 in Accounting Administration 2 เทอม
3. Diploma of Accounting 2 เทอม
4. Advanced Diploma of Accounting 2 เทอม

หลักสูตร Children’s service

หลักสูตร Certificate 3 in Children’s service นี้ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนมีโอกาสที่จะเรียนรู้และฝึกฝนความรู้พื้นฐานและทักษะที่จำเป็นในการทำงานในภาคบริการการดูแลเด็ก จะ