Menu 
  • logo_icon_20x20หน้าหลัก
  • เลือกประเทศ
    • Thailand-Flag-iconThailand
      • สถาบันการศึกษา
      • หลักสูตรและโครงการ
    • Australia-iconAustralia
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • สถาบัน ATMC
        • สถาบัน Academies Australasia
        • สถาบัน Baxter Institute
        • สถาบัน Holmes
        • สถาบัน Holmesglen Institute of TAFE
        • สถาบัน Lonsdale Institute
        • Languages Across Borders (LAB)
        • สถาบัน RGIT
      • หลักสูตรและโครงการ
      • ภาพกิจกรรม
      • เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย
      • ทุนเรียนต่อประเทศออสเตรเลีย
    • United KingdomEngland
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • รายชื่อมหาวิทยาลัยประเทศอังกฤษ
        • สถาบัน Bath Spa University
    • India-iconIndia
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • แนะนำมหาวิทยาลัย Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada
      • หลักสูตรและโครงการ
      • ภาพกิจกรรม
      • เกี่ยวกับประเทศอินเดีย
    • Canada-iconCanada
      • หลักสูตรและโครงการ
    • Malaysia-iconMalaysia
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • เรียนมัธยม ปีนัง Pelita International School กับ ปรัชญาการศึกษาที่น่าสนใจ
        • แนะนำสถาบัน ELC กัวลาลัมเปอร์
        • สถาบัน UOW Malaysia KDU
        • สถาบัน SEGi Malaysia
        • สถาบัน Berjaya University
        • แนะนำสถาบัน Wadi Sofia International School
        • สถาบัน KTJ
      • หลักสูตรและโครงการ
    • Singapore-Flag-iconSingapore
      • ระบบการศึกษา
      • สถาบันการศึกษา
        • สถาบัน Shelton College
      • หลักสูตรและโครงการ
    • New-Zealand-iconNew Zealand
      • สถาบันการศึกษา
      • หลักสูตรและโครงการ
    • United-States-Flag-iconU.S.A.
      • สถาบันการศึกษา
        • สถาบัน Columbia West College
    • China-Flag-iconChina
      • ระบบการศึกษาประเทศจีน
      • หลักสูตรและโครงการ
        • นักเรียนไทย กับ ความนิยมไปเรียนต่อประเทศจีน
  • Visa / Passport
    • การขอ Passport
      • สถานที่ขอ Passport
      • เอกสารขอ Passport
    • Visa
      • Australia-iconประเทศออสเตรเลีย
      • India-iconประเทศอินเดีย
      • Malaysia-iconประเทศมาเลเซีย
      • New-Zealand-iconประเทศนิวซีแลนด์
      • Singapore-Flag-iconประเทศสิงคโปร์
      • the-united-states-flag-icon-free-downloadประเทศอเมริกา
      • downloadประเทศอังกฤษ
  • สมัครโครงการ
  • บทความน่ารู้
  • บริการ
    • บริการของเรา
    • บริการสมัครเรียน และ ติดตามผล ระดับมัธยมศึกษามาเลเซีย
    • บริการจัดซื้อตั๋วเครื่องบิน
    • ที่พัก
      • ที่พักในประเทศ
        • บ้านการเคหะ ภูเก็ต
      • ที่พักต่างประเทศ
        • ็Homstay Penang
        • โฮมสเตย์ สิงคโปร์ (AGM 01)
        • โฮมสเตย์ สิงคโปร์ (AGM 02)
    • แหล่งเงินทุนเพื่อการศึกษาต่างประเทศ
  • ประกันภัย
    • SJ Insurance Broker
      • SJ Insurance Broker
      • นายหน้าประกันวินาศภัย อีกทางเลือกที่น่าสนใจ
      • สมัครสมาชิกประกันภัยได้ส่วนลดจากการซื้อประกันจริงไหม ?
      • ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไรกับการประกันภัยรถยนต์
    • OSHC
      • บริการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (Overseas Student Health Cover ) : OSHC
      • บทความ ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย (Overseas Student Health Cover in Australia)
    • โครงการและกิจกรรมประกันภัย
  • ข่าวและกิจกรรม
    • ข่าวสารย้อนหลังทั้งหมด
  • เกี่ยวกับเรา
    • Contact Us
    • ประวัติความเป็นมา
    • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
    • ประวัติผู้บริหาร
    • Video
    • ประสบการณ์การสอนและวิทยากร
    • อ.สมนึก ให้สัมภาษณ์ในรายการจอโลกเศรษฐกิจ
    • นักเรียนของเรา
    • สื่อประชาสัมพันธ์
    • SJ WORLD Youtube Channel
    • คำนิยมจากนักเรียนและผู้ปกครอง

Pinang Summer Course 2023

SJ WORLD EDUCATION
19 Jan 2023
[หน้าแรก] หลักสูตร, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

Pinang Summer Course 2023



หลักสูตร                                ภาษาอังกฤษ (Join Class)
รับนักเรียนอายุตั้งแต่          13 – 18 ปี (อายุต่ำกว่า 13 ปี พิจารณาเป็นรายบุคคล)
สถาบัน                                  Penang Home School EQ Development
ระยะเวลา                              3 สัปดาห์
เริ่มเรียน                               ได้ทุกสัปดาห์ (ยกเว้นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนประมาณ ธันวาคม)

 

สิ่งที่จะได้รับในการเข้าร่วมโครงการ

1. เรียนภาษาอังกฤษร่วมชั้นกับเพื่อนนักเรียนต่างชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม
2. กิจกรรมทัศนศึกษาวันหยุด (ตามรายละเอียดที่ระบุในโครงการ)
3. พักกับโฮสแฟมมิลี่ชาวมาเลเซีย เพื่อให้มีการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาและวัฒนธรรม
4. ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และ ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ
5. ได้พบปะเพื่อนใหม่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ


รายละเอียด เวลาเรียนและกิจกรรม

1. เรียนวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 15.30 น.

2. กิจกรรมทัศนศึกษาวันหยุดตามที่กำหนดดังนี้

  • Penang Hill จุดชมวิวยอดฮิตของเมือองปีนัง นักเรียนจะได้นั่งกระเช้าขึ้นเขา เพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบกว้างไกลสุดสายตา ที่ความสูง 830 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บนเนินเขาปีนัง ฮิลล์ หรือ บูกิต เบนดารา (Bukit Bemdara) เป็นที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบกว้างไกลสุดสายตา ของเกาะปีนัง จุดสูงสุดของเกาะแห่งนี้
  • Street Art เป็นย่านเมืองเก่าของปีนัง โดยแต่ละซอยเต็มไปด้วยภาพวาดที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเมืองจอร์จทาวน์ นักเรียนจะได้สนุกกับการตามหาภาพวาดฝาพนัง และ เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวปีนังในอดีตผ่านภาพจิตกรรมฝาพนังเหล่านี้
  • Escape Theme Park สวนสนุกเอสเคปปีนังประกอบด้วยพื้นที่หลัก 2 แห่ง ได้แก่ Adventure play และ Waterplay สวนสนุกแห่งนี้มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามของมาเลเซียเป็นฉากหลัง และถือเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการผ่อนคลายและเล่นสนุก

หมายเหตุ

  1. สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการเป็นหลักสำคัญ
  2. ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเข้าร่วมโครงการช่วงเดือนเมษายน ขอแนะนำ วันที่ 2 – 22 เมษายน 2023

สมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่  http://www.sjworldedu.com/application-form/

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 077 287 111 หรือ 085 791 9111 (อ.สมนึก ชูสุวรรณ)
อีเมล. [email protected]

บริการสมัครเรียน และ ติดตามผล ระดับมัธยมศึกษามาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
16 Jan 2023
ทั่วไป
Comments: 0

บริการสมัครเรียน และ ติดตามผล ระดับมัธยมศึกษามาเลเซีย
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด


รายละเอียดบริการ ดังนี้

  1. แนะนำโรงเรียน หลักสูตร แนะแนวระบบการศึกษา ประเทศมาเลเซีย
  2. ประมาณการค่าใช้จ่าย ค่าเรียน ค่าที่พัก
  3. วางแผน จัดทำกำหนดการ ตั้งแต่เริ่มต้น-เข้าเรียน
  4. รวบรวมเอกสารเพื่อสมัครเรียนและเพื่อขอวีซ่านักเรียน
  5. การแปลและรับรองเอกสารสมัครเรียนโดยสถานกงสุล (ไม่รวมค่าแปลและค่ารับรอง)
  6. บริการสมัครสอบวัดระดับความรู้ ก่อนการสมัครเรียน และ ติดตามประสานงาน
  7. ติดต่อประสานงานกับโรงเรียน บริการยื่นเอกสารเพื่อสมัครเรียน และ เพื่อขอวีซ่า
  8. แจ้งกำหนดเดินทางให้โรงเรียนทราบเพื่อจัดเตรียมที่พักสำหรับนักเรียน
  9. ให้คำแนะนำ ติดตาม ประสานงานระหว่าง นักเรียน หรือ ผู้ปกครอง กับโรงเรียน ขณะศึกษา ณ ประเทศมาเลเซีย
  10. ให้คำปรึกษา วางแผนการเรียนต่อหลังจบหลักสูตรมัธยมศึกษา




สนใจบริการ โทร. 0 77 287111, 08 5791 9111 (ดร.สมนึก)
Line ID: somnoek, E-Mail: [email protected]

Barista/Café English Course

SJ WORLD EDUCATION
25 Oct 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร
Comments: 0


นักเรียนไทยส่วนใหญ่ที่มาเรียนต่อที่ออสเตรเลียจะเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นสำหรับนักเรียนต่างชาติ (English Language Intensive Courses for Overseas Students : ELICOS เริ่มจากหลักสูตร General English (ภาษาอังกฤษทั่วไป) เน้นการเสริมทักษะ สร้างความมั่นใจ ในการใช้ภาษาทั้งการฟัง การพูด การพูด การอ่าน รวมทั้งการเขียน การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และต่อยอดไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น แบ่งออกเป็น 5 ระดับ เช่น Elementary, Lower or Pre – Intermediate, Intermediate, Upper Intermediate และ Advanced จะเริ่มต้นเรียนที่ระดับใดขึ้นอยู่กับระดับทักษะเดิมของนักเรียนโดยทางสถาบันสอนภาษาอังกฤษจะมีการสอบวัดระดับ (Placement Test) จากนั้นจึงจะจัดชั้นเรียนที่เหมาะสมให้กับนักเรียน อย่างไรก็ตามเมื่อนักเรียนมีทักษะความรู้ภาษาอังกฤษมสูงกว่า Intermediate ก็มีคุณสมบัติที่จะเลือกเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆได้เช่น English for Academic Purposes: EAP (ภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ),Exam Preparation (การเตรียมสอบภาษาอังกฤษ) , Vacation Course (ภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียน) ,English and Work Experience (ภาษาอังกฤษและการฝึกงาน) , English Teacher Training (ฝึกอบรมอาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษ) และ English for Hospitality and Tourism (ภาษาอังกฤษสำรับงานบริการต้อนรับและการท่องเที่ยว) เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้ที่
บทความ: หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลียความสำคัญของนักเรียนไทย https://www.sjworldedu.com/en/blog/elicos-in-australia-article/

สำหรับผู้ที่รักกาแฟ ต้องการหางานเป็นบาริสต้า (Barista) ขอแนะนำการเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษ และร้านกาแฟ (Barista/Café English Course) เพื่อสำเร็จหลักสูตร แล้ว ได้รับการรับรองโดย TAFE Barista
แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ TAFE ซึ่งย่อมาจาก Technical And Further Education เป็นสถาบันการศึกษาของรัฐบาลออสเตรเลีย ถือได้ว่าเป็นสถาบันที่มีเครือข่ายจำนวนมากและใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ และ วิชาชีพในทุกสาขาวิชา การบริหารจัดการโดยรัฐบาลของออสเตรเลีย ทุกหลักสูตรมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

หลักสูตร Barista/Café English Course

Barista/Café English Course จะได้เรียนเนื้อหาด้านบาริสต้า (Barista) ด้วย ภาษาอังกฤษที่ใช้ในธุรกิจกาแฟ (Café English Course) ชั้นเรียน Barista ของ สถาบันที่เปิดสอน จะสอนวิธีทำกาแฟและมอบประสบการณ์การทำงาน และตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการของธุรกิจร้านกาแฟ บางสถาบันจะมีสถาบันวิชาการด้านกาแฟ (Coffee Academy) สำหรับผู้เรียนได้ฝึกประสบการณ์การทำงานในร้านกาแฟด้วย

จากการค้นหาหลักสูตรและสถาบันที่เปิดสอนพบว่าเกณฑ์การรับเข้าเรียนจะต้องมีพื้นฐานทักษะภาอังกฤษระดับ Intermediate + ขึ้นไป ระยะเวลาศึกษาของหลักสูตร 5 สัปดาห์ ค่าเล่าเรียนประมาณ 370 AUD:สัปดาห์ (ราคาปี 2022) จำนวนนักเรียนต่อชั้นเรียน ประมาณ 12-18 คน วันที่เริ่มเรียนและช่วงเวลาที่เรียนแต่ละวันสามารถจองล่วงหน้ากับสถาบันที่เปิดสอน เนื้อหาวิชาของหลักสูตรนี้ นักเรียนจะได้เรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เรียนกาแฟขั้นพื้นฐาน การทำกาแฟชั้นสูง โดยหลักสูตรกาแฟของ TAFE การฝึกอบรมและการฝึกภาคปฏิบัติ ภายใต้การดูแลของผู้สอน ภาคประสบการณ์การทำงาน การเตรียมการสำหรับการสมัครงาน และการสัมภาษณ์ เป็นต้น โดยสถาบันที่เปิดสอนจะจัดทำตารางเรียน (Time Table) ให้กับผู้เรียน เพื่อนักเรียนจะได้ทราบว่า แต่ละสัปดาห์ แต่ละวัน และแต่ละชั่วโมงจะได้เรียนเนื้อหาอะไรบ้าง ครอบคลุมเนื้อหาของหลักสูตร
ตัวอย่าง ตารางเรียน (Time Table)




Reference : www.impactenglish.edu.au , www.sjworldedu.com

สมัครเรียน ขอวีซ่า เรียนออสเตรเลีย และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID : somnoek




ผู้เขียน
ดร.สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

อบรมบาริสต้า เสริมทักษะก่อนทำงานในออสเตรเลีย

SJ WORLD EDUCATION
17 Oct 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

อบรมบาริสต้า เสริมทักษะก่อนทำงานในออสเตรเลีย

การทำงานในออสเตรเลีย จะทำให้มีประสบการณ์ชีวิต มีรายได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่อาศัยอยู่ที่ออสเตรเลีย ผู้ถือวีซ่านักเรียน (Students Visa) จะได้รับอนุญาตให้ทำงาน Part-time ได้มากถึง 40 ชั่วโมงต่อทุกสองสัปดาห์ ขณะที่นักเรียนยังอยู่ในหลักสูตรตามภาคการศึกษา และไม่จำกัดจำนวนชั่วโมงระหว่างช่วงพักการศึกษา และ ผู้ถือวีซ่า Work and Holiday ตามความร่วมมือของรัฐบาลไทย และรัฐบาลออสเตรเลียที่เปิดโอกาสให้ เยาวชนไทย อายุระหว่าง 18-30 ปี สามารถเดินทางไปศึกษา ,ท่องเที่ยว และ ทำงานในประเทศออสเตรเลีย ได้อย่างถูกกฎหมาย ไม่จำกัดชั่วโมงการทำงาน ระยะเวลา 6 เดือนต่อ 1 นายจ้าง ดังนั้น อายุวีซ่า Work and Holiday 1 ปีจะต้องเปลี่ยนนายจ้างครั้งละ 6 เดือน นั่นเอง

เมื่อ ผู้ถือวีซ่านักเรียน หรือ ผู้ถือวีซ่า Work and Holiday เดินทางถึงออสเตรเลีย ก็จะพยายามหาตำแหน่งงานว่าง สมัครงาน เพื่อสร้างรายได้ และประสบการณ์ตามที่ได้กล่าวข้างต้น ในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำในประเทศออสเตรเลียมีการปรับใหม่จากเดิม 20.33 AUD./ชั่วโมง เป็น 21.38 AUD./ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2022 นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับทุกท่าน ออสเตรเลียมีอุตสาหกรรมหลากหลายที่เปิดโอกาสให้มีการจ้างงานแบบ Part- time ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก เช่น ซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า และ ร้านขายเสื้อผ้า งานบริการ เช่น คาเฟ่ บาร์ และห้องอาหาร งานท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก งานด้านการเกษตร เช่น ทำฟาร์ม หรือรับจ้างเก็บผลไม้ งานขาย และ การตลาดทางโทรศัพท์ การบริหารหรือธุรการทั่วไป รวมทั้งงานสอนพิเศษ เป็นต้น

ผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางมาที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย หลายครั้ง ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว และการนำคณะนักเรียนและครู-อาจารย์ ตามโครงการ English Summer Camp พบว่ามีร้านกาแฟจำนวนมาก เกือบทุกมุมถนน รสชาติดี อร่อยกลิ่นหอมกลมกล่อม บางร้านมีโรงคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง ที่นี่นิยมการดื่มกาแฟมาก การนัดเจอ หรือ การคุยงานส่วนใหญ่ก็นัดเจอกันที่ร้านกาแฟ


ย่านธุรกิจร้านกาแฟ Central Business District (CBD) , Melbourne Australia



ชิมรสชาติกาแฟ อร่อย กลิ่นหอมกลมกล่อม



เมลเบิร์น จึงถือได้ว่าเป็น เมืองหลวงแห่งกาแฟเมืองหนึ่งของโลก และ เคยมีรายงานการสำรวจและจัดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก โดย Economist Intelligence Unit (EIU) เมลเบิร์นได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่ง สามารถครองตำแหน่งเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก 2 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2011 และปี 2012 อีกด้วย
การมีร้านกาแฟจำนวนมากจะทำให้มีจ้างงานจำนวนมากด้วย แต่ผู้สมัครงานควรมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน ด้าน Barista หรือ นักชงกาแฟ มิฉะนั้นอาจไม่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งงานนี้ได้ หรืออาจมีโอกาสทำงานแต่ค่าแรงต่อชั่วโมงไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำ แต่ถ้าได้อบรม เตรียมทักษะความรู้ไว้จะเข้าสู่ตำแหน่งงานได้ง่ายกว่าและค่าแรงรายชั่วโมงก็จะสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ประมาณ 3-5 AUD.ต่อชั่วโมงเป็นต้น เป็นต้น นับว่าเป็นการลงทุนในการอบรมที่คุ้มค่า ดังนั้น จึงขอแนะนำหลักสูตรด้าน Barista โดยเลือกหลักสูตรอบรมที่ใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ประหยัดเวลา และ ค่าใช้จ่าย แต่สามารถนำความรู้ไปใช้ในงานได้ทันทีหลังจากเรียนจบหลักสูตร และได้รับ Certificate จากสถาบันฯที่ฝึกอบรมด้วย

หลักสูตรอบรมที่เกี่ยวกับการทำงานร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจขอแนะนำดังนี้

1.หลักสูตร Barista Coffee Making
หลักสูตรนี้สอนทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการสกัดและเสิร์ฟเครื่องดื่มกาแฟเอสเปรสโซ โดยใช้เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซเชิงพาณิชย์ ต้องมีความสามารถในการแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับเครื่องดื่มกาแฟ เลือกและบดเมล็ดกาแฟ จัดเตรียมและประเมินเครื่องดื่มกาแฟเอสเปรสโซและนำไปใช้ ดูแลรักษาและทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ การซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ซับซ้อนจะถูกส่งต่อไปยังช่างเทคนิคบริการผู้เชี่ยวชาญ ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้วิธี การจัดระเบียบร้านกาแฟ (Organise the coffee workstation) การเลือกและบดเมล็ดกาแฟ การแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับเครื่องดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ การสกัดและตรวจสอบคุณภาพของเอสเพรสโซ นมพื้นผิว (Texture milk) การเสิร์ฟเครื่องดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ การทำความสะอาดอุปกรณ์เอสเปรสโซ เป็นต้น ค่าใช้จ่าย : 119 AUD. (ราคาปี 2022) เรียนได้ทุกวันตามที่มีการจองไว้ล่วงหน้า ระยะเวลาของหลักสูตร: 4 ชั่วโมง
ข้อกำหนดเบื้องต้น (Prerequisites) ผู้เข้าอบรมต้องมีทักษะทางภาษาขั้นพื้นฐาน และทักษะการรู้หนังสือเพื่อที่จะสำเร็จหลักสูตร สถาบันที่เปิดสอน เช่น RGIT Australia, Melbourne Australia.
วิธีการสอน (Method) เป็นหลักสูตรในห้องเรียนที่ผสมผสานการบรรยาย การอภิปรายกลุ่มและการจำลองสถานที่ทำงานโดยใช้ห้องกาแฟที่ติดตั้งในเชิงพาณิชย์ของ RGIT Australia
การประเมินผล ผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องเตรียมเครื่องดื่มกาแฟเอสเปรสโซที่หลากหลายภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอน และได้รับการประเมินรสชาด และความน่าดึงดูดใจของงาน อาจมีการตอบคำถามด้วยการเขียนตอบ (Written Questioning) และ ด้วยตอบคำถามปากเปล่า (Oral Questioning) เพื่อประเมินความรู้เกี่ยวกับประเภทของเครื่องดื่มเอสเปรสโซ ประเภทของเมล็ดกาแฟ การผสมและคั่ว และวิธีการเตรียมกาแฟเอสเปรสโซ ผู้เข้าร่วมอบรมต้องแสดงความสามารถในการบำรุงรักษา และ ทำความสะอาดขั้นพื้นฐานสำหรับเครื่องบดและเครื่องจักรเอสเปรสโซ  หนังสือรับรอง (Certification) โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับใบรับรองการสำเร็จหลักสูตรในวันเดียวกัน

2. Coffee Art Course เป็นหลักสูตรภาคปฏิบัติที่ลงมือปฏิบัติจริง ผู้เข้าอบรมจะได้แสดงทักษะและเงื่อนไขที่จำเป็นในการผลิตลาเต้อาร์ตแบบมืออาชีพ ศิลปินลาเต้ที่ทุ่มเทของสถาบันฯจะสอนวิธีการ “free pour” รูปแบบสร้างสรรค์มากมาย หลักสูตรนี้ขัดเกลาขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการ Steaming milkเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบสำหรับลาเต้อาร์ท และอภิปรายถึงศิลปะของครีม (Crema) เพื่อเน้นการออกแบบครอบคลุมถึงสุขอนามัยของอุปกรณ์และการจัดการอุปกรณ์ที่ถูกต้องเพื่อให้แน่ใจว่ารายละเอียดการออกแบบของคุณได้รับการเก็บรักษาไว้ ค่าเรียนหลักสูตรนี้ 90 AUD.  ระยะเวลาของหลักสูตร 3 ชั่วโมง
เลือกเรียนวันจันทร์-ศุกร์ (Weekday) ข้อกำหนดเบื้องต้นของหลักสูตรนี้คือเรียน Barista Coffee Making Course มาก่อนแล้ว เพื่อเข้าร่วมหลักสูตรนี้ซึ่งต้องใช้เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ Steam milk และมั่นใจในเทคนิคของผู้เข้าอบรม สถาบันที่เปิดสอน เช่น RGIT Australia, Melbourne Australia. วิธีการสอน (Method) เป็นหลักสูตรในห้องเรียนที่รวมการบรรยาย การอภิปรายกลุ่ม และการจำลองสถานที่ทำงานโดยใช้ห้องกาแฟของสถาบัน RGIT ที่ติดตั้งในเชิงพาณิชย์ การประเมินผล ผู้เข้าร่วมอบรมต้องฝึกฝนการผลิตลาเต้อาร์ต ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนของสถาบันฯตลอดระยะเวลาของหลักสูตรเพื่อรับใบรับรองการเข้าร่วมอบรม สำหรับหนังสือรับรอง (Certification) โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับใบรับรองการสำเร็จหลักสูตรในวันเดียวกัน

3.Barista Practice Sessions หลักสูตรนี้ ระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับบาริสต้ามือใหม่ และใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาทักษะของตนเอง สามารถฝึกฝนภายใต้การแนะนำของผู้ฝึกสอนของสถาบันที่จะคอยช่วยเหลือตอบคำถามทุกคำถามกรณีมีคำถามของผู้เข้าอบรม ค่าเรียนหลักสูตรนี้ 89 AUD.ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ชั่วโมง เลือกเรียนได้ทุกวัน ข้อกำหนดเบื้องต้นของหลักสูตรนี้คือ คอร์สเรียนชงกาแฟ (Barista Coffee Making) หรือเทียบเท่า (ต้องรู้วิธีใช้งานเครื่องทำกาแฟ&ชงกาแฟ) วิธีการสอน (Method) เป็นภาคฝึกปฏิบัติ 2 ชั่วโมงเพื่อพัฒนาทักษะการทำกาแฟของผู้เข้าอบรม วัสดุที่มีให้:นม 2 ลิตรและเมล็ดกาแฟ 3 ขวด สำหรับหนังสือรับรอง (Certification) สำหรับหลักสูตร Barista Practice Sessions ไม่มีใบรับรองใด ๆ


ผู้เข้าร่วมอบรมและอาจารย์ผู้สอน


 

วัสดุการฝึกภาคปฏิบัติ
 


ผลงานของผู้ผ่านการอบรม
 

ตัวอย่าง เยาวชนไทยโครงการ Work and Holiday Australia ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตร Barista Coffee Making, Coffee Art Course และ Barista Practice Sessions





สมัครเรียน ขอวีซ่า ออสเตรเลีย และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียน
ดร.สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

 

ขอขอบคุณ

  • สถาบัน RGIT Australia , Melbourne Campus
  • น้องหวาย : เยาวชนไทยโครงการ Work and Holiday Australia

Visit Pinang Summer Course 2022

SJ WORLD EDUCATION
06 Oct 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยม ติดตาม โครงการ Pinang Summer Course 2022






เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ดร.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เดินทางไป เยี่ยม ติดตาม ผู้เข้าร่วมโครงการ Pinang Summer Course 2022 ณ เมือง ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ได้ติดตามทั้งในด้านการเรียนการสอนวิชาการภาคภาษาอังกฤษ ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ วิชาเสริมหลักสูตรต่างๆ เป็นการเรียนร่วมชั้น (Join Class) กับเพื่อนนักเรียนต่างชาติ ตามศักยภาพของผู้เรียน ณ ห้องเรียน EQ Development Centre , ติดตามความเป็นอยู่ และกิจกรรมนอกสถานที่ ซึ่งอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของ Host Family โอกาสนี้ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอขอบพระคุณ ผู้ปกครอง นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการฯทุกท่าน





เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

Evolution Hospitality Institute

SJ WORLD EDUCATION
21 Sep 2022
สถาบันการศึกษา, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

แนะนำสถาบัน Evolution Hospitality Institute




Evolution Systems for Training and Development Pty Ltd บริษัทแม่เริ่มต้นในปี 2548 เมื่อ Mr. Stuart Page ระบุช่องว่างในภาค VET สำหรับสถาบันฝึกอบรมด้านการบริการที่มีคุณภาพ Evolution Hospitality Institute (EHI) (RTO # 91256) จึงถือกำเนิดขึ้น และเขามีความต้องการอย่างยิ่งสำหรับผู้ให้บริการที่มุ่งเน้นการปฏิบัติในเชิงปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งมีการมองการณ์ไกลในการคิดนอกกรอบและยินดีที่จะเป็นพันธมิตรและขยายธุรกิจควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมในขณะที่รับฟังสิ่งที่คู่ค้าในอุตสาหกรรมพูดเกี่ยวกับระดับของการฝึกอบรมที่จำเป็นสำหรับธุรกิจของพวกเขาในการทำงานได้
Evolution Hospitality Institute (RTO # 91256) ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมเพื่อระบุทักษะและช่องว่างในความต้องการการฝึกอบรมและดำเนินการเพื่อเติมเต็มข้อกำหนดเหล่านี้ เราเชื่อว่านักเรียนต้องได้รับการสอนจากผู้ที่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อนและด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกสอนของเราทุกคนจึงมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมีคุณสมบัติดีและอุทิศตนเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมการบริการ นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญอย่างมากกับการฝึกภาคปฏิบัติและการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการทำงานและประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวก
ตั้งอยู่ใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจของซิดนีย์ เป็นวิทยาเขตที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของเรา ไม่เพียงแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำของอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักศึกษาได้สัมผัสกับสิ่งอื่นๆ ที่ซิดนีย์มีให้โดยตรง

ภารกิจ
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ทันสมัยซึ่งส่งเสริมการเติบโต ทำให้เกิดความหลากหลายและฝังทักษะและความรู้สำหรับมืออาชีพในอุตสาหกรรมในปัจจุบันและอนาคต
“เราให้คำมั่นสัญญาต่อนักเรียน หุ้นส่วน และพนักงานของเรา ความสำเร็จและความสุขของพวกเขาคือความภาคภูมิใจของเรา”

วิสัยทัศน์ของเรา
เป้าหมายของเราคือการอยู่ในระดับแนวหน้าในด้านการศึกษา โดยกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับภาคการฝึกอบรมระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานที่สร้างแรงบันดาลใจ

เป้าหมาย
คือ ได้รับการยอมรับสำหรับ
• ส่งมอบผลลัพธ์การเรียนรู้การบริการคุณภาพสูง
• กลยุทธ์การเติบโตที่ใช้งานง่าย
• รับฟังและลงมือทำตามกระแสอุตสาหกรรม

หลักสูตรที่เปิดสอน

  1. ELICOS – English Language Centre
  2. Culinary
  3. Travel & Tourism
  4. Hotel & Restaurant Management (HRM)
  5. Event Management
  6. Short Courses   






สนใจสมัครเรียน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ

อ. สมนึก ชูสุวรรณ

โทร. 085 791 9111 หรือ ออฟฟิต  077 287 111

Line ID: somnoek

 

 

จบ ม.ปลาย / O-Level/A-Level เรียนต่อมาเลเซีย ประหยัด สะดวก มาตรฐานสากล SENTRAL College Penang and University of Salford, UK

SJ WORLD EDUCATION
16 Aug 2022
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, บทความน่ารู้, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

จบ ม.ปลาย / O-Level/A-Level เรียนต่อมาเลเซีย ประหยัด สะดวก มาตรฐานสากล
SENTRAL College Penang and University of Salford, UK


หลายปีต่อเนื่องที่ผู้เขียนเป็นผู้แนะนำหลักสูตร สถาบันการศึกษา และ สมัครเรียนให้กับนักเรียนไทย เพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศในระดับ และสาขาต่างๆ พบว่าผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ส่ง บุตร หลานไปศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ยังประเทศ มาเลเซีย เพราะมาเลเซีย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่าเล่าเรียนที่ไม่แพง ค่าครองชีพถูก มาเลเซียได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเดินทางที่ง่าย สะดวก เนื่องจากมาเลเซียมีชายแดนติดต่ออยู่กับไทย สามารถเลือกเดินทางด้วยทางรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน นอกจากนี้ นักเรียนได้รับความรู้ ทักษะด้านภาษา 2 – 3 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และ ภาษามลายู อีกด้วย

เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลาย จากมาเลเซีย ได้รับคุณวุฒิ O-Level หรือ A-Level ระบบ IGCSE มาตรฐานของประเทศอังกฤษ นักเรียน และผู้ปกครอง จำนวนไม่น้อยที่มีความสนใจเกี่ยวกับระบบการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้นในประเทศมาเลเซียแต่อาจจะยังขาดข้อมูล เส้นทางการศึกษาต่อหลักสูตร แต่ละระดับ สาขาวิชา และ สถาบันการศึกษา โอกาสนี้ผู้เขียนจึงขอแนะนำรายละเอียดดังกล่าว โดยเลือก SENTRAL College Penang and University of Salford, UK ซึ่งทั้งสองสถาบันการศึกษามีความร่วมมือจัดการเรียนการสอน มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ รายละเอียดดังนี้



SENTRAL College Penang ตั้งอยู่ในอาคาร 14 ชั้น อาคารที่สูงที่สุดในเขตแกนกลางของมรดกโลกขององค์การยูเนสโก Menara SENTRAL เลขที่ 3 Penang St, Georgetown, 10200 Penang, ประเทศ มาเลเซีย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เป็น สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา โปรแกรมที่เปิดสอนได้รับการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการ (MOE) และได้รับการรับรองโดย Malaysian Qualification Agency (MQA) สาขาการศึกษา ได้แก่ ธุรกิจและการจัดการ(Business & Management) การบัญชีและการเงิน (Accounting & Finance) คอมพิวเตอร์และไอที (Computer & IT) การท่องเที่ยวและการโรงแรม (Tourism & Hospitality) และการศึกษาปฐมวัย (Early Childhood Education) SENTRAL College Penang ทำงานร่วมกับ University of Salford เมืองแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร เพื่อจัดหลักสูตรระดับโลกในราคาย่อมเยาของสหราชอาณาจักร

เส้นทางสู่ความสำเร็จทางวิชาการ (Academic Pathway Towards Success)

ก่อนที่จะแนะนำรายละเอียดโปรแกรมที่เปิดสอน (Programmes Offered) ของ SENTRAL College Penang
มาทำความเข้าใจเส้นทางสู่ความสำเร็จทางวิชาการกันก่อนเพื่อทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติของผู้ที่สนใจสมัครเข้าเรียนว่าต้องมีคุณวุฒิการศึกษาในระดับใดจึงจะสมัครเข้าเรียนได้และในแต่ละระดับและระยะเวลาศึกษาของแต่ละหลักสูตร เพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อม หรือวางแผน ด้านต่างๆ เช่นพื้นความรู้ เวลา และประมาณการค่าใช้จ่าย เป็นต้น



จากแผนภูมิ Academic Pathway Towards Success สามารถแบ่งกลุ่มของคุณวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม รายละเอียดดังนี้
1. SPM/O-Level or equivalent qualification
 SPM คือคุณวุฒิของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper Secondary) มาเลเซีย ที่เลือกเรียนสายวิชาการและเทคนิคเมื่อจบแล้วจะต้องสอบผ่านข้อสอบของรัฐ (Sijit Pelajaran Malaysia: SPM)
 O-Level หรือ IGCSE O-Level (International General Certificate of Secondary Education Ordinary Level) เป็นระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศอังกฤษ
ตัวอย่างเช่น: นักเรียนไทยที่จบ ประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วไปศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ที่ประเทศมาเลเซีย ที่ใช้หลักสูตร IGCSE ซึ่งใช้เวลาศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Lower High School: Junior 1-3 รวม 3 ปี) และมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper High School: Senior 1-2 รวม 2 ปี) ขณะที่นักเรียนกำลังศึกษา Senior 1-2 อายุระหว่าง 14-16 ปี ทางโรงเรียนจะดำเนินการสมัครเพื่อให้สอบคุณวุฒิ O-Level Certificate เป็นต้น
 Equivalent qualification คือคุณวุฒิอื่นที่เทียบเท่า SPM/O-Level นั่นเอง



2. STPM/A-Level /UEC/Pre-U or equivalent qualification
 STPM นักเรียนมาเลเซีย ที่เรียน Upper secondary เส้นทาง Sixth Form ซึ่งในเส้นทาง Sixth Form จะมี 3 สาขา คือ Arts, Science และ Technical ซึ่งเมื่อเรียนจบแล้วจะต้องสอบผ่านข้อสอบของรัฐ คือ STPM (Sijit Tinggi Perselolaham Malaysia) โดยจะได้วุฒิเทียบเท่า GCE “A” Level
 A-Level หรือ IGCSE A-Level (International General Certificate of Secondary Education Advanced Level) ซึ่งเป็นระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศอังกฤษ จะเรียนเป็นเวลา 2 ปี ในช่วงอายุระหว่าง 16-18 ปี หลังจบ O-Level ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้น
 UEC โรงเรียนเอกชนที่สอนภาษาจีนนั้น ระบบการเรียนนั้นจะแตกต่างกับโรงเรียนรัฐบาล ในช่วงของระยะเวลาเรียนที่ต้องเรียนเป็นเวลา 6 ปี และจะต้องเข้ารับการทดสอบที่เรียกว่า The Unified Examination Certificate (UEC) ซึ่งจัดการโดยสมาคมครูและคณะกรรมการโรงเรียน
 Pre-U คือ Pre-University หรือ Foundation Programme เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา ก่อนเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย เช่นผู้ที่ใช้คุณวุฒิ SPM/O-Level or equivalent qualification ต้องการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยปีที่ 1 โดยไม่ได้เรียนหลักสูตร Diploma ก็ต้องเรียน Pre-University หรือ Foundation Programme ใช้เวลา 1 ปี เป็นต้น
 Equivalent qualification คือคุณวุฒิอื่นที่เทียบเท่า STPM/A-Level /UEC/Pre-U นั่นเอง



ดังนั้น เส้นทางการศึกษาจึงสามารถอธิบายได้ เป็น 2 กรณีตามคุณวุฒิที่ใช้สมัครเรียน รายละเอียดตามรูปที่ 2 ดังนี้

1.กรณีสมัครด้วยคุณวุฒิ SPM/O -Level or equivalent qualification มีเส้นทางเลือกการเรียนดังนี้

1.1 เรียน Certificate Programmes ระยะเวลาของหลักสูตร 1 ปี 5 เดือน แล้วเรียนต่อ Diploma Programmes ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ปี 4 เดือน ตามด้วยหลักสูตร Bachelor’s Degree (ปริญญาตรี) ระยะเวลาของหลักสูตร 2-3 ปี (กรณีจบ Diploma สามารถเข้าเรียนปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยจึงสามารถเรียนจบได้ใน 2 ปี)
1.2 เรียน Diploma Programmes ระยะเวลาของหลักสูตร 2 ปี 4 เดือน โดยไม่ต้องเรียน Certificate Programmes (ทางสถาบันฯอาจพิจารณาพื้นฐานความรู้เดิมด้วย) ตามด้วยหลักสูตร Bachelor’s Degree ระยะเวลาของหลักสูตร 2-3 ปี (กรณีจบ Diploma สามารถเข้าเรียนปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยจึงสามารถเรียนจบได้ใน 2 ปี)
1.3 เรียน Foundation Programme ระยะเวลาของหลักสูตร 1 ปี ตามด้วยหลักสูตร Bachelor’s Degree เข้าเรียนปีที่ 1ของมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเรียนปริญญาตรี 3 ปี
1.4 กรณีต้องการศึกษา หลักสูตร ACCA (Association of Chartered Certified Accountants) ซึ่งเป็น
องค์กรวิชาชีพบัญชีระดับโลก ก็เริ่มต้นเรียน หลักสูตร Certified Accounting Technician ระยะเวลาหลักสูตร 1 ปี ตามด้วยหลักสูตร ACCA ระยะเวลาหลักสูตร 2 ปี 5 เดือน



2.กรณีสมัครด้วยคุณวุฒิ STPM/A-Level /UEC/Pre-U or equivalent qualification มีเส้นทางเลือกการเรียนดังนี้

2.1 เรียน Bachelor’s Degree (ระดับปริญญาตรี) ระยะเวลาของหลักสูตร 3 ปี โดยเริ่มต้นเรียนในปีที่1 หลักสูตรที่เปิดสอนตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
2.2 กรณีต้องการศึกษา หลักสูตร ACCA (Association of Chartered Certified Accountants) ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพบัญชีระดับโลก ก็เริ่มต้นเรียน หลักสูตร Certified Accounting Technician ระยะเวลาหลักสูตร ระยะเวลาหลักสูตร 2 ปี 5 เดือน โดยไม่ต้องเรียน หลักสูตร Certified Accounting Technician

หลักสูตรที่เปิดสอน (Programmes Offered)

SENTRAL College Penang เปิดสอนในระดับและสาขาวิชาต่างๆ ทั้งนี้ในระดับปริญญาตรี SENTRAL College Penang ได้ทำงานร่วมกับ University of Salford เมืองแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักรอีกด้วย รายละเอียดดังนี้

1. Accounting & Finance (การบัญชีและการเงิน)
1.1 Diploma in Accounting, SENTRAL College Penang
1.2 BSc (Hons) Accounting & Finance, University of Salford, UK
1.3 Certified Accounting Technician (CAT), Professional Qualification
1.4 ACCA Qualification, Professional Qualification

2. Business & Management (ธุรกิจและการจัดการ)

3. Computer & IT (คอมพิวเตอร์และไอที)
3.1 Certificate in Business IT, SENTRAL College Penang
3.2 Diploma in Computer System Technology, SENTRAL College Penang
3.3 BSc (Hons) Digital Business, University of Salford, UK

4.Education & General studies (การศึกษาและการศึกษาทั่วไป)
4.1 Diploma in Early Childhood Education, SENTRAL College Penang
4.2 Foundation in Business Management, SENTRAL College Penang

5.Tourism & Hospitality (การท่องเที่ยวและการโรงแรม)
5.1 Diploma in Tourism Management, SENTRAL College Penang
5.2 Tourist Guides Programme (SKM 3), SENTRAL College Penang



สิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำของ SENTRAL College Penang

1.Auditorium



2.Theater Room



3.Multipurpose Hall



4.Open-Lab



5.Fitness Centre



6.Online Computer Room



7.Student Lounge & Library



8.Interactive Room




9.Multi-Storey Car Park



10.Student’Hostel



การเข้าเยี่ยมชม SENTRAL College Penang ของ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด




Source:
1.Programme General Guide, SENTRAL College Penang
2. SENTRAL College Penang, www.sentral.edu.my
3.ระบบการศึกษาของประเทศมาเลเซีย, www.sjworldedu.com




เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

 



ผู้เขียน
ดร.สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

 

ข่าวการเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย UTAR

SJ WORLD EDUCATION
26 Jul 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าวการเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย UTAR

(Universiti Tunku Abdul Rahman)




เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย ดร.สมนึก ชูสุวรรณ พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนะธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย UTAR (Universiti Tunku Abdul Rahman) เมือง กัมปาร์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โอกาสนี้ได้ร่วมประชุมกับทางมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับ หลักสูตรที่เปิดสอน การรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียน Update เงื่อนไขการขอวีซ่านักเรียน การหาที่พักสำหรับนักเรียนต่างชาติ การทำโครงการ Study Tour และ Internship เพื่อสร้างความร่วมมือในการสมัครเรียนให้กับนักเรียนไทย เนื่องจากประเทศมาเลเซีย ปลดล็อค MCO (Movement Control Order) มีการเปิดด่านพรหมแดน ไทย-มาเลเซีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก มหาวิทยาลัย UTAR
มหาวิทยาลัย UTAR มี 2 วิทยาเขต คือ Kampar Campus ในรัฐ Perak และ Sungai Long Campus อยู่ที่เมือง Bandar Sungai Long รัฐ Selangor เปิดสอนระดับปริญญาตรี -โท-เอก ในคณะวิชาต่างๆเช่น
Faculty of Medicine and Health Sciences (Sungai Long Campus), Faculty of Engineering and Science,
Faculty of Engineering and Green Technology, Faculty of Information and Communication Technolog ,
Faculty of Science ,Faculty of Accountancy and Management (Sungai Long Campus) ,Faculty of Business and Finance (Kampar Campus) ,Faculty of Arts and Social Science (Kampar Campus) และ Faculty of Creative Industries เป็นต้น.




เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

news-Visit Poilam High school 2022

SJ WORLD EDUCATION
22 Jul 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าวการเยี่ยมชม Poi Lam High School




เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย ดร.สมนึก ชูสุวรรณ พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนะธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม โรงเรียน Poi Lam High School ณ เมือง อิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความร่วมมือในการสมัครเรียนให้กับนักเรียนไทย และ Update ข้อมูลด้านหลักสูตร การเรียนการสอน การรับนักเรียน และที่พัก (Hostel) สำหรับนักเรียนต่างชาติ รวมทั้ง ข้อมูลการยื่นขอวีซ่านักเรียน เพื่อเข้าศึกษาในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากประเทศมาเลเซีย ปลดล็อค MCO (Movement Control Order) มีการเปิดด่านพรหมแดน ไทย-มาเลเซีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก International Department ของโรงเรียน
Poi Lam High School เป็นโรงเรียนที่มี (Hostel) รองรับนักเรียนต่างชาติแบบอยู่ประจำ ตั้งอยู่ เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย มีสอนตั้งแต่ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น (Junior 1-3) ถึง ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior 1-2 ) และ A-Level (The General Certificate of Education Advanced Level Certificate: GCE A-Level) หลักสูตรมาตรฐานของประเทศอังกฤษ คือ IGCSE. (International General Certificate of Secondary Education) ค่าเรียน ค่าครองชีพ ไม่สูง นักเรียนจะได้รับทักษะภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน จึงเป็นโรงเรียนที่ได้รับความนิยมระดับ 5 ดาว (5 Star School)


เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

ข่าวการเยี่ยมชม Westlake International School

SJ WORLD EDUCATION
21 Jul 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าวการเยี่ยมชม Westlake International School





เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย ดร.สมนึก ชูสุวรรณ พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนะธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School ณ เมืองกัมปาร์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความร่วมมือในการสมัครเรียนให้กับนักเรียนไทย และ Update ข้อมูลด้านหลักสูตร การเรียนการสอน การรับนักเรียน และที่พัก (Hostel) สำหรับนักเรียนต่างชาติ รวมทั้ง ข้อมูลการยื่นขอวีซ่านักเรียน เพื่อเข้าศึกษาในประเทศมาเลเซีย หลังจากประเทศมาเลเซีย ปลดล็อค MCO (Movement Control Order) มีการเปิดด่านพรหมแดน ไทย–มาเลเซีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากฝ่าย Marketing & Event ของโรงเรียน

Westlake International School เป็นโรงเรียนนานาชาติแบบอยู่ประจำ ตั้งอยู่เมืองกัมปาร์ มีสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา (Primary Year 1-Year 6) ถึง มัธยมศึกษา (Secondary Year 7- Year 11) รองรับหลักสูตรมาตรฐานของประเทศอังกฤษ คือ IGCSE. (International General Certificate of Secondary Education) และ A-Level (The General Certificate of Education Advanced Level Certificate: GCE A-Level)




เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: somnoek

ข่าวการเยี่ยมชม SENTRAL COLLEGE PENANG

SJ WORLD EDUCATION
20 Jul 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
Comments: 0

ข่าวการเยี่ยมชม SENTRAL COLLEGE PENANG





เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย ดร.สมนึก ชูสุวรรณ พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนะธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม SENTRAL COLLEGE PENANG ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความร่วมมือในการสมัครเรียนให้กับนักเรียนไทย และศึกษาข้อมูลปัจจุบันของหลักสูตร การเรียนการสอน การรับนักเรียนต่างชาติ และข้อมูลการยื่นขอวีซ่านักเรียน เพื่อเข้าศึกษาในประเทศมาเลเซีย หลังจากประเทศมาเลเซีย ปลดล็อค MCO (Movement Control Order) มีการเปิดด่านพรหมแดน ไทย–มาเลเซีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก CEO/Principal DR.CHIANG GEOK LIAN และ Marketing Manager MR.JOHNNY GOH โดยการแนะนำ หลักสูตร สถาบัน การเรียนการสอน เยี่ยมชมห้องเรียน ห้องปฏิบัติการสาขาต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยในการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 และกรณีศึกษา โครงการ แคมป์ ต่างๆที่ SENTRAL COLLEGE PENANG จัดขึ้นร่วมกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไทย
 

SENTRAL COLLEGE PENANG เปิดสอนหลักสูตร ทั้งระดับประกาศนียบัตร (Certificate/Diploma) ระดับปริญญาตรี (Bachelor Degree) สาขาต่างๆ ได้แก่ Accounting & Finance, Business & Management, Computing & Information Technology, Education & General Studies และ Tourism & Hospitality เป็นสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง เปิดสอนมาตั้งแต่ปี 2002 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน 20 กว่าปี ทำเลที่ตั้งริมทะเลมีภูมิทัศน์สวยงามมาก


 

เยี่ยมชมสถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียน

 

โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (ดร.สมนึก) Line ID: Somnoek

Ph.D. Viva Voce Examination-News

SJ WORLD EDUCATION
04 May 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าวการสอบ Ph.D. Viva Voce Examination





เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด มีโอกาสได้ต้อนรับผู้ร่วมแสดงความยินดีกับ อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ ในโอกาสการสอบป้องกันดุษฎีนิพนธ์  (Ph.D. Viva Voce Examination) ของมหาวิทยาลัย Dr.Babasaheb Ambedkar Marathwada University.Arungabad, (M.S.) India ขอขอบพระคุณ ศิษย์เก่า และ ศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัย Dr.Babasaheb Ambedkar Marathwada University, อาจารย์จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร,มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์สุราษฎร์ธานี และผู้ร่วมงานทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

นักเรียนไทย กับ ความนิยมไปเรียนต่อประเทศจีน

SJ WORLD EDUCATION
04 May 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร, China, บทความน่ารู้
Comments: 0

นักเรียนไทย กับ ความนิยมไปเรียนต่อประเทศจีน




หลายปีต่อเนื่องที่ผู้เขียนมีโอกาสแนะแนวการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน แก่นักเรียนไทยที่ศึกษาต่อประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และ มาเลเซีย เป็นส่วนใหญ่ มักจะได้รับการสอบถามจากนักเรียน ผู้ปกครองบ่อยมากเกี่ยวกับการศึกษาต่อยังประเทศจีน โดยเฉพาะนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) จากมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ เพราะนักเรียนกลุ่มนี้มีทักษะทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน มากพอสมควรแล้ว จากการได้ใช้ชีวิตใน มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์ เป็นระยะเวลา 3-5 ปี จึงมีประเทศเป้าหมายปลายทางของการศึกษาต่อที่ประเทศจีน

จำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศจีน

ประเทศจีนมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และ สังคม ส่งผลให้นักศึกษาไทย และนักศึกษาต่างชาติในภาพรวมเลือกไปเรียนต่อที่ประเทศจีนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากการสำรวจของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ พบว่าตั้งแต่ในปี ค.ศ.2013-2020 นักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาในประเทศจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี กล่าวคือ ในปี ค.ศ.2013 มีจำนวน 328,000 คน และในปี ค.ศ.2019 เพิ่มขึ้นเป็น 492,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากประเทศเกาหลีใต้มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 22 รองลงมาได้แก่ประเทศไทย ร้อยละ 13 ปากีสถาน ร้อยละ 12 อินเดีย ร้อยละ 10 สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 9
รัสเซีย ร้อยละ 9 อินโดนีเซีย ร้อยละ 7 ลาว ร้อยละ 7 ญี่ปุ่น ร้อยละ 6 และประเทศ คาซัคสถาน ร้อยละ 5 ตามลำดับ และ ข้อมูลจาก กระทรวงศึกษาธิการของจีน พบว่า ใน ปี ค.ศ.2018 มีนักศึกษาต่างชาติเดินทางเข้ามาเรียนในประเทศจีนทั้งหมด 492,185 คน จาก 196 ประเทศในจำนวนนี้มีนักศึกษาไทยมากเป็นอันดับที่ 2

เหตุผลที่ควรเรียนต่อประเทศจีน

ประเทศจีนได้รับความนิยมมากทั้งการเดินทางท่องเที่ยวและการศึกษา มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีประชากรมากที่สุดในโลก การที่มีนักศึกษาต่างชาติจากทั่วโลกมาศึกษาที่จีนทำให้นักศึกษามีเครือข่ายเพื่อนต่างชาติ เปิดโลกกว้างทางวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งวัฒนธรรมของจีนและวัฒนธรรมอื่นๆทั่วโลก เหตุผลที่มักจะถูกใช้เป็นข้อมูลการตัดสินใจเลือกไปเรียนต่อจีนพอจะสรุปได้ดังนี้

1.การพัฒนาภาษาจีน การใช้ชีวิตเรียนต่อในประเทศจีน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวัน ช่วยให้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้รวดเร็วกว่าการเรียนที่ไทย ความสำคัญของภาษาจีนคือเป็นภาษาที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก นักธุรกิจจีนมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย และประเทศอื่นๆทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ผู้ที่มีทักษะการสื่อสารเป็นภาษาจีนได้ ถือเป็นโอกาสดีเพราะความต้องการขอตลาดแรงงานสูงมาก

2.คุณภาพการศึกษา รัฐบาลจีนได้พัฒนาระบบการศึกษาจนติดอันดับโลก (Top University in China: QS World Ranking 2022) ติดอัน Top 50 มหาวิทยาลัยโลกถึง 5 อันดับ ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยชิงหวา (Tsinghua University) อันดับที่ 17 มหาวิทยาลัย ปักกิ่ง (Peking University) อันดับที่ 18  มหาวิทยาลัยฟูดาน (Fudan University) อันดับที่ 31 มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) อันดับที่ 45 และ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (Shianghai Jiao Tong University) อันดับที่ 50

3.ค่าใช้จ่าย ได้แก่ ค่าเรียน ค่าครองชีพ การเดินทาง บริการขนส่งมวลชน ในประเทศจีนถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

4.โอกาสการเข้าสู่ตำแหน่งงาน ผู้สำเร็จการศึกษาจากประเทศจีน ที่สามารถพูดภาษาจีนได้ รวมทั้งเข้าใจในวัฒนธรรมของจีน มีโอกาสเข้าสู่ตำแหน่งงาน ทำงานในบริษัทของจีน มากขึ้น ซึ่งนักธุรกิจจีนมีการลงทุนทำธุรกิจ ในประเทศไทย และ ประเทศอื่นๆทั่วโลก ความต้องการบุคลากรที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานสูง

5.การได้รับประสบการณ์ ด้านต่างๆโดยตรง เช่น เช่นด้านภาษาและวัฒนธรรมของจีน และของชาติอื่นๆ ได้เรียนรู้จากการอยู่ร่วมกันกับกลุ่มคนหลายเชื้อชาติ ที่มาศึกษาในประเทศจีน

การศึกษาในประเทศจีน

กระทรวงศึกษาธิการของจีนเป็นผู้กำหนด ควบคุม ดูแลหลักสูตรตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยในประทศจีนเกือบทุกแห่งเป็นของรัฐบาล จึงได้รับรองจาก ก.พ.

การจัดการศึกษาของจีน 1 ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 เทอม เริ่มเทอมแรกเดือนกันยายน เทอมสองเดือนมีนาคม (ระบบการศึกษาประเทศจีน คลิก https://www.sjworldedu.com/en/misc/china-education-system/ )

หลักสูตรการศึกษาของประเทศจีนเปิดสอนทุกระดับ ตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐาน มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และการศึกษาผู้ใหญ่ ในระดับมหาวิทยาลัยมี คณะ และสาขาวิชาที่หลากหลาย ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนดึงดูดความสนใจนักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาต่อที่ประเทศจีนแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน ในการเรียนการสอนของแต่ละสถาบันการศึกษาในประเทศจีน บรรยายด้วยภาษาจีน และ ภาษาอังกฤษ รายละเอียดดังนี้

1.บรรยายด้วยภาษาจีน (Chinese taught) สถาบันการศึกษาที่บรรยายด้วยภาษาจีน ก็จะกำหนดเงื่อนไขการรับสมัครต้องมีผลการวัดระดับความสามารถภาษาจีนสำหรับผู้ที่ไม่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ คือผลสอบ HSK ระดับต่างๆ เช่น HSK= 5+ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะ สาขา ที่สมัครของแต่ละสถาบันการศึกษากำหนด

2.บรรยายด้วยภาษาอังกฤษ (English taught) สถาบันการศึกษาที่บรรยายด้วยภาษาอังกฤษ ก็จะกำหนดเงื่อนไขการรับสมัครต้องมีผลการวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ คือผลสอบ IELTS (International English Language Testing System) ระดับต่างๆ เช่น IELTS = 6.5 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะ สาขา ที่สมัครของแต่ละสถาบันการศึกษากำหนด

โครงการทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่สำคัญของจีน

มาทำความรู้จัก จักมหาลัยจีน Project 211 และ Project 985 คืออะไร

1.โครงการมหาวิทยาลัย ตาม Project 211 ระยะแรกของการดำเนินการ ในปี ค.ศ.1996-2000 ประเทศจีนเตรียมตัวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2001ที่มาของชื่อโครงการก็คือ 21คือ ศตวรรษที่ 21 และ 1 คือเดือน มกราคม โครงการมหาวิทยาลัย 211 ก่อตั้งมหาวิทยาลัยมากกว่า 100 แห่ง แต่มี 112 มหาวิทยาลัยที่ได้รับการบันทึกรายชื่อเข้ามาอยู่ในโครงการ 211 ปัจจุบันภาพรวมทั้งประเทศจีนมีมหาวิทยาลัยจำนวนประมาณ 3,000 กว่าแห่ง มีเพียง 116 แห่งเท่านั้นที่ถูกจัดมาเป็นมหาวิทยาลัยโครงการ 211 ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศของจีน

2.โครงการมหาวิทยาลัยตาม Project 985 โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1998 ประเทศจีนต้องการจะสร้างมหาวิทยาลัยชั้นนำมาตรฐานสากล ก็ได้จัดทำโครงการ 958 ขึ้น ที่มาของชื่อโครงการก็คือ นำเลขสองตัวท้ายของปี ค.ศ.1998 คือ 98 ตามด้วยเดือนที่ 5 คือเดือน พฤษภาคม เป็นชื่อ Project 985 ภาพรวมทั้งประเทศจีนมีมหาวิทยาลัยในโครงการนี้เพียง 39 แห่ง เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง Rating สูงๆ เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับสากล ทั้งนั้น  มหาวิทยาลัยตาม Project 211 และ Project 985 ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำเป็นที่ยอมรับในสังคม แต่บางคนอาจมองว่ามหาวิทยาลัยใน Project 985 จะมีศักยภาพเหนือกว่า มหาวิทยาลัยใน Project 211 โดยที่มหาวิทยาลัยตาม Project 985 จะเป็นมหาวิทยาลัยอยู่ใน Project 211 แต่มหาวิทยาลัยตาม Project 211 ไม่จำเป็นจะต้องเป็นมหาวิทยาลัยตาม Project 985
ใน ปี ค.ศ.2019 กระทรวงศึกษาธิการจีนได้ประกาศโครงการใหม่ โดยการรวมเอามหาวิทยาลัยตาม Project 211 กับ Project 985 และ เพิ่มมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้อยู่ใน Project 211 อีก 25 แห่ง มารวมไว้ด้วยกัน แล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มหาวิทยาลัยชั้นนำ และ มหาวิทยาลัยเฉพาะทางชั้นนำ

  • มหาวิทยาลัยชั้นนำจะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพในการเรียนการสอนสูงเป็นที่ยอมรับของสังคมสูงมาก รวมทั้งมีแผนกวิชาระดับสูงค่อนข้างมาก มหาวิทยาลัยชั้นนำมีจำนวนทั้งหมด 42 แห่งด้วยกัน จะประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยตาม Project 985 จำนวน 39 แห่ง และมหาวิทยาลัยตาม Project 211 จำนวน 3 แห่ง
  • มหาวิทยาลัยเฉพาะทางชั้นนำ หมายถึงมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนแผนก สาขาวิชาระดับสูง หรือ เป็นสาขาวิชาที่มีความต้องการสูงของประเทศจีน




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek





ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย ความสำคัญของนักเรียนไทย

SJ WORLD EDUCATION
03 May 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร, บทความน่ารู้, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย ความสำคัญของนักเรียนไทย




หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นสำหรับนักเรียนต่างชาติ (English Language Intensive Courses for Overseas Students : ELICOS) ในประเทศออสเตรเลีย เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนต่างชาติ เหมาะสำหรับการฝึกฝนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมหรือการปรับพื้นฐานทักษะภาษาอังกฤษ เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย ประสบการณ์การใช้ชีวิตในออสเตรเลีย ลดอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการเรียน การใช้ชีวิต รวมถึงการทำงาน Part time สำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียนด้วย

ออสเตรเลียมีระบบ และ คุณภาพการศึกษาที่ยอดเยี่ยมมาก รัฐบาลของออสเตรเลียให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการศึกษาทำให้สามารถดึงดูดความสนใจให้นักศึกษานานาชาติเดินทางเข้าไปศึกษายังประเทศออสเตรเลียจำนวนมากปีละหลายแสนคน


Source: Australian Trade and Investment Commission (Austrade)
รูปที่ 1 Top 10 Countries Students number in Australia




ข้อมูลจาก Australian Trade and Investment Commission (Austrade) พบว่า จำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศออสเตรเลีย ข้อมูล พฤศจิกายน ค.ศ.2018 มีจำนวน 690,468 คน มากกว่า พฤศจิกายน 2017 ถึง 11 % 10 ลำดับประเทศที่มีจำนวนนักเรียนในประเทศออสเตรเลีย ได้แก่ China 204,490, India 89,214, Nepal 42,884, Brazil 26,237, Malaysia 26,034, Vietnam 24,094, Korea Republic of (South) 21,677,Thailand 17,898, Colombia 16,686 , และ Indonesia 16,502 คน ตามลำดับ ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 8 ของ Top 10 Countries และอันดับ 3 ใน ASEAN


Source: Australian Trade and Investment Commission (Austrade)
รูปที่ 2 Student Visa grants for Thai Students




สถิติผู้ได้รับวีซ่านักเรียนไทยไปศึกษาประเทศออสเตรเลีย ปี ค.ศ.2018 เทียบกับ ปี 2017 แยกตาม Sector ต่างๆ พบว่า ELICOS มีจำนวนสูงสุด รองลงมาตามลำดับได้แก่ Vocational Education and Training :VET (อาชีวศึกษา) , Higher Education (อุดมศึกษา) , Schools (โรงเรียนต่างๆ) และ Non-award ได้แก่ หลักสูตรพื้นฐานต่างๆของออสเตรเลียโดยที่ไม่ได้รับประกาศนียบัตรจากทางรัฐบาล เช่น non-award foundation studies course จากสถิติดังกล่าวแสดง ELICOS มีความสำคัญและเป็นที่นิยมสูงมาก เรามาทำความรู้จักหลักสูตร ELICOS มีหลักสูตรเพื่อความประสงค์ในการใช้งานด้านใดบ้าง รายละเอียดดังนี้


รูปที่ 3 หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ELICOS)



 หลักสูตร ELICOS ของแต่ละสถาบันสอนภาษาอังกฤษ อาจมีแบ่งตามวัตถุประสงค์แตกต่างกันบ้างแต่ในที่นี้ขอยกมาเป็นตัวอย่างดังนี้

  1. General English (ภาษาอังกฤษทั่วไป) เน้นการเสริมทักษะ สร้างความมั่นใจ ในการใช้ภาษา
    ทั้งการฟัง การพูด การพูด การอ่าน รวมทั้งการเขียน การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และต่อยอดไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น General English แบ่งระดับ (Levels) ต่างๆได้แก่ Elementary, Lower Intermediate, Intermediate, Upper Intermediate และ Advanced ตามลำดับ บางสถาบันอาจจัดแบ่งจำนวน Levels มากกว่านี้ก็มี


Source: Prospectus for International Students, Fusion English 2013
รูปที่ 4 Levels of General English




ดังนั้นการสมัครเรียน General English ทางสถาบันมักจะให้นักเรียนได้สอบวัดระดับ (Placement test) ก่อนเรียน เพื่อจัดห้องเรียนให้กับนักเรียนได้ร่วมชั้นเรียนกับผู้เรียนที่มีทักษะในระดับเดียวกันพัฒนาระดับภาษาไปพร้อม ๆ กัน โดยทั่วไปแล้วแต่ละระดับจะมีทักษะที่แตกต่างกัน เช่น

  • Elementary: ไม่มีความรู้พื้นฐาน ภาษาอังกฤษ หรือมีเพียงเล็กน้อย ตอบคำถามง่ายๆได้บ้าง
  • Lower or Pre – Intermediate: ติดต่อสื่อสารและเข้าใจภาษาอังกฤษเบื้องต้น ติดต่อสื่อสารในสถานการณ์ที่มีความเคยชิน แต่เมื่อถูกกดดันในสถานการณ์ต่างๆยังไมสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
  • Intermediate: มั่นใจในการพูดคุยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องที่คุ้นเคย แต่การใช้หลักไวยากรณ์ยังไม่ค่อยถูกต้อง
  • Upper Intermediate: ใช้ภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ และมีประสิทธิภาพในหลายๆสถานการณ์ ผิดพลาดในหลักไวยากรณ์เพียงเล็กน้อย

Advanced สื่อสารคล่องแคล่ว ผิดพลาดบ้างกรณีเรื่องที่ซับซ้อน หรือพูดได้คล่องแคล่ว ใช้คำศัพท์ได้มาก หลักไวยากรณ์ถูกต้องแม่นยำ

2. English for Academic Purposes: EAP (ภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ)
พัฒนาทักษะการใช้ภาษาในทางวิชาการ เตรียมความพร้อมที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับต่างๆเช่น
ระดับมัธยมศึกษา (High School) , ระดับอาชีวศึกษา (Vocational Education and Training :VET) และระดับมหาวิทยาลัยหรือระดับอุดมศึกษา (Higher Education) ในประเทศออสเตรเลีย ฝึกฝนทักษะเชิงวิชาการ ทักษะการทำวิจัย การคิดวิเคราะห์ การเขียนเรียงความ งานกลุ่ม งานนำเสนอหน้าชั้นเรียน การอภิปราย การสัมมนา การจดบันทึกย่อ เป็นต้น หลักสูตรนี้อาจจะสมัครเรียนกับศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครเรียนหรือเลือกเรียนที่สถาบันสอนภาษาในโครงการ ความร่วมมือ กับแต่ละมหาวิทยาลัย
3. English for Business (ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ)
เสริมสร้างทักษะ ความมั่นใจ การสื่อสารด้านต่างๆ ภาษาที่ใช้ในทางธุรกิจ พัฒนาทักษะการฟัง การอ่านข่าวสารด้านธุรกิจ เรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ การสนทนาโทรศัพท์ การนำเสนอ การจดบันทึก และการเขียนรายงาน เป็นต้น
4. Exam Preparation (การเตรียมสอบภาษาอังกฤษ)
การเตรียมความพร้อมในการสอบ เช่น การสอบ IELTS (International English Language Testing System)
หรือ TOEFL( Test of English as a Foreign Language) ทั้งนี้ผลการสอบเพื่อนำไปยื่นสมัครเรียนต่อในระดับต่างๆ หรือยื่นขอวีซ่า เป็นต้น หลักสูตรนี้ส่วนใหญ่จะสอนเทคนิคในการทำข้อสอบด้วย การสมัครเรียนเรียนหลักสูตรนี้อาจมีเงื่อนไข เช่นต้องผ่าน General English ระดับUpper Intermediate หรือใช้ผลสอบ IELTS เป็นต้น
5.Vacation Course (ภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียน)
หลักสูตรนี้อาจรู้จักกันในชื่อโครงการต่างๆ เช่น Program Summer Course, Study and Tour, หรือ Camp เหมาะสำหรับการเพิ่มทักษะการใช้ภาษาควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรม การเดินทางท่องเที่ยว กิจกรรมนอกห้องเรียน เป็นหลักสูตรระยะสั้น เช่น เรียนสัปดาห์ละ 25 ชั่วโมง เรียนในชั้นเรียน 20 ชั่วโมง และ กิจกรรมนอกห้องเรียน 5 ชั่วโมง โดยมีอาจารย์ผู้ควบคุมดูแล ระยะเวลาการเรียนขึ้นอยู่กับพื้นฐานความรู้เดิมของผู้เรียนและระยะเวลาการปิดภาคเรียน
6.English and Work Experience (ภาษาอังกฤษและการฝึกงาน)
การเรียนภาษาอังกฤษ และการจัดหางานที่สนใจในการฝึกงาน ทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เรียนรู้ชีวิตการทำงาน หลักสูตรนี้อาจจะมีสถาบันที่เปิดสอนเพียงจำนวนน้อย
7.English Teacher Training (ฝึกอบรมอาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษ)
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ การพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อไปเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษ โดยเนื้อหาหลักสูตรประกอบด้วย ทฤษฎี เทคนิคการสอน ทักษะต่างๆที่ต้องใช้ในการสอนภาษาอังกฤษ
8. English for Hospitality and Tourism (ภาษาอังกฤษสำรับงานบริการต้อนรับและการท่องเที่ยว)
การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน ในอุตสาหกรรมบริการต้อนรับและการท่องเที่ยว หรือเพื่อการศึกษาต่อในสาขานี้ต่อไป บางสถาบันจัดให้มีการฝึกภาคปฏิบัติ เพิ่มทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในธุรกิจนี้ด้วย
การเรียน General English ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า นอกจากเพื่อการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันแล้วยังใช้ต่อยอดไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นด้วย ดังรูป 5


Source: Prospectus for International Students, Impact English College
รูปที่ 5 ตัวอย่างขั้นตอนการเรียนภาษาอังกฤษก่อนการเรียนวิชาชีพ วิชาการต่างๆ




จากรูปที่ 5 สามารถอธิบายได้ดังนี้

  • การเรียน General English level Elementary – Advanced อยู่ในช่วงเวลา 5-50 Weeks
  • การเรียนต่อหลักสูตร IELTS/Further Studies, Barista/Café English และ English for Bartending จะต้องมีทักษะ General English ระดับ Intermediate
  • การเรียนต่อหลักสูตร Business English, First Certificate in English (FCE), TESOL/TKT จะต้องมีทักษะ General English ระดับ Upper Intermediate
  • การเรียนต่อหลักสูตร Cambridge English Advanced (CAE) จะต้องมีทักษะ General English ระดับ Advanced




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Ph.D. (Management Science) BAMU, India

 

เรียน ป.ตรี อังกฤษ  ออสเตรเลีย  สวิตเซอร์แลนด์  หลักสูตรเข้มข้น  2+1 ทางเลือกที่ดีในยุคปัจจุบัน

SJ WORLD EDUCATION
18 Apr 2022
[หน้าแรก] หลักสูตร
Comments: 0

เรียน ป.ตรี อังกฤษ  ออสเตรเลีย  สวิตเซอร์แลนด์

หลักสูตรเข้มข้น  2+1 ทางเลือกที่ดีในยุคปัจจุบัน






การแพร่ระบาดของโรค Covid -19 ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเดินทาง ท่องเที่ยว การศึกษาในไทย และการศึกษาในต่างประเทศ ในปี 2560 ตามสถิติของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นักเรียนไทยที่กำลังใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาในประเทศที่เป็นที่นิยมเช่น ประเทศออสเตรเลีย 29,583 คน สหรัฐอเมริกา 11,557 คน สหราชอาณาจักร 7,300 คน และนิวซีแลนด์ 3,600 คน

แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศไม่สามารถทำได้ ในช่วงเวลานี้ แม้บางประเทศเริ่มผ่อนคลายให้นักเรียนเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว แต่ต้องเพิ่มขั้นตอน และค่าใช้จ่าย ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid -19 เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid -19 มีความรุนแรง ไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อไรสถานการณ์จะคลี่คลายลงได้  อีกทั้งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีความกังวลไม่ต้องการให้บุตร หลาน ไปอยู่ห่างไกล และเสี่ยงอันตรายในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ รวมถึงต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนี้ด้วย

การเรียนระดับปริญญาตรี หลักสูตรเข้มข้น 3 ปี โดยเรียนในไทย  2 ปีไทย และ 1ปีในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างประเทศ  เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย  สวิตเซอร์แลนด์  จึงเป็นทางเลือกที่ดีในยุคปัจจุบัน เพราะการเรียนช่วง 2 ปีแรกของหลักสูตรในไทย ประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าเรียน ค่าครองชีพ ค่าเดินทาง และค่าวีซ่า ไม่เสียเวลารอในช่วงที่ยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ โอกาสนี้จึงขอแนะนำหลักสูตร ดังนี้

หลักสูตรเข้มข้น 3 ปีสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ เปิดสอน 2 คณะวิชา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ และ คณะการจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม  รายละเอียด คุณสมบัติของผู้สมัครและระยะเวลาการศึกษา ดังนี้



คุณสมบัติของผู้สมัคร

  1. จบ ม.3, หรือ IGCSE Year 10-12 สามารถสมัครเข้าเรียนเริ่มต้นที่ Level 3
  2. จบ ม.6 หรือ เทียบเท่า GED, A-Level, Year 13 สามารถสมัครเข้าเรียน Level 4
  3. อายุขั้นต่ำ 16 ปี
  4. สอบผ่าน English Test และการสัมภาษณ์กับ อาจารย์ ของสถาบัน KIP- Finn

ระยะเวลาศึกษาของหลักสูตร

  1. ระยะเวลา 2 ปี ประเทศไทย (Level 3,4,5 Diploma 2 Years)
  2. ระยะเวลา 1 ปี ต่างประเทศ (Top up degree) ณ ประเทศ อังกฤษ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์

นักเรียนสามารถเลือกได้ตามความพร้อมความสนใจ  สำเร็จการศึกษาได้รับวุฒิปริญญาตรี โดยตรงจากมหาวิทยาลัยที่นักเรียนเลือกเรียนในปีสุดท้าย ดังนั้นนักเรียนสามารถ จบปริญญาตรีใช้เวลาเพียง 3 ปี

คณะ และ สาขาวิชา ที่เปิดสอน รายละเอียดดังนี้

คณะบริหารธุรกิจ

สาขา :  การบริหารธุรกิจ การบริหารจัดการองค์กรธุรกิจ การสร้างเจ้าของธุรกิจ การจัดการธุรกิจและการกลยุทธ์  การบริหารธุรกิจระดับโลก  การบริหารการตลาดออนไลน์  การบริหารการตลาด  การจัดการอีเว้นท์  การบริหารบัญชีและการจัดการ  การบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ การสื่อสารธุรกิจระห่างประเทศ  การจัดการทรัพยากรมนุษย์  การบริหารโลจิสติก และ ธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ

คณะการจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม

สาขา :การจัดการท่องเที่ยวและโรงแรม การจัดการท่องเที่ยวและธุรกิจทัวร์ การจัดการโรงแรม การจัดการโรงแรมและอาหาร

จุดเด่นของหลักสูตร  

  1. KIP-Finn เป็นสถาบันสอนหลักสูตร Level 5 Diploma จากประเทศอังกฤษ
  2. ศึกษาต่อTop up Degree ในปีสุดท้ายได้โดยตรงกับมหาวิทยาลัยรัฐบาลอังกฤษ
  3. KIP-Finn เปิดสอนมาตั้งแต่ปี 2563
  4. เรียนต่อในมหาวิทยาลัยรัฐชั้นนำที่แนะนำในต่างประเทศได้
  5. การเรียนต่อ ป. ตรี อินเตอร์ทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์และความรู้ทางการศึกษาอย่างเต็มที่
  6. เหมาะกับผู้เรียนที่มีความต้องการ เรียน อินเตอร์ ในไทย
  7. รับวุฒิปริญญาโดยตรงจาก มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่เลือกไปเรียนต่อในปีสุดท้าย
  8. มหาวิทยาลัยได้รับการรับรองคุณวุฒิและวิทยฐานะจากหน่วยงานการศึกษาของ รัฐบาลในประเทศนั้นๆ
  9. เป็นที่ยอมรับของบริษัทในระดับโลก
  10. ศิษย์เก่าของ KIP-Finn สามารถเข้าทำงาน บริษัทข้ามชาติ สายการบินระดับโลก องค์กรเอกชนชั้นนำในต่างประเทศ
  11. เรียน อินเตอร์ ใน ไทย และคว้าปริญญาในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ
  12. ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเรียน ถูกกว่าการเรียนในต่างประเทศโดยตรงทั้งหลักสูตรกว่า 3 เท่า

การเปิดรับสมัคร

  • นักเรียนสามารถสมัครเรียนได้ทุกเทอม  โดยสมัครเรียนก่อนเปิดเทอมอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ขนาดห้องเรียน 10-15 คน
  • ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน :  บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ

ภาคการศึกษา 

ภาคเรียนที่ 1 กุมภาพันธ์-เมษายน

ภาคเรียนที่ 2 มิถุนายน-สิงหาคม

ภาคเรียนที่ 3 กันยายน-พฤศจิกายน และ

ภาคเรียนพิเศษ พฤศจิกายน-มกราคม ของปีถัดไป

สถาบันที่เปิดสอน 2 ปี ในไทย : Kajonkiet Language and Business Inter Prep School : KIP ภูเก็ต



ศูนย์รับสมัครเรียน : บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ

                                  โทร. 077287111,08-5791-9111 (อ.สมนึก), Line ID:somnoek

บริการครบวงจร: ประสานงาน ติดต่อกับมหาวิทยาลัย แนะนำการเขียน SOP สำหรับเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แนะนำดูแลเรื่องทุนการศึกษา และ การแลกเงินตราต่างประเทศ ติดตามเรื่องเอกสารรับรองการเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัย เพื่อใช้ขอวีซ่านักเรียน จัดหาที่พัก บริการยื่นขอวีซ่านักเรียนบริการอื่น ๆ ตามที่ ผู้ปกครอง ร้องขอให้ ดำเนินการแทน เช่น การทำประกันส่วนตัว, การจองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น

 

 

ระบบการศึกษาประเทศจีน

SJ WORLD EDUCATION
12 Apr 2022
ทั่วไป
Comments: 0

ระบบการศึกษาประเทศจีน



  ในประเทศจีน การศึกษาแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ ประกอบด้วย การศึกษาขั้นพื้นฐาน
(Basic Education) อุดมศึกษา (Higher Education) และ การศึกษาผู้ใหญ่ (Adult Education) กฎหมายการศึกษาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กำหนดว่ารัฐบาลรับผิดชอบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี นั้นคือตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้นโดยรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการศึกษาให้สามารถพัฒนาขึ้นไปในทุกระดับทุกประเภท ดังนั้น เด็กแต่ละคนจะต้องมีการศึกษาภาคบังคับ 9 ปีโดยเริ่มเรียนในระดับประถมศึกษา (Primary Education) 6 ปี ถึงมัธยมศึกษาตอนต้น (Junior Secondary) 3 ปี (ภาคบังคับ เรียนฟรี) สำหรับนักเรียนที่มีคะแนนผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี และสอบผ่านปลายภาค จึงจะสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Secondary) หรือ ระดับอาชีวศึกษา (Vocational Secondary) ได้ โดยใช้เวลาเรียนอีก 2-4 ปีหลังจากนั้นจึงสอบเข้าเรียน (Entrance Examination) เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (Higher Education)

 

ระบบการศึกษาประเทศจีน แบ่งระดับชั้นต่างๆรายละเอียดดังนี้




1.ระดับอนุบาล (Kindergarten or Pre-School Education) เป็นการศึกษาสำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 3-5 ปี ใช้ระยะเวลาการศึกษาประมาณ 3 ปี (เป็นทางเลือก ไม่บังคับ)

2.ระดับประถมศึกษา (Primary Education) เป็นการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 6-11 ปี มีระยะเวลาศึกษา 6 ปี โรงเรียนที่เปิดสอนในระดับนี้ส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาลท้องถิ่นระดับต่างๆ (Local Education Authorities)

3.ระดับมัธยมศึกษา (Secondary Education) เป็นการศึกษาของเด็กที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ใช้เวลาศึกษา 6 ปี การศึกษาในระดับมัธยมศึกษา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

3.1 มัธยมศึกษาทั่วไป (General Middle School) แบ่งออกเป็น 2 ตอน ๆ ละ 3 ปีดังนี้
 มัธยมศึกษาตอนต้น (Junior Middle School)
 มัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Middle School)

3.2 มัธยมอาชีวศึกษา (Vocational School Education)
3.3 มัธยมวิชาชีพพิเศษ (Secondary Professional Education)


โรงเรียนที่เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษา ส่วนใหญ่จะเป็นของรัฐบาลท้องถิ่น โดยนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นส่วนใหญ่จะสมัครเข้าศึกษาต่อไปชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายส่วนที่เหลือจะเข้าศึกษาในโรงเรียนอาชีวศึกษาละโรงเรียนมัธยมวิชาชีพ ตามลำดับ
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ใช้ระยะเวลาศึกษา 3 ปี วิชาที่เรียนได้แก่ ภาษาจีน คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ฟิสิกส์ เคมี จริยธรรม สารสนเทศ และ อื่นๆ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในจีนส่วนใหญ่จัดตั้งโดยรัฐบาล หลังจากจบการศึกษาะระดับประถมศึกษาแล้วต้องสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมต้น
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วไป มัธยมปลายด้านวิชาชีพและอาชีวศึกษา ใช้เวลาศึกษา 3 ปี เป็นระดับการศึกษาที่ไม่บังคับดังนั้นนักเรียนจะต้องรับผิดชอบค่าเล่าเรียนเอง วิชาที่เรียนได้แก่ ภาษาจีน คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา สารสนเทศ และอื่นๆ โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาลการเข้าเรียนต้องสอบเข้า

4.ระดับอุดมศึกษา (Higher Education) สถาบันการศึกษาที่สอนระดับอุดมศึกษาประกอบด้วย มหาวิทยาลัย (Universities) สถาบัน (Institutes) และวิทยาลัย (Short Cycle Universities) การศึกษาระดับอุดมศึกษาของจีนมีคุณภาพดีทั้งการเรียน การสอนและการวิจัย ผลสำเร็จในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยในจีนส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ มีเพียงประมาณ หนึ่งในสามของจำนวนมหาวิทยาลัยทั้งหมดที่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของจีนจำเป็นต้องผ่านการสอบเข้าศึกษา

การศึกษาระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
 ระดับปริญญาบัณฑิต หรือปริญญาตรี โดยทั่วไปใช้เวลา 4-5 ปี สาขาแพทย์ 6 ปี ผู้ที่
สามารถจบการศึกษาตามหลักสูตรที่กำหนดไว้และสารนิพนธ์ที่เขียนนั้นผ่านเกณฑ์ถือว่าได้ปริญญาบัตรระดับปริญญาบัณฑิต
 ระดับมหาบัณฑิต หรือ ปริญญาโท ใช้เวลา 2-3 ปี ผู้ที่สามารถจบการศึกษาตามหลักสูตรที่
กำหนดไว้ สอบวิทยานิพนธ์ และมีคะแนนในระดับที่สอบผ่านถือว่าได้ปริญญาบัตรระดับมหาบัณฑิต
 ระดับดุษฎีบัณฑิต หรือ ปริญญาเอก ใช้เวลา 3-4 ปี ผู้ที่สามารถจบการศึกษาตามหลักสูตรที่
กำหนดไว้ สอบดุษฎีนิพนธ์ และมีคะแนนในระดับที่สอบผ่านถือว่าได้ปริญญาบัตรระดับดุษฎีบัณฑิต

5.การศึกษาผู้ใหญ่ เป็นการศึกษาประเภทต่างๆ ที่จัดขึ้นหรับผู้ใหญ่ และ ผู้ไม่รู้หนังสือ หรือการศึกษาอื่นที่มีรูปแบบใกล้เคียงกัน เป้าหมายหลักของการศึกษาผู้ใหญ่คือประชาชนของจีนในภาคเกษตรกรรม

ผู้ดูแลการศึกษาของจีน ประกอบด้วย
 กระทรวงศึกษาธิการ (Ministry of Education : MOE) ของประเทศจีนซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแล
 คณะกรรมการ การศึกษาแห่งชาติ (State Education Commission : SEC) เป็นผู้วางแผนการศึกษาตามนโยบายรัฐและควบคุมคุณภาพการศึกษาของจีน

เรียน ป.เอก อินเดีย จะเริ่มต้นอย่างไรดี

SJ WORLD EDUCATION
24 Mar 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์
Comments: 0

 

เรียน ป.เอก อินเดีย จะเริ่มต้นอย่างไรดี


ขาดข้อมูลตัดสินใจ   เชิญเข้าร่วมฟังแนะแนว ทางออนไลน์ ฟรี !

ลงทะเบียนเข้าฟัง คลิก https://forms.gle/q9XYDhGvnc67LjMz6




 

สมัครเรียนต่างประเทศ ขอวีซ่า

ติดตามประสานงานระหว่างเรียน

โทร.077 287111,08 5791 9111

(อ.สมนึก) Line ID.somnoek

เรียนต่อมาเลเซีย เมืองกัมปาร์ อีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ

SJ WORLD EDUCATION
01 Feb 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ทั่วไป, บทความน่ารู้, เกี่ยวกับประเทศมาเลเซีย
Comments: 0

เรียนต่อมาเลเซีย เมืองกัมปาร์ อีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ







เมื่อนึกถึงการศึกษาประเทศมาเลเซีย ผู้ปกครอง และ นักเรียน มักจะถามถึง สถาบันการศึกษาในกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เมืองปีนัง โกตาบารู และ อิโปห์ เป็นส่วนใหญ่ หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักเมืองกัมปาร์ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจเพื่อเดินทางไปศึกษาต่อทั้งระดับมัธยมศึกษา และ อุดมศึกษา หรือ แม้แต่การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซีย จึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักเมืองกัมปาร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองอิโปห์ (Ipoh) ตั้งอยู่ในรัฐเดียวกัน มีรายละเอียด ที่น่าสนใจดังนี้

กัมปาร์ (Kampar) เป็นเขตหนึ่งในสิบเขตการปกครองของรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ตั้งเป็นเขต (อำเภอ) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2009 หลังจากสุลต่านแห่งเปรัค ประกาศกัมปาร์เป็นเขตที่ 10 ของรัฐ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นคือสภาเขตกัมปาร์ (Kampar District Council or Majlis Daerah Kampar) ตั้งอยู่ในเมืองกัมปาร์ จากการเติบโตของประชากร สภาเขตกัมปาร์ สามารถขยายเป็นสภาเทศบาลได้ (Municipal Council or Majlis Perbandaran) และในที่สุดก็ถึงสภาเทศบาลเมือง (City Council or Majlis Bandaraya) ตามประวัติศาสตร์ เขตกัมปาร์เคยขึ้นชื่อเรื่องดีบุก เป็นหนึ่งในผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ในศตวรรษที่ 18

ในศตวรรษที่ 19 ย่าน Kinta มีชื่อเสียงในด้านดีบุก เป็นหุบเขาที่ผลิตดีบุกอันดับหนึ่งของโลก กัมปาร์ เป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐเปรัค (Perak) ประเทศมาเลเซีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1887 โดยมีการค้นพบแร่ดีบุกที่อุดมสมบูรณ์ในเมืองนี้ ครั้งหนึ่งเคยล่มสลาย หลังจากการล่มสลายของอุตสาหกรรมดีบุกในช่วงต้นทศวรรษ 1980 วันนี้กัมปาร์กลายเป็นเมืองที่คึกคักอีกแล้ว เมื่อ มหาวิทยาลัย UTAR (Universiti Tunku Abdul Rahman) ตั้งวิทยาเขตที่นี่ในปี ค.ศ. 2007 ได้ให้ชีวิตใหม่แก่กัมปาร์ในฐานะศูนย์กลางการศึกษา   ปัจจุบัน กัมปาร์ ถูกแบ่งออกเป็น เมืองใหม่ (New town) และ เมืองเก่า (Old town)

เมืองเก่ากัมปาร์ (Kampar Old Town) ประกอบด้วย ตึกแถว บ้าน ร้านค้า ตามประวัติศาสตร์ยุคก่อนสงคราม ถนนสายหลัก 2 สายคือ ถนนจาลันโกเปง และจาลัน ไอดริส ร้านค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังคงสภาพเดิม สถานีตำรวจ ที่ทำการไปรษณีย์ โรงพยาบาล  มัสยิด โบสถ์ คริสตจักร ฯลฯ และ สถานีรถไฟ KTM ทั้งหมดตั้งอยู่ในเมืองเก่า

เมืองใหม่กัมปาร์ (Kampar New Town) ภายใต้การพัฒนาที่กว้างใหญ่ วันนี้ภาคการค้าและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกัมปาร์ เศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนโดย การเปิด Tesco Hypermarket, Econsave and Giant Hypermarket.

ลักษณะทางภูมิศาสตร์  กัมปาร์ตั้งอยู่ในหุบเขาคินตา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีแร่ดีบุกสำรองสูง สภาพแวดล้อมที่กว้างใหญ่ ตลอดจนบ่อเหมืองร้าง เหมาะสำรับการตกปลา ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญสำหรับนักตกปลาทั่วประเทศโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากกัวลาลัมเปอร์  ที่มาของชื่อกัมปาร์ ทฤษฎีหนึ่งที่เป็นไปได้คือ Kampar ได้รับการตั้งชื่อตามแม่น้ำ Kampar (ทางตอนเหนือของเมืองปัจจุบัน) แม่น้ำนี้ได้ชื่อมาจากชาติพันธุ์ มาเลย์ ผู้อพยพจาก กัมปาร์รีเจนซี่ ในจังหวัดเรียวของสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งใช้แม่น้ำเพื่อนำทางไปยังต้นน้ำและแหล่งที่มาหลักของบรรพบุรุษของประชากร มาเลย์ ในท้องถิ่น สิ่งนี้มีมาก่อนการขุดแร่ดีบุกขนาดใหญ่ในกัมปาร์

การเดินทาง กัมปาร์มีเครือข่ายคมนาคมขนส่งที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีและการเชื่อมโยงทางรางที่มีประสิทธิภาพ รูปแบบการคมนาคมหลัก ได้แก่ รถประจำทาง รถแท็กซี่ และ รถไฟโดยสาร (Commuter Trains) ที่ให้ความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงส่วนต่างๆ ของประเทศ



การเดินทางโดยรถไฟ



สถานที่ท่องเที่ยว กัมปาร์และบริเวณโดยรอบมี สถานที่ท่องเที่ยว มากมาย และ กิจกรรมทางกายภาพตลอดทั้งวัน เช่น เดินป่า ล่องแก่ง และอื่นๆ อีกมากมาย จุดหมายปลายทางที่น่าไปเยี่ยมชมในกัมปาร์ ได้แก่ Kinta Tin Mining Museum ,Lata Kinjang Waterfall, Kellie's Castle, Gaharu Farm, Gua Tempurung, Kampar River White Water Rafting, Tanjung Tualang, Sahom Orang Asli Village, Sahom Valley Agro & Eco Resort และ Kampar Gu Miao Temple



Kinta Tin Mining Museum



อาหาร เมื่อมาถึงเมืองนี้ อาหารที่คุณต้องลองลิ้มรส กัมปาร์มีชื่อเสียงในฐานะสวรรค์แห่งอาหาร   มีอาหารให้บริการสำหรับทุกเชื้อชาติที่มีความชอบต่างกัน อาหารกัมปาร์ที่ต้องลองอย่างหนึ่งคือแกงไก่ห่อขนมปัง (Chicken Curry Wrapped in Bread) หรือ Curry Chicken Bread, Clay Pot Chicken Rice, Egg Tart, Tau Fu Fa, Char Kuey Teow, Lou Shu Fen, Saury Fish Ball, Asam Laksa, Kelapa Leleh,และ Tanjung Tualang Seafood.

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก : https://study.utar.edu.my/living-kampar.php

กัมปาร์เป็นศูนย์กลางของการศึกษา มีสถาบันการศึกษา โรงเรียนประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ทั้งโรงเรียนของรัฐบาล, โรงเรียนนานาชาติ และ สถาบันในระดับอุดมศึกษา โรงเรียนนานาชาติ สำหรับนักเรียนที่สนใจเข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School ) ที่แนะนำ ได้แก่ Westlake International School  ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.sjworldedu.com/en/country/malaysia/review-westlake-international-school-my/
และการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัย University Tunku Abdul Rahman (UTAR)  ซึ่งเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman University College (TAR UC)  ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.sjworldedu.com/th/misc/visit-utar-my/



ผู้เขียน เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ขอบพระคุณข้อมูล
Living in Kampar,University Tunku Abdul Rahman (UTAR), Kampar Campus 


สมัครเรียนต่างประเทศ ขอวีซ่า
ติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร.077 287111,08 5791 9111
(อ.สมนึก) Line ID.somnoek

 

เยี่ยมชม University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) มหาวิทยาลัยชั้นนำที่น่าสนใจ ของประทศ มาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
01 Feb 2022
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, ทั่วไป, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

เยี่ยมชม University Tunku  Abdul Rahman (UTAR)

มหาวิทยาลัยชั้นนำที่น่าสนใจของประเทศมาเลเซีย





ผมและคณะได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) Kampar Campus  ซึ่งเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านการสอนและการวิจัย  การเยี่ยมชมได้รับการต้อนรับและข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ผู้ปกครอง ในการเลือกมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี  จึงขอแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผู้สนใจเรียนหรือเลือกที่เรียนให้กับบุตรหลานครับ

มหาวิทยาลัย  University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ก่อตั้งเมื่อปี 2002 ภายใต้มูลนิธิการศึกษา UTAR  เป็นองค์กรแบบไม่แสวงผลกำไร นำการศึกษาที่ราคาไม่แพงและมีคุณภาพให้แก่ชาวมาเลเซีย

มหาวิทยาลัย  University Tunku  Abdul Rahman (UTAR) มี 2 วิทยาเขต ดังนี้ 

  1. วิทยาเขตหลักที่เมืองกัมปาร์ (Kampar Campus) ในรัฐเปรัค (Perak) สภาพแวดล้อม ภูมิประเทศเทือกเขา ทะเลสาบที่สวยงาม อยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ประมาณ 190 กิโลเมตร หรือใช้เวลาการขับรถเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
  2. วิทยาเขตซุนไกลอง (Sungai Long Campus) อยู่ที่เมือง Bandar Sungai Long รัฐสลังงอ (Selangor) ใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เป็นวิทยาเขตที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทันสมัย ห่างจาก KL City Center ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 20 นาที

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://study.utar.edu.my/campuses.php 


มหาวิทยลัย UTAR ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 2 ของประเทศมาเลเซีย และหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ Top 600 ของโลก ซึ่งเป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ปี 2021 ของ Time Higher Education ดังนั้นถือได้ว่า มหาวิทยาลัย UTAR เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับนักศึกษาที่สนใจศึกษาต่อในประเทศมาเลเซีย โดยเหตุผลที่ควรเลือกมาเรียนที่ UTAR สรุปได้ดังนี้

  • เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
  • มหาวิทยาลัย เน้นเตรียมความพร้อมเพื่อการทำงานเข้าสู่อาชีพ ยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization)
  • สภาพแวดล้อมของการเรียน การสอนมีความหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม นักศึกษาได้รับความรู้ ประสบการณ์ระดับสากล
  • มีโอกาสรับประสบการณ์จาก การฝึกงาน ทัศนศึกษา รับความรู้ในการบรรยายจากนักอุตสาหกรรมหลากหลายสาขา
  • มีเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันวิชาการอื่นๆ
  • ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาอังกฤษเป็นภาษาหลัก
  • มีบริการต่างๆ เช่น แนะแนวอาชีพ บริการรับส่ง บริการด้านดูแลสุขภาพ

สิ่งอำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัย

  • ห้องทดลองสำหรับการวิจัย
  • คอมพิวเตอร์สำหรับการเรียนภาคปฏิบัติ
  • สามารถใช้ระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายภายในมหาวิทยาลัยทั้ง 2 วิทยาเขต
  • ห้องสมุด ศูนย์รวมสื่อการเรียนการสอน หนังสือ, E-Book, Online Journal และ บริการห้องเรียนสำหรับเรียนรู้ทักษะการสืบค้นหาข้อมูล
  • บริการรับส่งจากสนามบิน (Airport Pickup) สำหรับนักศึกษาใหม่
  • การปฐมนิเทศ กิจกรรมการสร้างเครือข่ายสำหรับนักศึกษาใหม่
  • กิจกรรม สโมสร ชมรมนักศึกษาทั้งทางด้านวิชาการและอื่นๆครอบคลุมความสนใจของนักศึกษา เช่น กีฬา ดนตรี การละคร และภาพยนตร์ เป็นต้น

หลักสูตรที่เปิดสอน

มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรหลากหลายสาขา ซึ่งดำเนินการสอนโดยแบ่งเป็นส่วนงานของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย  9 คณะวิชา 3 สถาบัน และ 3 ศูนย์การเรียน ดังนี้

  1. Faculty of Medicine and Health Sciences (Sungai Long Campus)
  2. Lee Kong Chian Faculty of Engineering and Science
  3. Faculty of Engineering and Green Technology
  4. Faculty of Information and Communication Technology
  5. Faculty of Science
  6. Faculty of Accountancy and Management (Sungai Long Campus)
  7. Faculty of Business and Finance (Kampar Campus)
  8. Faculty of Arts and Social Science (Kampar Campus)
  9. Faculty of Creative Industries
  10. Institute of Postgraduate Studies & Research
  11. Institute of Chinese Studies
  12. Institute of Management and Leadership Development
  13. Centre for Foundation Studies (Kampar Campus)
  14. Centre for Foundation Studies (Sungai Long Campus)
  15. Centre for Extension Education
  16. Centre for Corporate and Community Development

แต่ละคณะวิชา เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรี (Undergraduate) และ ระดับปริญญาโท,ปริญญาเอก (Postgraduate)

ที่มา : https://utar.edu.my/Academic-Faculties-Institutes-and-Centres.php


การเยี่ยมชมครั้งนี้เป็นโอกาสดี นอกจากเยี่ยมชมสถานที่ของมหาวิทยาลัย (Campus Tour) แล้ว ยังได้ร่วมประชุมวางแผนความร่วมมือในการสมัครเรียนให้กับนักเรียนไทยไปศึกษายังมหาวิทยาลัย UTAR ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษ หลักสูตรระดับปริญญาตรี โท เอก สาขาต่าง ๆ และ การเข้าร่วมโครงการค่ายภาษาอังกฤษ ( English Camp) , ค่ายวิชาการ (Academic Camp ) ซึ่งเป็นโครงการที่น่าสนใจ ได้รับความนิยม จากนักเรียนญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไทย และอีกหลายชาติ ทางมหาวิทยาลัย UTAR จัดโครงการดังกล่าวเป็นประจำหลายปีต่อเนื่อง กิจกรรมค่ายเป็นที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงแต่เรียนวิชาการในห้องเรียนแต่มีกิจกรรม เดินทาง ท่องเที่ยว สันทนาการ ได้พบเพื่อนต่างชาติ การเรียนรู้ ประสบการณ์ด้านภา วัฒนธรรม ที่หลากหลาย 


 การประชุมวางแผนความร่วมมือการสมัครเรียนให้นักเรียนไทย




เยี่ยมชมสถานที่ของมหาวิทยาลัย (Campus Tour)




ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์



ขอบพระคุณ ข้อมูล และการต้อนรับ

University Tunku Abdul Rahman (UTAR), Kampar Campus



สนใจ เยี่ยมชมมหาวิทยาลัย  

สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

Line ID : Somnoek

 

เรียน ป.เอก อินเดีย ข้อควรรู้ ควรระวัง ! ก่อนการสมัครเรียน

SJ WORLD EDUCATION
19 Jan 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้, เกี่ยวกับประเทศอินเดีย
Comments: 0

เรียน ป.เอก อินเดีย ข้อควรรู้ ควรระวัง ! ก่อนการสมัครเรียน







การเรียนระดับปริญญาเอกในประเทศอินเดียเป็นเป้าหมาย ความใฝ่ฝันและได้รับความนิยมของนักศึกษาไทยจำนวนมาก ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ระยะเวลาการเดินทางจากไทยที่ใกล้กว่าเมื่อเทียบประทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น ค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ ที่ถูกกว่าเมืองไทยจึงเป็นโอกาสที่ดีในการวางแผนการใช้จ่ายที่ง่ายขึ้น ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนในอินเดีย สถาบันระดับอุดมศึกษา ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ภาษา วัฒนธรรม ที่หลากหลาย สถาบันการศึกษา และการเรียนการสอนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก อย่างไรก็ตามอย่ามองข้ามปัญหาอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับท่าน บั่นทอนความตั้งใจ ไปไม่ถึงเป้าหมายจากสาเหตุเหล่านี้

ข้อควรรู้ ควรระวัง ก่อนการสมัครเรียน

การเรียน ป.เอก อินเดีย มีข้อควรรู้ ควรระวัง ก่อนการสมัครเรียน ที่ควรให้ความสนใจ ระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้เพราะมีผู้เป็นนายหน้าไม่ซื่อสัตย์ หลอกลวง ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อของความไม่ซื่อสัตย์ ทั้งที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อ และที่ไม่ปรากฎเป็นข่าวซึ่งเมื่อถูกหลอกลวงแล้วเก็บเงียบไม่เปิดเผยตัวมีความละอายที่หลงเชื่อ เสียรู้ เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย เสียความรู้สึก ไปแล้ว ดังนั้นก่อนสมัครเรียนควรศึกษาหารายละเอียดอย่างรอบคอบ อย่าหลงเชื่อบรรดานายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งแฝงตัวอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นคนชาติเดียวกันที่คอยมาทำตัวสนิท ชวนให้เชื่อในทางที่ผิด คนภาคเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน ที่เลวร้ายกว่านั้นบางรายเป็นเพื่อนร่วมงานกันยังหลอกลวงกันเอง ใครเจอแบบนี้คงเสียความรู้สึกมากๆ


พฤติกรรมการหลอกลวงเป็นอย่างไร 

พฤติกรรมการหลอกลวง ชวนเชื่อให้หลงผิด พอจะสรุปได้ดังนี้

1.การโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อต่างๆ เช่น

  • เช่าพื้นที่โฆษณาเล็กๆประมาณ 2 ตารางนิ้วในหนังสือพิมพ์รายวัน
  • โพสข้อความฝากไว้ในเว็ปกระทู้ต่างๆ
  •  แชร์ข้อความไว้ใน Fanpage

    การโฆษณามักจะบอกเฉพาะ ชื่อบุคคล และ เบอร์โทร ไม่เปิดเผยสถานที่ติดต่อหรือที่ตั้งสำนักงานหรือรายละเอียดการจดทะเบียนนิติบุคคลใดๆ และเสนอการให้บริการที่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่าเรียน ป.เอกจบง่าย มีการช่วยเหลือ ทำแทนได้ทุกขั้นตอน โดยไม่ต้องไปอยู่ที่อินเดียเลย สมัครแล้วรอสอบจบอย่างเดียวเลย

    2.สร้างเครือข่ายนายหน้าขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ชวนเชื่อ บอกต่อ คนใกล้ชิด กลุ่มเป้าหมายให้หลงผิด เข้าสู่กระบวนการมีการส่งต่องานกันเป็นกระบวนการตั้งแต่ในไทยไปจนถึงขั้นตอนในอินเดีย

    3.กิจกรรมการตลาด ไม่ปรากฏว่ามีการเข้าร่วมกิจกรรมการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศที่หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่น งานนิทรรศการการศึกษาต่างประเทศ งานสัปดาห์วิชาการของแต่ละสถาบันการศึกษา งานตลาดนัดอุดมศึกษา เป็นต้น

    4.การเรียกเก็บค่าบริการ มักจะเรียกเก็บแบบเหมาจ่ายอาจจะจ่ายงวดเดียวหรือแบ่งจ่ายเป็นงวด ผู้หลงผิดไม่ทราบเลยว่าค่าเรียนค่าธรรมเนียมที่จ่ายจริงให้แก่มหาวิทยาลัยจำนวนเท่าไร และมีการจ่ายให้มหาวิทยาลัยจริงไหมเพราะบรรดานายหน้าดังกล่าวจะไม่แสดงหลักฐาน ใบเสร็จของมหาวิทยาลัย โดยอ้างว่ามหาวิทยาลัยจะออกให้ตอนสอบจบแล้ว ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ตลกมาก
    ราคาค่าบริการที่เรียกเก็บเมื่อประมาณปี 2013-2015 เขาจะเรียกเก็บคนละ 380,000 – 600,000บาท
    พิจารณาจากฐานะทางเศรษฐกิจ และ สังคมของผู้สมัคร ความรีบร้อนที่จะได้วุฒิ ป.เอก ด่วนขนาดไหน รวมทั้งถ้าไม่มีทักษะภาษาอังกฤษด้วยแล้วยิ่งจ่ายแพงไปอีก ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในขอวีซ่า การเดินทางไปอินเดีย ค่าทำเล่ม Thesis และ ค่าเอกสารตอนขอรับวุฒิการศึกษา

    5.การปกปิดข้อมูลในขั้นตอนสำคัญของการศึกษา ป.เอก อินเดีย ตัวอย่าง เช่น ไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน Course Work, การทำวิจัย การตรวจการคัดลอกงานวิจัย (Plagiarism Check) การนำเสนอและการตีพิมพ์เผยแพร่บทความ, การขอวีซ่าเพื่อการวิจัย (Research Visa) รายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่าย และค่าบริการที่เกี่ยวข้อง นักศึกษาบางรายถูกปิดกั้นไม่มีโอกาสได้เจอกับอาจารย์ที่ปรึกษาในการทำวิจัย (Research Guide) หากเจอกรณีเช่นนี้ตั้งข้อสังเกตได้เลยว่าไม่มีความสื่อสัตย์ ไม่สุจริต

    6.ผลกระทบที่ตามมามีอะไรบ้าง

    6.1 เอกสารการตอบรับที่ได้จากมหาวิทยาลัยฯ ไม่สมบูรณ์ขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งนายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ ได้เอกสารมาโดยมิชอบ ปลอมแปลงแก้ไข เช่น มีลายเซ็น แต่ไม่มีชื่อ-สกุล ตัวบรรจง ไม่มีตราประทับในเอกสาร เมื่อนำไปประกอบการยื่นขอวีซ่า (Research Visa) ก็จะถูกสถานทูต ปฏิเสธ ไม่รับพิจารณา ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษา ป.เอก ที่ถูกต้องได้

    6.2 หลอกให้รอขั้นตอนการสอบปากเปล่า (Viva Voce Examination) ทั้งที่ผู้เรียนยังไม่ได้ทำวิจัย หรือเรียน Course Work อ้างว่าจะลดขั้นตอนเหล่านี้มีผู้ดำเนินการแทนขอเพียงให้จ่ายเงินให้ครบตามที่นายหน้าผู้ไม่ซื่อสัตย์เรียกเก็บ หลายคนรอไม่ไหว เพราะระยะเวลาหลายปีไม่มีอะไรคืบหน้า และรู้แล้วว่าถูกหลอก ยอมทิ้งเงินที่หลงเชื่อจ่ายไปหลายแสน แต่ก็มีบางรายที่มีโอกาสได้ไปสอบ Viva Voce พอเป็นพิธี เพราะไม่มีดุษฎีนิพนธ์ที่ทำการวิจัยด้วยตัวเอง และเดินทางไปอินเดียโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) อย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถทำวีซ่าเพื่อการวิจัยได้ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วขอจบ ป.เอก มีการจัดฉากถ่ายรูปหน้าอาคารเรียน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นายหน้าผู้ไม่ซื่อสัตย์ คงสมคบคิดกับบุคลากรของมหาวิทยาลัยฯบางคนตามที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ทางสื่อในประเทศอินเดีย

    6.3 เมื่อได้รับวุฒิการศึกษา ป.เอก จากกรณีดังกล่าวนี้ เมื่อยื่นเอกสารเทียบวุฒิในเมืองไทย
    เคยปรากฏเป็นข่าวการประชุมกรรมการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อปี 2561 พบว่า ผู้ยื่นเอกสารเทียบวุฒิเป็นผู้อ้างว่าจบการศึกษา ป.เอก จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอินเดีย (ขอสงวนนาม) จำนวน 40 ราย  ซี่งเข้าศึกษาในช่วงปี ค.ศ.1995-2015 ผลการพิจารณาสรุปได้ว่า คุณภาพของวิทยานิพนธ์ ของผู้ยื่นคำร้องทั้ง 40 ราย ทั้งประเด็นปรัชญาและวัตถุประสงค์ ของการศึกษาระดับปริญญาเอก การเขียนวิทยานิพนธ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์คุณภาพของวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก การใช้ภาษาอังกฤษในการทำวิทยานิพนธ์ไม่เป็นไปตามหลักไวยากรณ์ ไม่สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เทียบได้ต่ำกว่าคุณวุฒิระดับปริญญาเอก ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการการอุดมศึกษามอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มีหนังสือแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยดังกล่าวและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการศึกษาในสาธารณรัฐอินเดีย
    ดังนั้น สกอ.จะเข้มงวดในการตรวจสอบวุฒิ ปริญญาเอก จากต่างประเทศมากขึ้น เช่นบรรดาอาจารย์ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศต้องหาหลักฐานมายืนยันว่า ตนได้ไปเรียนปริญญาเอกมาจริง และเป็นจริงทั้งปริญญา และความรู้ และต้องยื่นเรื่องต่อ สกอ.เพื่อขอให้รับรองวุฒิทางการศึกษา ป.เอก ของตน หากไม่ดำเนินการก็จะไม่ได้รับการรับรองวุฒิที่จบมาส่งผลกระทบให้ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรที่เปิดสอนอยู่ได้ ในส่วนรัฐบาลอินเดียก็เข้มงวด ในการตรวจสอบ ป้องกันปัญหาปริญญาที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง หรือ ปลอม แต่ก็ยังมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของนายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์อยู่บ่อยครั้ง



บทความ ข้อควรรู้ ควรระวัง ก่อนการสมัครเรียน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ท่านตกเป็นเหยื่อการถูกหลอกลวงรายต่อไป และป้องปรามพฤติกรรมหลอกลวงจากนายหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ให้สร้างความเสียหายต่อผู้ที่สนใจเรียน ป.เอก อินเดีย หรือต่างประเทศอีกต่อไป


ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Research Scholar, Department of Management Science
BAMU. Aurangabad, India




เรียนปริญญาเอกอินเดีย บริการครบวงจร:
แนะนำ หลักสูตร สถาบัน สมัครเรียน ขอ Visa แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย

สนใจโทร. 07728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID: somnoek

็Homstay Penang

SJ WORLD EDUCATION
07 Jan 2022
Accomodation, ต่างประเทศ
Comments: 0

Homestay Penang



Host Family Homestay

ครอบครัวโฮสแฟมมิลี่ คุณพ่อ และ คุณแม่ เป็นชาวมาเลเซีย สัญชาติจีน นับถือศาสนาคริสต์เตียน มีลูกสาวอายุ 3 ขวบ 1 คน

ทั้งคุณพ่อและคุณแม่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษามาเลย์ ภาษาจีนกลาง ภาษาจีนกวางตุ้ง และ ภาษาจีนฮกเกี้ยนได้เป็นอย่างดี

งานอดิเรกของครอบครัวชอบท่องเที่ยว ทำอาหาร ร่วมกิจกรรมกลางแจ้งและ เล่นดนตรี (กีต้าร์)

คุณพ่อคุณแม่ไม่ดื่มแอลกอฮล์ ไม่สูบบุหรี่ และสารเสพติดทุกชนิด จึงไม่ต้องกังวลเรื่องของมึนเมาและยาเสพติด

บริการของ Host Family

ยินดีต้อนรับนักเรียนต่างชาติที่สนใจจะมาเข้าเรียนที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย เข้าพักกับเรา
  1. บริการห้องพักสำหรับนักเรียน อายุ 10 – 17 ปี  พักห้องละ 2 – 4 คน (ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องพัก)
  2. บริการรับ-ส่งที่โรงเรียน
  3. บริการอาหาร 3 มื้อ / วัน  (ยกเว้นวันที่มีเรียนบริการมื้อเช้า และ เย็น)
  4. บริการซักผ้า  (ยกเว้นชุดชั้นใน และ ถุงเท้า)

กิจกรรมของ Host Family

  1. ใช้เวลาว่างร่วมกันทำกิจกรรมนันทนาการ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
  2. กิจกรรมเสริมทักษะด้านสังคม  เช่น การเล่นกีฬา  ทำอาหาร เล่นดนตรี
  3. กิจกรรมเสริมทักษะด้านภาษา เช่น ช่วยสอนทักษะภาษาอังกฤษ และภาษาจีนให้กับนักเรียน
  4. สอนการบ้านหลังเลิกเรียน 

ตัวอย่างที่พัก



ห้องนอน
ห้องน้ำ

ห้องนั่งเล่น
ห้องครัว


หมายเหตุ  ภาพดังกล่าวเป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น เนื่องจากสถาการณ์การแพร่ของโควิด19 มีผลกระทบต่อเนื่องกัน 2 ปี ทำให้ไม่มีนักเรียนเข้ามาพัก โฮสแฟมมิลี่จึงขอเปลี่ยนแปลงสถานที่พักที่ใหม่ อยู่ระหว่างดำเนินการ  หากนักเรียนประสงค์จะจองห้องพักสามารถแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง




พิเศษ !!!  สมัครวันนี้รับสิทธิ์ทันที เรียนเสริมภาษาอังกฤษหลังเลิกเรียนฟรี 1 ปี




สนใจติดต่อที่พักได้ที่

บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด  (อ.สมนึก)

โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111

Line : http://line.me/ti/p/~somnoek

แนะนำขั้นตอนการเดินทางของนักเรียนไทยเข้าเรียนในประเทศมาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
05 Jan 2022
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, เกี่ยวกับประเทศมาเลเซีย
Comments: 0

แนะนำขั้นตอนการเดินทางของนักเรียนไทยเข้าเรียนในประเทศมาเลเซีย

ตามที่ประเทศมาเลเซีย อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไปเรียนในประเทศมาเลเซียได้แล้ว ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักเรียน ผู้ปกครอง ที่รอคอยและสนใจการศึกษาในประเทศมาเลเซีย ขณะนี้นักเรียนไทยจำนวนหนึ่งก็เริ่มเดินทางไปเข้าชั้นเรียนในประเทศมาเลเซียแล้ว อย่างไรก็ตามการเดินทางจะมีขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่เพิ่มเติมขึ้นกว่าเดิมตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 นั่นเอง โอกาสนี้ จึงขอแนะนำขั้นตอนการเดินทางของนักเรียนไทยเข้าเรียนในประเทศมาเลเซีย รายละเอียด ดังนี้




1. ตรวจสอบว่าประเทศไทยอยู่ในรายชื่อประเทศที่ห้ามเดินทางเข้ามาเลเซียหรือไม่
ได้ที่ https://educationmalaysia.gov.my/

2. ตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียหรือไม่
ได้ที่ https://mtp.imi.gov.my/myTravelPass/main?termConditionNXF

3. แจ้งสถาบันการศึกษาที่นักเรียนจะไปศึกษาว่าต้องการจะเดินทางเข้าไปประเทศมาเลเซีย เพื่อดำเนินการ
เกี่ยวกับการขออนุมัติเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย หรือ วีซ่านักเรียน

4. ยื่นขอหนังสืออนุมัติการเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย (MyTravelPass)
หรือ eVAL (สำหรับนักเรียนระดับอุดมศึกษา)

5. รอรับหนังสืออนุมัติการเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย (MyTravelPass) หรือ eVAL

6. ตรวจโควิด 19 แบบ RT-PCR Test ก่อนเดินทาง (ภายใน 3 วันก่อนเดินทางถึงมาเลเซีย)
นักเรียนติดต่อขอตรวจได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

7. ชำระค่าตรวจคัดกรองโควิด 19 และ ค่ากักตัว ผ่านระบบ MySafeTravel หรือช่องทางที่กำหนด
กรณีอายุต่ำกว่า 15 ปี ควรมีผู้ปกครองเดินทางไปด้วย เนื่องจากยังถือว่าเป็นผู้เยาว์ หากเดินทางไปคน
เดียวจะต้องมีผู้ปกครองรับรองที่มาเลเซีย และ ดำเนินการเรื่องที่กักตัวให้ หรือ กรณีเลือกสถานที่กักตัว
เป็นบ้าน Home quarantine จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วันทำการ
(ไม่แนะนำเพราะไม่ค่อยมีบ้านให้เช่าเพื่อเข้าพักกักตัว)

8. ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น MySejahtera and Travel และ ลงทะเบียนเพื่อเปิด Account ก่อนเดินทาง

9. เมื่อเดินทางมาถึงประเทศมาเลเซีย สแกนคิวอาร์โค๊ด และ ลงทะเบียนตามขั้นตอนในแอพลิเคชั่น MySejahtera and Travel จากนั้นเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด 19 (RT-PCR Test) ที่จุดคัดกรอง และยื่นเอกสารหลักฐานการชำระเงินค่าตรวจคัดกรอง Covid-19 และ ค่ากักตัว
หลังจากตรวจคัดกรองเสร็จ ยื่นเอกสารการเดินทางและหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่ออนุมัติการขอเข้าเมือง และ รอผลตรวจคัดกรอง

10. เมื่อได้รับผลตรวจคัดกรองแล้ว immigration ดำเนินการอนุมัติให้เข้าเมือง และนำเอกสารและหนังสือเดินทางที่ประทับตราการเข้าเมืองมาให้นักเรียน จากนั้นไปรับสัมภาระของตนเองและเดินทางไปยังสถานที่กักตัวตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://safetravel.myeg.com.my

11. กักตัวตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนด ประมาณ 7 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกระทรวงสาธารณสุขประเทศมาเลเซีย นักเรียนจะต้องรายงานผลผ่านทางแอพลิเคชั่น MySejahtera and Travel ระหว่างที่กักตัว

12. ตรวจคัดกรองโควิด 19 ครั้งที่ 2 ตามกำหนดดังนี้
 กักตัว 7 วัน ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 5
 กักตัว 10 วัน ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 8
 กักตัว 14 ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 10

13. กรณีผลตรวจเป็นลบ ก็สามารถเดินทางไปเข้าเรียนได้ตามปกติ หากผลตรวจเป็นบวก ทางกระทรวงสาธารณสุขประเทศมาเลเซียจะให้คำแนะนำอีกครั้ง

 



สมัครเรียนต่างประเทศ ขอวีซ่า
ติดตามประสานงานระหว่างเรียน

โทร.077 287111,08 5791 9111
(อ.สมนึก) Line ID.somnoek

ผู้เขียน แปล เรียบเรียง (ข้อมูล ณ 04-01-2022)

สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ธันยา เล้าธนะธรรม
ศ.ศ.บ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี




ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :
Westlake International School
https://educationmalaysia.gov.my/
https://mtp.imi.gov.my/myTravelPass/main?termConditionNXF
https://safetravel.myeg.com.my

เรียนต่อมาเลเซีย กับ การเตรียมข้อมูลด้านสุขภาพ

SJ WORLD EDUCATION
05 Oct 2021
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้
Comments: 0

เรียนต่อมาเลเซีย กับ การเตรียมข้อมูลด้านสุขภาพ



็Health Information for study Malaysia

 



การไปศึกษาต่อต่างประเทศ นักเรียน ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลเพื่อเลือกหลักสูตร สถาบันการศึกษา ประมาณการค่าใช้จ่าย การเตรียมทักษะภาษาต่างประเทศ  การสมัครเรียนและการยื่นขอวีซ่า โดยอาจลืมนึกไปว่าข้อมูลด้านสุขภาพของนักเรียนเองก็เป็นสิ่งสำคัญในการสมัครเรียนหรือการยื่นขอวีซ่า หากไม่ได้เก็บข้อมูล เอกสารบันทึกสุขภาพไว้ก็จะทำให้เกิดความล่าช้าในการกรอกประวัติส่วนบุคคลด้านสุขภาพตามที่สถาบันการศึกษากำหนด

จากประสบการณ์หลายปีต่อเนื่องของผู้เขียน ในการแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ สมัครเรียนยื่นขอวีซ่า ให้นักเรียนไปศึกษาต่อประเทศต่างๆ เช่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย และมาเลเซีย  จึงขอแนะนำเรื่องการเตรียมข้อมูลด้านสุขภาพของนักเรียนโดยขอยกตัวอย่างกรณีไปศึกษาต่อยังประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกับไทยและเป็นประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเช่นเดียวกับประเทศไทย 

ข้อมูลด้านสุขภาพที่ทางสถาบันการศึกษาในมาเลเซียต้องการ

1.ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนตามกำหนด (Administration of scheduled imminisations)

เป็นการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการฉีดวัคซีน ได้แก่ ชื่อวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ และ วันเดือนปี ที่ได้รับการฉีดวัคซีน แต่เนื่องจากการได้รับวัคซีนตามแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย ซึ่งเป็นวัคซีนพื้นฐานจะเริ่มตั้งแต่ แรกเกิด จนถึง อายุ 12 ขวบ (นักเรียน ป.6) ดังนั้นหาก ผู้ปกครองไม่ได้เก็บสมุดบันทึกสุขภาพไว้ก็จะไม่มีรายละเอียดเพียงพอ  ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนตามกำหนดที่สถาบันการศึกษามาเลเซียต้องการ ตามตารางที่ 1

 

Administration of scheduled imminisations
ที่มา : Pelita International School, Penang, Malaysia

ตารางที่ 1 การฉีดวัคซีนตามกำหนด (Administration of scheduled imminisations)

  2.การเปิดเผยข้อมูลสุขภาพสำหรับการสมัครเรียน (Health Declaration form for Applicants)

โดยยืนยันว่า ข้าพเจ้าขอประกาศว่าข้าพเจ้าปราศจากโรค/อาการดังต่อไปนี้

(I hereby declare that I am free from the following diseases/conditions.) ตัวอย่าง ตามตารางที่ 2

แบบประกาศสุขภาพสำหรับการสมัคร

ข้าพเจ้าขอประกาศว่าข้าพเจ้าปราศจากโรค/อาการดังต่อไปนี้

Health Declaration form for Applicants
ที่มา : Universiti Sains Malaysia: USM Penang, Malaysia

 

ตารางที่ 2  แบบประกาศสุขภาพสำหรับการสมัคร (Health Declaration form for Applicants)


ข้อความด้านล่างของตารางประกาศสุขภาพสำหรับการสมัครจะมีรายละเอียดที่ให้ผู้สมัครรับทราบและลงนามยอมรับ  ยกตัวอย่างเช่น   ข้าพเจ้าจะส่งตัวเองเข้ารับการตรวจสุขภาพหลังเดินทางมาถึง ตามภาคบังคับระเบียบของประเทศมาเลเซีย, กรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการใด ๆ ที่เห็นว่าไม่เหมาะกับการศึกษา   ข้าพเจ้าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางออกจากประเทศมาเลเซีย และ จะปฏิบัติตามข้อกำหนดการเข้าเมืองบนบัตร Visit pass และ การออกนอกประเทศมาเลเซียก่อนบัตรหมดอายุ หรือ กำหนดเวลาใดๆ ที่มอบให้ข้าพเจ้า แล้วแต่ว่าอย่างใดจะมาถึงก่อน  กรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีเงื่อนไขใดๆ  ที่ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องย้ายออกจากมาเลเซีย แต่ต้องได้รับการรักษาพยาบาล และ เลือกที่จะอยู่ต่อที่มาเลเซียเพื่อเรียนต่อ  ข้าพเจ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อม ต่อการจัดการทางการแพทย์ , ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า EMGS Panel Clinic/University Health จะไม่รับผิดชอบในลักษณะใดๆ หรืออะไรก็ตามจาก EMGS Panel Clinic/University Health ที่รับรองสถานะทางการแพทย์ของข้าพเจ้าว่าเหมาะสมที่จะเรียน หรือ อาศัยอยู่ในมาเลเซียทั้ง ๆ ที่มีสภาพร่างกายตามที่อธิบายไว้ข้างต้น  ข้าพเจ้าตกลงว่า EMGS Panel Clinic/University Health พ้นจากการสูญเสียหรือความรับผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียนี้ และตกลงที่จะชดใช้ค่าเสียหายและป้องกันไม่ให้ EMGS Panel Clinic/University Health สูญเสีย หรือรับผิดชอบใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจนี้

  3.ประวัติการฉีดวัคซีนของนักเรียน ค้นหาได้จากไหน

หน่วยงานด้านสาธารณสุขที่รับผิดชอบในการฉีดวัคซีน  ได้แก่ โรงพยาบาล สถานีอนามัย ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป็นต้น ตามปกติแล้ววัคซีนสำหรับทารกแรกเกิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) และวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (HB) จะได้รับการฉีดจากโรงพยาบาลที่เด็กคลอด จากนั้นวัคซีนเข็มต่อไปจะอยู่ในความรับผิดชอบของ สถานีอนามัย ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่อยู่ใกล้บ้าน

วัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย รายละเอียดตามตารางที่ 3

Vaccines - Thailand
ที่มา : กรมอนามัย และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)



ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนตามกำหนดจึงมีประโยชน์ ทั้งในด้านการเข้ารับวัคซีนเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้ครบถ้วน ของ บุตรหลาน และใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการสมัครเรียน สมัครยื่นขอวีซ่า ในการศึกษาต่างประเทศ อีกด้วย ข้อมูลการฉีดวัคซีนตามกำหนดท่านสามารถดูได้จาก สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก ที่จัดทำโดย กรมอนามัย และสำนักงาน สปสช.ซึ่งคุณแม่จะได้รับ และเริ่มบันทึกข้อมูล จากสถานพยาบาลตั้งแต่วันที่เข้ารับการฝากครรภ์ ดังนั้นควรเก็บรักษาไว้เพื่อประโยชน์ดังกล่าวแล้วข้างต้น และสิ่งที่จะต้องเตรียมเพิ่มเติมในสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 คงหนีไม่พ้นเรื่องหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน Covid-19 ที่ออกให้โดยกระทรวงสาธารณสุขนั่นเอง






สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า

ติดตามประสานงานระหว่างเรียนโทร 0 7728 7111 ,

08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียนแปลเรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์



ขอบพระคุณแหล่งข้อมูล:

1.Pelita International School, Penang, Malaysia

2.Universiti Sains Malaysia: USM Penang, Malaysia

3.กรมอนามัย และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

 

 

เรียน ปริญญาเอกอินเดีย

SJ WORLD EDUCATION
07 Sep 2021
[หน้าแรก] หลักสูตร, India, บทความน่ารู้, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0
Ph.D in India, study India

เรียน ปริญญาเอกอินเดีย


 

study Ph.D in India



การศึกษาระดับปริญญาเอกต่างประเทศ   อาจเป็นเป้าหมายหรือความใฝ่ฝันของหลายๆคน แต่ยังไม่มีโอกาสก้าวไปสู่การเริ่มต้นเพราะขาดข้อมูลในการตัดสินใจ ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไร มีความกังวลในเรื่องความไม่พร้อมด้านต่างๆ เช่น ทักษะภาษาอังกฤษ ค่าใช้จ่าย การเลือกสาขาวิชา และสถาบันการศึกษา การสมัครเรียน การขอวีซ่า รวมไปถึงกลัวว่าจะถูกหลอกลวงจากผู้แนะนำบางรายตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่ออยู่บ่อยๆ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องไปเรียนที่อินเดีย ผู้เขียนเองมีโอกาสเดินทางไปอินเดียหลายครั้ง ทั้งเพื่อการเยี่ยมชมสถาบันการศึกษา การนำเสนอบทความทางวิชาการนานาชาติ และเพื่อการศึกษาของตัวเอง ทำให้ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องไปเรียนที่อินเดีย

  1. สถาบันการศึกษา และ การเรียนการสอน ของอินเดียเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คืออินเดียเป็นแหล่งผลิตบุคลากรด้าน Information Technology (IT), Programmer ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอันดับต้น ๆ ของโลก
  2. ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน ระดับอุดมศึกษาของประเทศอินเดียส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นโอกาสดีที่จะได้เพิ่มทักษะด้านภาอังกฤษ ทั้งในการเรียน และการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน
  3. ค่าเล่าเรียน และ ค่าครองชีพในอินเดีย ถูกกว่าในเมืองไทย ผู้เขียนได้สำรวจค่าเล่าเรียนเฉพาะระดับปริญญาเอกในเมืองไทย (ข้อมูล ปี 2563) พบว่าประมาณค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร เริ่มต้นที่ 540,000 ถึง 630,000 บาท (บางมหาวิทยาลัยค่าใช้จ่ายสูงถึงล้านบาทก็มี) ในขณะที่ค่าเล่าเรียนระดับ ป.เอก ในอินเดียค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปีคิดเป็นเงินไทยประมาณ 80,000 บาท ถ้าคิดตลอดหลักสูตร 3 ปี เท่ากับประมาณ 240,000 บาท ส่วนค่าครองชีพของประเทศอินเดียก็ต่ำกว่าไทยประมาณหนึ่งเท่า
  4. ประสบการณ์ชีวิต   การเดินทาง ท่องเที่ยว จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่หลากหลาย มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทัชมาฮาล(Taj Mahal)  สุสานหินอ่อน ที่ผู้คนเชื่อว่า เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรัก ที่สวยที่สุดในโลก   ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) ถ้ำ เอลโลรา (Ellora Caves) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) รวมทั้งสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ตั้งอยู่ในอินเดีย ได้แก่  สถานที่ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพาน ของพระพุทธเจ้า และอาจได้หาโอกาสไป ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติ ของพระพุทธเจ้า เป็นการตามรอยพระพุทธเจ้า ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบลอย่างครบถ้วนด้วย
  5. เครือข่ายเพื่อต่างชาติ การเรียนที่อินเดียนอกจากจะได้เพื่อนชาวอินเดียแล้วยังได้พบเพื่อนจากประเทศอื่นๆ มากมายที่มาเรียนที่อินเดีย

การศึกษาระดับปริญญาเอก อินเดีย หลักสูตรจะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี โดยการเรียนการสอนขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย กล่าวคือ บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้เรียน Course Work และเขียน Thesis แต่บางมหาวิทยาลัยไม่ต้องเรียน Course Work แต่ต้องเขียน Thesis เพียงอย่างเดียวโดยยึดตามหัวข้อที่ อาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) อนุมัติเท่านั้น


ขั้นตอนการสมัครเรียน (Admission)

ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัครนักศึกษาประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือน กรกฎาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปิด-ปิด ภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัย ซึ่งเวลาการเปิด-ปิด ภาคเรียนของแต่ละภูมิภาคของอินเดียอาจจะไม่ตรงกัน แต่โดยทั่วไป ภาคการศึกษาของมหาวิทยาลัยในอินเดีย ดังนี้

  • ภาคเรียนที่ 1 ประมาณเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม
  • ภาคเรียนที่ 2 ประมาณเดือน มกราคม- พฤษภาคม

ดังนั้น การดำเนินการเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการสมัครเรียนควรเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปีเพราะมหาวิทยาลัยอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณา

รายละเอียดที่ต้องดำเนินการในการเรียนปริญญาเอก อินเดีย

  1.  ศึกษารายละเอียด สาขาวิชา มหาวิทยาลัย ที่สนใจ และประเมินคุณสมบัติของตนเองว่าเป็นไปตามเงื่อนไข ข้อกำหนด ของมหาวิทยาลัยหรือไม่
  2.  เตรียมหัวข้อวิทยานิพนธ์ เขียน Research Proposal หรือ Synopsis ให้พร้อม ควรเตรียมการนำเสนอเป็นภาอังกฤษ หรือ เตรียมตัวสัมภาษณ์เกี่ยวกับหัวข้อวิทยานิพนธ์
  3.  เตรียมเอกสารประกอบการสมัคร ตามรายการที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยปกติแล้วอย่างน้อยต้องประกอบด้วย สำเนา Transcript ประกาศนียบัตร ป.โท ใบ Migration จากสถาบันการศึกษาเดิมตอนเรียน ป.โท รูปถ่าย สำเนา หน้า Passport ชื่อบิดา มารดา เป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นอาจมีบางมหาวิทยาลัยที่ต้องใช้ใบรับรองความรู้ภาอังกฤษ หรือใบแจ้งผลการสอบวัดระดับภาอังกฤษ
  4.  ยื่นเอกสารการสมัครเรียน (Online หรือ Offline) ขึ้นอยู่กับวิธีการสมัครที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด จากนั้นรอการตอบรับจากมหาวิทยาลัย โดยปกติทางมหาวิทยาลัยจะตอบรับโดยเอกสาร Letter Submitted Eligibility (ใบ E) และมีอาจารย์ที่ปรึกษาการวิจัย (Research Guide) แล้ว ตั้งแต่ขั้นตอนนี้เป็นต้นไปเพื่อความสะดวก อาจมีความจำเป็นต้องมีผู้ประสานงานผู้ให้คำปรึกษา เช่นการใช้บริการของศูนย์แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ เป็นต้น
  5.  การยื่นขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศอินเดีย ในขั้นตอนนี้เรายังไม่มีสถานะเป็นนักศึกษาจึงของวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) รอการอนุมัติวีซ่าจากสถานฑูตอินเดีย
  6.  เดินทางไป อินเดีย วัตถุประสงค์เพื่อ การสมัครเรียนอย่างเป็นทางการและลงทะเบียนเรียน
  7.  ชำระค่าสมัคร ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน Year 1
  8.  เข้าพบ Research Guide เพื่อปรึกษา รับคำแนะนำ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัย เช่น ผลการอนุมัติ หรือรายการปรับปรุงแก้ไข ระเบียบวิธีวิจัย และ การ Submit letter Submitted Eligibility (ควรมีเวลาอยู่ในอินเดียอย่างน้อย 1 สัปดาห์)
  9.  เดินทางกลับประเทศไทย
  10.  เริ่มเขียนงานวิจัย
    – Chapter 1: Introduction
    – Chapter 2: Background and literature reviews
  11.  รายงานความก้าวหน้างานวิจัย (Research progress report)
  12.  เตรียมเอกสารเพื่อประกอบการยื่นขอวีซ่าเพื่อการวิจัย (Research Visa) ตามรายการที่สถานฑูตอินเดียกำหนด
  13.  ยื่นขอวีซ่าเพื่อการวิจัย (Research Visa) และรอการนัดวันเข้ารับการณ์สัมภาษณ์จากสถานฑูตอินเดีย
  14.  เดินทางไปประเทศอินเดีย หลังจาก Research Visa ได้รับการอนุมัติ เพื่อดำเนินการด้านเอกสาร เช่น Rent Agreement, Registration Certificate /Residential Permit (RC/RP), Police Verification Letter รวมทั้งการชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน Year 2 ใช้เวลาอยู่ในอินเดียประมาณ 1-2 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสาร และการอนุมัติ
  15.  นักศึกษาอาจขออนุญาต Research Guide กลับมาทำวิจัยในไทย หรือจะพักอาศัยอยู่ในอินเดียต่อเนื่องได้เพราะได้รับ Research Visa และ RC/RP เรียบร้อยแล้ว
  16.  เขียน Research Chapter 3: Research Methodology หรือระเบียบวิธีวิจัย ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับประชากร และกลุ่มเป้าหมาย เครื่องมือในการเก็บข้อมูล หากไม่ผ่านความเห็นชอบจาก Research Guide ก็ไม่สามารถเขียนใน Chapter 4,5 ต่อไปได้
  17.  รายงานความก้าวหน้างานวิจัย (Research progress report)
  18.  ชำระค่าเรียน Course Work (กรณีที่มหาวิทยาลัยกำหนดให้เรียน Course Work)
  19.  เรียน Course Work ตามตารางเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด    (อาจมี แบบ Online ช่วง Covid-19 Pandemic )
  20.  ชำระค่าสมัคร ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน Year 3
  21.  เขียนงานวิจัย
    – Chapter 4: Data Collection and Analysis
    – Chapter 5: Conclusion and Recommendations
  22.  รายงานความก้าวหน้างานวิจัย (Research progress report)
  23.  Submit Research Document (Full Thesis) เพื่อ Research Guide ตรวจสอบ และแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข จึงดำเนินการเข้าเล่ม
  24.  ลงทะเบียนการสอบปากเปล่า (Viva Voce Open Examination) บางมหาวิทยาลัยอาจกำหนดให้สอบปากเปล่า 2 ครั้ง (Pre-Viva Voce และ Final Viva Voce Open Examination) ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่นักศึกษาจะได้สำเร็จเป็นDoctor แล้วครับ

มาถึงตอนนี้ ผู้สนใจเรียน ป.เอก ประเทศอินเดีย อาจมองเห็นภาพรวม เหตุผล และขั้นตอนทั้งหมด  ผู้เขียนหวังว่าจะช่วยให้ท่านมีความมั่นใจ ก้าวข้ามความกังวล และลงมือดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป






ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

Research Scholar, Department of Management Science

BAMU. Aurangabad, India

 

เรียนปริญญาเอกอินเดีย บริการครบวงจร:

แนะนำ หลักสูตร สถาบัน สมัครเรียน ขอ Visa แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย สนใจโทร. 07728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID: somnoek

Sandwich Courses UK

SJ WORLD EDUCATION
09 Aug 2021
[หน้าแรก] หลักสูตร, บทความน่ารู้
Comments: 0
Sandwich Courses UK

Sandwich Courses UK เรียนและฝึกงานในประเทศอังกฤษ โอกาสดีสำหรับนักเรียนไทย




การเดินทางไปเรียนต่างประเทศในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 แม้จะได้รับผลกระทบและมีขั้นตอนการเตรียมตัวเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่เกินความสามารถสำหรับนักเรียนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ  ผู้เขียนได้รับข้อมูลจากตัวแทนประจำประเทศไทยของมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษหลายมหาวิทยาลัย ทราบว่าประเทศอังกฤษ เปิดให้นักเรียนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ แผนกวีซ่าของสถานทูต อังกฤษประจำประเทศไทยเปิดทำการ ดังนั้นนักเรียนไทยจึงเริ่มเดินทางกันแล้ว และทราบว่านักเรียนต่างชาติก็ได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 ฟรีด้วยเพราะเป็นนโยบายของประเทศอังกฤษ

เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักเรียนที่สนใจและกำลังหาข้อมูลเพื่อไปเรียนต่อยังประเทศอังกฤษ ขอแนะนำ Sandwich Courses UK เรียนและฝึกงานในประเทศอังกฤษ แต่ก่อนที่จะกล่าวถึง Sandwich Courses มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางสู่การศึกษาของสหราชอาณาจักร (Pathways in UK) ก่อนเล็กน้อย โดยเฉพาะนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับ มัธยมการศึกษาปีที่ 5 (ม.5) และ มัธยมการศึกษาปีที่ 6 (ม.6) ตามระบบการศึกษาของไทย รายละเอียดดังนี้

ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร (UK Education System)

การศึกษาในระดับปริญญาตรี (Bachelor Degree) ใช้เวลาเรียน 3 ปี และระดับปริญญาโท (Master Degree) ใช้เวลาเรียน 1 ปีทุกสาขาวิชา (ยกเว้นสาขาแพทย์) ถ้าผลการเรียนในระดับปริญญาตรี ดีมาก สามารถสมัครเข้ามหาวิทยาลัยระดับ Top 30 เพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโท ไม่ว่าจะจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยระดับไหน

นักเรียนไทยที่สำเร็จการศึกษา ม.6 ไปเรียนต่อที่ประะเทศอังกฤษ สามารถเลือกเรียนได้ 2 แบบ

1.แบบใช้เวลาเรียน 4 ปี โดยการเรียน Foundation Year 1 ปี ต่อด้วยระดับ ปริญญาตรีอีก 3 ปี

(สามารถเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยระดับ Top 30 ได้)

2.แบบใช้เวลาเรียน 3 ปี โดยการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีโดยตรง

(ส่วนมากจะเป็นมหาวิทยาลัยระดับปานกลางตั้งแต่อันดับที่ 31 Up)

  • นักเรียน ม.6 เกรดเฉลี่ยดี สามารถเรียนจบ ปริญญาตรี ภายใน 3 ปี และเมื่อเรียนจบ ปริญญาตรีแล้วสามารถขอ วีซ่าทำงาน (Working Visa) เพื่ออยู่ทำงานต่อได้อีก 2 ปี สำหรับนักเรียนต่างชาติ รายละเอียดดังรูปที่ 1
รูปที่ 1


  • นักเรียน ม.6 เกรดเฉลี่ยดี สามารถเรียนจบ ปริญญาตรี ภายใน 4 ปีรวม Sandwich Course และเมื่อเรียนจบ ปริญญาตรีแล้วสามารถขอ วีซ่าทำงาน (Working Visa) เพื่ออยู่ทำงานต่อได้อีก 2 ปี สำหรับนักเรียนต่างชาติ รายละเอียดดังรูปที่ 2
รูปที่ 2


นักเรียนไทยที่สำเร็จการศึกษา ม.5 ไปเรียนต่อที่ประะเทศอังกฤษ สามารถเลือกเรียนได้ 2 แบบ

  • นักเรียนชั้น ม.5 เกรดเฉลี่ย 3.00 สามารถเรียนจบปริญญาตรี ภายใน 4 ปี (Foundation Year and Bachelor Degree) เมื่อเรียนจบ ปริญญาตรีแล้วสามารถขอ วีซ่าทำงาน (Working Visa) เพื่ออยู่ทำงานต่อได้อีก 2 ปี สำหรับนักเรียนต่างชาติ รายละเอียดดังรูปที่ 3
รูปที่ 3


  • นักเรียนชั้น ม.5 เกรดเฉลี่ย 3.00 สามารถเรียนจบปริญญาตรี ภายใน 5 ปี (Foundation Year, Sandwich Course and Bachelor Degree) เมื่อเรียนจบ ปริญญาตรีแล้วสามารถขอ วีซ่าทำงาน (Working Visa) เพื่ออยู่ทำงานต่อได้อีก 2 ปี สำหรับนักเรียนต่างชาติ รายละเอียดดังรูปที่ 4
รูปที่ 4


มาถึงตอนนี้หลายท่านคงอยากจะทราบว่า Sandwich Course คืออะไรมีประโยชน์อะไรสำหรับนักเรียนต่างชาติบ้าง  หลักสูตร Sandwich Course ที่ประเทศอังกฤษ เป็นการเรียนโดยรวมเวลาฝึกงานกับเวลาเรียนเข้าด้วยกัน การเรียนแบบ Sandwich Course จะเหมือนกับหลักสูตรแบบอื่นๆ ต่างกันตรงที่มีการเพิ่มการทำงานหรือฝึกงานเข้าไปในหลักสูตรด้วย  โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้หาสถานที่ฝึกงานให้ ซึ่งจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่นักเรียนกำลังเรียนอยู่เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้านักศึกษาเรียนสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าก็จะได้ฝึกงานสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าเท่านั้นเป็นต้น ซึ่งถ้าหากนักศึกษาจะหาสถานที่ฝึกงานเองเป็นเรื่องยากที่จะหาได้โดยเฉพาะงานที่จะให้ตรงกับสาขาที่เรียนเพราะอายุยังน้อยและที่สำคัญคือยังเรียนไม่จบ ช่วงเวลาของการฝึกงานตามปกติจะไม่มีเงินเดือนให้แก่นักศึกษาแต่ทุกบริษัทในหลักสูตรนี้จะมี เบี้ยเลี้ยงให้ ซึ่งมักจะเพียงพอกับค่าเช่าที่พักและอาหาร 3 มื้อ เคยมีนักศึกษาบางท่านกล่าวถึงเรื่องเบี้ยเลี้ยงจาก Sandwich Course ว่าถ้าใช้จ่ายไม่ฟุ่มเฟือย เบี้ยเลี้ยงที่ได้ตลอดทั้งปี จะเหลือไปใช้จ่ายเป็นค่ากิน ค่าอยู่ตอนกลับไปเรียนตอนปีที่ 3 ได้อย่างสบาย นอกจากนั้นพบว่าตอนกลับไปเรียนปีที่ 3 มักจะแปลกใจว่า ทำไมหลักสูตรที่เรียนในปีที่ 3 เรียนง่ายกว่าเนื้อหาที่เรียนตอนปีที่ 1 และปีที่ 2 ทั้งนี้เพราะตอนที่นักศึกษาฝึกงาน บริษัท ที่นักศึกษาไปฝึกงานมอบหมายงานเสมือนพนักงานประจำของบริษัท ถ้านักศึกษายังไม่เคยเรียนมาก่อน ทางบริษัทจะสอนให้ทำแบบไม่มีข้อยกเว้น จากที่กล่าวมาข้างต้นจึงมักพบว่านักศึกษาที่ผ่านการฝึกงานของ Sandwich Course มักจะจบปริญญาตรี เกียรตินิยม

ข้อดีของการเรียน Sandwich Course ได้แก่  การฝึกงานตรงสาขาที่เรียน ได้ประสบการณ์ และ ค่าตอบแทน (เบี้ยเลี้ยง)  หลังฝึกงานครบ 1 ปี แล้วมาเรียนต่อปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย จะเรียนได้ง่ายขึ้นเพราะได้รับประสบการณ์ตรงจากการทำงานมาแล้ว  หลังสำเร็จการศึกษา มีโอกาสเข้าสู่ตำแหน่งงานได้ง่าย เพราะได้ทำงานในสถานประกอบการเป็นที่รู้จักของส่วนงานแล้ว  หลังเข้าร่วมโครงการเรียนแบบ Sandwich Course แล้ว ทางมหาวิทยาลัยมีบริการออกหนังสือรับรองเพื่อขยายเวลาอายุวีซ่า จึงสะดวกในการยื่นขอวีซ่า

วีซ่าทำงาน (Working Visa) หลังจาก นักศึกษาเรียนจบ ปริญญาตรีแล้วสามารถอยู่ต่อเพื่อทำงานได้ 2 ปีตามกฎหมาย ซึ่งนักศึกษาที่ผ่านการฝึกงานตามหลักสูตร Sandwich Course จะมีข้อได้เปรียบคือมักจะหางานได้ง่ายกว่านั่นเอง.


 

 แนะนำหลักสูตร สถาบันการศึกษา สมัครเรียน ขอวีซ่า

โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek




                ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์



ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :

Aj.Pichai Patrakulpiched

Thailand Representative

University from UK.

 

 

 

 

นายหน้าประกันวินาศภัย อีกทางเลือกที่น่าสนใจ

SJ WORLD EDUCATION
05 May 2021
Comments: 0

นายหน้าประกันวินาศภัย อีกทางเลือกที่น่าสนใจ



สถานการณ์แพร่ระบาดของโรค Covid-19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ จนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน แต่ก็มีข้อจำกัดเกินกว่าที่จะช่วยเหลือได้อย่างต่อเนื่อง ในสถานการณ์เช่นนี้การหาช่องทางทำธุรกิจแบบไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องเลือกทำเลที่ตั้ง และสามารถทำงานทางออนไลน์ได้เหมาะสมกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 เพราะหลายๆองค์กรก็มีการทำงานจากบ้าน (Work From Home) กิจกรรมเรียนการสอน อบรม ประชุมสัมมนา ค้า-ขาย ผ่านทางออนไลน์ จึงเป็นความจำเป็นและได้รับความนิยมอย่างยิ่ง
นายหน้าประกันวินาศภัยอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ จึงขอแบ่งปันประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจในธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย จะประกอบไปด้วย ประกันภัยรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ภัยทางทะเลและขนส่ง ประกันเบ็ดเตล็ด เช่น ประกันสุขภาพส่วนบุคคล ประกันอุบัติเหตุ ประกันเสี่ยงภัยต่างๆ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องประกันประกันภัยรถยนต์ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งภาคบังคับโดยกฎหมาย และภาคสมัครใจ เป็นเรื่องใกล้ตัว เข้าใจได้ง่าย
ดังนั้นมาดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถิติรถที่จดทะเบียนในประเทศไทยกันก่อน จากสถิติของกรมการขนส่งทางบก พบว่า รถที่จดทะเบียนใหม่ตลอดปี 2563 (มกราคม -ธันวาคม 2563) รวม 2,638,466 คัน และเมื่อรวมรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 41,471,345 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์สูงสุดจำนวน 21,396,980 คัน รองลงมาคือรถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จำนวน 10,446,505 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จำนวน 6,878,050 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน 7 คนจำนวน 434,254 คัน รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 170,506 คัน รถแท็กซี่ จำนวน 80,172 คัน ส่วนรถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 151,547 คัน และรถบรรทุกจำนวน 1,173,801 คัน และจากรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม ) ปี 2561 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พบว่าอัตราการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย เติบโต 6.21 % นอกจากนั้นข้อมูลจาก BLT Bangkok พบว่า สถิติการค้นหาประกันภัยรถยนต์ช่วง มกราคม-เมษายน 2563 ชาวไทย 86.76 % ยังคงเลือกประกันภัยชั้น 1 แม้จะอยู่ในภาวะวิกฤต Covid-19 แทบไม่ได้ใช้รถส่วนตัวอยู่บ้าน สั่งอาหาร Shopping online เป็นส่วนใหญ่ก็ตาม มาถึงจุดนี้คงเห็นโอกาสในการทำธุรกิจอิสระ เพราะมีขนาดของจำนวนลูกค้าของธุรกิจนี้ขนาดใหญ่มาก
ธุรกิจประกันรถยนต์ เมื่อตัวแทน นายหน้า ซึ่งผ่านการอบรม สอบและได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยสามารถทำเป็นงานหลัก งานเสริม เป็นงานอิสระ

ลักษณะเด่นของ ธุรกิจประกันรถยนต์ คือ
 ไม่ต้องลงทุน หน้าร้าน ทำเลที่ตั้ง สามารถทำงานทาง Online ใช้ Social Media ซึ่งปกติส่วนใหญ่มีการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
 ไม่มีหนี้สูญ เพราะจ่ายเงินก่อนออกกรมธรรม์ประกันภัย
 ไม่ต้องสต๊อกสินค้า
 กฎหมายบังคับต้องซื้อ และ ส่วนเพิ่มเติมที่กฎหมายไม่บังคับก็สมัครใจซื้อ
 มีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นทุกปี

ผู้เขียนได้มีโอกาสสมัครเป็นสมาชิก และเป็นตัวแทน นายหน้าประกันวินาศภัย ของบริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์จำกัด มาระยะหนึ่ง บริษัทฯมีพันธมิตรกับประกันภัยมากกว่า 30 บริษัท และมีแผนการตลาดที่น่าสนใจ และมีข้อดีที่แตกต่างจากการทำตลาดรูปแบบเดิม ๆ สินค้าก็มีหลากหลายไม่ใช่เฉพาะประกันภัยรถยนต์ ตัวแทน นายหน้ามีรายได้จากการแนะนำ และค่าบำเหน็จนายหน้า ประกันภัยเป็นสินค้าที่มีวันหมดอายุซื้อแล้วต้องซื้อซ้ำ และเมื่อสมาชิกได้รับบริการที่ดีก็ไม่ต้องแข่งขันในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยปีต่อไป

ขั้นตอนการเป็นสมาชิกและเป็นตัวแทน นายหน้ากับบริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์ จำกัด ตามที่ผู้เขียนปฏิบัติ มีขั้นตอนดังนี้


 


1.สมัครสมาชิกบริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์ (สนใจติดต่อรายละเอียดด้างล่างนี้)
2.ซื้อประกันภัยรถของสมาชิกเองหรือของคู่สมรส เพื่อเป็นการลองใช้บริการ ประเมินข้อดีของการใช้บริการสร้างความมั่นใจในสินค้าและบริการ
3.แนะนำคนใกล้ชิด ในการสมัครสมาชิกและซื้อประกันรถ เพราะการมีประกันภัยคุ้มครองนอกจากได้ช่วยเหลือตัวอง ยังได้ช่วยเหลือสังคม และประเทศโดยภาพรวมด้วย
4.อบรมความรู้การประกันวินาศภัย เพื่อได้เรียนรู้ ประเภทของประกันภัยแบบต่างๆ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการคุ้มครอง
5.สอบใบอนุญาตเป็นหน้าประกันวินาศภัย เพื่อทำธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
6.สมัครเป็นตัวแทนของบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด โดยยื่นสำเนาใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ทางบริษัทฯก็จะปรับจากการเป็นสมาชิก เป็นตัวแทน และจะได้รับข้อมูลข่าวสารสนับสนุนการทำงานของตัวแทนอย่างต่อเนื่อง


สนใจ สมัครสมาชิก บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด
ประกันภัยรถยนต์ อัคคีภัย ภัยทางทะเลและขนส่ง เบ็ดเตล็ด
(อุบัติเหตุ สุขภาพ การเดินทาง และความเสี่ยงต่างๆ)
โทร.077 285669,08 5791 9111Line ID: somnoek
คุณสมนึก ชูสุวรรณ ใบอนุญาตเลขที่ 630400560





ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์



ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง
1.กรมการขนส่งทางบก, https://www.dlt.go.th
2. สำนักงาน คปภ., https://www.oic.or.th/th/consumer
3.BLT Bangkok, https://www.bltbangkok.com/
4. บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด, https://www.srikrungbroker.co.th

 

 

 

สมัครสมาชิกประกันภัยได้ส่วนลดจากการซื้อประกันจริงไหม ?

SJ WORLD EDUCATION
05 May 2021
Comments: 0

สมัครสมาชิกประกันภัยได้ส่วนลดจากการซื้อประกันจริงไหม ?






หลายท่านที่มีโอกาสได้อ่านบทความแนะนำ “ ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไรกับการประกันภัยรถยนต์” (รายละเอียด คลิก : https://www.sjworldedu.com/th/sj-insurance-broker/article-motor-insurance/ )
อาจมีข้อสงสัย ว่า สมัครสมาชิกประกันภัยได้ส่วนลดจากการซื้อประกันจริงไหม ? (สมาชิก บริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์ จำกัด) ดังนั้น เรามาดูตัวอย่างที่ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงในการให้บริการแก่ผู้สมัครสมาชิกและซื้อประกันภัยรถยนต์ ทั้งภาคบังคับ (ประกัน พ.ร.บ.) และ ประกันภาคสมัครใจ สัก 3 ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างที่ 1 : ประกัน พ.ร.บ. และ ภาคสมัครใจประเภท 2+ รถ TOYOTA รุ่น YARIS ปี 2020 ทุน 300,000.00 บาท รายละเอียดตาราง

ที่มา : บจก.ศรีกรุงโบรคเกอร์, มีนาคม 2564



ตัวอย่างที่ 2 : ประกันภาคสมัครใจ ประเภท 3+ รถ TOYOTA รุ่น HILUX VIGO ปี 2005
รายละเอียดตามตาราง

ที่มา : บจก.ศรีกรุงโบรคเกอร์ , เมษายน 2564



ตัวอย่างที่ 3 :ประกันภาคสมัครใจ ประเภท 3 รถ TOYOTA รุ่น COROLLA ปี 2003 รายละเอียดตามตาราง

ที่มา : บจก.ศรีกรุงโบรคเกอร์ , เมษายน 2564



จากตัวอย่างข้างต้นคงเห็นภาพชัดเจนขึ้น ในครอบครัวหนึ่งอาจมีรถหลายคัน การเป็นสมาชิกและรับส่วนลดในการซื้อประกันภัยรถก็คุ้มแล้ว สิทธิพิเศษของสมาชิกยังมีอีกหลายอย่างที่ผู้เขียนเคยแนะนำในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สนใจสมัครสมาชิกติดต่อตามรายละเอียดล่างนี้)

ขั้นตอนการซื้อประกันภัยในยุคนี้ก็สะดวก มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้




1.สมาชิก ส่งเอกสารให้ตัวแทน นายหน้าประกันวินาศภัย (ถ่ายรูป ส่งทางไลน์ หรือช่องทางที่ท่านสะดวก)
เอกสารประกอบด้วย
1.1 สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถที่ต้องการทำประกันภัย (เฉพาะหน้ารายการจดทะเบียน) เพื่อใช้ประกอบตรวจสอบรายละเอียดของรถ เช่น ยี่ห้อรถ รุ่น เลขทะเบียน ปีที่จดทะเบียน น้ำหนักรถ และอุปกรณ์เพิ่มเติม เป็นต้น ใช้เป็นข้อมูลในการเช็คเบี้ยประกัน ทำใบเสนอราคา และลงรายละเอียดที่ถูกต้องในกรมธรรม์ประกันภัยต่อไป
1.2 สำเนากรมธรรม์ฉบับเดิม หรือ ใบแจ้งเตือนให้ต่อประกันภัย จากบริษัท ประกันภัย เดิม เพื่อใช้ดูรายละเอียดวันสิ้นสุดความคุ้มครองของกรมธรรม์ฉบับเดิม เพื่อจะได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ให้วันเริ่มคุ้มครองต่อเนื่องกัน

2.เช็คราคาเบี้ยประกัน โดยตัวแทน นายหน้า ร่วมกับ บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด

3.แจ้งราคาเบี้ยประกัน โดยบริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์ จำกัด ออกใบเสนอราคา และตัวแทน นายหน้า
คอยคิดตามประสานงานให้คำแนะนำปรึกษาแก่สมาชิก ผู้ใช้บริการ

4.สมาชิก ผู้ใช้บริการพิจารณาเลือกใช้บริการจากข้อมูลในใบเสนอราคา

5.สมาชิกผู้ใช้บริการ โอนเงินเข้า บัญชีธนาคาร ของ บริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์จำกัด โดยตรง
(ตัวแทน นายหน้า จะแจ้งเลขที่บัญชีของ บริษัทฯเมื่อสมาชิก ผู้ใช้บริการเลือกใช้บริการ)

6.สมาชิกผู้ใช้บริการ โอนเงิน และส่ง หลักฐานการโอนเงิน (Pay Slip) ให้ตัวแทน นายหน้าฯ

7.จัดส่งกรมธรรม์ประกันภัย ทางไปรษณีย์ ให้ สมาชิก ผู้ใช้บริการ โดย บริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์ จำกัด โดยมี ตัวแทน นายหน้า คอยติดตาม ประสานงาน อย่างใกล้ชิด




สนใจ สมัครสมาชิก บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด
ประกันภัยรถยนต์ อัคคีภัย ภัยทางทะเลและขนส่ง เบ็ดเตล็ด
(อุบัติเหตุ สุขภาพ การเดินทาง และความเสี่ยงต่างๆ)
โทร.077 285669,08 5791 9111Line ID: somnoek
คุณสมนึก ชูสุวรรณ ใบอนุญาตเลขที่ 630400560




ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

แนะนำสถาบัน Lonsdale Institute

SJ WORLD EDUCATION
29 Apr 2021
ทั่วไป, สถาบันการศึกษา
Comments: 0

 Lonsdale Institute
 




ที่ Lonsdale Institute  เราเข้าใจว่าความต้องการของนักเรียนแต่ละคน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่เราให้นักเรียนได้มีจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด

การสร้างความสำเร็จทางวิชาการเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการช่วยนักเรียน สร้างสานสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และบรรลุเป้าหมายของเขา

เราใช้การจัดอันดับของการประเมินเป็นวิธีทำความเข้าใจเป้าหมายและความต้องการของนักเรียนให้เริ่มต้นการศึกษาที่เหมาะสมสำหรับนักเรียน และมันไม่ได้

จบแค่นั้น  เราจะยังเฝ้าติดตามความก้าวหน้าของนักเรียน ให้การสนับสนุนเพิ่มเติม ให้คำแนะนำหรือความช่วยเหลือนักเรียน

เราจะมั่นใจว่านักเรียนได้รับการสนับสนุนอย่างดีที่สุด

 

Lonsdale Institute  มีด้วยกัน 3 วิทยาเขตใน 2 เมือง ได้แก่  ซิดนีย์มี    2  วิทยาเขต  และ เมลเบิร์น 1 วิทยาเขต

ซึ่งให้บริการแก่นักเรียนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การฝึกอบรมวิชาชีพแบบมืออาชีพ และ ทรัพยากรเพื่อเพิ่มประสบการณ์ทางการศึกษาให้กับนักเรียน


บริการสำหรับนักเรียน

การอยู่ในสถานที่ใหม่ ๆ น่าตื่นเต้นและในบางกรณีอาจทำให้รู้สึกไม่ดี ให้เรานำทางสู่สภาพแวดล้อมใหม่ที่เราจัดอันดับเพื่อช่วยสนับสนุนนักเรียน

บริการของเรา:

  1. รถรับส่งสนามบิน
  2. ที่พักแบบโฮมสเตย์
  3. การให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งบัญชีธนาคาร
  4. ลิงค์กับเครือข่ายงานและนายจ้าง
  5. การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกหลังเลิกเรียนเพื่อการศึกษาด้วยตนเอง
  6. การจัดกิจกรรมทางสังคม

 
 การควบคุมคุณภาพ

Lonsdale Institute ได้จดทะเบียนกับ Australian Quality Authority (ASQA) และได้รับการอนุมัติเพื่อให้บริการการศึกษาและการฝึกอบรมไปยังนักเรียนท้องถิ่นและนักศึกษาต่างชาติแล้ว

นอกจากนี้ Lonsdale ยังจดทะเบียนเป็นสถาบันเครือจักรภพแห่งสหราชอาณาจักรและหลักสูตรสำหรับนักเรียนต่างชาติ CRICOS Code  02836F

 

 
The Eurocentres  : English Program

ให้บริการหลักสูตรภาษาอังกฤษแก่นักเรียนต่างชาติเรียนภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพสูงมากว่า 70 ปี

วัตถุประสงค์

เพื่อส่งเสริมความเข้าใจระหว่างบุคคล และเป็นสะพานเชื่อมโยงเชื้อชาติ วัฒนธรรม และอุปสรรคทางสังคม

ระบบ  EUROCENTRES SUCCESS SYSTEM ถูกนำมาใช้กับ 40 โรงเรียน ใน 18 ประเทศทั่วโลก  บุคลากร ครูของเราได้รับการฝึกออบรมเป็นพิเศษในวิธีการสอนของ Eurocentres ซึ่งได้รับการพัฒนาและปรับปรุงมากว่า 60 ปี มีการส่งถึง 40 พื้นที่ ทั่วโลก  ครูของเรามีความชำนาญทางด้านภาษาอังกฤษเป็นที่หนึ่ง ระดับมหาวิทยาลัย และ มี TESOL  ครูของเราจะได้รับการประเมินเป็นรายเดือน โดยผู้บริหารการศึกษาและ ภาคส่วนการพัฒนาวิชาชีพ

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

  1. General English
  2. IELTS Exam Preparation
  3. English for Academic Purposes (EAP)

นอกจากนี้ ระหว่างเรียนก็มีกิจกรรมเสริมให้นักเรียนเลือกเข้าร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของตนเอง เรียกว่า  Eurocentres Activities Program   

ตัวอย่างตารางกิจกรรมเสริม

 

 

 

หลักสูตรวิชาชีพ  (Certificate ,Diploma, Advance Diploma)

  1. Business
  2. Marketing & Communication
  3. Project Management
  4. Leadership & Management
  5. Hospitality
  6. Accounting

บรรยากาศการเรียน

 
วิทยาเขตเมลเบิร์น



   
วิทยาเขตซิดนีย์




วีดิโอแนะนำสถาบัน

 

 


ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com

ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไรกับการประกันภัยรถยนต์

SJ WORLD EDUCATION
26 Apr 2021
Comments: 0

ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไรกับการประกันภัยรถยนต์




วิกฤตเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่กำลังประสบอยู่จำเป็นต้องคิดทบทวนแล้วว่าจะลดค่าใช้จ่ายและจะเพิ่มรายได้อย่างไร การประกันภัยรถยนต์เป็นช่องทางหนึ่งที่จะสามารถทำได้ในสถานการณ์นี้ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า พ.ร.บ.คุมครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มีผลบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2536 กำหนดให้รถทุกชนิดทุกประเภทตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยขนส่งทางบก กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร เป็นรถที่เจ้าของมีไว้ใช้ไม่ว่ารถดังกล่าวจะเดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น กำหนดให้เจ้าของรถ ผู้ครอบครองรถในฐานะผู้เช่าซื้อ และผู้นำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศมีหน้าที่ต้องทำประกันภัย การฝ่าฝืนไม่จัดให้มีประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประกันภัยจากรถ พ.ศ.2535 กฎหมายกำหนดบทลงโทษไว้ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท จึงเรียกประกันแบบนี้ว่า ประกัน พ.ร.บ.หรือประกันภาคบังคับ มีความคุ้มครองผู้ประสบภัยได้แก่ประชาชนทุกคนที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ ชีวิต ร่างกาย อนามัย อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถ ก็จะได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ. นี้
นอกจากการปะกันภาคบังคับแล้วยังมีการประกันภาคสมัครใจที่ได้รับความนิยม เพราะจะช่วยคุ้มครองส่วนเกินต่อจากประกันภาคบังคับและส่วนที่ประกันภาคบังคับไม่ได้คุ้มครอง เช่นทรัพย์สิน ตัวรถ ประเภทความคุ้มครองของการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ได้แก่ ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์ ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ ตัวรถยนต์ และนอกจากนั้นยังมีความคุ้มครองเพิ่มเติมได้แก่ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันภัยค่ารักษาพยาบาล การประกันตัวผู้ขับขี่ เช่น กรณีเกิดอุบัติเหตุถูกควบคุมตัวในคดีอาญา เป็นต้น ซึ่งมีประเภทกรมธรรม์ประกันภัยที่มีความคุ้มครองแตกต่างกันได้แก่ ประเภท 1,2,3,4 และ 5 ( 2 Plus ,3 Plus) เป็นต้น
ดังนั้น การประกันภาคบังคับเป็นหน้าที่ตามที่กฎหมายบังคับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และประกันภาคสมัครใจ เป็นการจัดการความเสี่ยงโดยโอนความเสี่ยงให้ผู้รับประกันรับผิดชอบความเสียหายแทนแม้กฎหมายไม่บังคับก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น การประกันภัยรถจึงมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไร : ตัวอย่าง การสมัครเป็นสมาชิกบริษัท ศรีกรุง โบรคเกอร์ จำกัด
เริ่มต้นด้วยการสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัท โบรคเกอร์ ด้านประกันภัยที่มีเครือข่ายพันธมิตรในการให้บริการประกันภัยจำนวนมาก (มากกว่า 30 บริษัท) จะทำให้สมาชิกมีโอกาสในการเลือกซื้อใช้เอง แนะนำคนใกล้ชิดได้หลากหลายบริษัท และพัฒนาตัวเองเป็นตัวแทนนายหน้าประกันวินาศภัย สร้างเป็นธุรกิจส่วนตัวในอนาคต จึงเป็นโอกาสที่ดีเพราะถ้าเราจะเข้าไปสมัครเป็นตัวแทนนายหน้ากับแต่ละบริษัทด้วยตัวเองเป็นเรื่องยุ่งยากและอาจได้รับการปฏิเสธด้วยซ้ำเพราะยังไม่มีผลงานหรือยอดขายให้แต่ละบริษัทพิจารณา ดังนั้นจึงขอแนะนำจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ซึ่งมีขั้นตอนและประโยชน์ดังนี้

1.สมัครสมาชิกบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์เพื่อสิทธิพิเศษ
 ซื้อประกันได้ส่วนลด แนะนำบอกต่อได้ค่าแนะนำ
 สร้างช่องทางการลดค่าใช้จ่ายการประกันภัยรถทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ
(รวมถึงประกันวินาศภัยอื่นๆด้วย เช่น อัคคีภัย ภัยทางทะเลและขนส่ง ประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ และความเสี่ยงต่างๆ)

2.สร้างโอกาสการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทประกันภัยมากกว่า 30 บริษัท ทั้งทาง Online และ Offline
โดยไม่ต้องลงทุนหน้าร้าน ไม่ต้องหาทำเล ไม่บังคับยอดขาย ซื้อเองได้ส่วนลด ขาย แนะนำ ขยายงานมีรายได้

3.พัฒนาตัวเอง และ ทีมงานอบรมเพื่อสอบใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ก้าวสู่การทำเป็นอาชีพหลัก อาชีพเสริม และอาชีพอิสระในธุรกิจประกันวินาศภัย ที่มีการเติบโต



ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้อย่างไร
อาจมีผู้สงสัยว่าสมัครเป็นสมาชิกจะลดค่าใช้จ่ายสร้างรายได้อย่างไร เหตุผลที่ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้เพราะว่าบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์มีโครงสร้างการทำงานระบบ Member Get Member (MGM) สามารถศึกษาระบบ MGM ได้ในเว็ปไซต์ของบริษัทฯ หรือเข้ารับการอบรมได้ทั้งก่อนและหลังการสมัครเป็นสมาชิก แต่พอจะอธิบายเบื้องต้นเป็นพื้นฐาน เช่น เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วมีการซื้อประกันรถยนต์ ของสมาชิกเองก็จะได้รับส่วนลดมาตรฐาน ตามที่บริษัทกำหนด และเมื่อสมาชิกมีความสนใจในธุรกิจประกันวินาศภัย สามารถสมัครเข้ารับการอบรม และสอบขอใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วสามารถยื่นต่อบริษัทฯปรับเลื่อนระดับจากสมาชิก เป็นตัวแทน ก็จะได้รับส่วนลดมาตรฐาน+ค่าแนะนำ 1% (ถ้ามี) + ค่าตำแหน่งอีก 3 % เมื่อสมาชิกเป็นตัวแทนขายแล้วมียอดขายเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนสูงขึ้นตามที่บริษัท กำหนดไว้ในโครงสร้าง MGM จะได้ผลตอบแทนส่วนลด ค่าแนะนำ ค่าตำแหน่ง จะปรับสูงขึ้นไปเป็นระดับขั้นตอน ถึงจุดนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นว่าลดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้อย่างไรและสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก บริษัท ฯ กำหนด สรุปได้ดังนี้

1.ได้รับประกันภัยอุบัติเหตุ (PA.) เมื่อสมัครสมาชิก ชำระค่าสมาชิกเพียง 200 บาท
(กรณีผู้สมัคร อายุ 60 ปีขึ้นไป 250 บาท)
2.ได้รับส่วนลดการซื้อประกันภัย
3.ได้รับสิทธิผ่อนชำระเบี้ยประกันได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0 %
4.ได้รับรายได้จากค่าสายงาน (ค่าแนะนำ + ค่าตำแหน่ง)
5.บริษัทมีการจัดอบรมความรู้ต่างๆให้กับสมาชิก
6.บริการจัดส่งกรมธรรม์ถึงบ้าน ฟรี!
7.สามารถใช้ระบบออนไลน์ ได้ทันทีเมื่อเป็นสมาชิก
สำหรับท่านที่มองเห็นโอกาสในการลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้ ทำเป็นธุรกิจโดยไม่ต้องลงทุนหน้าร้าน ไม่ต้องหาทำเล ไม่บังคับยอดขาย ซื้อเองได้ส่วนลด ขาย แนะนำ ขยายงานมีรายได้ ทำงานได้ทั้งระบบ Offline ,Online ,Work From Home สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 สามารถสมัครสมาชิก โดยมีผู้คอยแนะนำท่านอย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อมาได้ครับ




สนใจ สมัครสมาชิก หรือ ประกันภัยรถยนต์ อัคคีภัย ภัยทางทะเลและขนส่ง เบ็ดเตล็ด
(อุบัติเหตุ สุขภาพ การเดินทาง และความเสี่ยงต่างๆ) โทร.077 285669,08 5791 9111
Line ID: somnoek คุณสมนึก ชูสุวรรณ ใบอนุญาตเลขที่ 630400560

บริการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (Overseas Student Health Cover ) : OSHC

SJ WORLD EDUCATION
26 Apr 2021
ประกันภัย
Comments: 0

บริการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (Overseas Student Health Cover ) : OSHC

OSHC



ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ หรือ OSHC เป็นประกันที่ช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติ เกี่ยวกับเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าโรงพยาบาล กรณีเกิดเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุในขณะศึกษาต่อต่างประเทศ เช่นประเทศออสเตรเลียโดยมีวีซ่านักเรียน หากนักเรียนไม่ได้ทำประกันสุขภาพดังกล่าวไว้ ภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือค่าโรงพยาบาล นักเรียนต้องจ่ายเองเต็มจำนวน เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และอีกเหตุผลหนึ่งคือ นักเรียนที่ยื่นสมัครขอวีซ่านักเรียนเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อการศึกษา ทางสถานทูตของประเทศออสเตรเลียกำหนดให้ต้องมีการทำประกันสุขภาพ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในออสเตรเลีย

ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ที่อยู่ในออสเตรเลียจะไม่ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลฟรี หรือการรักษาพยาบาลแบบที่รัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้บางส่วน จากสถานพยาบาลในระบบการดูแลสุขภาพของออสเตรเลียที่เรียกว่า Medicare

ดังนั้นระบบประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (OSHC) จึงเป็นหลักประกันในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ในการรักษาพยาบาล ค่าโรงพยาบาล และบริการด้านการแพทย์อื่นๆ เช่น ค่าบริการของแพทย์ในโรงพยาบาล บริการรถพยาบาล รถฉุกเฉิน ค่าบริการทางการแพทย์นอกสถานที่ ค่ายาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์  การทดสอบทางการแพทย์ เป็นต้น.  บทความที่เกี่ยวข้อง : ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย (Overseas Student Health Cover In Australia)

คลิก  https://www.sjworldedu.com/th/services/oshc-australia-service/



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

ทำประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ OSHC โทร 0 7728 7111  08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

 Line ID: somnoek หรือ คลิก http://line.me/ti/p/~somnoek

 

Article – Viva Voce Examination

SJ WORLD EDUCATION
01 Mar 2021
ทั่วไป, บทความน่ารู้
Comments: 0

Viva -Voce Examination ขั้นตอนสำคัญก่อนจบปริญญาเอกต่างประเทศ

ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมฟังและซักถามประเด็นที่น่าสนใจในหัวข้อวิจัยของนักศึกษาปริญญาเอก

ในการสอบ Viva -Voce Examination ของมหาวิทยาลัย Dr.Babasaheb Ambedkar Marathwada University, Aurangabad ประเทศอินเดีย ผ่านระบบ WebEx.มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในการเข้าร่วมครั้งแรกค่อนข้างตื่นเต้นเพราะไม่มีความรู้เกี่ยวกับ ความหมาย ขั้นตอน กิจกรรม และความสำคัญในการสอบ Viva -Voce Examination มาก่อน จึงเป็นเหตุบันดาลใจให้ค้นคว้า เรียบเรียง เขียนบทความความฉบับนี้ขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ( Ph.D.) และผู้สนใจทั่วไป

 

 

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจความหมายพื้นฐานของคำว่า Viva voce กันก่อนครับ

  • Viva voce เป็นวลีภาษาละติน ความหมายตามตัวอักษรคือ “with living voice” แต่ส่วนใหญ่มักจะแปลว่า “by word of mouth.” (ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Viva_voce)
  • Viva voce หมายถึง A spoken exam for a college qualification. (ที่มา :Cambridge Advanced Learner’s Dictionary Fourth Edition) และ ความหมาย ที่อธิบายเข้าใจง่ายคือ
  • Viva voce อ่านว่า (ไฝ-ฝะ-โฝ-ซิ) ความหมายคือ: ด้วยปาก (สอบไล่) ปากเปล่า เป็นคำพ้องความหมาย (Synonym) กับคำว่า Oral ดังนั้น Viva -Voce Examination ก็คือการสอบปากเปล่าหรือสอบป้องกันดุษฎีนิพนธ์นั่นเองครับ

(ที่มา: English -Thai Dictionary, So Sethaputra)

เมื่อได้ทราบความหมายเบื้องต้นของ Viva voce แล้ว ก็มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Viva-Voce Examinationซึ่งถือได้ว่าเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนจบปริญญาเอกเป็นด๊อกเตอร์จากสถาบันการศึกษาต่างประเทศกันครับเริ่มต้นจากผู้เรียนลงทะเบียนเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยซึ่งนักศึกษาปริญญาเอกเขาเรียกว่า Research Scholar.หรือ Ph.D. Researcher. โดยใช้เวลาเรียน 3-5 ปี อาจเป็นประเภท Full time, Part time และ มีทั้งแบบเข้าชั้นเรียนซึ่งลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆที่เรียกว่า Pre-Ph.D. Course Work หรือ Ph.D. Course Work ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวิชา ระเบียบวิธีวิจัย (Research Methodology) , วิชาคอมพิวเตอร์และการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่องานวิจัย เช่น SPSS.เป็นต้น นอกจากนั้น ก็อาจจะมีวิชาหลักบางรายวิชา ของสาขาวิชาที่นักศึกษาสังกัดอยู่ และอีกส่วนหนึ่งคือวิชาสัมมนา (Seminar) เป็นการให้นักศึกษานำเสนองานวิจัย หรือ เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิจัยที่นักศึกษาได้เสนอโครงร่างการวิจัย (Research Proposal or Synopsis) ไว้แล้วตั้งแต่ตอนยื่นใบสมัครเป็นนักศึกษา แต่มีบางมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่อาจไม่ต้องเข้าชั้นเรียน Pre-Ph.D. Course Work หรือ Ph.D. Course Work แต่จะเน้นเรื่องการทำวิจัยและนำเสนอความก้าวหน้าของงานวิจัย (Research Progress Report) เป็นหลักหรือกำหนดให้เขียนบทความนำเสนอบทความ ตีพิมพ์ ในวารสาร การประชุมระดับนานาชาติแทน เป็นต้น

ภาระที่สำคัญ ของ Research Scholar ก็คือการทำดุษฎีนิพนธ์  (Dissertation หรือ Thesis บางแห่งใช้คำว่า Thesis สำหรับวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาตรี และปริญญาโท และใช้คำว่า Dissertation สำหรับวิทยานิพนธ์ของปริญญาเอก) ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ผู้ดูแลดุษฎีนิพนธ์ ซึ่งในอินเดียจะเรียกอาจารย์ที่ทำหน้าที่นี้ว่า Research Guide ซึ่งเอกสารดุษฎีนิพนธ์ เป็นเอกสารสำคัญที่นักศึกษาต้องทำวิจัย และแสดงผลงานการวิจัย สิ่งที่ได้ค้นพบ แล้วรวบรวมทำเป็นรูปเล่มตามข้อกำหนดของแต่ละมหาวิทยาลัยและยื่นเสนอเพื่อประกอบให้มหาวิทยาลัยพิจารณาการอนุมัติให้ปริญญาทั้งนี้ก่อนจัดทำรูปเล่มนักศึกษาจะต้องส่งให้ Research Guide ตรวจความถูกต้องเหมาะสม และให้คำแนะนำก่อน จะได้แก้ไขให้สมบูรณ์

เมื่อนักศึกษาได้จัดทำเอกสารดุษฎีนิพนธ์เป็นรูปแล่มแล้ว ก็ต้องจัดทำ   Final Synopsis ซึ่งเป็นการปรับปรุงสรุปย่อ เนื้อหา นำเสนอ Research Guide ขั้นตอนนี้อาจจะมีคำแนะนำจาก  Research Guide ให้ปรับปรุงแก้ไขอีกครั้งเพื่อนักศึกษาจะได้ปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์ อีกเช่นกัน จากนั้นเป็นหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัยในการจัดหากรรมการสอบ (Examiners) เพื่อทำการสอบ Viva -Voce Examination โดยปกติแล้ว Examiners จะประกอบไปด้วย 3 ท่าน ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์หรือนักวิชาการจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ดังนี้

  • Chairman คือประธานการสอบ อาจเป็นหัวหน้าภาควิชา (Head of Department) หรือ คณบดี (Dean) ที่นักศึกษาผู้เข้าสอบสังกัด
  • Subject Expert ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาอาจมาจากอาจารย์หรือนักวิชาการภายในหรือภายนอกมหาวิทยาลัย ก็ได้
  • Research Guide อาจารย์ผู้ดูแลดุษฎีนิพนธ์ของนักศึกษา

นอกจากนั้นอาจมีนักศึกษาคนอื่นๆ หรือ ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปที่ทางมหาวิทยาลัยเชิญให้เข้าร่วมฟังและสอบถามได้ กรณีเป็นแบบ Open Viva -Voce Examination ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจำนวนผู้เข้ารับฟังต้องมากกว่า 20 คนขึ้นไป ดังนั้นจะเห็นว่าทั้ง กรรมการสอบ และผู้ร่วมเข้าฟังสามารถถามปัญหาแก่ผู้เข้าสอบได้ บรรยากาศช่วงถามปัญหาจึงเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นพอสมควร ครับ

  รูปแบบการสอบ Viva -Voce Examination เริ่มต้นจาก Chairman กล่าวเปิด, แนะนำ Subject Expert และ Research Guide ตลอดจน Research Scholar และ Research topic จากนั้นให้ Research Scholar เริ่มนำเสนอ (Presentation) รายงานการวิจัย ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที หลังเสร็จการนำเสนอก็เป็นช่วงเวลา ถาม-ตอบ

การเตรียมตัวสำหรับการสอบ  Viva -Voce Examination

ผู้เข้าสอบควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบ Viva -Voce Examination และไม่ใช่สิ่งที่ผู้เข้าสอบต้องตกใจ  เป็นเรื่องปกติที่จะกังวล แต่สามารถเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันสำคัญนี้ได้ โดยอาศัย 4 ขั้นตอนง่ายๆ คือ ทำความรู้จักกับดุษฎีนิพนธ์ ที่จะนำเสนออีกครั้ง,ฝึกฝนการตอบคำถามการสอบ,นึกถึง Examiner ( Examiner ที่แตกต่างกันมีลักษณะในการดำเนินการ Viva examinations ที่แตกต่างกัน การคิดถึง ความสนใจของ Examiner แต่ละท่านจะช่วยให้ผู้เข้าสอบทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการสอบ)  และ ใช้ตัวช่วยที่มีอยู่  ใช้แนวทางที่มีโครงสร้างในการเตรียมสอบ และอย่าลืมทำตามแต่ละขั้นตอนเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้เข้าสอบมีความมั่นใจในการสอบป้องกันดุษฎีนิพนธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าเตรียมตัวดี การสอบ Viva -Voce Examination ดำเนินการไปได้ด้วยดี สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน Chairman ก็จะเรียกขานผู้เข้าสอบว่า ด๊อกเตอร์คนใหม่ (New Doctor) หรือเรียก ว่าด๊อกเตอร์นำหน้าชื่อผู้เข้าสอบ ทันที แล้ว Chairman จะกล่าวสรุป ขอบคุณ Examiner และผู้เกี่ยวข้อง และกล่าวปิดการสอบ Viva -Voce Examination หลังจากนี้รอทางมหาวิทยาลัยออกหนังสือรับรองการจบหลักสูตรแต่ในส่วนของใบปริญญาบัตรอาจต้องรอไปอีกระยะหนึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรอบหรือช่วงเวลาของการมอบปริญญาของแต่ละมหาวิทยาลัยนั่นเอง

สมัคร เรียนปริญญาเอกอินเดีย ขอ Visa (Research and Tourist Visa) ,แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ  หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย

สนใจโทร. 07728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek

 

ผู้เขียน เรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

 

 

หลักสูตรเตรียมความพร้อมก่อนเรียนมัธยมศึกษาต่างประเทศ

SJ WORLD EDUCATION
25 Feb 2021
[หน้าแรก] หลักสูตร, ข่าวประชาสัมพันธ์, คอร์สและโครงการ
Comments: 0

เตรียมความพร้อมก่อนเรียนมัธยมศึกษาต่างประเทศ





นักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน เป็นต้น   จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนไปเข้าเรียน ได้แก่ ความพร้อมด้านทักษะภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน เพราะ นักเรียน และ ผู้ปกครองจำนวนมากที่มุ่งหวังว่าถ้าผู้เรียนจบการศึกษาจากประเทศดังกล่าวจะได้ทักษะทั้งภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน ที่ผ่านมาพบว่าผู้เรียนที่มีการเตรียมตัวที่ดี คือ ได้เตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ และ  ภาษาจีน ซึ่งต้องใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว การได้เรียนคณิตศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ ได้ประยุกต์ใช้ภาษาอังกฤษในวิชาคณิศาสตร์ หรือแม้แต่ในวิชาวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนเป็นอย่างยิ่งเพราะช่วยให้ปรับตัวเข้ากับการเรียน และการใช้ชีวิตในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ดังนั้น บริษัท เอสเจ เวิลดิ์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด จึงได้จัดทำโครงการเตรียมความพร้อมก่อนเรียนมัธยมศึกษาต่างประเทศ ขึ้นโดยการออกแบบหลักสูตร และจัดหาผู้สอนให้สอดคล้องกับการเตรียมความพร้อมก่อนเรียนมัธยมศึกษาต่างประเทศ สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ง่ายผ่านทางห้องเรียนออนไลน์ สะดวก ปลอดภัย จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รายละเอียดดังนี้

1. หลักสูตร ภาษาจีนพื้นฐาน (Basic Chinese) สำหรับนักเรียนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน สอนโดยครูไทยที่จบด้านภาษาจีนโดยเฉพาะ มีประสบการณ์ได้รับทุนเรียนต่อประเทศจีน สามารถเลือกเรียนแบบรายบุคคล หรือรายกลุ่มได้  โดยแบบรายบุคคล เริ่มต้นที่ 14 ชั่วโมง และ รายกลุ่มเริ่มต้นที่ 20 ชั่วโมง




2.หลักสูตรภาษาอังกฤษ โดยหลักสูตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่ 20 ชั่วโมง เรียนสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง วันจันทร์ ถึง วันพฤหัสบดี มีเฉพาะรายบุคคล สามารถจัดเวลาเรียนกับผู้สอนได้





3.หลักสูตรคณิตศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ เริ่มต้นที่ 20 ชั่วโมง เรียนสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง วันจันทร์ ถึง วันพฤหัสบดี มีเฉพาะรายบุคคล สามารถจัดเวลาเรียนกับผู้สอนได้



ชมตัวอย่างการสอนออนไลน์






รายละเอียดเพิ่มเติม

โทร 0 7728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

Line ID :somnoek

แนะนำมหาวิทยาลัย Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada

SJ WORLD EDUCATION
11 Dec 2020
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, India, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0
India university, Ph.D in India

แนะนำมหาวิทยาลัย

Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University



 




ประวัติ 

Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University (BAMU) เดิมชื่อมหาวิทยาลัย Marathwada ตั้งอยู่ที่เมือง Aurangabad รัฐมหาราษฏระ สาธารณรัฐอินเดีย ได้รับการตั้งชื่อตาม Bharat Ratna “Babasaheb” Ambedkar นักกฎหมายชาวอินเดีย ผู้นำทางการเมือง นักวิชาการ และ ผู้ออกแบบรัฐธรรมนูญของอินเดีย 

มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยความริเริ่มของ Babasaheb Ambedkar เป็นหลัก เพื่อเติมเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาขนาดใหญ่ในภูมิภาค Vidarbh ตะวันตก  Marathwada และ North Maharashtra 

มหาวิทยาลัยก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2501 มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีส่วนสนับสนุนความก้าวหน้าของภูมิภาคที่อยู่ติดกันและผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย มีวิทยาลัยในเครือราว 428 แห่งซึ่งอยู่ภายใต้ 4 เขต (Aurangabad, Jalna, Beed และ Osmanabad) ของรัฐมหาราษฏระ จำนวนนักเรียนมากกว่า 444,336 คน
 

สถานที่ตั้ง

มีการแนะนำสถานที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัย ผ่าน Aurangabad, Nanded & Mominabad  

ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอยู่ที่เมืองออรังคาบัด (Aurangabad)  เหตุผลในการตั้งมหาวิทยาลัยที่เมืองออรังคาบัด (Aurangabad) เป็นปัจจัยสำคัญมาก เมืองออรังกาบัดเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเมืองมาราธวาดามาช้านาน สถานที่ใกล้เคียง เมือง Deogiri (Daulatabad) เมืองหลวงของ Yadavas อยู่ห่างออกไปเพียง 8 ไมล์ในขณะที่ถ้ำ Ellora ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่ห่างออกไปเพียง 4 ไมล์  นอกจากนี้ยังมี ถ้ำ Ajanta ที่มีจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับความชื่นชมจากทั่วโลกอยู่ห่างออกไป 64 ไมล์  และPaithan ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดโบราณของ Eknath และ Maharubhav ที่มีชื่อเสียงอยู่ห่างออกไปเพียง 34 ไมล์    เมืองออรังคาบัดเป็นศูนย์กลางการปกครองในระบอบไฮเดอราบาด ดังนั้นคณะกรรมการจึงแนะนำอย่างยิ่งให้ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมืองออรังคาบัด
 

วัตถุประสงค์ของ Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University:

เพื่อเผยแพร่ สร้าง และ เก็บรักษาความรู้และความเข้าใจโดยการสอน การวิจัย การขยาย และ การบริการโดยการสาธิตที่มีประสิทธิภาพและอิทธิพลขององค์กรการขยายและสังคม
 

หน้าที่ของ Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University:

มีดังนี้

  1.  มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจการศึกษาสังคมและวัฒนธรรมของชาวมราธวาดา
  2. เพื่อรองรับความต้องการของการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภูมิภาค
  3. เพื่อปลูกฝังและส่งเสริมศิลปะ การพาณิชย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ วิศวกรรมเทคโนโลยี และ สาขาการเรียนรู้และวัฒนธรรมอื่น ๆ
  4. เพื่อจัดระเบียบบำรุงรักษาและจัดการห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์และอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการเรียนการสอนและการวิจัยของมหาวิทยาลัย
  5. เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้โดยรับ Post Graduate และการวิจัยในหน่วยงานของตนเองตลอดจนผ่านวิทยาลัยและสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ
  6. ทำหน้าที่เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กของผู้นำในหลากหลายสาขาอาชีพ เศรษฐกิจอุตสาหกรรม การเมือง สังคม ผู้ที่สามารถช่วยเหลือในทุกทิศทางและในการช่วยให้มีชีวิตใหม่ หากมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
     

หลักสูตรที่เปิดสอน  

มหาวิทยาลัย Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ถึง ปริญญาเอก ซึ่งแต่ละหลักสูตรเปิดสอนกระจายไปตามวิทยาเขตต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรที่เปิดสอนแบ่งออกเป็น 7 คณะ และในแต่ละคณะก็แบ่งเป็นสาขาวิชาย่อย ดังนี้
 

School of Computational & Physical Sciences แบ่งเป็น 7 แผนก ได้แก่ 

  1. วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ  (Department Computer science & Information Technology (1994))
  2. ฟิสิกส์ (Department of Physics) 
  3. เคมี  (Department of Chemistry)
  4. นาโนเทคโนโลยี (Department of Nano Technology)
  5. คณิตศาสตร์ (Department of Mathematics)
  6. สถิติ (Department of Statistics)
  7. อิเล็กทรอนิค (Department of Electronics)

School of Life Sciences แบ่งเป็น 4 แผนกได้แก่

  1. พฤกษศาสตร์ (Department of Botany)
  2. สัตววิทยา (Department of Zoology)
  3. วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Department of Environmental Science)
  4. ชีวเคมี (Department of Bio-chemistry)

School of Performing & Visual Arts   แบ่งเป็น  4 แผนก ได้แก่

  1. นาฏศิลป์ การละคร (Department of Dramatics)
  2. ศิลปกรรม (Department of Fine Arts)
  3. ดนตรี (Department of Music)
  4. นาฏศิลป์ การเต้น (Department of Dance)

School of Professional Studies แบ่งเป็น  6 แผนก ได้แก่

  1. วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน (Department of Mass Communication and Journalism)
  2. เทคโนโลยีเคมี (Department of Chemical Technology)
  3. บริหารการท่องเที่ยว (Department of Tourism Administration)
  4.  นิติศาสตร์ (Department of Law)
  5.  เทคโนโลยีสิ่งพิมพ์ (Department of Printing Technology)
  6. วิทยาการจัดการ (Department of Management Science)

School of Languages แบ่งเป็น  7 แผนก ได้แก่

  1. ภาษามราฐี (Department of Marathi)
  2. ภาษาอินเดีย (Department of Hindi)
  3. ภาษาอังกฤษ (Department of English)
  4. ภาษาต่างประเทศ (Department of Foreign Language)
  5. ภาษาอาหรับ (Department of Urdu)
  6. ภาษาบาลี และ พระพุทธศาสนา (Department of Pali & Buddhism)
  7. ภาษาสันสกฤต (Department of Sanskrit)

School of Social Sciences แบ่งเป็น  14 แผนก ได้แก่

  1. ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมอินเดีย (Department of History & Ancient Indian Culture)
  2. เศรษฐศาสตร์ (Department of Economics)
  3. รัฐศาสตร์ (Department of Political Science)
  4. รัฐประศาสนศาสตร์ (Department of Public Administration)
  5. สังคมวิทยา (Department of Sociology)
  6. พลศึกษา (Department of Physical Education)
  7. ศึกษาศาสตร์ (Department of Education)
  8. จิตวิทยา (Department of Psychology)
  9. ภูมิศาสตร์ (Department of Geography)
  10. (Department of Life Long Learning and Extension)
  11. สารสนเทศ (Department of Library & Information Science)
  12. พาณิชย์ (Department of Commerce)
  13. โยคะ (Department of  Yogshastra)
  14. สังคมสงเคราะห์ศึกษา (Department of Social Work Education)

School of Liberal Arts   

สาขาวิชาศิลปศาสตร์ เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014 ภายใต้การนำของ Dr. V.L. Dharurkar (รองอธิการบดี) ดร. Vijay Pandhripande ให้การสนับสนุนและคำแนะนำสำหรับกิจการใหม่นี้   สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มีวัตถุประสงค์ของหลักสูตรเพื่อประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรม สังคม และ สำหรับการสอบแข่งขัน

หลักสูตรปริญญาโทสาขาวิชาศิลปศาสตร์มีประโยชน์สำหรับนักศึกษาสังคมศาสตร์ในการรับความรู้เกี่ยวกับศิลปะแขนงต่าง ๆ สังคมศาสตร์และการจัดการ ในปี 2559 School of Liberal Arts ได้เริ่มหลักสูตรปริญญาโทชื่อ M.A. (Archaeology) โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศนี้และอนุรักษ์อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันสาขาวิชาศิลปศาสตร์มุ่งเน้นการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพในรูปแบบที่เป็นเลิศซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและอุตสาหกรรมด้วย

สำหรับระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอก สาขาที่นักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาจากประเทศไทยทั้งฆราวาสและพระสงฆ์ นิยมไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้แก่  นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประสาสนศาสตร์ และ วิทยาการจัดการ (จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยฯหลายครั้ง) 

สาขาวิชานิติศาสตร์  (Department of Law)

แผนกนี้เป็นแผนกที่แยกจากกันโดยมีคณะประจำที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 แผนกนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างแข็งขันกับเจ้าหน้าที่บริการกฎหมายของเขตและศาลสูง นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ WALMI JMFC (หลังการรับสมัคร) โครงการฝึกอบรมที่ดำเนินการโดยศาลสูงมุมไบที่เมืองออรังคาบัดผ่านข้อมูลทางวิชาการของแผนก ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรมคือการลงโทษ Rs.3.75 crores สำหรับการก่อสร้างโรงเรียนกฎหมายโดยรัฐบาลรัฐมหาราษฏระซึ่งเป็นโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่

วัตถุประสงค์หลักของการศึกษากฎหมายคือการให้ความรู้ด้านกฎหมายและเทคนิคการตีความการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ในขณะที่เป้าหมายของการศึกษาระดับปริญญาโทด้านกฎหมายคือการส่งเสริมทุนการศึกษาด้านกฎหมายซึ่งจะดำเนินการประเมินระบบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสังคม นโยบายเพื่อตอบสนองเสียงเรียกร้องและข้อเรียกร้องของสังคมภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป กฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นของนักวิชาการด้านกฎหมายที่จะตีความกฎหมายต่อสังคมและสังคมต่อกฎหมายเพื่อเอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การศึกษากฎหมายควรให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ทางสังคมของกฎหมายเพื่อให้ทนายความผู้พิพากษาและสมาชิกสภานิติบัญญัติสามารถมีบทบาทที่สร้างสรรค์มากขึ้นในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เมื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์เหล่านี้และความสำคัญของการศึกษากฎหมายมหาวิทยาลัยของเราได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในสาขากฎหมาย (LL.M. )

สาขาวิชารัฐศาสตร์  (Department of Political Science)

ภาควิชาเริ่มต้นในปี 2503 ภาควิชามีวิชาเฉพาะเช่นทฤษฎีการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จัดชุดการบรรยายในแต่ละปีในนามของดร. Moin Shakir นักสังคมศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ทุกปีภาควิชาจะส่งนักเรียนบางคนไปเข้าร่วมขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติของรัฐสภาในที่ประชุมของรัฐที่จัดโดยสมาคมรัฐสภาแห่งเครือจักรภพสาขามหาราษฏระ

สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (Department of Public Administration)

สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ได้รับการจัดตั้งเป็นแผนกแยกต่างหากในปี พ.ศ. 2534-2535 มีความก้าวหน้าอย่างมากและมีความแตกต่างจากการเป็นแผนกอิสระแห่งแรกในรัฐมหาราษฏระ ภาควิชาประสบความสำเร็จในการให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาจนจบระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิตไม่ต่ำกว่า 45 คน และ ระดับปริญญาโทกว่า 120 คนภาควิชาได้รับเครดิตในการจัดสัมมนา การประชุมและหลักสูตรทบทวน การสัมมนาระดับชาติเรื่อง“ Dynamics of Good Governance: Vision – 2020” (2011) &“ Agricultural Crisis and Governance in India: Issues and Concerns” ตลอดจนการประชุมนานาชาติเรื่อง“ Globalization and Public Administration: Pros & Cons”  นี่คือความสำเร็จของกิจกรรมและความพยายามในการพัฒนาของสาขา

สาขาวิทยาการจัดการ (Department of Management Science)

ในช่วงแรกวิทยาการจัดการเป็นส่วนหนึ่งของแผนกพาณิชยศาสตร์ แต่กลายเป็นแผนกอิสระในปี 2550 ได้ริเริ่มโครงการให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการส่วนตัวและสังคมของนักเรียน แผนกนี้มี Placement Cell แยกต่างหากที่จัดตำแหน่งสำหรับการฝึกอบรมโรงงานในอุตสาหกรรมท้องถิ่นและภูมิภาค
 

ศูนย์การเรียนรู้ของมหาวิทยาลัย

  1. Tarabai Shinde Women Study Center
  2. Dr. Ambedkar Study Centre
  3. Chhatrapti Shivaji Maharaj Study Centre
  4. Rajarshi Shahu Maharaj Study Centre
  5. Mahatma Phule Study Centre
  6. Gautam Buddha Study Centre
  7. Mahatma Gandhi Study Centre
  8. Annabhau Sathe Study Centre
  9. Balasaheb Pawar Study Centre
  10. Bhagat Singh Study Centre
  11. Reserach Center on Rural Problems
  12. Vasantrao Naik Study Centre
  13. Vilasrao Deshmukh Study Centre




 

เรียนปริญญาเอกอินเดีย บริการครบวงจร:

แนะนำ หลักสูตร สถาบัน สมัครเรียน ขอ Visa แนะนำการเขียน Synopsis and Research ติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา (Research Guide) ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบัน สมัครเรียน สอบ หรือ นำเสนอบทความ งานวิจัย สนใจโทร. 07728 7111,08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID: somnoek






ผู้เขียน แปล เรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์


ธันยา เล้าธนะธรรม

ศ.ศ.บ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี


ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :

Dr. Babasaheb Ambedkar Marathwada University (BAMU)

 http://www.bamu.ac.in/AboutUniversity.aspx

 

เรียนมัธยมศึกษาต่างประเทศจะเริ่ม มัธยมต้น หรือ มัธยมปลาย ?

SJ WORLD EDUCATION
18 Nov 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้
Comments: 0

เรียนมัธยมศึกษาต่างประเทศจะเริ่ม มัธยมต้น หรือมัธยมปลาย ?



ผู้ปกครองมักจะมีคำถามเป็นประเด็นการพูดคุยกันบ่อยครั้ง กรณีที่จะส่งบุตรหลานไปเรียนต่างประเทศในระดับมัธยมศึกษา (High School) ว่าควรจะไปเรียนตั้งแต่ มัธยมต้น หรือรอให้จบการศึกษาระดับ มัธยมต้นในเมืองไทยก่อนแล้วค่อยไปเริ่มเรียนต่างประเทศระดับมัธยมปลาย ควรจะเริ่มต้นตอนไหนดี บทความนี้จะให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับ ผู้ปกครอง และนักเรียน ในประเด็นหลักๆดังนี้

ประเด็นที่ 1.หลักสูตรและระยะเวลาเรียน

หลักสูตรมัธยมศึกษา หรือ High School สำหรับนักเรียนต่างชาติในต่างประเทศ ขอยกตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติ ในประเทศมาเลเซีย ระยะเวลาเรียน มัธยมต้น 3 ปี และ มัธยมปลาย 2 ปี รายละเอียดตามรูปที่ 1

ตัวอย่าง   ระยะเวลาเรียนระดับมัธยมศึกษาของประเทศมาเลเซีย





การเรียนต่างประเทศต้องมีการปรับตัวหลายด้าน เช่น
(1) สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เพราะห่างไกล คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ครอบครัวหรือแม้แต่เพื่อนสนิท ต้องไปปรับตัวหาเพื่อนใหม่
(2) หลักสูตร การเรียนการสอน ทักษะภาษาต่างประเทศ และ สถาบันการศึกษาแห่งใหม่ในต่างประเทศ
(3) ความหลากหลายในเชื้อชาติ วัฒนธรรม อาหารการกิน ความเป็นอยู่ การมีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบต่อตัวเอง และสังคมใหม่ในต่างประเทศ
(4) การสอบวัดระดับความรู้ความสามารถของผู้เรียน เช่น ก่อนการรับเข้าเรียนจะมีการสอบวัดระดับความรู้ของนักเรียน (Placement Test) เพื่อประเมินว่าควรจะเริ่มเข้าเรียนในระดับชั้นไหน ต้องเรียนปรับพื้นก่อนเข้าชั้นเรียนปกติหรือไม่ และกรณีเรียนไปถึงระดับมัธยมปลาย จะมีการสอบวัดความรู้เพื่อให้ได้วุฒิ O-Level ซึ่งจะมีการสอบในช่วงประมาณ Year 10-Year 11 (ช่วงอายุ 14-16 ปี) ของระบบการศึกษา มัธยมศึกษาที่ใช้เวลาเรียน 5 ปี ตามหลักสูตรนานาชาติ
IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) ทั้งนี้เพื่อให้ได้วุฒิการศึกษามัธยมการศึกษาตอนปลาย เป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับสมัครเข้าเรียนในระดับที่สูงขึ้น เช่น  หลักสูตร A-Level , Diploma , Pre-University หรือ Foundation (เตรียมอุดมศึกษา) ก่อนเข้าเรียนระดับ Bachelor (ปริญญาตรี)

การเริ่มเรียนต่างประเทศตั้งแต่ระดับ มัธยมต้น มีข้อดีอย่างไร

1.มีโอกาสได้ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆตามที่ได้กล่าวแล้วข้างต้นแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะทักษะด้านภาษาอังกฤษ เมื่อได้อยู่ในสถานการณ์จริง สิ่งแวดล้อมในต่างประเทศ จะทำให้ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน พัฒนาทักษะภาษาได้เป็นอย่างดี

2.การสอบวัดระดับความสามารถ

2.1 Placement Test การสอบวัดความรู้ก่อนเข้าชั้นเรียนปกติ ถ้านักเรียนไปเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมต้น อาจมีการสอบ หรือ ไม่มีการสอบ วัดระดับความรู้ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของสถาบันการศึกษา แต่ละแห่ง แต่ถ้านักเรียนไปเริ่มเรียนในระดับมัธยมปลาย จะมีการสอบวัดระดับความรู้เกือบทุกสถาบันการศึกษา ประเด็นที่อาจจะเกิดปัญหา อุปสรรค กรณีจะเริ่มไปเรียนระดับมัธยมปลาย จากการที่ต้องสอบวัดระดับ ดังนี้

(1) กรณีผลการสอบมีระดับความรู้ยังไม่ถึงเกณฑ์ นักเรียนอาจต้องเรียนปรับพื้นฐาน เช่น เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก่อน หรือ บางกรณีอาจต้องเรียนซ้ำชั้นก่อนก็เป็นได้ เช่น เรียน ม.3 (Year 9) ก่อนเข้าเรียน ม.4 (Year 10)
(2) สืบเนื่องจากกรณีที่นักเรียนต้องเรียนปรับพื้น หรือเรียนซ้ำชั้น ตามที่กล่าวข้างต้น อาจส่งผลให้อายุของนักเรียนเกินเกณฑ์อายุที่กำหนดการเรียนจบ มัธยมปลาย
(อายุไม่เกิน 18 ปี) จะเกิดปัญหาตามมาได้ เช่น โรงเรียนอาจปฏิเสธ การรับนักเรียนเข้าเรียน หรือ การสมัครขอวีซ่านักเรียนอาจไม่ได้รับการอนุมัติอันเกิดจากเกณฑ์อายุของนักเรียน ซึ่ง การปฏิเสธของโรงเรียนกับการไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า จะเกี่ยวข้องกันนั่นเอง

2.2 การสอบ O-Level เพื่อให้ได้วุฒิการศึกษามัธยมปลาย ขอบข่ายเนื้อหาในการออกข้อสอบจะครอบคลุมเนื้อหาความรู้ ตั้งแต่ Year 7 (ม.1) – Year 10 (ม.4) ดังนั้นการไปเริ่มเรียนมัธยมปลายจะเสียโอกาสเพราะว่าความรู้ระดับมัธยมต้นของนักเรียนที่เคยเรียนไปจากไทยอาจไม่สอดคล้องต่อเนื่องกับแนวข้อสอบ O-Level นักเรียนจะต้องเตรียมตัวมากและค่อนข้างกดดัน ที่จะทบทวนเนื้อหาให้ประสบความสำเร็จในการสอบ และ สถิติผลการสอบ O-Level ของนักเรียนแต่ละโรงเรียนเป็นตัวชี้วัดและมีผลต่อชื่อเสียงของโรงเรียน ดังนั้นโรงเรียนจึงพยายามคัดเลือกนักเรียนกรณีไปเริ่มเรียนมัธยมปลายเพราะมีช่วงเวลาการเตรียมตัวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับนักเรียนที่ไปเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมต้น ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทางโรงเรียนอาจปฏิเสธการรับนักเรียนเข้าเรียนด้วย

อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่านักเรียนจะไปเรียนต่างประเทศตอนมัธยมปลายไม่ได้ นักเรียนสามารถไปเรียนได้เพียงแต่ต้องสอบวัดระดับความรู้ให้ได้ตามเกณฑ์ และมีความขยัน อดทน กระตือรือร้นก็ประสบความสำเร็จได้

ประเด็นที่ 2. อายุของนักเรียนกับการเรียนภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่ 2

การไปเรียนต่างประเทศ ย่อมมีความมุ่งหวังเรื่องทักษะภาอังกฤษ หรือภาษาที่สอง ที่ช่วยให้พัฒนาได้เร็วขึ้นในระหว่างศึกษาในต่างประเทศ ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านบทความ งานวิจัย เกี่ยวกับ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สอง หลายฉบับ พบว่า ความสามารถในการพัฒนาด้านภาษาต่างประเทศประกอบด้วย ปัจจัยด้านอายุ ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ตลอดจนวิธีการเรียนการสอน ต่างก็มีบทบามที่สำคัญในการพัฒนาภาษาทั้งสิ้น ในส่วนของปัจจัยด้านอายุที่เด็ก ๆสามารถเรียนรู้ภาษาที่สองได้ดีที่สุดคือช่วงอายุระหว่าง 6-13 ปี

จากที่กล่าวมาทั้งในประเด็นที่ 1.หลักสูตรและระยะเวลาเรียน และ ประเด็นที่ 2. อายุของนักเรียนกับการเรียนภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่ 2 ผู้เขียนหวังว่าจะเป็นประโยชน์ ประกอบการพิจารณา วางแผน หรือตัดสินใจของนักเรียนเอง หรือ ผู้ปกครอง ที่จะส่งบุตร หลาน ไปเรียนต่างประเทศอย่างเหมาะสมต่อไป.


 

สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek




ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

บ้านการเคหะ ภูเก็ต

SJ WORLD EDUCATION
20 Oct 2020
Accomodation, ในประเทศ
Comments: 0

บ้านการเคหะ ภูเก็ต

🏡 ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 🏡 โครงการหมู่บ้านการเคหะ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต



 




 

 

 

 

 

 

 

รายละเอียด

2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว และ  1 ที่จอดรถ

ติดตั้งมุ้งลวด เหล็กดัด  หลังบ้าน มีบริเวณซักล้างต่อเติมหลังคาแล้ว

ขนาดพื้นที่     22 ตร.ว (มาตราฐาน 15 ตร.ว. + พื้นที่เพิ่มเติม 7 ตร.ว.)

ที่ตั้ง: 66/564 หมู่ที่ 1 ต.ศรีสุนทร การเคหะชุมชนภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต


📍ตัวบ้านตั้งอยู่ทำเลดี บริเวณหัวมุม มีที่ว่างสำหรับค้าขายได้

📍โครงการตั้งอยู่ทำเลดี การเดินทางสะดวกสบายบนถนนเทพกษัตรีและศรีสุนทร

📍รายล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เทสโก้ โลตัส ถลาง ที่ทำการไปรษณีย์ถลางและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค


สนใจติดต่อ

Line: somnoek

Tel: 08 5791 9111 (ทุกวัน เวลา 08:30-16.00)

ข่าว แนะนำหลักสูตรเข้มข้น 2 ปี สู่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ

SJ WORLD EDUCATION
07 Oct 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าว แนะนำหลักสูตรเข้มข้น 2 ปี สู่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ

 

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563  ผศ.ดร.ดวงใจ พานิชเจริญกิจ  ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ โรงเรียนขจรเกียรติสอนภาษาและบริหารธุรกิจอินเตอร์เพร็บ (Kajonkiet Language and Business Interprep School:KIP) ได้แนะนำหลักสูตรเข้มข้น 2 ปี สู่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ  ณ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการให้การต้อนรับ และร่วมประชุมเพื่อความร่วมมมือในการแนะแนวการศึกษา เพื่อนักเรียนเข้าศึกษาตามหลักสูตรเข้มข้น 2 ปี สู่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ และความร่วมมือจัดโครงการ English Camp ณ จังหวัดภูเก็ต ในช่วงปิดภาคเรียน เดือน พฤศจิกายน 2563 นี้ เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเสริมทักษะภาษาอังกฤษและกิจกรรมนอกห้องเรียนที่น่าสนใจ ตามโครงการ English Camp

 



หลักสูตรเข้มข้น 2 ปี สู่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ โดย K I P ร่วมกับ สถาบัน Finn  School of  Business and Tourism สถาบันการศึกษาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ หลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษ

หลักสูตรนี้เรียน 2 ปีที่ KIP Institute เมื่อจบแล้วเทียบโอนเพื่อเรียนปริญญาตรี 1 ปี ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำที่เลือก ในประเทศอังกฤษ,ออสเตรเลีย หรือ สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรับผลการเรียน และ วุฒิปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาเลือก เปิดสอนสาขาวิชาต่างๆของคณะบริหารธุรกิจ และคณะการจัดการท่องเที่ยวและโรงแรม




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

ทำประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ OSHC โทร. 0 7728 7111  08 5791 9111 (อ.สมนึก)

Line ID: somnoek

เรียนหลักสูตร ACE ของสหรัฐอเมริกาในโรงเรียนไทย อีกทางเลือกหนึ่งของนักเรียนไทย

SJ WORLD EDUCATION
03 Sep 2020
[หน้าแรก] หลักสูตร, คอร์สและโครงการ, ทั่วไป
Comments: 0

เรียนหลักสูตร ACE ของสหรัฐอเมริกาในโรงเรียนไทย อีกทางเลือกหนึ่งของนักเรียนไทย



ตามที่รัฐบาลมาเลเซียได้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการการควบคุมทางสังคม (Malaysia Movement Control Order :MCO) ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2020 ในช่วงเวลาเดียวกันก็ยังไม่เปิดพรหมแดนรับชาวต่างชาติ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19  ดังนั้นนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาต่อในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเดินทางกลับมายังประเทศไทยตั้งแต่ กลางเดือน มีนาคม 2020 ก่อนถึงกำหนดการประกาศใช้ MCO และการ Lockdown อันเกิดจากผลกระทบจาก Covid-19 ของรัฐบาลมาเลเซีย

ผู้เขียนมีโอกาส แนะแนวการศึกษา สมัครเรียน และ ติดตามประสานงานระหว่างเรียนให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อ ยังประเทศมาเลเซียมาเป็นเวลาหลายปีต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (High School) ทำให้ทราบว่าวิกฤต Covid-19 นี้ ส่งผลให้นักเรียนได้รับผลกระทบต่อโอกาส และความต่อเนื่องทางการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาจากผลกระทบดังกล่าว ก็มีหลายวิธี ที่นักเรียน ผู้ปกครอง ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากัน ตัวอย่างเช่น

  1. การเรียนกับสถาบันเดิมในมาเลเซียผ่านทางระบบออนไลน์ ก็อาจเจอปัญหา อุปสรรค อีกเช่นกัน ทั้งนี้อาจเกิด นักเรียนซึ่งไม่พร้อมหรือไม่คุ้นเคยกับการเรียนผ่านออนไลน์ จากผู้ปกครองซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการควบคุมดูแลบุตรหลานให้เข้าสู่ระบบการเรียนออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งปัญหาด้านเทคนิคของเครือข่ายออนไลน์ และประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของแต่ละสถาบันการศึกษาในมาเลเซีย
  2. การย้ายกลับมาเรียนในประเทศไทย

2.1 โรงเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กรณีนี้นักเรียน

ต้องนำผลการเรียนจากสถานศึกษาที่เคยศึกษาในมาเลเซียมายื่นเพื่อเทียบรายวิชาโดยโรงเรียนและเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา และต้องเรียนรายวิชาเพิ่มเติมที่ไม่มีเรียนในมาเลเซีย เช่นภาษาไทย สังคมศึกษา ประวัติศาสตร์ เป็นต้น เพื่อปรับให้เข้ากับโครงสร้างของหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการไทย นักเรียน ผู้ปกครอง ต้องติดต่อหาโรงเรียนที่จะเข้าเรียนใหม่ การรับเข้าเรียนขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงเรียนเพราะนักเรียนจะต้องปรับเปลี่ยนระดับชั้นเรียนไปตามรายวิชาที่ต้องเรียนเพิ่มเติมจนครบตามหลักสูตร

2.2 โรงเรียนนานาชาติ (International School) เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งเพราะนักเรียนที่เคยเรียนในต่างประเทศมีทักษะด้านภาษาอังกฤษพอสมควรแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายทั้งค่าเรียนและค่าครองชีพ ต้องนำมาประกอบพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่โรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยมักตั้งอยู่ในเมืองธุรกิจ เมืองใหญ่ ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายทั้งค่าเรียนและค่าครองชีพที่สูงตามไปด้วย

2.3 เรียนการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) คุณสมบัติก็ต้องเป็นไปตามที่กระทรวงศึกษากำหนด เช่น ผู้สมัครเรียนต้องพ้นเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับหรืออายุ 16 ปีขึ้นไป กรณีนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์และยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับนั้น สามารถเรียน กศน.ได้แต่ต้องมีหนังสือส่งตัวจากเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อจัดการเรียนการสอนให้มีระยะเวลาเท่ากับเด็กวัยเดียวกัน และต้องเรียนครบจำนวนหน่วยกิต ตามโครงสร้างของหลักสูตรของ กศน. นอกจากนั้นผู้สมัครต้องไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในระบบโรงเรียนหรือนอกระบบโรงเรียน เป็นต้น

3. การเรียนกวดวิชาเพื่อสอบเทียบวุฒิ ม.ปลาย เช่น GED (General Education Development)  รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

https://www.sjworldedu.com/th/blog/ged-test-for-high-school-students-part-1/

4. เรียนหลักสูตร ACE ของสหรัฐอเมริกาในโรงเรียนไทย อีกทางเลือกหนึ่งของนักเรียนไทย    ผู้เขียนได้รับการแนะนำจากเพื่อนร่วมงานด้านการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ ให้เข้าเยี่ยมชมสถานศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตร ACE ในเมืองไทยแห่งหนึ่ง คือ Little Lamb School จังหวัดชุมพร ทั้งนี้เพื่อนผู้แนะนำได้ย้ายนักเรียน ที่กำลังเรียนอยู่ในมาเลเซีย  ทั้งลูก และนักเรียนในความดูแลในฐานะ Host Family มาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ผมจึงเดินทางไปเยี่ยมโรงเรียน โดยได้รับการต้อนรับ และให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อการแนะแนวการศึกษาเป็นอย่างดีจากผู้บริหาร ครู และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียน ได้เข้าชมบรรยากาศการเรียนการสอนและกิจกรรมต่างๆในห้องเรียนถือเป็นโอกาสดีมาก ด้วยความสนใจผมจึงมาศึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จึงขอแบ่งปันให้นักเรียน ผู้ปกครองได้ทราบเป็นข้อมูลด้วย รายละเอียดดังนี้

4.1 ทำความรู้จักหลักสูตร ACE

ACE ย่อมาจาก Accelerated Christian Education เป็นหลักสูตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่รู้จัก ยอมรับระดับสากล ทั่วโลก มีโรงเรียนที่ใช้หลักสูตร ACE ทั้งที่เปิดสอนในโรงเรียน และการศึกษาโดยครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองจัดขึ้นเพื่อบุตรหลานซึ่งเรียกว่า โฮมสคูล (Home school) จากข้อมูลพบว่า 147 ประเทศทั่วโลก และสถานศึกษามากกว่า 6,000  แห่งที่ใช้หลักสูตรนี้  ACE พัฒนามาตั้งแต่ ปี 1970 โดย ดร.โดนัลด์ ฮาวเวิร์ด (Dr.Donald Howard) และคณะ

4.2 สาระสำคัญของหลักสูตร ACE ที่น่าสนใจจากการเยี่ยมชมโรงเรียนและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้ทราบว่า สาระสำคัญของหลักสูตร ACE ที่น่าสนใจ เช่น

  • Individualization การตอบสนองให้สอดคล้องความต้องการของนักเรียนในรายบุคคล ในส่วนนี้จะแตกต่างจากระบบการศึกษาทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่ครูจะทำหน้าที่สอน นักเรียนเป็นผู้ฟัง แต่ในหลักสูตร ACE นักเรียนจะเป็นผู้เรียนรู้อย่างแท้จริง โดยมีครูเป็นโค้ช (Coach) คอยดูแลความเรียบร้อย การกระตุ้นเพื่อสร้างแรงจูงใจเชิงบวก การดึงศักยภาพของนักเรียนออกมา เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ที่สำคัญคือ การเรียนตามความสามารถของนักเรียนแต่ละคน (Individualized learning) ไม่ใช่เรียนตามอายุ เรียนช้า เร็วต่างกันไม่ได้นำมาเปรียบเทียบ ดังนั้นจึงมีการทดสอบวัดระดับความรู้ก่อนเรียนของแต่ละคน (Placement Test)
  • Mastery based learning การส่งเสริม พัฒนาผู้เรียนให้รู้จริง
  • Self -instructional พัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
  • Character building การสร้างลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์
  • Reading development พัฒนาการอ่านของนักเรียนอย่างแท้จริง อ่านทำความเข้าใจ ให้วิเคราะห์ สังเคราะได้ ตั้งแต่นระดับขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นสูง รวมถึงการอ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษ
  • Solid foundation for pursuing their life goals เป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีในการฝึกให้นักเรียนรู้จักการตั้งเป้าหมายในชีวิตและพยายามไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
  • Character and wisdom training เป็นการเสริมสร้าง อบรมเพื่อให้เกิดอุปนิสัย วินัยเชิงบวกในตัวนักเรียน
  • Design thinking class เป็นการฝึกให้นักเรียน ฟังเป็น คิดเป็น ทำงานเป็น สร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovation) ได้

4.3 ระดับชั้นที่เปิดสอนของหลักสูตร ACE มีทั้งระดับอนุบาล ประถมศึกษา และ มัธยมศึกษา

4.4 ตำราแบบเรียนของหลักสูตร ACE   ตำราแบบเรียนที่ใช้ในหลักสูตร ACE  เรียกว่าแบบเรียน PACEs ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก Packet of Accelerated Christian Education เป็นแบบเรียนที่พัฒนาโดย องค์กร ACE School of Tomorrow ประเทศสหรัฐอเมริกา แบบเรียนจะแบ่งตามระดับชั้นของหลักสูตรเช่น อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และในแต่ละรายวิชาจะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 12 เล่ม (เนื้อหาในแต่ละเล่มอาจเปรียบเหมือน 1 บทเรียนนั่นเอง) นักเรียนจะต้องเรียนรู้และผ่านการทดสอบความรู้ของแต่ละเล่มก่อนจึงจะเรียนเนื้อหาในเล่มต่อไปได้

4.5 วิชาหลักตามหลักสูตร ACE ประกอบด้วย Math (คณิตศาสตร์) Science (วิทยาศาสตร์) Social Studies(สังคมศึกษา) English (ภาษาอังกฤษ) Literature and Creative Writing (วรรณกรรมและการเขียนเชิงสร้างสรรค์) Word Building (ผู้เขียนไม่แน่ใจชื่อวิชาในภาษาไทยอย่างเป็นทางการครับ แต่ถ้าแปลตรงตัวก็หมายถึงการสร้างคำ ครับ)

รูปที่ 1 ตำราแบบเรียนของหลักสูตร ACE  (PACEs)



4.6 การสอบวัดประเมินผล การเรียนแบบเรียน PACEs

  • Check Up การทดสอบย่อยก่อนการเรียนเนื้อหาส่วนถัดไป
  • Self -Test การประเมินความรู้ความเข้าใจของนักเรียนในเนื้อหาที่เรียนในบทเรียนนั้น ๆ
  • PACE -Test หลังจากนักเรียนผ่านการสอบประเมิน Self-Test ครูผู้สอน (Supervisor) ทำการประเมินผู้เรียนว่ามีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงแล้ว จะให้ผู้เรียนสอบ PACE-Test เพื่อจะได้เรียน PACE ในเล่มถัดไป

4.7 บรรยากาศและกิจกรรมในห้องเรียน จากประสบการณ์ การเยี่ยมชมโรงเรียน ห้องเรียนในครั้งนี้ มีความประทับใจในกิจกรรมในห้องเรียนมาก รู้สึกเสียดาย สมัยเด็กเราไม่มีโอกาสได้เรียนในสภาพแวดล้อมและกิจกรรมการเรียนแบบนี้ สิ่งที่จะแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้คือ ในห้องเรียนไม่ได้แยกตามระดับชั้นเรียน หรือตามอายุแต่อย่างใด ใช้ห้องเรียนรวมกันแต่ละคนมีโต๊ะเรียนพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนของตัวเอง ดังรูป

 

รูปที่ 2 โต๊ะเรียนพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนของตัวเอง



ภายในโต๊ะเรียนพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนของตัวเอง เห็นส่วนประกอบต่างๆเช่น

  • Goal Card บัตรการกำหนดเป้าหมายในการเรียนรู้ของผู้เรียนผู้เรียน โดยตกลงร่วมกันกับ Coach หรือคุณครู
  • Student Progress Chart แผนภูมิแสดงความก้าวหน้าของกิจกรรมตามเป้าหมาย Coach หรือคุณครูจะลงนามกำกับเมื่อนักเรียนรายงานความก้าวหน้าของงานและตรวจความถูกต้องแล้ว
  • Opened PACEs แบบเรียนที่นักเรียนกำลังใช้ในการเรียนรู้
  • Assignment Slip,etc ใบมอบหมายงานให้นักเรียน เป็นต้น
  • ธง สำหรับนักเรียนใช้บอกสถานะของกิจกรรม หรือแสดงการร้องขอจากคุณครู

จากการสังเกตของผมพบว่าในห้องเรียนมีคุณครูหลายท่าน คงเป็นไปตามสัดส่วนข้อกำหนดมาตรฐานจากส่วนงานกลางของ ACE สหรัฐอเมริกา ไม่มีโต๊ะนั่งสำหรับคุณครู ยืนดู และพร้อมที่จะเดินไปให้ความช่วยเหลือนักเรียนตามที่ยกธงร้องขอตลอดเวลาในช่วงเวลาเรียน และทราบว่า ผู้บริหาร เจ้าของ ครู จะต้องสอบผ่านการอบรมหลักสูตร ACE ทุกท่านจึงจะได้สิทธิในการใช้หลักสูตร ACE และส่วนงานกลางของ ACE จะมาตรวจมาตรฐานต่างๆตามข้อกำหนด รวมทั้งดูประวัติการเรียนของนักเรียนทีทางโรงเรียนจะต้องเก็บไว้อย่างเป็นระบบรายบุคคลพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุดเป็นห้องเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษ นักเรียนทุกคนจึงต้องสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในการศึกษาตามหลักสูตร ACE

ผมจึงมีความคิดว่านอกจากนักเรียนทั่วไปแล้ว นักเรียนไทย ที่กำลังศึกษาในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลเซีย หรือประเทศอื่น ๆ แล้วยังกลับไปเรียนในต่างประเทศไม่ได้ ด้วยผลกระทบจาก Covid-19 ควรหาโอกาสมาเข้าสู่ระบบการศึกษาตามหลักสูตร ACE และขณะนี้มีนักเรียนไทยจากมาเลเซียย้ายมาเรียนที่นี่แล้วจำนวนหนึ่ง ครับ (ผู้สนใจติดต่อตามรายละเอียดที่ปรากฎด้านล่างบทความนี้ได้เลยครับ)



รูปที่ 3 การเยี่ยมชมโรงเรียน




 

 

สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

ทำประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ OSHC โทร 0 7728 7111  08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

Line ID: Somnoek

 

ผู้เขียน เรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

 

ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :

https://apecthai.com

https://www.aceministries.com

http://www.gcc.go.th

https://www.en.wikipedia.org

Little Lamb School

 

 

Homestay at Chumphon

SJ WORLD EDUCATION
02 Sep 2020
Accomodation, ในประเทศ
Comments: 0

Homestay at Chumphon


1.Host Family Homestay

ครอบครัว :  สามี เป็น Pastor คริสตจักร สอน Bible  ส่วนภรรยา มีความชื่นชอบการทำอาหารทั้งอาหารไทย และอาหารต่างชาติ เธอเลี้ยงลูกชาย-หญิงรวม 3 คนซึ่งกำลัง เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษา และ ดูแลนักเรียนที่มาจากต่างจังหวัด  นักเรียนที่มาพักในครอบครัวชื่นชอบในฝีมือการทำอาหารและประทับใจในการเอาใจใส่ดูแล เพราะครอบครัวถือว่ามีภาระใจที่จะช่วยให้เด็กนักเรียน ที่มาเรียนประสบผลสำเร็จในการเรียน และเติบโตขึ้นเป็นคนดีในสังคม   สำหรับการติดต่อสื่อสารกับนักเรียน สมาชิกในครอบครัวจะใช้ทั้งภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย เพราะต้องการให้นักเรียนมีโอกาสในการฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นด้วย

2. การให้บริการ

  • เป็นตัวแทนผู้ปกครอง
  • ให้บริการที่พักห้องแอร์ พักแบบ 2-4 คน
  • บริการอาหารเช้า 1 มื้อทุกวัน (มื้อเที่ยงและมื้อเย็นรับประทานตามอัธยาศัย)
  • บริการรถ รับ-ส่งนักเรียน
  • บริการซักรีด (ยกเว้นชุดชั้นในและถุงเท้า)

3. สถานที่ตั้ง

ตั้งอยู่ในอ.ปะทิว จังหวัดชุมพร ที่พักไม่ไกลจากโรงเรียนลิตเติ้ล แลมป์

 

4.สิ่งอำนวยความสะดวก

ภายในห้องพักมีที่นอนสำหรับนอน  2 – 4 คน ตู้เย็น  โต๊ะเขียนหนังสือ  ตู้เสื้อผ้า  เครื่องปรับอากาศ    บริเวณที่พักมีบริการฟิตเนส และ สระว่าย สำหรับนักเรียนใช้บริการออกกำลังกายในวันธรรมดาหลังเลิกเรียนหรือวันหยุด




 





สนใจติดต่อ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทร.0 7728 7111 , 08 5791 9111
Email : [email protected]

ข่าวการเยี่ยมชม Little Lamb School

SJ WORLD EDUCATION
28 Aug 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
Comments: 0

ข่าวการเยี่ยมชม Little Lamb School



เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ พร้อมด้วย คุณธันยา เล้าธนะธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนลิตเติ้ลแลมบ์ (Little Lamb School) ได้รับการต้อนรับอย่างดี จากผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียน ในการแนะนำรายละเอียด หลักสูตร และ การจัดการเรียนการสอน กิจกรรมของนักเรียน สัมผัสบรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเรียนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทั้งระดับ อนุบาล ประถม และมัธยมศึกษา ตามหลักสูตร Alpha & Omega Program : AOP และ หลักสูตร Accelerated Christian Education : ACE ซึ่งเป็นหลักสูตรมาตรฐานจากอเมริกา เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจมาก เพราะเน้นหลักการเรียนการสอนตามศักยภาพ ความสามารถของผู้เรียนไม่ติดยึดกับเกณฑ์อายุ มีตำรา สื่อการสอน ที่สนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนมาตรฐานสากล ครู ผู้สอนต้องสอบผ่านการฝึกอบรมหลักการสอนตามหลักสูตรดังกล่าวมาโดยเฉพาะ บริษัท เอสเจเวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เตรียมประสานความร่วมมือ กับทางโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนที่เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ หรือ นักเรียนที่กำลังเรียนต่างประเทศแต่ต้องกลับมาประเทศไทย เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ได้มีโอกาสได้เรียนหลักสูตรมาตรฐานของอเมริกาดังกล่าว




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
ทำประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ OSHC โทร 0 7728 7111 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)
Line ID: Somnoek

ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย (Overseas Student Health Cover in Australia)

SJ WORLD EDUCATION
26 Aug 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, Services
Comments: 0

ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย

(Overseas Student Health Cover in Australia)






 

ก่อนที่จะกล่าวถึงการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย ขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการดูแลสุขภาพแก่พลเมืองของประเทศออสเตรเลียในเบื้องต้นก่อน กล่าวคือ ประเทศออสเตรเลียมีระบบการดูแลด้านสุขภาพแห่งชาติซึ่งให้การดูแลด้านสุขภาพแก่พลเมืองชาวออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือผู้ ถือวีซ่าผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร(Permanent Residency Visa)  ระบบประกันสุขภาพนี้เรียกว่า

เมดิแคร์ (Medicare) ซึ่งเป็นระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าสาธารณของออสเตรเลียนั่นเอง (Medicareไม่ครอบคลุมการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ)  โดยที่ Medicare จะให้บริการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้สำหรับคนออสเตรเลียทุกคน ซึ่งมักจะให้บริการฟรี ณ จุดให้บริการ โดยจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ โรงพยาบาล และ ค่ายา แต่ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลเอกชน ไม่ครอบคลุมทันตกรรม จักษุแพทย์  และบริการแบบเดียวกันนี้ รวมถึงไม่ครอบคลุมความช่วยเหลือด้านรถพยาบาลฉุกเฉินหรือการขนส่งมายังโรงพยาบาล

ดังนั้นการที่ Medicareไม่ครอบคลุมการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ ออสเตรเลียจึงกำหนดให้มีการประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (Overseas Student Health Cover) หรือเรียกตัวย่อว่า OSHC นั้นเอง  OSHC ถือได้ว่าเป็นการประกันสุขภาพภาคบังคับสำหรับนักเรียนต่างชาติทุกคนที่มาศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลียจะต้องทำประกันไว้เพื่อให้ความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในระหว่างพักอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ผู้ที่จะต้องทำประกันสุขภาพ OSHC ก็คือนักเรียนต่างชาติที่เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาประเทศออสเตรเลีย ซึ่งก็คือผู้ถือวีซ่านักเรียน (Student Visa)  ผู้ที่สมัครขอวีซ่านักเรียน ผู้ถือบริดจิ้งวีซ่า (Bridging Visa) ต้องได้รับความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ OSHC เนื่องจากมีข้อกำหนดจากฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (Department of Immigration and Citizenship) กำหนดว่า นักเรียนจะต้องมีประกันสุขภาพ OSHC ตลอดช่วงเวลาที่พักอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและถ้ามีการขยายระยะเวลาการพักอาศัยในออสเตรเลียออกไปเช่น กรณีลงทะเบียนเรียนเพิ่มนักเรียนก็จะต้องทำประกันสุขภาพ OSHC คุ้มครองตามช่วงเวลาที่ขยายนั้นเช่นกัน

และกรณีที่ผู้ถือวีซ่านักเรียนมีสามี หรือภรรยา หรือคู่ครอง บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาอาศัยในออสเตรเลียจะต้องได้รับความคุมครองด้วย  เหตุผลความจำเป็นที่นักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาในประเทศออสเตรเลียต้องทำประกันสุขภาพ OSHC พอจะสรุปได้ดังนี้

  1. เงื่อนไขข้อกำหนดการยื่นขอวีซ่า เนื่องจาก Department of Immigration กำหนดว่าผู้ถือว่านักเรียนต่างชาติผู้ถือวีซ่าทุกคนต้องคงไว้ซึ่งประกันสุขภาพ OSHC ขณะอยู่ในประเทศออสเตรเลีย (เงื่อนไข 8501 Maintain Health Insurance) ทั้งนี้หากไม่คงไว้ซึ่ง OSHC ก็จะถูกยกเลิกวีซ่า นั่นเอง
  2. เพื่อความมั่นใจในหลักประกันสุขภาพ ตามที่ได้กล่าวแล้ว นักศึกษาต่างชาติไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการใช้บริการตามหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสาธารณของออสเตรเลีย หรือ Medicare  แต่การรักษาพยาบาลมีราคาสูงอาจมีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของนักเรียนต่างชาติเองด้วยเพราะในบางกรณีการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง 600 -1,500 AUD ต่อวัน ดังนั้น OSHC จึงถูกนำมาใช้เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่านักเรียนต่างชาติได้มีการเตรียมการในการดูแลสุขภาพให้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพไม่มีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ในระหว่างที่อยู่ในออสเตรเลีย

บริษัทที่ให้บริการประกันสุขภาพ OSHC ในประเทศออสเตรเลีย

เช่น Allianz Global Assistance , BUPA Australia, Medibank Private , nib OSHC และยังมีผู้ให้บริการรายอื่น เป็นต้น

สำหรับประเภทของประกันสุขภาพที่มีให้บริการพอจะแบ่งได้ดังนี้

1.แบบ Single Cover (กรมธรรม์เดี่ยว) คุ้มครองเฉพาะนักศึกษาต่างประเทศเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลียโดยที่ไม่มีผู้ติดตาม

2.แบบ Couple Cover (กรมธรรม์ครอบครัวคู่) ครอบคลุมนักศึกษาต่างประเทศ และอีกหนึ่งคนจากคนหนึ่งคนใดต่อไปนี้ ได้แก่ คู่สมรส หรือ คู่ครองโดยพฤตินัย (ยังไม่มีการจดทะเบียนสมรส) หรือบุตรหนึ่งคนหรือหลายคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงเหมาะสำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียนที่มีคู่ครองติดตามมาด้วย

3.แบบ Family Cover (กรมธรรม์ครอบครัวหลายคน) ครอบคลุมนักศึกษาต่างประเทศและผู้อยู่ในความอุปถัมภ์มากกว่า หนึ่งคน ซึ่งอาจรวมถึง คู่สมรสหนึ่งคน หรือคู่ครองโดยพฤตินัย (ยังไม่มีการจดทะเบียนสมรส) และ บุตรหนึ่งคนหรือหลายคนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ แบบนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียน โดยมีครอบครัว ประกอบด้วยคู่ครองและบุตรติดตามมาด้วย

ความคุ้มครองของประกันสุขภาพ OSHC

OSHC สมทบค่ารักษาพยาบาลแก่นักเรียนต่างชาติที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย ในลักษณะเดียวกันกับประกันสุขภาพถ้วนหน้าสาธารณของออสเตรเลีย หรือ Medicare ซึ่งช่วยค่ารักษาพยาบาลแก่ชาวออสเตรเลีย แต่นอกจากนั้น OSHC ยังรวมถึงการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง และการผ่าตัดแบบไม่พักค้างคืน คุ้มครองค่ารถพยาบาลฉุกเฉินและให้ผลประโยชน์ค่ายาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์ด้วย

โดยสรุปก็คือ OSHC เป็นการประกันสุขภาพที่ช่วยชำระค่ารักษาและค่าโรงพยาบาลขณะที่นักเรียนต่างชาติอยู่ในออสเตรเลียโดยรวมถึงการรักษาโดยแพทย์ใกล้บ้านที่เรียกว่าแพทย์ทั่วไป (GP) การรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางนอกโรงพยาบาล การรักษาทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล ยาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์ และความช่วยเหลือด้านรถพยาบาลฉุกเฉิน ที่กล่าวมาข้างต้นคงจะพอเข้าใจได้แล้วว่าทำไมต้องมีประกันสุขภาพOSHC  อย่างไรก็ตามการประกันสุขภาพ OSHC ก็จะมีรายการยกเว้นความคุ้มครองที่ควรศึกษาทำความเข้าใจด้วยเหมือนกัน

ข้อยกเว้นความคุ้มครองของประกันสุขภาพ OSHC

ขอยกตัวอย่างรายการข้อยกเว้นความคุ้มครองบางส่วนที่อาจเจอระบุไว้ในเอกสาร กรมธรรม์ หรือคู่มือสมาชิกของแต่ละบริษัทผู้ให้บริการประกันสุขภาพ OSHC เช่น ค่าบริการทันตกรรม ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสายตา ค่าบริการนักกายภาพบำบัด นักบำบัดโรคกระดูก นักบำบัดโรคด้วยการจับกระดูกสันหลัง การรักษาโรคโดยไม่ใช้ยาหรือบริการเสริมอื่น ๆ ค่าผ่าตัดเพื่อความงามทางเลือก ค่าใช้จ่ายร่วม (Co-payment) และ/หรือ เงินส่วนต่าง (Gap payment) โปรแกรมช่วยสืบพันธุ์  ค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ในช่วง 12 เดือนแรกที่นักเรียนเดินทางมาถึงออสเตรเลีย ความเจ็บป่วยที่มีมาก่อนที่เกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนแรก ค่ายาที่ไม่ได้สั่งจ่ายโดยแพทย์ หรือไม่นาวมอยู่ในตาราง แบบแผนผลประโยชน์ทางเภสัชภัณฑ์ (PBS) และ ค่าบริการทางการแพทย์หรือโนงพยาบาลจากเหตุการณ์ใด ๆ ที่ระบุอยู่ในรายการยกเว้นทั่วไป (General Exclusion)

รายละเอียดความคุ้มครองและข้อยกเว้นความคุ้มครองผู้สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมจากเอกสาร คู่มือ กรมธรรม์ หรือ Website ของผู้ให้บริการได้ในบทความนี้เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

ทำประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ OSHC โทร 0 7728 7111  08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

 Line ID: Somnoek



ผู้เขียน เรียบเรียง

สมนึก ชูสุวรรณ

ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง

น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง

วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์



ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :

https://www.vfsglobal.com

https://www.studyinaustralia.gov.au

https://allianzassistancehealth.com.au/th/

 

 

สอบ GED โอกาส ทางเลือก สำหรับการสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษามัธยมปลาย (ตอนที่ 1)

SJ WORLD EDUCATION
20 Aug 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้
Comments: 0

สอบ GED โอกาส ทางเลือก สำหรับการสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษามัธยมปลาย (ตอนที่ 1)




หลายปีต่อเนื่องที่ผมมีโอกาสได้แนะแนวการศึกษา สมัครเรียน และติดตามประสานงานระหว่างเรียนให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา (High School) ยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่โรงเรียนที่รับนักเรียนต่างชาติจะใช้หลักสูตร IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) เป็นมาตรฐานหลักสูตรจากประเทศอังกฤษ นักเรียนไทยที่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 สมัครเข้าเรียน มัธยมศึกษา (High School) ของโรงเรียนในมาเลเซีย ซึ่งหลักสูตร ระดับมัธยมต้น ระยะเวลาเรียน 3 ปี (Junior 1-3) และ ระดับมัธยมปลาย ระยะเวลาเรียน 2 ปี (Senior 1-2) จากนั้นจะมีการสอบ O-Level เมื่อได้รับ Certificate O-Level แล้ว นักเรียนก็มีทางเลือกในการใช้วุฒิ O-Level ไปเรียนต่อ A-Level หรือ เรียน Pre-University Programme ก่อนสมัครเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย หรือ อีกกรณีหนึ่ง อาจใช้วุฒิ O-Level สมัครเรียนระดับอนุปริญญา (Diploma) ระยะเวลาเรียน 1-2 ปี เมื่อจบอนุปริญญาแล้วถ้าประสงค์จะเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยก็สมัครเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยปีที่ 2 ของหลักสูตรปริญญาตรี (ในต่างประเทศ ระดับปริญญาตรี เรียน 3 ปี ยกเว้นสาขาเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น แพทย์ เภสัช ทันตแพทย์ เป็นต้น ที่ต้องใช้เวลาเรียนมากกว่า 3 ปี)

อย่างไรก็ตามจากการติดตามพบว่า นักเรียนไทยที่ไปเรียนมัธยมศึกษาที่ประเทศมาเลเซีย ระยะหนึ่งประมาณเฉลี่ย 3-4 ปี จะไม่ค่อยเรียนต่อที่มาเลเซีย แต่จะกลับไทยเพื่อเตรียมตัวสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษามัธยมปลาย ทั้งนี้นักเรียนอาจจะคิดว่า มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว ทักษะความรู้ด้านภาษาอังกฤษสื่อสารเข้าใจพอสมควรแล้ว รวมทั้งต้องการประหยัดเวลา เพราะนักเรียนบางรายก่อนเข้าเรียนชั้นเรียนปกติในมาเลเซียต้องใช้เวลาในการเรียนปรับพื้นฐานไประยะเวลาหนึ่งแล้วด้วยต้องการจะให้จบหลักสูตรมัธยมปลาย พร้อม กับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เรียนอยู่ในเมืองไทยต่อเนื่อง และประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งค่าเรียนและค่าครองชีพที่อยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ยังรวมถึงกรณีอื่น ๆ เช่น นักเรียนที่ร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (Exchange Program) ไปต่างประเทศตอน เรียน ม.5 พอกลับมาต้องการจะได้วุฒิ ม.6 พร้อมกับเพื่อนในรุ่นเดียวกันก็สอบ เทียบ เพื่อจะเตรียมตัวทันกับการเข้ามหาวิทยลัย ,นักเรียนที่จบ High School จากต่างประเทศบางรายที่เทียบวุฒิตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้เช่น รายวิชาหรือหน่วยกิตไม่ครบ หรือแม้แต่จบจากโรงเรียนนานาชาติในไทยเองที่ทางกระทรวงศึกษาธิการยังไม่รับรองคุณวุฒิ และนักเรียนบางรายต้องการจะเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยก่อนเพื่อนในรุ่นเดียวกันเพราะว่าการสอบเทียบ ม.ปลาย ได้แล้ว ถ้าต้องการจะสอบเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยหลักสูตรที่เป็นภาษาไทย ก็มีสิทธิสอบข้อสอบต่างๆได้เช่น GAT/PAT/ข้อสอบ admission ต่างๆ (ปกติให้สิทธิแก่นักเรียน ม.6 เท่านั้น)

การสอบเทียบที่กล่าวถึงและเป็นที่นิยมนี้คือการสอบ GED ดังนั้นบทความนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดการสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษามัธยมปลาย GED ตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา ดังนี้
1.ความหมายของการสอบ GED
GED ย่อมาจาก General Educational Development หมายถึง การสอบเทียบเท่าวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย
(ม.6) ของไทย ตามหลักสูตรการศึกษาของสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือนักเรียนที่สอบผ่าน GED จะมีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่ากับนักเรียนที่เรียนจบ ม.6 ในระบบการศึกษาของไทย ดังนั้นมีสิทธิสมัครเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้หลายสถาบัน หลายประเทศ รวมถึงสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ด้วย

2.ความเหมาะสมและคุณสมบัติ ของผู้เข้าสอบ GED
2.1 เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการมีวุฒิการศึกษา ม.ปลายไปใช้สมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยไม่ต้องรอให้จบการศึกษาระดับ ม.ปลาย ตามหลักสูตรปกติ
2.2 นักเรียนอายุ 18 ปี บริบูรณ์ นับตาม วัน เดือน ปี เกิด จึงจะสามารถเข้าสอบได้
2.3 กรณีนักเรียนอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปแต่ ไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ นับตาม วัน เดือน ปี เกิด สามารถเข้าสอบได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองโดยต้องทำเป็นหนังสือยินยอม (Consent Form) สามารถ Download ได้ที่ www.ged.com ผู้ปกครอง และ นักเรียน กรอกรายละเอียดแบบฟอร์ม แล้วส่งเป็นไฟล์ PDF ส่งไปถึง GED testing service
(E-Mail:[email protected]) การดำเนินการเกี่ยว กับ Consent Form ทาง GED testing service จะใช้เวลา ประมาณ 2 วัน หลังจากนั้นผู้เข้าสอบจึงสามารถจัดการเกี่ยวกับตารางการสอบ GED ได้

3.วิชา และ เกณฑ์การสอบผ่านของการสอบ GED
3.1 วิชาที่สอบประกอบด้วย 4 วิชา แต่ละวิชาจำกัดเวลาไม่เท่ากัน คือ Reasoning Through Language Arts: RLA (ภาษาอังกฤษ) 150 นาที Science (วิทยาศาสตร์) 90 นาที Social Studies (สังคมศาสตร์) 70 นาที และ Mathematics Reasoning (คณิตศาสตร์) 115 นาที ข้อสอบแต่ละวิชา ประมาณ 30-50 คำถาม เป็นข้อสอบแบบปรนัย (ตัวเลือกตอบ) เป็นส่วนใหญ่ แต่วิชา Reasoning Through Language Arts :RLA จะมีในส่วนของการเขียน Essay ด้วย
3.2 เกณฑ์การสอบผ่าน ในแต่ละรายวิชาจะมีคะแนนเต็ม 200 คะแนน สำหรับเกณฑ์การสอบผ่านแต่ละวิชา อยู่ที่ 145 คะแนน นักเรียน ผู้เข้าสอบจะต้องทำคะแนนสอบผ่านทั้ง 4 วิชาจึงจะได้รับวุฒิการศึกษาจาก GED Testing Services และเมื่อสอบผ่านแล้วต้องรอประมาณ 2 อาทิตย์ จึง
จะได้รับเอกสาร E-Diploma และ E-Transcript จาก GED Testing Services ซึ่งส่งมาทาง E-Mail
เพราะปัจจุบันทาง GED Testing Services ไม่ได้ส่งในรูปแบบPaper (Paper Diploma, Paper Transcript) หากต้องการในรูปแบบของ Paper ก็สามารถส่งคำขอ (Order) ได้หลังสอบผ่านแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ และได้รับติดต่อจากทาง E-Mail จาก GED Testing Services เช่นกัน แต่กรณีนี้ต้องจ่ายค่าเอกสาร GED Paper Diploma, Paper Transcript ใบละ 15 USD และ ค่าบริการส่งเอกสาร ซึ่งมี 2 ทางเลือก คือกรณีคือ บริการของ United State Postal Service : USPS การจัดส่งเฉพาะภายในสหรัฐอเมริกา และ บริการของ FedEx ระยะเวลาส่งเอกสารถึงปลายทางประมาณ 5 วันไม่นับรวมวันอาทิตย์ ค่าบริการ ใบละ 40 USD

4.การสมัครสอบและสถานที่สอบ GED
4.1 การสมัครสอบสามารถสมัครได้ที่ Website: www.ged.com เพื่อทำการสร้าง Account ใส่ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ให้ถูกต้องตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือเดินทาง (Passport)ซึ่งต้องใช้แสดงตัวในวันสอบ ขั้นตอนถัดมาก็ทำการจัดการตารางสอบ ในการเลือกสถานที่สอบต้องเลือกที่ Other Countries และเลือก International สำหรับค่าใช้จ่ายในการสอบประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือค่าสอบคิดเป็นรายวิชาที่สอบ วิชาละ 75 USD และ ค่าเอกสาร GED Diploma, Transcript ใบละ 15 USD
4.2 สถานที่สอบ GED ในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งในกรุงเทพฯ 2 แห่ง และต่างจังหวัด 3 แห่ง รายละเอียดดังนี้

  • กรุงเทพฯ : Paradigm ชั้น 2 อาคารอัลม่าลิงค์ ชิดลม กทม.(โทร.092 063 5599) และ Pearson Professional Centers ใน BB Building ชั้น 10 ถนนอโศกมนตรี ซอยสุขุมวิท 21กทม. (โทร.02 664 3563)
  • ต่างจังหวัด : Movaci Technology เลขที่ 420/11-13 ถนนช้างคลาน อ.เมือง
    จ.เชียงใหม่ (โทร.053 920 555) ,Thabyay Education อ.แม่สอด จ.ตาก
    (โทร.055 534731) และ Phuket Academic Language School เลขที่ 66/19
    ถนนวิจิตรสงคราม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต (โทร.081 417 0978)

5.ระบบการสอบ GED
มาถึงขั้นตอนนี้ หลายท่านอาจอยากจะทราบว่าระบบการสอบเป็นอย่างไร เท่าทีมีโอกาส
ได้พูดคุยกับผู้เข้าสอบและค้นหาข้อมูลข่าวสารการสอบพอสรุปได้ว่า ระบบการสอบ GED ค่อนข้างมีความยืดหยุ่น แต่ผู้สอบควรมีการเตรียมตัวก่อนการสอบ อาจจะศึกษาด้วยตนเองจากตำราการเตรียมสอบ GED หรือ การเตรียมตัวด้วยการเรียนกับสถาบันกวดวิชาเพื่อการสอบ GED ซึ่งมีเปิดสอนจำนวนมากในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดที่มีศูนย์สอบ GED ตั้งอยู่ทราบว่ามีการสอนเพื่อเตรียมตัวสอบ GED เช่นกัน แต่เท่าที่ทราบนักเรียนนิยมเรียนที่ กรุงเทพฯอาจเป็นเพราะมีสถาบันให้เลือก และบางสถาบันมีชื่อเสียง ผลงานเป็นที่ยอมรับ ส่วนความยืดหยุ่นของการสอบ GED เช่น ผู้สอบสามารถจัดการวิชาสอบของตนเองได้ อาจจะสอบครั้งละ 1 วิชา หรือสอบครั้งเดียวทั้ง 4 วิชาก็ได้ นอกจากนั้นการสอบซ่อมในกรณีที่สอบไม่ผ่านวิชาใด หรือแม้แต่สอบผ่านแล้วแต่ต้องการสอบใหม่เพื่อให้ได้คะแนนมากกว่าเดิมก็สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ถ้าเป็นการสอบครั้งที่ 2 และ 3 ในแต่ละวิชา ผู้สอบสามารลงทะเบียนสอบได้เลย ยกเว้นกรณีสอบครั้งที่ 4 เป็นต้นไป มีเงื่อนไขคือต้องเว้นระยะห่างจากการสอบครั้งที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 60 วัน ทั้งนี้ผู้สอบจะได้ประเมินและเตรียมความพร้อมของตนเอง ครับ

6.การให้การยอมรับการสอบเทียบ GED ในประเทศไทย
ประเทศไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศ เรื่อง การเทียบวุฒิการศึกษาต่างประเทศ ฉบับ ลงวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2558 ใจความสำคัญสรุปได้ว่า ผู้ที่สอบได้รับประกาศนียบัตร High School Equivalency Credential ที่ดำเนินการในนามของ Government of the District of District of Columbia (Washington D.C.) ให้เท่ากับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ม.6) โดยไม่ต้องขอเทียบวุฒิการศึกษาเป็นรายบุคคล (เดิมต้องยื่นขอรับรองวุฒิต่อกระทรวงศึกษาพิจารณาเป็นรายบุคคล)

สอบ GED โอกาส ทางเลือก สำหรับการสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษามัธยมปลาย ที่กล่าวมาข้างต้น คิดว่าสาระสำคัญครอบคลุมพอจะเป็นแนวทางสำหรับนักเรียนที่สนใจสอบ GED เพื่อประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายระหว่างการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือเพื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ยังไม่ได้กล่าวถึงในตอนที่ 1 นี้ ผู้เขียนจะเรียบเรียงให้ในตอนต่อไป ครับ

สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek
 

ผู้เขียน เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :

  • นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้ใช้บริการสมัครเรียน ติดตามประสานงาน
    ระหว่างเรียนมาเลเซีย ของ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
  • กระทรวงศึกษาธิการ,ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
    เรื่องการเทียบวุฒิการศึกษาต่างประเทศ ลว.5 มิถุนายน 2558
  • GED Testing Services, www.ged.com

นักเรียนไทย กับ การเดินทางกลับสู่ชั้นเรียนมาเลเซีย หลังสถานการณ์ Covid-19 ผ่อนคลาย

SJ WORLD EDUCATION
18 Aug 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้
Comments: 0

นักเรียนไทย กับ การเดินทางกลับสู่ชั้นเรียนมาเลเซีย หลังสถานการณ์ Covid-19 ผ่อนคลาย



ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ทำให้นักเรียนไม่สามารถเข้าชั้นเรียนตามปกติได้ เพราะโรงเรียน สถาบันการศึกษา นับเป็นสถานที่อันดับต้นๆที่ถูกประกาศให้ปิดทำการ นักเรียนต่างชาติก็ต้องเดินทางกลับประเทศของตนเอง เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันให้ปลอดจากการติดเชื้อ Covid-19 รวมทั้งการประหยัดค่าใช้จ่าย และได้กลับมาอยู่ในความดูแลของครอบครัวอย่างใกล้ชิด ดังนั้น นักเรียนไทยที่กำลังศึกษาในประเทศมาเลเซียก็ได้เดินทางกลับไทย ตามกำหนดก่อนการประกาศใช้มาตรการควบคุมการเดินทางของประเทศมาเลเซีย (Malaysia Movement Control Order :MCO) ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 และหลังจากนั้นประเทศมาเลเซีย และ ประเทศไทย ก็ใช้มาตรการปิดประเทศ (Lockdown) การปิดด่านตรวจคนเข้าเมือง ไทย-มาเลเซีย ทำให้ไม่สามารเดินทางเข้าออกประเทศได้ เว้นแต่การเดินทางกลับจากมาเลเซียมายังประเทศไทยตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการไทยซึ่งต้องมีการกักตัวตามที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) เป็นต้น
ช่วงเวลาที่นักเรียนกลับมาไทย ทางโรงเรียนก็จัดให้มีการเรียนการสอนผ่านทางระบบออนไลน์ แทนการเรียนในชั้นเรียนปกติ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างไรก็ตามแม้การเรียนผ่านทางระบบออนไลน์จะปลอดภัยจากโรค Covid-19 เพราะนักเรียน ครู ไม่ต้องไปรวมตัวกันที่ โรงเรียน แต่ได้รับเสียงสะท้อนจากนักเรียน ผู้ปกครอง หรือแม้แต่จากโรงเรียน ว่าการเรียนการสอนทางออนไลน์ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพอันเกิดจากความไม่พร้อม ทั้งที่เกิดจาก นักเรียน ผู้ปกครอง และโรงเรียน เช่น นักเรียนไม่สามารถมีส่วนร่วมในห้องเรียน ผู้ปกครองไม่มีเวลา ในการเข้มงวดติดตามบุตร หลานของตนเองในการเข้าเรียนในระบบออนไลน์ การส่งการบ้าน เป็นต้น รวมทั้งทางโรงเรียนเอง ก็ไม่ค่อยมีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์ ระบบการสอนทางออนไลน์ ทักษะการสอนทางออนไลน์ ความรับผิดชอบของครูที่มีต่อนักเรียนที่อยู่ห่างไกลกันเป็นต้น
ดังนั้นหลายท่านคงรอคอย การกลับสู่ชั้นเรียนมาเลเซีย หลังสถานการณ์ Covid-19 ผ่อนคลาย
สำหรับการเดินทางกลับสู่ชั้นเรียนมาเลเซีย หลังสถานการณ์ Covid-19 ผ่อนคลาย จากการติดตามข้อมูลจากโรงเรียน ในมาเลเซียทำให้ทราบว่า เดือน สิงหาคม 2020 นี้นักเรียนที่ได้รับอนุมัติวีซ่าอยู่เดิมแล้วและวีซ่ายังไม่หมดอายุสามารถขออนุญาตเดินทางกลับไปเรียนยังชั้นเรียน โรงเรียนที่เคยเรียนอยู่เดิมได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียน และผลการพิจารณาอนุมัติของ Immigration ของ ประเทศมาเลเซีย รวมทั้งความพร้อมของนักเรียนควรสามารถดูแลตัวองได้ด้วย ถ้าอายุต่ำกว่า 16 ปี ก็อาจต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางโรงเรียนด้วยว่าสามารถขออนุญาตได้ไหม หรือต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติมของผู้ปกครองด้วยไหม (ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะเปิดเฉพาะ การเดินทางโดยสายการบินเท่านั้น ข้อมูล ณ สิงหาคม 2020)

ขั้นตอนการขออนุญาตเดินทางกลับไปเรียนต่อประเทศมาเลเซีย มีดังนี้

ก่อนเดินทาง
1.นักเรียนมีวีซ่า (ไม่หมดอายุ) ประสงค์จะกลับไปเข้าชั้นเรียนที่โรงเรียนประเทศมาเลเซีย
2.แจ้งความประสงค์ยืนยันการกลับไปเรียนกับโรงเรียนทางอีเมล เพื่อทางโรงเรียนดำเนินการขอหนังสืออนุญาตจาก immigration มาเลเซีย
3.นักเรียนรอการแจ้งผลการอนุมัติจาก immigration มาเลเซีย โดยโรงเรียนจะส่งผลมาให้ทางอีเมล
4.นักเรียนเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขออนุญาตเดินทางกับสถานทูตมาเลเซีในประเทศไทยดังนี้
-หนังสืออนุญาตจาก Immigration
-กรอกแบบฟอร์มยินยอมชำระค่าใช้จ่ายในการกักตัว (Letter of undertaking and Indemnity: LoU)
-สำเนาหนังสือเดินทาง (passport)
-สำเนาหน้าวีซ่านักเรียน (student pass)

หมายเหตุ แบบฟอร์ม LoU สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.kln.gov.my

5.เมื่อจัดเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว สแกนเอกสารต่าง ๆ เป็นไฟล์ PDF และ ส่งให้สถานทูตมาเลเซียในประเทศไทยทางอีเมลที่ [email protected]
6.รอสถานทูตพิจารณาและออกเอกสาร Notice of Travel Letter (ใช้เวลาประมาณ 3 วันทำการ)
7.หลังจากได้รับเอกสาร Notice of Travel Letter แล้วสามารถเตรียมตัวเดินทางได้โดย
7.1ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น MySejahtera ทาง Google Playstore หรือ Apple Appstore พร้อมกรอกข้อมูลลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง
7.2เตรียมเอกสารสำหรับการเดินทาง
-ใบอนุญาตจาก immigration
-Letter of undertaking and Indemnity
-Notice of Travel Letter
-Passport
– ตั๋วเครื่องบิน

ขั้นตอนเมื่อเดินทางถึงประเทศมาเลเซีย

1.เมื่อเดินทางถึงสนามบินประเทศมาเลเซีย (KLIA/KLIA2) จะมีเจ้าหน้าที่รอรับที่ประตู จัดระเบียบให้ผู้เดินทางไปที่เค้าเตอร์สแกน QR code แอพลิเคชั่น MySejahtera เพื่อกรอกข้อมูลประวัติการเดินทางเข้า-ออกประเทศมาเลเซีย
2.เข้ารับการตรวจสุขภาพและการตรวจหาโควิด-19 (ผลการตรวจจะส่งไปให้ที่โรงแรมประมาณ 1 – 2 วัน)
3.ชำระค่าตรวจสุขภาพ (ชาวต่างชาติ 250 RM)
4.ลงทะเบียนเข้ารับการกักตัวที่เค้าเตอร์ลงทะเบียนโดยแสดงเอกสาร LoU และหนังสืออนุมัติจากสถานทูต
5.จากนั้นเดินไปยังเค้าเตอร์ immigration เพื่อประทับตราเข้าประเทศมาเลเซีย (แสดงเอกสารที่เตรียมมาด้วย)
6.รับกระเป๋าเดินทางที่จุดรับกระเป๋า โดยเจ้าหน้าที่จะจัดให้เข้าไปรับได้ครั้งละไม่เกิน 20 คน
7.นำกระเป๋าเดินออกมาด้านนอกเพื่อให้เจ้าหน้าที่พ่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ
8.รับกระเป๋าและขึ้นรถบัสเดินทางไปยังที่กักตัว (ค่าใช้จ่ายในการกักตัว 150RM / วัน)




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek



ผู้เขียน เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ธันยา เล้าธนะธรรม
ศ.ศ.บ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี

 

ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :
Ministry of Foreign Affairs Malaysia: www.kln.gov.my
Westlake International School
Poilam High School

บริการสมัครเรียนและติดตามผลดูแลนักเรียน

SJ WORLD EDUCATION
29 Jun 2020
Video
Comments: 0

บริการสมัครเรียนและติดตามผลดูแลนักเรียน






สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek

เตรียมทักษะภาษาอังกฤษห้องเรียนออนไลน์ ทางเลือกใหม่ ก่อนเข้าชั้นเรียนมัธยม มาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
26 Jun 2020
[หน้าแรก] หลักสูตร, Malaysia, คอร์สและโครงการ, ทั่วไป, หลักสูตรและโครงการ
Comments: 0

เตรียมทักษะภาษาอังกฤษห้องเรียนออนไลน์ ทางเลือกใหม่ ก่อนเข้าชั้นเรียนมัธยม มาเลเซีย

สถานการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาด Covid – 19 ในประเทศไทยคลี่คลายมาตามลำดับมีการ ปลดล็อคการเดินทาง กิจกรรม และ ธุรกิจต่างๆ มากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางระหว่างประเทศคงต้องรอการปลด Lockdown ของทั้งประเทศไทยเอง และต่างประเทศอีกระยะหนึ่ง ในช่วงที่รอเวลาดังกล่าวเป็นโอกาสที่นักเรียนซึ่งมีเป้าหมายในการเรียนต่างประเทศ โดยเฉพาะนักเรียนที่จะศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) ประเทศมาเลเซีย ช่วงเวลาว่างกว่าจะถึงกำหนดการเปิดภาคเรียน ในเดือนกันยายนปีนี้หรือเดือน มกราคม ของปีถัดไป

นอกจากนักเรียนจะสามารถสมัครสอบวัดระดับความรู้ (Placement Test) ทางระบบออนไลน์ ซึ่งมีความสะดวก และปลอดภัย แล้ว การเตรียมความพร้อมด้านทักษะภาษาอังกฤษห้องเรียนออนไลน์ นับว่าเป็นทางเลือกใหม่ ก่อนเข้าชั้นเรียนมัธยม มาเลเซีย เพราะถ้าพื้นฐานภาษาอังกฤษดี การเรียนต่างประเทศจะปรับตัว เรียนรู้ ได้อย่างรวดเร็ว จึงขอแนะนำรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

English Course Online หรือ คอร์สภาษาอังกฤษออนไลน์ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างบริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด กับ สถาบันสอนภาษาที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ที่ กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย มีระบบการเรียนการสอน มาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลีย สอนโดยอาจารย์จากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก (Native English Speaker) โดยหลักสูตร ภาษาอังกฤษทั่วไป (General English) สถาบัน English Language Company : ELC  โดยมีระยะเวลาเรียน เริ่มต้นที่ 4 สัปดาห์ (30 ชั่วโมง)  เหมาะสำหรับรับนักเรียน อายุ 11 ปีขึ้นไป ที่ต้องการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ  เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียนและยังไม่สามารถเดินทางไปเรียนต่างประเทศได้ เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาด Covid 19

ประโยชน์และสิ่งที่นักเรียนจะได้รับ เช่น เรียนภาษาอังกฤษมาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลียเรียนกับครูเจ้าของภาษาโดยแท้จริง (Native English Speaker)เรียนทางระบบออนไลน์ปลอดภัยจากการติดโรคระบาด สามารถเริ่มเรียนได้ทุกสัปดาห์ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษก่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศฝึกความมั่นใจให้กับนักเรียนในด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ

หมายเหตุ   กรุ๊ปออนไลน์ เริ่มต้นที่ 4 คน



 




Your browser does not support the video tag.



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 77 28 7111 , 08 5791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

 

 

ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ผลกระทบจาก Covid-19 กับการศึกษาต่างประเทศ

SJ WORLD EDUCATION
23 May 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, Video, ข่าวประชาสัมพันธ์, บทความน่ารู้
Comments: 0

ผลกระทบจาก Covid-19 กับการศึกษาต่างประเทศ

การช่วยเหลือเบื้องต้น และ การเตรียมการล่วงหน้าเพื่อเข้าเรียนเมื่อสถานการณ์ผ่อนคลาย

ช่วงเวลาที่ทุกท่านได้รับผลกระทบจากโรคระบาด Covid-19 ซึ่งเราต้องให้ความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดโดยการสวมหน้ากากอนามัย (Mask) การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) และการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ รวมทั้งการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และตามประกาศปิดพื้นที่ (Lockdown) ตามที่ทางราชการประกาศบังคับใช้ ซึ่งเป็นการรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ผมขอเป็นกำลังใจกับทุกท่านและเราจะสู้ไปด้วยกันให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้

ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีผลต่อประเทศต่างๆทั่วโลก ทุกภาคส่วนของธุรกิจและกิจกรรม ไม่เว้นแม้แต่ด้านการศึกษา ทั้งการศึกษาในประเทศ และการศึกษาต่างประเทศ นั่นคือสถาบันการศึกษาต้องปิดทำการ หยุดการเรียนการสอนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์การแพร่กระจายของ Covid-19 จะคลี่คลาย แต่การเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ ก็ถูกนำมาใช้เพื่อชดเชยที่ไม่สามารถเข้าชั้นเรียนปกติได้นั่นเอง   การช่วยเหลือ และการเตรียมการล่วงหน้าเมื่อสถานการณ์ผ่อนคลาย คือประเด็นที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ เพื่อให้ นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้สนใจเกี่ยวกับการศึกษาต่างประเทศ ได้ทราบเป็นข้อมูล โดยผมขอใช้ประสบการณ์ตรงที่เป็นผู้ติดตาม ดูแล ประสานงาน ให้กลุ่มนักเรียนไทย ที่กำลังศึกษาในประเทศมาเลเซีย และ ประเทศออสเตรเลีย เป็นหลัก โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็นดังนี้

1.ช่วงเวลาตั้งแต่ กลางเดือน มีนาคม 2563 ถึง พฤษภาคม 2563 ประมาณสองเดือนเศษ ได้มีโอกาสติดตามประสานงานความร่วมมือเพื่อให้นักเรียนไทยที่กำลังศึกษาในประเทศมาเลเซียเดินทางกลับไทยทันตามกำหนดก่อนการประกาศใช้มาตรการควบคุมการเดินทางของประเทศมาเลเซีย (Malaysia Movement Control Order :MCO) ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 และหลังจากนั้นประเทศมาเลเซียก็ใช้มาตรการปิดประเทศ (Lockdown) รวมถึง ประเทศไทยก็ประกาศปิดด่านไทย-มาเลเซีย อีกด้วย นักเรียนไทยที่ผู้ปกครองมอบหมายให้ผมดูแลสามารถเดินทางกลับไทยเกือบ 100 % บางรายเท่านั้นที่สมัครใจอยู่ต่อในมาเลเซียเนื่องจากมีเครือญาติอยู่ในประเทศมาเลเซีย นอกจากนั้นผมมีโอกาสประชุมผ่านระบบทางไกล (Teleconference) กับทางโรงเรียนในมาเลเซียเพื่อรับรู้ข่าวสารต่างๆที่เป็นประโยชน์สำหรับให้คำปรึกษาแก่นักเรียน เช่น สถานการณ์ Covid-19 , การปิดประเทศ (Lockdown) การจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดส่งตารางการเรียนออนไลน์มาเป็นระยะ เพื่อให้ผมและทีมงานได้ประสานงานติดตาม หรือร่วมแนะนำการแก้ปัญหาทางด้านเทคนิคในการเข้าใช้เครือข่ายออนไลน์แก่นักเรียนที่เดินทางกลับมาไทยไม่ให้เสียโอกาสทางการเรียน และท่านผู้ปกครองซึ่งใกล้ชิดนักเรียนก็ร่วมมือติดตามการเรียนออนไลน์ของบุตรหลานอีกด้วย สำหรับนักเรียนใหม่ที่ลงทะเบียนเรียนไว้แล้วก็ได้เรียนผ่านระบบออนไลน์ด้วยจนกว่าโรงเรียนจะเปิดทำการปกติก็จะได้เข้าชั้นเรียนในโอกาสต่อไป
ในส่วนของนักเรียนไทยในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผมและทีมงานได้รับความไว้วางใจจากนักเรียน ผู้ปกครองให้ติดตามดูแล จึงได้รับเชิญจากสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเข้าร่วมประชุมทางไกล (Webinar) เกี่ยวกับสถานการณ์ ผลกระทบ จากการแพร่ระบบาดของ Covid-19 ในประเทศออสเตรเลียและการช่วยเหลือจากหน่วยงานของออสเตรเลีย และไทย แก่นักเรียนไทย ทั้งในเรื่องการดูแลสุขภาพ การขอรับความช่วยเหลือด้านต่างๆการลงทะเบียนเพื่อแจ้งความประสงค์เดินทางกลับไทยเที่ยวบินพิเศษที่ทางสถานทูตไทยจัดเตรียมอำนวยความสะดวก เป็นต้น ทั้งนี้ทางสถานทูต ออสเตรเลียส่งข่าวสารเป็นปัจจุบันมาเป็นระยะ ทำให้ผมสามารถส่งต่อข่าวสารถึงนักเรียนไทยในออสเตรเลียซึ่งเป็นข่าวสารที่มีความเชื่อถือได้ ป้องกันข่าวปลอมได้อีกทางหนึ่งด้วย

2.การเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อไปเรียนต่างประเทศหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลาย
ตามปกติถ้าไม่เกิดโรคระบาด Covid-19 นักเรียนไทยก็จะจบการศึกษาได้รับระเบียนผลการเรียน (เอกสารประเมินผลตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน:ปพ.1) คือ สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปลายเดือน มีนาคม และจะไปเรียนระดับมัธยมศึกษา (High School) ที่ประเทศมาเลเซียช่วงต้นเดือน เมษายน ของปีเดียวกัน ซึ่งบางกรณีอาจต้องไปเรียนปรับพื้นฐานก่อนเข้าชั้นเรียนปกติด้วย อย่างไรก็ตามโรงเรียนที่รับนักเรียนต่างชาติระดับมัธยมศึกษา จะมีกำหนดการเปิดภาคเรียนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ที่ต่างเวลากัน
กลุ่มที่ 1 : ภาคเรียนที่ 1-3 ตามลำดับ คือเดือน กันยายน และ มกราคม , เมษายน ของปีถัดไป
กลุ่มที่ 2 : ภาคเรียนที่ 1-3 ตามลำดับ คือเดือน มกราคม,มีนาคม และ กันยายน ปีเดียวกัน 
ดังนั้น กว่าจะถึงกำหนดเปิดภาคเรียน ดูแนวโน้มแล้วสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ของแต่ละประเทศน่าจะคลี่คลายไปพอสมควร จะมีการผ่อนคลายการ Lockdown จึงคาดว่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับนักเรียนผู้สนใจเรียนต่างประเทศโดยไปเริ่มเรียนในภาคเรียนที่ 1ในเดือน กันยายน ปีนี้ หรือ มกราคม ต้นปีถัดไป

ช่วงนี้ก็ขอแนะนำให้นักเรียนเตรียมความพร้อม กว่าจะถึงกำหนดเปิดภาคเรียนดังกล่าว มีเวลาว่าง ประมาณ 5-7 เดือน สิ่งที่ควรเตรียมการเช่น เอกสารเพื่อการสมัครเรียนและขอวีซ่านักเรียน การแปลและรับรองเอกสาร การหาข้อมูลโรงเรียน การเรียนปรับพื้นฐานเช่น เรียนภาษาอังกฤษ หรือวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น การสมัครสอบวัดระดับความรู้ เพื่อประเมินว่านักเรียนสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษามาเลเซีย ระดับชั้นเรียนใด และต้องเรียนปรับพื้นก่อนเข้าชั้นเรียนปกติไหม จะได้เป็นข้อมูลในการวางแผน เตรียมตัว ประมาณการค่าใช้จ่าย และตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 นี้ มีข่าวดีซึ่งถือว่า วิกฤตเป็นโอกาส คือ สามารถสมัครสอบออนไลน์ (Online Entrance Assessment: OEA) โดยไม่ต้องเดินทางไปยังโรงเรียนในประเทศมาเลเซีย และเมื่อทราบผลประเมินการสอบวัดระดับ แล้วหากทางโรงเรียนพิจารณาว่าควรมีการเรียนปรับพื้นฐานก็สามารถลงทะเบียนเรียนทางออนไลน์ได้เช่นกันเป็นการเตรียมการล่วงหน้าที่สะดวก ประหยัด ปลอดภัย ลดข้อจำกัดในมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19  เมื่อได้เตรียมการอย่างนี้แล้วจากนั้นเมื่อสถานการณ์ Covid-19 ผ่อนคลายเข้าสู่สภาพที่โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ก็จะทำให้นักเรียนเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ปกติ




 


สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek

ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ข่าว การเยี่ยมชม และ ติดตามผลนักเรียน โรงเรียน Poi Lam High School กุมภาพันธ์ 2020

SJ WORLD EDUCATION
10 Feb 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม และ ติดตามผลนักเรียน โรงเรียน Poi Lam High School กุมภาพันธ์ 2020


เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย ผู้ปกครอง และนักเรียนไทยได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน และสอบวันระดับความรู้ของนักเรียน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสมัครเรียนสำหรับนักเรียนใหม่ และ เยี่ยมติดตามนักเรียนปัจจุบันที่ผู้ปกครองมอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ สมัครเรียน ติดตามดูแลระหว่างเรียน ณ โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย และได้หารือประเด็นต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนไทยโดยได้รับการต้อนรับและให้คำแนะนำเสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียนฯ








สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน

โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)  Line ID : somnoek




 

ข่าว การประชุม การจัดโครงการ English Study and Tour ณ มหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR)

SJ WORLD EDUCATION
17 Jan 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าว การประชุม การจัดโครงการ English Study and Tour

ณ มหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR)


เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR) เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมด้านความร่วมมือในการจัดทำโครงการ English Study Tour แก่นักเรียนไทย ระหว่างบริษัท เอสเจ เวิลดิ์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด และ มหาวิทยาลัย UTAR ณ มหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR) เมือง Kampar รัฐPerak ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับและให้คำแนะนำเสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของมหาวิทยาลัยฯ







สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek




ข่าว การเยี่ยมชม ทดสอบความรู้ ณ โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School

SJ WORLD EDUCATION
17 Jan 2020
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ภาพกิจกรรม
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม ทดสอบความรู้ ณ โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย นักเรียน และ ผู้ปกครอง ที่สนใจให้บุตรหลานเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษา (High School) ในประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม และทดสอบความรู้ให้นักเรียน ณ โรงเรียน Westlake International School เมือง Kampar รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับ และให้คำแนะนำ เสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียน


 




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

 

 

Westlake International School โรงเรียนนานาชาติที่น่าสนใจ แห่งเมืองกัมปาร์ ประเทศมาเลเซีย

SJ WORLD EDUCATION
17 Dec 2019
[หน้าแรก] แนะนำสถาบัน, Malaysia, สถาบันการศึกษา, แนะนำสถาบัน
Comments: 0

Westlake International School โรงเรียนนานาชาติที่น่าสนใจ แห่งเมืองกัมปาร์ ประเทศมาเลเซีย

นับเป็นโอกาสดีมากที่ผมและคณะได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน Westlake International ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติที่น่าสนใจแห่งเมืองกัมปาร์ (Kampar) ประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นโรงเรียนที่มีระบบการบริหารจัดการที่ดีมาก เป็นโรงเรียนแบบอยู่ประจำ ค่าเรียนและค่าที่พัก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายต่อปีที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งในมาเลเซีย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ที่พักสะอาดปลอดภัยการดูแลใกล้ชิด รวมทั้งมีกิจกรรมยามว่างของนักเรียน มีจำนวนนักเรียนไทยน้อย เป็นโอกาสดีที่นักเรียนจะได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษและเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น การเดินทางสะดวก และไม่ไกลจากประเทศไทย การเยี่ยมชมได้รับการต้อนรับและข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนเป็นอย่างดี จึงขอแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผู้สนใจเรียนหรือเลือกที่เรียนให้กับบุตรหลานครับ



1.โรงเรียน Westlake International School เป็นโรงเรียนนานาชาติแบบอยู่ประจำ ตั้งอยู่เมืองกัมปาร์ มีสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา (Primary Year 1-Year 6) ถึง มัธยมศึกษา (Secondary Year 7- Year 11) รองรับหลักสูตรมาตรฐานของประเทศอังกฤษ คือ IGCSE. (International General Certificate of Secondary Education) และ A-Level (The General Certificate of Education Advanced Level Certificate : GCE A-Level)






2.สภาพแวดล้อมของโรงเรียนมีพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นสถานศึกษา ติดกับทะเลเสาบ (Lake) มีสถานที่ท่องเที่ยว รอบโรงเรียนเช่น West Lake, West Lake Garden และ Tin Village





3.สิ่งอำนวยความสะดวก

3.1 ห้องสมุด มีความทันสมัย หนังสือมากมาย รองรับการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมของนักเรียน





3.2 หอประชุม ซึ่งเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่นการแสดง หรือพิธีการรับประกาศนียบัตร เป็นต้น





3.3 สนามเด็กเล่น สนามกีฬา เช่นสนามฟุตบอล บาสเก็ตบอล สนามเทนนิส และสระว่ายน้ำ เพื่อกิจกรรมกีฬา นักเรียนได้ผ่อนคลายกับเพื่อนๆระหว่างช่วงเวลาการพัก เลิกเรียน หรือวันหยุด




3.4 ห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมระบบ Hi-Speed Internet สำหรับนักเรียนค้นคว้าข้อมูลในการทำการบ้าน หรือผ่อนคลาย

3.5 โรงอาหาร กว้างขวาง และสะอาด สำหรับนักเรียนทุกคน การรับประทานอาหารของนักเรียนในแต่ละมื้อจะมารับประทานพร้อมกันที่ Cafeteria

3.6 ห้องดนตรี สำหรับนักเรียนที่สนใจในการฝึกฝนทักษะ ทางด้านดนตรี มีภายในห้องที่สะอาดและมีเครื่องดนตรีสากลหลายรายการ

3.7 ห้องปฏิบัติการทดลอง (Lab) ทางโรงเรียนจัดห้อง Lab ไว้สำหรับหลักสูตร รายวิชาที่มีการทดลองได้เรียนรู้เต็มที่

3.8 ที่พักสำหรับนักเรียนประจำ (Boarding House)
เนื่องจากโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำ จึงมีบ้านพัก เป็นแบบบ้าน 3 ชั้น เกือบจะติดกับบริเวณของโรงเรียน มีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ดูแลนักเรียน สัดส่วน 1 คน : นักเรียน 15 คนเท่านั้น จึงทำให้ดูแลอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง ห้องพักมีให้เลือกแบบห้องละ 1 คน และ 2 คน โดยผู้ดูแลนักเรียนจะดูแลทั้งความเป็นอยู่ ติดตามเรื่องการเรียน การทำการบ้าน หากนักเรียนไม่สนใจเรื่องการเรียน การทำการบ้านจะมีการรายงานให้ผู้ปกครองทราบ ผู้ปกครองสามารถ Login เข้าสู่ระบบสารสนเทศของโรงเรียนเพื่อติดตามดูแลความเป็นอยู่ของนักเรียนได้ และทาง โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้ออกนอกบริเวณโรงเรียนตามลำพัง หากจำเป็นต้องออกนอกบริเวณโรงเรียนจะต้องมีเจ้าหน้าที่ Boarding Guardian เดินทางไปด้วย และมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียน การเข้าถึงพื้นที่โรงเรียนต้องแสดงตนด้วยบัตรนักเรียนทุกที่ การใช้เงินซื้อของต่าง ๆ ในโรงเรียนใช้บัตรเสมือน Banking online ในวงเงินตามที่ผู้ปกครองเติมไว้ ทั้งนี้มาตรฐานของ Boarding House จะเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน Boarding House ของ สมาคม Boarding School s’ Association: bsa. ด้วยครับ






4. การใช้รูปแบบการสอน แบบ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics)
คือแนวทางการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิตจริง

5.การเรียนภาษาอังกฤษ และภาษาจีน

5.1 การเรียนภาษาอังกฤษ ทางโรงเรียนมีหลักสูตร English Proficiency Programme
(E-ProP) เป็นการเพิ่มความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งทางโรงเรียนจะจัดสอบวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษและนำผลการสอบมาวางแผนการเรียนให้แก่นักเรียนโดยหลักสูตร E-Prop จะใช้เวลาเรียนหลังเลิกเรียนของชั้นเรียนปกติ

5.2 การเรียนภาษาจีน จากประสบการณ์หลายปีต่อเนื่องของผมพบว่าผู้ปกครองจำนวนมากต้องการให้บุตรหลานได้เรียนภาษาจีนด้วยนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เพราะมองเห็นโอกาสและความสำคัญในการใช้ภาษาจีนมากขึ้นในปัจจุบัน โดยปกติการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษามาเลเซียจะมีวิชาภาษาจีนอยู่ในหลักสูตรของโรงเรียนจีนเท่านั้น แต่สำหรับที่โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School มีหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาจีนให้เรียนด้วยซึ่งโอกาสที่จะได้รับโอกาสดีๆแบบนี้จะน้อยมากเพราะปกติแล้วโรงเรียนนานาชาติทั่วไปจะไม่มีการเรียนการสอนวิชาภาษาจีน อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนเข้าใจในขั้นตอนการเรียนภาษาของนักเรียน โดยจะให้นักเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษมากพอ ก่อนจะให้เรียนภาษาจีนเพื่อให้นักเรียนมีความกดดันในการเรียนทั้งสองภาษาควบคู่กัน นับว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนเอง ครับ หลักสูตรวิชาภาษาจีนจะมีชั่วโมงการเรียน 3 คาบต่อสัปดาห์






6.ทุนการศึกษา เพื่อเป็นแรงจูงใจในการเรียนของนักเรียน ทางโรงเรียนมีทุนการศึกษาให้นักเรียนด้วยครับ ซึ่งมีทั้งทุนเรียนดี และทุนสำหรับนักเรียนที่มีกิจกรรมโดดเด่นด้วยครับ

7.การเปิดภาคเรียนและค่าเล่าเรียน ในหนึ่งปีการศึกษาจะมี 3 เทอม เปิดเรียน ช่วงเดือน มกราคมเมษายน และ สิงหาคม ของปี การสมัครเรียนช่วงเทอมไหนขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้เรียน อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนจะจัดโปรแกรมการเรียนให้สอดคล้องเหมาะสมกับช่วงเวลาการเข้าเรียนของนักเรียนไม่ต้องกังวลครับ ส่วนค่าเล่าเรียน แต่ละระดับชั้นอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ค่าเล่าเรียนแบ่งจ่ายรายเทอมได้ซึ่งจะลดภาระแก่ผู้ปกครองได้และกรณีจ่ายค่าเล่าเรียนเป็นรายปีทางโรงเรียนจะมีส่วนลดให้ด้วยครับ

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายเบื้องต้น : ค่าเล่าเรียน Year 7 (ม.1) เทอมละ 47,480 บาท ค่าที่พัก อาหาร (Boarding House)
เฉลี่ยต่อเดือนเพียง 11,253 บาท (ราคาและอัตราแลกเปลี่ยน ณ ธันวาคม 2562) ผมคิดว่าอยู่ในอัตราที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีกำลังพอที่จะจ่ายได้ เมื่อเทียบกับคุณภาพของโรงเรียน และมอบสิ่งที่ดีให้บุตรหลาน ของท่าน (หากท่านสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตามรายละเอียดล่างบทความนี้ครับ)

8. การเยี่ยมชมโรงเรียน Westlake International School
การแบ่งปันรายละเอียดต่างๆที่ปรากฏในเนื้อหาบทความนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากผมและคณะไม่เดินทางมาเยี่ยมชมและรับข้อแนะนำจากโรงเรียนโดยตรง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้บริหาร ครู-อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ทุกท่านที่ให้การต้อนรับ ให้ข้อแนะนำ เสนอแนะ ครบถ้วนด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง



 



 



สำหรับ ผู้ปกครองที่สนใจเยี่ยมชมโรงเรียน เพื่อประกอบการพิจารณาเลือก สมัครเรียนให้บุตรหลานก็สามารถติดต่อ มาที่ผมได้เช่นกันครับ



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek



ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

เลือกโรงเรียนให้บุตรหลานเรียนมัธยมมาเลเซีย ยึดหลักค่าใช้จ่ายต่อปีเป็นสำคัญความจริงที่ต้องทบทวน

SJ WORLD EDUCATION
16 Dec 2019
บทความน่ารู้
Comments: 0

เลือกโรงเรียนให้บุตรหลานเรียนมัธยมมาเลเซีย ยึดหลักค่าใช้จ่ายต่อปีเป็นสำคัญความจริงที่ต้องทบทวน



หลายปีต่อเนื่องที่ผมได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองในการแนะนำหลักสูตรแนะนำสถาบันการศึกษา การสมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างที่นักเรียนศึกษาอยู่ในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาพบว่าผู้ปกครองจำนวนมากร้องขอให้แนะนำโรงเรียนที่ค่าใช้จ่าย ซึ่งประกอบด้วยค่าเรียน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ซักรีด (ยกเว้น ค่าชุดนักเรียน ตำรา และ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว) ไม่เกิน สองแสนบาทต่อปี  รวมทั้งขอให้เลือกโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนและตามด้วยต้องเป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนไทยน้อยด้วยเพราะเกรงว่านักเรียนจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันรวมทั้งการกวดขันกฎระเบียบในการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของนักเรียนไทยซึ่งติดเกมส์ติด Social Media ทำให้เสียการเรียนผมก็พยายามตอบสนองความต้องการดังกล่าวมาหลายปีต่อเนื่อง

ดังนั้นผมจึงมีโอกาสเจอปัญหาอุปสรรคและได้เก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์เพื่อหาทางแก้ไขและแบ่งปันประสบการณ์ ที่เป็นประโยชน์ แก่นักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อเป็นข้อคิดในการพิจารณาเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมในโอกาสต่อไป จึงขอสรุปประเด็นต่างๆดังนี้

1.โรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายไม่เกินสองแสนบาทต่อปีส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนจีนที่รับนักเรียนต่างชาติ สอนเป็นภาษาอังกฤษและมีเรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วยนักเรียนไทยค่อนข้างจะกดดันพอสมควรเพราะพื้นฐานภาษาอังกฤษยังไม่ดีพอส่งผลต่อความเข้าใจในการเรียนวิชาอื่นทุกวิชาซ้ำยังต้องเริ่มเรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วย และยังต้องปรับตัวอีกหลายอย่างในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนๆที่มาจากต่างเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม

2.จำนวนนักเรียนไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจของไทยไม่ดีจึงต้องเลือกโรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณนี้ไว้ก่อน ในส่วนของโรงเรียนก็มีความจำเป็นในการบริหารต้นทุนให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายต่อปีเช่นกัน นั่นคือ จำนวนนักเรียนต่อห้องก็มากขึ้น การเอาใจใส่ดูแลนักเรียนก็ไม่ทั่วถึง นักเรียนไทยก็มักจะรวมกลุ่มกับนักเรียนไทยด้วยกันเอง เพราะขาดแรงกระตุ้นที่จะให้ใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีนกับเพื่อนต่างชาติ หรือกับ ครู อาจารย์ผู้สอน ในที่สุดการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและภาษาจีนก็ไม่ดีเท่าที่ควร

3.หอพักภายในโรงเรียน (Hostel) มักจะเป็นการอยู่ร่วมกันหลายคนต่อห้อง เช่น 6 คนต่อห้อง และห้องน้ำจะอยู่นอกห้องพักเป็นการใช้ร่วมกันเป็นจำนวนมากมักจะประสบปัญหาเรื่องความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่สะดวกเท่ากับห้องน้ำประจำห้อง

4.การควบคุมดูแลนักเรียนที่อยู่ประจำให้หอพัก (Hostel) ของโรงเรียนไม่ค่อยมีมาตรฐานรองรับต่างจากโรงเรียนนานาชาติที่มีมาตรฐานกลางขององค์กรด้านมาตรฐานที่พักของโรงเรียน ดังนั้นจะพบปัญหาสัดส่วนระหว่างผู้ดูแลนักเรียนในหอพักต่อจำนวนในหอพักไม่เหมาะสม เช่น ผู้ดูแล 2-3 คน แต่รับผิดชอบนักเรียนทั้งหมดในอาคารหอพัก 500-600 คน (ขณะที่โรงเรียน นานาชาติ สัดส่วนผู้ดูแล 1 คน ต่อนักเรียนเพียง 15 คน) ดังนั้นจะพบว่าการควบคุมดูแลไม่ทั่วถึง มีปัญหาการแอบใช้โทรศัพท์ ขาดวินัยในการเรียน การนอนการตื่นไม่เป็นเวลา จับกลุ่มคุยกัน ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ปัญหาการทะเลาะวิวาท นักเรียนใหม่ถูกรังแกจากรุ่นพี่ ยิ่งไปกว่านั้นบางโรงเรียนมอบหมายให้รุ่นพี่ไปควบคุมดูแลนักเรียนใหม่แทนเจ้าหน้าที่ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้รุ่นน้องเพราะอายุใกล้เคียงกันวุฒิภาวะไม่มากพอบางครั้งก็ทะเลาะกันใช้กำลังกับรุ่นน้องเสียเองด้วย ทรัพย์สินส่วนตัวถูกลักขโมย บางรายรับสภาพไม่ไหว ไม่มีความสุขที่จะใช้ชีวิตและเรียนต่อไปจึงต้องลาออกระหว่างเรียน เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

5.การชำระค่าใช้จ่าย โรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายต่อปีไม่เกิน สองแสนมักจะไม่ยืดหยุ่นในการชำระเงิน กล่าวคือ แม้นักเรียนจะเข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 แต่ก็ต้องชำระค่าเรียน ค่าที่พัก เต็มราคาทั้งปี แบ่งจ่ายเป็นรายภาคเรียนไม่ได้ด้วย เป็นภาระค่าใช้จ่ายเป็นเงินที่ต้องจ่ายครั้งเดียวสูงและมีความเสี่ยงกรณี นักเรียนอยู่ไม่ได้จะลาออกหรือย้ายโรงเรียนก็ไม่ได้รับเงินคืน

6.การบริหารจัดการของโรงเรียน ก็ได้รับการสะท้อนปัญหาจากผู้ปกครองอยู่บ่อย เช่น ไม่ค่อยแจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ล่วงหน้า การติดต่อกับทางโรงเรียนค่อนข้างยาก ทั้งกับฝ่ายนักเรียนต่างประเทศ ฝ่ายดูแลนักเรียนในหอพัก การแก้ปัญหาในการอยู่หอพักเรื่องต่าง ๆ เช่นปัญหาการทะเลาะกัน มักปล่อยปละละเลยไม่ค่อยกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา การโอนเงินชำระค่าใช้จ่าย ระบบบริหารจัดการ ไม่ค่อยใช้เทคโนโลยีเข้ามารองรับในการให้บริการ

7.ปัญหาอื่น ๆ ความล่าช้าในการยื่นขอวีซ่า ยังขาดการวางแผนและการแก้ปัญหาที่ดีเป็นภาระหนักของผู้ปกครองต้องรับนักเรียนออกจากประเทศมาเลเซียชั่วขณะ รอเวลากลับเข้าไปใหม่ รวมถึงการขออนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านก็ไม่สะดวกเป็นมาตรฐานเดียวกัน การส่งต่องานระหว่างผู้ปฏิบัติงานที่ดูแลนักเรียนในหอพักไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ผู้ปกครองต้องดำเนินการเรื่องเดียวกันซ้ำซ้อนหลายครั้ง เป็นต้น

จากที่กล่าวมาข้างต้น ผมคิดว่า การเลือกโรงเรียนให้บุตรหลานเรียนมัธยมมาเลเซียโดยยึดหลักค่าใช้จ่ายต่อปีมิติเดียวเป็นสำคัญ ความจริงที่ต้องทบทวน หากต้องการให้บุตรหลานของท่านประสบความสำเร็จในการเรียนต่างประเทศ  ควรมองหาโรงเรียนที่เหมาะสมกับผู้เรียน อย่างเช่นโรงเรียนนานาชาติที่มีการบริหารจัดการที่ดี ราคาค่าใช้จ่ายต่อปีเพิ่มขี้นเล็กน้อยแต่ผลที่ได้คุ้มค่ากว่ามาก อย่าลืมว่าการศึกษาไม่เพียงแต่ลงทุนเรื่องเงินแต่ยังรวมถึงการลงทุนเรื่องเวลาซึ่งสำคัญมาก ๆ เช่นกัน เพราะเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ครับ


สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek
 

ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ข่าว การเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR)

SJ WORLD EDUCATION
16 Dec 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR)

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนธรรม กรรมการ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัย Tunku Abdul Rahman (UTAR) เมือง Kampar รัฐPerak ประเทศมาเลเซียเพื่อเข้าเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยฯในโอกาสนี้ได้ร่วมประชุมการเตรียมความพร้อมในการสมัครเรียนระดับมหาวิทยาลัย,หลักสูตรการยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ (English Enhancement Programme) ตลอดจนการจัดทำโครงการ English Study Tour แก่นักเรียนไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการให้คำปรึกษาแก่นักเรียนไทยที่สนใจเข้ารับการศึกษาณประเทศมาเลเซียเป็นอย่างยิ่งโดยได้รับการต้อนรับและให้คำแนะนำเสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของมหาวิทยาลัยฯ



 






สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

ข่าว การเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติ UNIVERSAL HUA XIA INTERNATIONAL SCHOOL

SJ WORLD EDUCATION
13 Dec 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติ UNIVERSAL HUA XIA INTERNATIONAL SCHOOL

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนธรรม กรรมการ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสมัครเรียนสำหรับนักเรียนไทย ณ โรงเรียนนานาชาติ UNIVERSAL HUA XIA INTERNATIONAL SCHOOL, Penang และ Sungai Petani รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ร่วมหารือประเด็นต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการให้คำปรึกษาแก่นักเรียนไทยที่สนใจเข้ารับการศึกษา ณ ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับและให้คำแนะนำเสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียนฯ




 
UNIVERSAL HUA XIA INTERNATIONAL SCHOOL (Penang)



 
UNIVERSAL HUA XIA INTERNATIONAL SCHOOL (Sungai Petani)



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

ข่าว การเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School

SJ WORLD EDUCATION
13 Dec 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนธรรม กรรมการ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสมัครเรียนสำหรับนักเรียนไทย ณ โรงเรียนนานาชาติ Westlake International School รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ร่วมหารือประเด็นต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการให้คำปรึกษาแก่นักเรียนไทยที่สนใจเข้ารับการศึกษา ณ ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับและให้คำแนะนำเสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียนฯ






สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

ข่าว การเยี่ยมชม และ ติดตามผลนักเรียน โรงเรียน Poi Lam High School ตุลาคม 2019

SJ WORLD EDUCATION
18 Oct 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าว การเยี่ยมชม และ ติดตามผลนักเรียน โรงเรียน Poi Lam High School ตุลาคม 2019


เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย ผู้ปกครอง และนักเรียนไทยได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสมัครเรียนสำหรับนักเรียนใหม่ และ เยี่ยมติดตามนักเรียนปัจจุบันที่ผู้ปกครองมอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ สมัครเรียน ติดตามดูแลระหว่างเรียน ณ โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย และได้หารือประเด็นต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนไทยโดยได้รับการต้อนรับและให้คำแนะนำเสนอแนะอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียนฯ


 



สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

English Course in Kuala Lumpur, Malaysia

SJ WORLD EDUCATION
30 May 2019
[หน้าแรก] หลักสูตร, คอร์สและโครงการ
Comments: 0

English Course in Kuala Lumpur, Malaysia

(คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย)

มาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลีย

หลักสูตร             General English ภาษาอังกฤษทั่วไป เหมาะสำหรับสื่อสารในชีวิตประจำวันและเป็นพื้นฐานในการเรียนภาษาอังกฤษระดับที่สูงขึ้นต่อไป
ระยะเวลาเรียน   เริ่มต้นที่ 4 สัปดาห์ เรียนสัปดาห์ละ 25 ชั่วโมง
สถาบัน                English Language Company : ELC เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เหมาะสำหรับ

  • นักเรียนมัธยมศึกษา (อายุ 16 ปีขึ้นไป)
  • นักศึกษาระดับวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียน
สิ่งที่นักเรียนจะได้รับ
  1. เรียนภาษาอังกฤษมาตรฐานเดียวกับประเทศออสเตรเลีย
  2. เรียนกับครูเจ้าของภาษาโดยแท้จริง (Native English Speaker)
  3. เรียนร่วมชั้นกับเพื่อนชาวต่างชาติ
  4. กำหนดการเดินทางได้เอง เริ่มเรียนได้ทุกสัปดาห์
  5. ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ
  6. ฝึกใช้ภาษาอังกฤษทั้งในห้องเรียนและในชีวิตประจำวัน
  7. แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมกับเพื่อนๆชาวต่างชาติ



ตารางเรียน

เรียนสัปดาห์ละ 25 ชั่วโมง วันจันทร์ ถึง ศุกร์ เริ่มเรียนเวลา 9.30 น. – 16.15 น.



ค่าใช้จ่ายรวม

  1. ค่าสมัครเรียน
  2. ค่าเรียนตลอดหลักสูตร
  3. ค่าอุปกรณ์การเรียน
  4. ค่าที่พักตลอดหลักสูตร
  5. ค่าประกันอุบัติเหตุ
  6. ค่าบริการรับที่สนามบิน

ค่าใช้จ่ายไม่รวม

  1. ค่าเดินทางไป – กลับ (ไทย-มาเลเซีย)
  2. ค่าอาหาร
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
  4. ค่ามัดจำห้องพัก 300 USD  จ่าย ณ วันที่เข้าพัก  (คืนเมื่อย้ายออก)



สนใจเข้าร่วมโครงการ ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่

บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ. เมือง
จ. สุราษฎร์ธานี 84000 E-Mail : [email protected]
โทร. 077 287111, 08 5791 9111 Line ID : somnoek

Role and Significance of International Education Consultants for Thai Student

SJ WORLD EDUCATION
09 Apr 2019
บทความน่ารู้
Comments: 0

Role and Significance of International Education Consultants for Thai Student



Role and Significance of International Education Consultants for Thai Student

บทบาทและนัยสำคัญของที่ปรึกษาการศึกษานานาชาติสำหรับนักเรียนไทย   


   

Download คลิก

Role and Significance of International Education Consultants for Thai StudentsDownload

ข่าว การสมัครเรียน และ ติดตามนักเรียน โรงเรียน Poi Lam High School เมษายน 2019

SJ WORLD EDUCATION
09 Apr 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
Comments: 0

ข่าว การสมัครเรียน และ ติดตามนักเรียน โรงเรียน Poi Lam High School เมษายน 2019




เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562  อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คณะผู้ปกครอง และนักเรียนไทยได้เดินทางเพื่อสมัครเรียน ส่งนักเรียนใหม่ และ เยี่ยมติดตามนักเรียนปัจจุบัน  ณ โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์  รัฐเปรัค  ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก ผู้บริหาร อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ ของโรงเรียนฯ พร้อมกันนี้เป็นโอกาสดีสำหรับนักเรียน ผู้ปกครอง ที่มอบความไว้วางใจสมัครเรียนกับบริษัทเอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัดที่มีโอกาสได้รับการต้อนรับด้วยความอบอุ่น พบปะพูดคุย ซักถาม อย่างใกล้ชิด กับ ผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนและนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาในปัจจุบัน  บริษัทฯ ขอขอบพระคุณนักเรียน ผู้ปกครอง และโรงเรียน Poi Lam High School มา ณ โอกาสนี้ด้วย





สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ  ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)  Line ID : somnoek



ข่าว การสมัครเรียน และ เยี่ยมชม โรงเรียน Wesley Methodist School Penang (International) มีนาคม 2019

SJ WORLD EDUCATION
09 Apr 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
Comments: 0

ข่าว การสมัครเรียน และ เยี่ยมชม

โรงเรียน Wesley Methodist School Penang (International)  มีนาคม 2019



เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562  อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คณะผู้ปกครอง และนักเรียน ได้เดินทางเพื่อสมัครเรียน ส่งนักเรียนใหม่ และ เยี่ยมชมโรงเรียน Wesley Methodist School Penang (International)  เมืองปีนัง  รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก อาจารย์ และ เจ้าหน้าที่ โรงเรียนฯ  บริษัทเอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอขอบพระคุณนักเรียน ผู้ปกครอง และโรงเรียน Wesley Methodist School Penang (International)  มา ณ โอกาสนี้ด้วย




สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ  ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)  Line ID : somnoek

ข่าว การสมัครเรียน และ ติดตามนักเรียน Wadi Sofia International School มีนาคม 2019

SJ WORLD EDUCATION
04 Apr 2019
[หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments: 0

ข่าว การสมัครเรียน และ ติดตามนักเรียน Wadi Sofia International School  มีนาคม 2019

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2562  คุณจิดาภา ชุมนาค และ คุณธันยา เล้าธนะธรรม  กรรมการ และ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คณะผู้ปกครอง และนักเรียน ได้เดินทางเพื่อสมัครเรียน ส่งนักเรียนใหม่ และ เยี่ยมติดตามนักเรียนปัจจุบัน ณ Wadi Sofia International School เมืองโกตาบาร์รู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้รับการต้อนรับอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่ จาก Wadi Sofia International School บริษัทฯ ขอขอบพระคุณผู้ปกครอง นักเรียน และโรงเรียน Wadi Sofia International School มา ณ โอกาสนี้ด้วย




    สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ  ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
    โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)  Line ID : somnoek

    ข่าวการเยี่ยมชม โรงเรียน Poi Lam High School มีนาคม 2019

    SJ WORLD EDUCATION
    14 Mar 2019
    [หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0

    ข่าวการเยี่ยมชม โรงเรียน Poi Lam High School  มีนาคม 2019    



    เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คณะผู้ปกครอง และนักเรียน ได้เดินทางเพื่อเยี่ยมชมโรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์  รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เพื่อศึกษารายละเอียด และสอบวัดระดับความรู้ของนักเรียนก่อนการสมัครเรียน พร้อมกันนี้ได้ เยี่ยมติดตามผล นักเรียนไทยที่กำลังศึกษาในปัจจุบัน เป็นโอกาสดีที่คณะผู้เข้าเยี่ยมชมได้พบปะพูดคุยเรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากนักเรียนที่กำลังศึกษาในปัจจุบัน  ขอขอบพระคุณผู้ปกครองที่มอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ สมัครเรียน ติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร  และโรงเรียน Poi Lam High School  ที่ให้การต้อนรับมา ณ โอกาสนี้ด้วย





    สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ  ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
    โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)  Line ID : somnoek

    Counseling and Motivating Thai students to study Abroad, Thailand 4.0

    SJ WORLD EDUCATION
    13 Mar 2019
    บทความน่ารู้
    Comments: 0

    Counseling and Motivating Thai students to study Abroad, Thailand 4.0



    การให้คำปรึกษาและการสร้างแรงจูงใจแก่นักเรียนไทยเพื่อศึกษาต่างประเทศ,ไทยแลนด์ 4.0

    (Counseling and Motivating Thai students to study Abroad, Thailand 4.0)



    Download คลิก

    Counseling and Motivating Thai students to study abroad ,Thailand 4.0Download

    ข่าว การประชุมกับสถานฑูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย

    SJ WORLD EDUCATION
    31 Jan 2019
    [หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0

    ข่าว การประชุมกับสถานฑูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย



    เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562   อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับเชิญจาก  สถานฑูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย เข้าร่วมประชุม เรื่อง “Australian Education Agents Information Session and Networking  ” ในฐานะ ที่ปรึกษาการศึกษานานาชาติ ที่ให้คำปรึกษา สมัครเรียน สมัครขอวีซ่า แก่นักเรียนไทย หลายปีต่อเนื่อง

    การประชุมครั้งนี้มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ทั้งในเรื่องเงื่อนไขการขอวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลีย ภาพรวมการศึกษาของนักเรียนในและนักเรียนต่างชาติ ในออสเตรเลีย  และทุนการศึกษาของรัฐบาลออสเตรเลีย




    สนใจ สมัครเรียน ขอวีซ่าออสเตรเลีย

    โทร. 08 5791 9111, 077 287111 (อ.สมนึก)

    Line Id : somnoek


    Languages Across Borders (LAB)

    SJ WORLD EDUCATION
    23 Jan 2019
    Australia, สถาบันการศึกษา
    Comments: 0

    แนะนำสถาบัน Languages Across Borders (LAB)


    Languages Across Borders: LAB มีด้วยกัน 3 วิทยาเขต

    ได้แก่ Melbourne, Vancouver และ  Montreal

    นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายทั่วโลกถึง 23 แห่ง ใน 5 ทวีป


    Study In Melbourne

    1.เวลาเรียนที่ยืดหยุ่นได้

    – 3 วัน ต่อสัปดาห์ (เรียนภาคเช้า)   วันจันทร์ – วันพุธ

    – 4 วันต่อสัปดาห์ (เรียนภาคเช้า) วันจันทร์ –  วันพฤหัสบดี

    – 5 วันต่อสัปดาห์ (เรียนภาคค่ำ) วันจันทร์ – วันศุกร์

    2. สถานที่ตั้งใจกลางเมือง

    –  มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุด

    – สิ่งแวดล้อมเป็นศิลปะ

    – กิจกรรมแฟชั่น

    – คาเฟ่ที่ดีที่สุดในโลก

    3. หลักสูตรและโปรแกรม

    – General English  (ภาษาอังกฤษทั่วไป)  ระดับเริ่มต้น – ระดับสูงสุด

    – General English  Hospitality & Tourism

    ( ภาษาอังกฤษทั่วไปสำหรับการบริการและการท่องเที่ยว)

    –  ภาษาอังกฤษเพื่องานวิชาการ

    – หลักสูตรเตรียมสอบ IELTS

    – ภาษาอังกฤษธุรกิจ

    – Cambridge English ( First FCF Preparation)

    – โปรแกรมฝึกงานโรงแรม

    – โปรแกรมฝึกงานบริหารธุรกิจ

    4. สิ่งอำนวยความสะดวก

    – ฟรี Wifi

    – ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

    – ห้องเรียนที่กว้าง

    – พื้นที่ส่วนกลาง ทั้งห้องครัว และ ไมโครเวฟ

    5. บริการของเรา

    – ปฐมนิเทศและ แนะแนว

    –  จัดหาที่พัก

    – การลงทะเบียนผู้เสียภาษี

    – การเปิดบัญชีธนาคาร

    – จัดผู้ปกครองสำหรับนักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี

    – อื่น ๆ ที่จำเป็นและต้องการความช่วยเหลือ


    Nationality Mix 





    Visit Poi Lam High School 2019

    SJ WORLD EDUCATION
    05 Jan 2019
    [หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
    Comments: 0

    ข่าว การสมัครเรียน เยี่ยมชมและติดตามผล นักเรียน Poi Lam High School 2019

    เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย ผู้ปกครอง และ นักเรียน ได้เดินทางเพื่อสมัครและลงทะเบียนเรียน ภาคเรียนที่ 1/2019 ให้นักเรียน ณ โรงเรียน Poi Lam High School  เมืองอิโปห์  รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย พร้อมกันนี้ได้ เยี่ยมติดตามผลนักเรียนที่กำลังศึกษาในปัจจุบันที่ผู้ปกครองมอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ ติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร  ขอขอบพระคุณ โรงเรียน Poi Lam High School  ผู้ปกครอง และนักเรียน
    ทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ด้วย


    สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ  ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
    โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek

    ข่าว การสมัครเรียน เยี่ยมติดตามนักเรียนมัธยมศึกษา รัฐปีนัง มาเลเซีย

    SJ WORLD EDUCATION
    16 Oct 2018
    [หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
    Comments: 0

    ข่าว การสมัครเรียน เยี่ยมติดตามนักเรียนมัธยมศึกษา รัฐปีนัง มาเลเซีย


    เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561  อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย ผู้ปกครอง และ นักเรียน  ได้เดินทางเพื่อสมัครเรียนให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษา (High School) ที่โรงเรียนนานาชาติ Pelita International School และ เยี่ยมติดตามผลการเรียนของนักเรียนที่กำลังศึกษา ณ โรงเรียนนานาชาติ Pelita International School และ โรงเรียน Han Chiang high school  ซึ่งผู้ปกครองมอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ ติดตามประสานงานตลอดหลักสูตรอีกด้วย บริษัทฯขอขอบพระคุณ ผู้ปกครอง นักเรียน ทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ด้วย


     

    ทุนการศึกษาประเทศออสเตรเลีย

    SJ WORLD EDUCATION
    02 Oct 2018
    [หน้าแรก] ประชาสัมพันธ์, ข่าวประชาสัมพันธ์, ทั่วไป
    Comments: 0

    ทุนการศึกษาจากรัฐบาลออสเตรเลีย


     

    เป็นทุนแบบให้เปล่า เต็มจำนวน น่าสนใจมาก ประกอบด้วย

    • ทุนปริญญาโท และ ปริญญาเอก (Postgraduate)
    • ทุนการวิจัย (Research)
    • ทุนอาชีวศึกษาและฝึกอบรม (Vocational Education and training)
    • ทุนการศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาบุคลากร (Executive)

    สนใจ Download เอกสารคลิก

    1. Endeavour Poster 2019
    2.  Endeavour Leadership Program

     

    บริการเยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมศึกษา ประเทศมาเลเซีย

    SJ WORLD EDUCATION
    28 Sep 2018
    [หน้าแรก] หลักสูตร, Malaysia, คอร์สและโครงการ, ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ, หลักสูตรและโครงการ
    Comments: 0

    บริการเยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมศึกษา ประเทศมาเลเซีย 

    เลือกเมืองตามที่ท่านต้องการ (อิโปห์  ปีนัง  กัมปาร์  กัวลาลัมเปอร์ โกตาบารู)

     




    บริการครบวงจร :

    วางแผนกำหนดการเดินทาง ประมาณการค่าใช้จ่าย สำรองตั๋วฯ และ สำรองที่พัก เพื่อการเดินทาง

    เยี่ยมชมโรงเรียน  หอพัก  (Hostel or Host family) พบผู้บริหารฝ่ายนักเรียนต่างประเทศ ชมบรรยากาศ

    โรงเรียน  ศึกษารายละเอียดหลักสูตร  แนะแนวระบบการศึกษามาเลเซีย และ การเตรียมความพร้อมของนักเรียน

    มีอาจารย์แนะแนวที่มีประสบการณ์ ร่วมเดินทางตลอดโครงการ
     

    ขั้นตอนการขอใช้บริการ

    1.เลือกเมืองตามที่ท่านต้องการเยี่ยมชม ระบุชื่อโรงเรียน (ถ้ามี)

    2.แจ้งรายละเอียด  เมืองที่ท่านเลือก จำนวนผู้ร่วมเดินทาง  วันเดินทางที่ท่านสะดวก




    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    โทร. 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก)

    Line ID : somnoek

    E-Mail : [email protected]

    บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ร่วมนิทรรศการและให้คำปรึกษาฟรี ณ ตลาดนัดอุดมศึกษาครั้งที่ 18

    SJ WORLD EDUCATION
    13 Jul 2014
    ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0
    2014, PSU, PSU Fair, ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

    slide_template_1230x300px


    ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน PSU Fair 2014 :Higher Education Exhibition  (นิทรรศการตลาดนัดอุดมศึกษา) ครั้งที่ 18

    วันที่ 14-15 สิงหาคม 2557  เวลา 08.00-16.00 น. ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบรวม 60 ปี

    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ พบกับ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด

    Booth No. 39 ให้คำปรึกษาฟรี บริการทุกหลักสูตร ครบวงจร


    การสัมมนาฝ่ายการศึกษา สถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ปี 2014

    SJ WORLD EDUCATION
    03 Jun 2014
    ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0
    Australian Future Unlimited :Australian Education Agent 2014, สถานทูตออสเตรเลีย, สัมมนา

    ข่าวการสัมมนา ฝ่ายการศึกษา สถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ปี 2014
    Australian Future Unlimited :Australian Education Agent 2014


    บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับเชิญจากฝ่ายการศึกษา ของสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมสัมมนา หัวข้อ Australian Future Unlimited :Australian Education Agent 2014 ฝ่ายบริหาร บริษัท เอสเจ เวิล์ด เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมประชุมสัมมนาดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 ณ โรงแรมฮิลตัน กรุงเทพฯ เพื่อรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับการศึกษาประเทศออสเตรเลีย และพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการให้บริการแนะแนวการศึกษาประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีเนื้อหาที่มีประโยชน์ในการให้คำปรึกษา แนะแนวการศึกษาแก่นักเรียนไทยที่ต้องการไปศึกษายังประเทศออสเตรเลียได้เป็นอย่างดี  ประกอบไปด้วยประเด็นต่างๆ เช่น สถิตินักเรียนไทยที่ไปศึกษายังประเทศออสเตรเลีย หลักสูตรที่ได้รับความนิยมของนักเรียนไทย ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองนักเรียนต่างชาติในประเทศออสเตรเลีย โอกาสการเข้าสู่ตำแหน่งงานในเมืองไทยของผู้สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลีย ความรู้เรื่องกฎ ข้อบังคับสำหรับการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลียประเภทต่างๆ และการตรวจสุขภาพเพื่อการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น



     


    บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด สนับสนุนการจัดแรลลี่เพื่อการกุศล

    SJ WORLD EDUCATION
    03 Jun 2014
    ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0
    การกุศล, ชมรมไทยบริการท่องเที่ยว, บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด, เส้นทางประวัติศาสตร์ภูเก็ต, แรลลี่

    บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด สนับสนุนการจัดแรลลี่เพื่อการกุศล


    เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 ชมรมไทยบริการท่องเที่ยว  (Thai Travel Agent Association) สาขาภาคใต้ตอนบน จัดการแข่งขันแรลลี่ท่องเที่ยวศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้บริจาคให้กับมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรีย์ ท้าวศรีสนทร และ มูลนิธิคนชราบ้านป่าคลอก สนับสนุน การจัดกิจกรรมอบรบทางวิชาการด้านการท่องเที่ยวของสมาชิก และการเผยแพร่ชื่อเสียงของชมรมตลอดจนเพื่อปลุกจิตสำนึกการปฏิบัติตามกฎจราจรและเสริมทักษะการขับรถอย่างปลอดภัย บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เห็นว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมจึงให้การสนับสนุนการจัดแรลลี่เพื่อการกุศลในครั้งนี้






     


    การทำงานในออสเตรเลียของนักเรียนไทยกับการเติมเต็มประสบการณ์และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย

    SJ WORLD EDUCATION
    16 May 2014
    บทความน่ารู้, เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย
    Comments: 298
    การหางานทำต่างประเทศ, ทำงานต่างประเทศ, ทำงานในออสเตรเลีย, ที่ทำงานในต่างประเทศ, หางานทำในต่างประเทศ, หางานในต่างประเทศ

    การทำงานในออสเตรเลียของนักเรียนไทยกับการเติมเต็มประสบการณ์และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย


    นักเรียนและผู้ปกครองมักจะสอบถามอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับความสามารถในการทำงานขณะศึกษาในประเทศออสเตรเลีย เพราะว่าจะช่วยเติมเต็มการศึกษาและประสบการณ์ชีวิตของนักเรียน รวมถึงการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่อาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียและประสบการณ์การทำงานที่จะได้รับจากพื้นที่ที่กำลังศึกษาอยู่ วีซ่านักเรียนส่วนใหญ่อนุญาตให้นักเรียนทำงานได้มากถึง 40 ชั่วโมงต่อทุกสองสัปดาห์ ในขณะที่นักเรียนยังอยู่ในหลักสูตรตามภาคการศึกษา และไม่จำกัดจำนวนชั่วโมงระหว่างช่วงพักการศึกษา แต่ก่อนที่ท่านจะดำเนินการใดๆกับงานที่ได้รับค่าจ้าง ท่านต้องแน่ใจว่าวีซ่าของท่านอนุญาตให้ท่านทำงานที่ได้รับค่าจ้างได้ โดยท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและพลเมือง



    Working in Australia



    นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่เลือกมาเรียนที่ออสเตรเลียเพราะสามารถทำงาน Part -Timeได้ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับนักเรียนไทยก็เช่นเดียวกัน จากรายงานการสำรวจตัวแทนการศึกษาของประเทศไทย ประจำปี ค.ศ.2013 (Thailand’s Education Agent Survey Report 2013) พบว่า ตลาดการไปศึกษาต่อประเทศออสเตรเลียของประเทศไทย ในปัจจุบัน 5 ปัจจัยสูงสุดของการเติบโตทางการตลาดได้แก่


    1. ปัจจัยการทำงาน Part- time ได้ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับวีซ่านักเรียน  (Part- time rights for student visa) จำนวน 22 %
    2. ปัจจัยค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพสามารถที่จ่ายได้ราคาไม่แพง  (Affordable tuition fee and living expenses) จำนวน 21 %
    3. ปัจจัยการจัดลำดับมหาวิทยาลัย / มาตรฐานการศึกษาสูง  (University ranking / high education standard ) จำนวน 20 %
    4. ปัจจัย เรื่องญาติและเพื่อนที่อาศัยในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 19 %
    5. ปัจจัย เรื่องระยะเวลาในการศึกษา (Duration of study) จำนวน 18 %


    Top five factors market growth

    รูปที่ 1 Top five factors market growth 


    งานที่ได้รับค่าจ้างและประเภทของงาน

    ประเทศออสเตรเลียมีอุตสาหกรรมที่หลากหลายและอุตสาหกรรมเหล่านั้นก็เปิดโอกาสให้มีการจ้างงานแบบ Part- time ได้แก่

    – ธุรกิจค้าปลีก เช่น ซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า และร้านขายเสื้อผ้า
    – งานบริการ เช่น คาเฟ่ บาร์ และห้องอาหาร
    – งานท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก
    – งานด้านการเกษตร เช่น ทำฟาร์ม หรือรับจ้างเก็บผลไม้
    – งานขาย และ การตลาดทางโทรศัพท์
    – การบริหารหรือมีบทบาทในธุรการทั่วไป
    – งานสอนพิเศษ


    ประเภทของงาน

    นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่มักจะทำงานตามร้านค้า งานด้านการบริการ และงานด้านการจัดการ ค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับชนิดของงานที่ทำและอายุของผู้ทำงาน ซึ่งอาจได้รายได้มากขึ้นสำหรับการทำงานในวันอาทิตย์หรือวันหยุดราชการ การสอนหนังสือให้นักเรียนที่มีอายุน้อยกว่า ในวิชาที่เรียนหรือสอนภาษาที่ถนัด เป็นวิธีหารายได้พิเศษซึ่งมีรายได้ดี ติวเตอร์ หรือ ผู้ช่วยสอนสามารถทำรายได้ถึง 40 ดอลล่าร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง
    หากท่านมีวุฒิการศึกษาอยู่แล้ว และ/หรือ มีประสบการณ์ในการทำงานในระดับมืออาชีพ ท่านอาจจะเลือกงานที่มีหลักประกันแบบชั่วคราว หรือเลือกทำแบบPart-time ในสาขาของท่านก็ได้


    สิทธิของท่าน

    ทุกคนที่ทำงานในออสเตรเลียรวมทั้งนักศึกษาต่างชาติหรือผู้ที่มีวีซ่าเข้ามาทำงานในช่วงพักร้อนต่างๆก็มีสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน สิทธิโดยชอบธรรมที่ได้รับการปกป้องเหล่านั้นคือ

    – ค่าแรงขั้นต่ำ
    – การเรียกร้องเมื่อถูกเลิกจ้างแบบไม่เป็นธรรม (ถ้าท่านถูกไล่ออกจากงาน)
    – ช่วงเวลาหยุดและพัก
    – สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพและความปลอดภัย

    นายจ้างส่วนใหญ่ในประเทศออสเตรเลียจะอยู่ภายใต้  “คำชี้ขาด” ซึ่งจะกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและเงื่อนไขสำหรับสายการทำงานหรือในอุตสาหกรรม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิการทำงานของท่าน สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์การทำงานที่เป้นของรัฐบาลออสเตรเลีย (Government’s Fair work)


    การอนุญาตให้ทำงาน

    หากถือวีซ่านักเรียน นักเรียนมีสิทธิ์ที่จะทำงานขณะพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้สิทธิ์ดังกล่าวมีเงื่อนไขหลายประการ เช่น

    – ต้องเริ่มเรียนหลักสูตรที่ลงทะเบียนไว้ก่อนที่จะเริ่มทำงาน
    – ทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ในช่วงเปิดภาคเรียนและไม่จำกัดชั่วโมงในช่วงปิดภาคเรียน
    – สามารถทำงานได้ต่อเมื่อกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการเป็นพลเมือง (DIAC) ได้พิจารณาแล้วว่า หลักสูตรเป็นแบบ “In session” หมายถึงอยู่ในช่วงภาคการศึกษาตามที่ได้ประกาศไว้
    (รวมถึงเวลาการสอบ) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการทำงานได้ที่ www.immi.gov.au/students


    การหางานทำ

    การหางานทำในประเทศออสเตรเลียมีหลายวิธี เช่น

    – หาจากหนังสือพิมพ์และทางเว็บไซต์หางานออนไลน์
    – บางสถาบันการศึกษาจะมีบอร์ดประกาศตำแหน่งงานและมีแบบออนไลน์ด้วย ดังนั้นจึงควรติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ให้การสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติเพื่อให้พวกเขาช่วยมองหาตัวเลือกในงานที่สถาบันเสนอ
    – ลงทะเบียนกับบริษัทจัดหางาน ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะช่วยหางานแบบชั่วคราวหรืองานระยะสั้นให้ได้


    การหางานทางออนไลน์

    ส่วนใหญ่ตำแหน่งงานว่างในออสเตรเลียจะมีการประกาศทางเว็บไซต์ สามารถดูได้ที่เว็บดังต่อไปนี้ http://www.seek.com.au  , http://www.mycareer.com.au , http://www.careerone.com.au ,  http://www.studyandwork.com.au  นอกจากนี้ สำนักงานฝ่ายต่างประเทศของสถาบันการศึกษาอาจมีคำแนะนำเพิ่มเติม


    หนังสือพิมพ์ : http://www.newspapers.com.au

    มีรายชื่อหนังสือพิมพ์หลักของออสเตรเลีย สามารถเลือกรัฐหรือเขตการปกครองพิเศษที่พำนักอยู่เพื่อเรียกดูฐานข้อมูลของหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมีการประกาศตำแหน่งว่างในหัวข้อ “Help Wanted” ในหน้าหางาน


    บอร์ดประกาศของมหาวิทยาลัย

    มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียส่วนใหญ่มีสำนักงานบริการจัดหางาน โดยมีประกาศรับสมัครงานจากผู้จ้างงานที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง


    รัฐบาลออสเตรเลีย

    รวบรวมรายชื่อตำแหน่งงานว่างโดยดูได้จาก  http://www.jobsearch.gov.au/keylinks/jobboards.aspx


    ภาษี

    ทุกคนที่ทำงานในประเทศออสเตรเลียจะต้องจ่ายภาษีและจำนวนภาษีที่จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละคน ระบบภาษีของออสเตรเลียดำเนินการโดยสำนักงานสรรพากรออสเตรเลีย (ATO) ผู้มีรายได้ มีหน้าที่ขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TFN) เพื่อให้สามารถทำงานในออสเตรเลียได้ หมายเลขดังกล่าวเป็นหมายเลขประจำตัวเพื่อการเสียภาษีโดยเฉพาะ ซึ่งทางนายจ้างจะให้กรอกแบบฟอร์มการเสียภาษี เมื่อเริ่มต้นทำงาน  หากไม่ได้ให้หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ผู้ทำงานจะถูกหักภาษีในอัตราสูงสุดของภาษีรายได้ส่วนบุคคล  ซึ่งหมายความว่าจะได้รับค่าจ้างน้อยลง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องภาษีสามารถดูได้ที่ http://www.ato.gov.au


    สิทธิและความรับผิดชอบในสถานที่ทำงาน

    การที่นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่เลือกมาเรียนที่ออสเตรเลียเพราะสามารถทำงาน Part-timeได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่บางครั้งอาจถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบโดยให้ทดลองงานฟรี หรือจ่ายค่าตอบแทนให้ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีการสำรวจมาแล้วโดย Worker’s Union United Voice ว่ากว่า 79% ของนักเรียนต่างชาติไม่รู้ข้อกำหนดกฎหมายเรื่องสิทธิประโยชน์ของตนเอง จึงทำให้แนวโน้มที่นายจ้างจะเอารัดเอาเปรียบนักเรียนต่างชาตินั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่น่าตกใจว่านักเรียนต่างชาติส่วนหนึ่งได้รับค่าแรงอยู่ที่ชั่วโมงละ 10 AUD หรือน้อยกว่า และมีนักเรียนต่างชาติอีก 60% ที่ได้รับค่าแรงต่ำกว่ากฎหมายกำหนด และกว่า 76% ไม่ได้รับค่าแรงชดเชยกรณีที่ทำงานวันหยุดหรือทำงานล่วงเวลา สาเหตุที่ทำให้นักเรียนต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบเนื่องมาจากนักเรียนต่างชาติคิดว่าตนเองนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องของภาษาอังกฤษและวีซ่า แต่แท้ที่จริงเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการทำงานที่ได้ทั้งประสบการณ์ชีวิตและค่าตอบแทนที่คุ้มค่า นักเรียนควรจะศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายต่างๆก่อนทำงานด้วยเพื่อสิทธิประโยชน์ของตนเองและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายจ้างรู้จักคุณค่าของนักเรียนต่างชาติด้วย และในเบื้องต้น สิ่งที่ควรรู้ก่อนก็คือ

    – ค่าแรงขั้นต่ำที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือ 16.32 AUD ต่อชั่วโมง
    – การทดลองงานใดๆในออสเตรเลียที่ไม่จ่ายค่าจ้าง ถือว่าผิดกฎหมาย

    ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงาน ควรศึกษาเรื่องสิทธิตามกฎหมายในฐานะพนักงานและหน้าที่รับผิดชอบที่มีต่อนายจ้าง การที่เป็นนักเรียนต่างชาติไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้สิทธิต่างๆเท่าเทียมกับผู้อื่น สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fairwork.gov.au หรือโทร 13 13 94 ทั้งนี้รัฐบาลออสเตรเลียได้มีหน่วยงานชื่อ Fair Work OMBUDSMAN ซึ่งคอยช่วยให้คำปรึกษา ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และรับข้อร้องเรียนนักเรียนต่างชาติ โดยมีล่ามคนไทย โทร 131 450 และมีเว็บไซต์ภาษาไทยไว้ให้สำหรับนักเรียนไทยในออสเตรเลียด้วย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fairwork.gov.au/languages/thai


    การจ่ายเงินค่าจ้าง

    นักเรียนมีสิทธิที่จะได้รับค่าจ้างตามอัตราจ้างขั้นพื้นฐาน ตามเกณฑ์อายุและลักษณะงาน นายจ้างส่วนใหญ่จะจ่ายค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าอัตราขั้นพื้นฐาน ประเด็นที่ควรทราบมีดังต่อไปนี้

    – นายจ้างจะต้องจ่ายเงินให้ในอัตราที่ถูกต้องและยึดตามชั่วโมงในการทำงาน
    – การจ่ายเงินค่าจ้างต้องจ่ายเป็นประจำ ลูกจ้างชั่วคราวและไม่ประจำจะได้รับค่าจ้างเป็นรายสัปดาห์ตามชั่วโมงการทำงานที่ทำไปแล้ว นั่นคือจะได้รับเงินค้างชำระไม่ใช่เงินล่วงหน้า สลิปการจ่ายเงินค่าจ้างต้องมีข้อมูลของนายจ้าง (รวมถึงหมายเลขธุรกิจออสเตรเลีย หรือ ABN), จำนวนชั่วโมงการจ้างงาน ภาษีค่ากองทุนเงินสะสมและจำนวนเงินค่าจ้าง
    – ไม่ควรต้องถูกหักเงินเพื่อจ่ายทดแทนสิ่งต่างๆ เช่น ลูกค้าไม่ยอมชำระเงิน
    – ควรได้รับเงินค่าจ้างในช่วงทดลองงาน
    – หากทำงานในวันหยุดสาธารณะ ควรจะได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นสำหรับวันดังกล่าว ควรได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าปกติ สำหรับการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์  หากต้องการความช่วยเหลือ สอบถามเรื่องการจ้างงาน หรือมีข้อพิพาทต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ http://www.fairwork.gov.au หรือโทร 13 13 94


    ผู้เขียนและเรียบเรียงบทความฉบับนี้มิได้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ถือวีซ่านักเรียนมุ่งหวังในเรื่องการทำงานเป็นสำคัญแต่ขอให้คิดเสมอว่าเป้าหมายที่สำคัญคือการมาศึกษาหาความรู้ การทำงานเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการเติมเต็มประสบการณ์ชีวิต เพื่อการฝึกความอดทน ขยัน ความรับผิดชอบรู้จักการบริหารเวลา และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งเท่านั้น


    ผู้เขียนและเรียบเรียง

    สมนึก ชูสุวรรณ
    ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
    น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    วท.ม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์


    แหล่งข้อมูล

    1.Thailand’s Education Agent Survey Report 2013  เอกสารประกอบการสัมมนา Australia Visa Information Session and Networking Reception  24 January 2014
    2. เอกสารประกอบการสัมมนา: Australia Future Unlimited Education Agent Training Bangkok 2013
    3. http://www.fairwork.gov.au
    4. http://www.studyinaustralia.gov.au
    5. http://www.immi.gov.au/students
    6. Fairwork Government Australia Youtube Channel

     

     


    ข่าวโครงการ India Summer Course

    SJ WORLD EDUCATION
    03 Apr 2014
    ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0
    JIE CENTER, ดำรงวิศว์ หนูสุข, นิวเดลี, อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ, เรียนต่อประเทศอินเดีย, เรียนต่ออินเดีย, เรียนอินเดีย

    โครงการ  India Summer Course


    บริษัท เอสเจ เวิล์ด เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ร่วมกับ JIE CENTER   จัดนักเรียนเข้าร่วมโครงการ India Summer Course ณ เมือง New Delhi และเมือง Ludhiana ประเทศ อินเดีย โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนภาษาอังกฤษ และวิชาการ เช่น คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนวิชาการ นอกจากนั้นยังได้เรียน ตีกอล์ฟ  เรียนว่ายน้ำ เรียนขี่ม้า  ศิลปะ หรือ ดนตรี ตลอดจนการทัศนศึกษา  จุดเด่นของโครงการนี้นักเรียนจะได้เรียนและควบคู่กับการทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้วยความสนุกสนาน India Summer Course จัดขึ้น ณ โรงเรียน DPS SONEPAT SCHOOL และ HARVEST INTERNATIONAL SCHOOL ระหว่าง วันที่ 1 เมษายน –  1 พฤษภาคม 2557   ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกโรงเรียนได้  โอกาสนี้บริษัทฯ จึงได้รวบรวมประมวลภาพการเข้าร่วมโครงการเพื่อประโยชน์ในการติดตามการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว










    ข่าวโครงการ Holiday English Program in Melbourne Australia

    SJ WORLD EDUCATION
    03 Apr 2014
    ข่าวประชาสัมพันธ์
    Comments: 0
    ข่าวโครงการ Holiday English Program, ดำรงวิศว์ หนูสุข, อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ, โครงการ


    ข่าวโครงการ Holiday English Program in Melbourne Australia


    ตามที่ บริษัท เอสเจ เวิล์ด เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้จัดโครงการ Holiday English Program in Melbourne Australia ในปี 2557 รองรับการเปลี่ยนแปลงวันเปิด ปิด ภาคเรียนสอดคล้องกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นที่น่ายินดีที่นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการฯจำนวนมากและขณะนี้ผู้เข้าร่วมโครงการ เริ่มเดินทางแล้ว ทั้งนี้สามารถเดินทางได้ตามความพร้อมของแต่ละบุคคล บริษัทฯจึงได้รวบร